[CR] Lost in Seoul : หนีร้อน หนีรัก ไปพักที่เกาหลี !! 3 วัน 2 คืนกับงบไม่บานปลาย เที่ยวพิพิธภัณฑ์ยันผับ !!

สวัสดีคับ เพื่อนๆที่เข้ามาอ่าน จริงๆ จขกท ก็ไม่ได้หนีรักอะไรหรอก เพียงแต่มันร้อนมาก ! (วันก่อนที่จะไป 39 องศาได้)

ประกอบกับ จขกท ก็ยังไม่เคยไปเกาหลีสักที (เพื่อนๆ ฝากตามหากัปตันยูกันเยอะมาก หึหึ)

ว่าแล้วก็เหลือบมองดูงบในกระเป๋าอันน้อยนิดเลยคิดว่า เอาวะ ลองไปเกาหลีเป็นเวลาสั้นๆก่อนละกัน สัก 3 วัน 2 คืน

(จขกท ทำงานในสายการบินแห่งนึง เลยโชคดีที่ได้ตั๋วราคาถูกมาก ถ้าไม่นับค่าตั๋วทริปนี้ใช้เงินไปไม่ถึงหมื่นเลยคับ)

ว่าแล้วด้วยนิสัยใจร้อนด่วนได้ก็จองตั๋วกันซึ่งๆหน้าเลย จองวันนี้บินพรุ่งนี้ ! โดยที่ ไม่มีแพลน ไม่มีข้อมูล และ ไม่มีคนไปด้วย  !!

(พูดได้แค่ดงบังกับกิมจิ) จะรอดมั้ยไปชมกันคับ .....


มาถึงสนามบินก่อนเวลาค่อนข้างจะนาน ก็เลยมีเวลาได้นั่งชมวิว (ปกติมาถึงก็ต้องรีบๆๆๆตลอด)

โดยที่ จขกท เดินทางกับสายการบินสีแดงและมีตัว X พอมาถึง จขกท ซึ่งเช็คอินมาแล้วและไม่มีกระเป๋าโหลดจึงพุ่งตรงไปที่เกทได้เลย



หลังจากนั่งจิบกาแฟพอเป็นพิธี (3 ชม รีบมาไปปะ !) ก็ได้เวลาเรียกขึ้นเครื่องครับ โดยที่ในไฟลท์นั้นๆจะมีลูกเรือประจำชาติ

ขาไปเป็นอปป้าครับ แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมาถ้าอยากเห็นต้องไปดูเองนะคับ ถือว่าหน้าตาดีเลย !

ด้วยความที่เป็นไฟลทกลางคืน หลับๆตื่นๆก็พบว่าเครื่องกำลังจะแลนด์แล้วครับ มาถึงกันแล้วดินแดนแห่งกิมจิ



หลังจากผ่านด่าน ตม ที่ว่าโหดของที่นี่แล้ว (โดย จขกท เลือกช่องที่ดูหน้าตาใจดีและไม่ทำตัวมีพิรุธคับ)

เราก็ได้เข้ามาถึงจริงๆแล้ว โดยจากการสอบถามได้ความว่า ถ้าจะเดินทางเข้าเมืองนั้นจะต้องไปโดยรถไฟ subway



มีฝ่ามืออปป้า หิวน้ำจึงแวะซื้อโค้กหน่อย (หยิบได้รูปหมีปวดอึมา)



และหลังจากกินเสร็จ ก็ปวดจริงๆ !! ขอบอกว่าที่นี่ทิชชู่เป็นมิตรกับทวารมากครับ นุ่มมากๆ  (อ่านข้ามวิวทุเรศๆตรงนี้ไปก็ได้นะ 55)



โดยที่นี่จะมีบอกว่ารถไฟไปไหนบ้าง และใช้เวลาประมาณเท่าไร





จะมีบอกครับว่าเราอยู่ตรงไหนแล้ว (คล้ายๆรถไฟฟ้าบ้านเรา)

โดย จขกท ได้จองที่พักไว้ที่ฮงแด ซึ่งต้องไปลงสถานี Hongik University

บรรยากาศรอบๆ เดินตามแผนที่ๆเค้าให้มาตอนจอง




รูปนี้ Lost in Seoul ของจริงคับ เดินวนไปวนมาเพราะตึกเค้าคล้ายๆกัน 555 สุดท้ายมีคนฝรั่งเศสพาไปเริ่มต้นใหม่ที่ Subway

เพราะ จขกท หาทางกลับไปตั้งต้นไม่ได้ นางบอกว่าตอนมาวันแรกๆนางก็หลงและก็มีคนพานางไปส่งเหมือนกัน

เลยเป็นสิ่งที่นางควรทำให้คนอื่นบ้าง ( จริงๆ จขกท พยายามลองถามจากคนแถวนั้นแล้ว แต่เหมือนเค้าพูดภาษาอังกฤษ

ไม่คล่องเลยพ่นภาษาเกาหลีใส่ จขกท ซึ่งฟังออกแค่ กิมจิ กับ ดงบังชิงกิ ก็เลยคิดว่าไม่น่ารอดครับ )





หลังจากที่งมอยู่นาน ในที่สุดก็ได้เช็คอินที่พักครับ หลังจากวางของแล้วก็เลยตั้งใจว่าจะออกไปหาอะไรกินหน่อย

เพราะไม่ได้กินมาตั้งแต่ที่ไทย หิวมากๆ พอไปถึงร้านเข้าไปนั่งแต่ !! เมนูไม่มีรูปครับ มีแต่ภาษาเกาหลีก็เลยจิ้มๆเอา



อาหารนี้ เหมือนวุ้นเส้นแต่เหนียวกว่า เผ็ดๆครับ (แอบแสบท้องมาก เพราะไม่ได้กินอะไรมาก่อน)

หลังจากกินเสร็จแล้ว ต่อไปก็คืออยากเห็นอะไรที่เป็นเกาหลีแท้ๆ ได้ข้อมูลมาว่า

ให้ไปที่ Gyeongbokgung โดยนั่งรถไฟไปเช่นเดิมครับ

อ้อลืมบอกไป ใครที่จะไปเกาหลีแนะนำให้โหลดแอพ subway korea

ไว้นะครับ ช่วยได้เยอะเลยในการเปลี่ยนสายรถไฟ คล้ายๆกับจากหมอชิตไปลงสยามแล้วเปลี่ยนสายไปสนามกีฬาแบบนั้น

พอลงมาถึงก็เจอแผนผังแบบนี้ครับ (อย่าถามว่า งง ไหม ตอบเลยว่าไม่ครับ เพราะไม่รู้เรื่องเลยไม่รู้จะงงอะไร)



ตรงเสาจะมีเขียนไว้ครับว่าเราอยู่ตรงไหน ขึ้นฝั่งไหนไปสถานีไหน อย่างเช่นตอนนี้ จขกท อยู่ที่สาย 2 ซึ่งเป็นสีเขียว

ถ้าต้องการเปลี่ยนไปสายอื่นๆ สีอื่นก็ต้องลงที่สถานีที่มี Interchange กับสีนั้นๆครับ

และแล้วหลังจากหลงอยู่สักพัก ขึ้นผิดขึ้นถูก ( แต่ได้สาวเกาหลีคนนึงช่วยไว้ครับ รู้สึกเป็นพระคุณมากๆ

ถ้าได้อ่านกระทู้นี้อยากจะบอกว่าขอบคุณมากครับ ... )

และแล้วก็มาถึงคับ Gyeongbokgung





มีค่าเข้าชม ไม่แพงครับ 3000 won เท่านั้น จะเห็นว่ามีคนเกาหลี และนักท่องเที่ยวนิยมแต่งชุดประจำชาติมาถ่ายรูปที่นี่กันครับ

(แน่นอน ส่วนมากมาเป็นคู่ หัวร้อนเลยคับ 555)

ชมภาพกันยาวๆ จขกท ขอพักกินน้ำนิดนึง เม้าเยอะ (เดี๋ยวนะ ได้ข่าวว่าพิมพ์)








หลังจากดื่มด่ำกับประวัติศาสตร์พอเป็นพิธี จขกท ก็ตัดสินใจจะไป Lost in Seoul ต่อ

โดยมีเป้าหมายเป็น Cheonggyechem Stram ซึ่งเป็นแม่น้ำกลางเมือง โดย จขกท ได้ข้อมูลจากเพื่อนในเกาหลี

ว่ามันจะอยู่หลังหอยสีม่วงๆ ที่สถานี Gwanghwamun




(สีม่วงจริง -*- แต่จริงๆมันคือแดงกับน้ำเงิน เพื่อนผสมสีมาให้เรียบร้อย)



อ๊ะ แม่น้ำนี่เหรอ

ล้อเล่น นี่ตะหาก โดยส่วนมากคนเกาหลีชอบมาเดินเล่นครับ บ้างก็สวีทกันเป็นคู่ๆ

(หัวร้อนอีกละ 55 ) โดยในแม่น้ำใสมาก มีปลาด้วยครับ







พอเดินจนสุดก็ข้ามมาอีกฝั่งคับ ภาพแรกที่เห็น



ช่างแอร์ในตำนานก็อาจจะต้องยอม ฝั่งนี้เป็นเหมือนแหล่งท่องเที่ยวกลางคืนครับ

จขกท จะขอข้ามไปก่อนเพราะมันยังไม่ถึงเวลา !!!

โดยเป้าหมายต่อไปเป็น Seoul Tower ซึ่ง จขกท เคยได้ยินมาว่าบรรยากาศดีมาก เลยต้องขอไปพิสูจน์หน่อย









ในที่สุดก็ขึ้นมาถึง ... แหม่ เลอะเชียว



โหดมั้ยละ ภาษาคุ้นๆ



แม่กุญแจสื่อรัก ที่ชอบมาเขียนชื่อคู่กัน





มีป้ายเตือนด้วย อย่าโยนลูกกุญแจทิ้ง เผื่อเลิกกัน !!  มาค้นเอาในนี้ ( จขกท มั่วนะอย่าเชื่อ )



มีตั้งแต่แม่กุญแจรุ่นเดอะ ป่านนี้ลูกโตไปแล้วมั้งง



บรรยากาศตอนเดินลง








กลับเข้าเมืองแล้วว



พอเริ่มมืดหน่อยก็มาเจอเพื่อนกับอปป้า (เพื่อน จขกท มาเรียนที่นี่พอดีเลยแวะมาเจอกันแปปนึง

และ จขกท ก็เพิ่งรู้นี่ละว่า ผช ห้ามเรียก อปป้า เป็นคำที่ ผญ ใช้เรียกเท่านั้น )



สังสรรค์กันนิดนึง โดยที่นี่มีธรรมเนียมว่าจะไม่รินให้ตัวเอง จะให้เพื่อนที่มาด้วยรินให้เหมือนเป็นการเทคแคร์และให้เกียรติกัน

เกี่ยวกันเรอะ แต่ไม่เป็นไรไม่ร้อนสักนิด



เช้าวันต่อมา จขกท ก็ตัดสินใจนั่งรถไฟเล่นไปเรื่อยๆ เที่ยวไปในสถานีต่างๆ อันนี้เป็นภาพบางส่วน







เจอซีรี่ย์ยอดฮิต !! แต่ไม่มีกัปตันยูนะ เสียใจด้วย



ไปต่อกันที่ Insadong







ชื่อสินค้า:   เที่ยวเกาหลีใต้ แบ็คแพค
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่