สวัสดีค่ะ นักเดินทางตัวน้อย ขอนำเสนอ ลุยเดี่ยว Story เที่ยวเชียงใหม่หน้าร้อน กับการวางแผนแบบ งง ๆ

เดินทาง 28-3-59 ความจริงเชียงใหม่ ไม่ได้อยู่ในแผนการเดินทางของแจ๊คในปิดเทอมนี้ แต่แจ๊คได้ที่พักฟรี ที่อิมพีเรียลแม่ปิง 2 คืน สามารถใช้ได้ถึงกันยา 59 กางปฏิทินแล้ว ช่วงหน้าร้อนเนี่ยเราว่างสุด ตารางชีวิตแน่นอนที่สุด ก็ปิดเทอมไง ไหนๆก็ไหนๆละ ฟรีให้หมดละกัน รถไฟฟรีเป็นอย่างหนึ่งที่อยากลอง ถึงใครจะบอกว่า ลำบากลำบน ทรหด ลองนั่งแล้วจะรู้สึก เราอาจจะเดี้ยงไปเลยก็ได้ 55555 แต่ต้องลอง ไม่งั้นจะรู้ได้ไง จะได้เล่าให้คนอื่นฟังได้เต็มปาก
หาข้อมูลในเว็ปบอกว่าจะมีถึง 30 เมษา 59 อ้าวเฮ้ย!!!!! ต้องไปดิ่
ก็เลยแพลนไว้ว่าช่วงนี้แหระ เวลาเยอะดี เป็นครั้งแรกที่ไปขึ้นรถไฟที่หัวลำโพง
แล้วก็ครั้งแรกที่นั่งรถไฟไปเชียงใหม่ เข้าไปก็ไม่ยากเย็น เจอช่องซื้อตั๋วเลย

ไปถึงก็ไปยื่นบัตรประชาชน พร้อมทั้งบอกว่าไปเชียงใหม่ พี่เจ้าหน้าที่ก็จัดที่นั่งให้ คีย์เลขประจำตัวประชาชนของเรา

ออกตั๋วให้13:45 ชานชลาที่ 10 คันที่3 ออกตรงเวลาเป๊ะ แต่ถึงตรงเวลามั้ย ไม่รู้ ได้เลข 46 ฝั่งซ้าย ติดทางเดิน แต่ช่วงบ่ายร้อนค่ะ นั่งฝั่งพระอาทิตย์ งั้นเราก็มีโอกาสได้ดูพระอาทิตย์ตกดินป่ะ 555 สรุปไม่เห็น
วิถีชีวิตบนรถไฟก็ มีพ่อค้าแม่ค้าเดินขายของกันตลอด ไม่ต้องกลัวอดค่ะ อย่างที่รู้ๆกัน เบาะหันหน้าเข้าหากัน นั่ง4คน
ก็เลยเป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องคุยกัน เพราะเรา4คนไปลงเชียงใหม่เหมือนกัน คิดดูว่ากี่ชั่วโมง ไม่คุยกันได้ไง ชั่วโมงกว่าๆก็ถึงสถานีรังสิต อีกชั่วโมงก็อยุธยา

นั่งชมวิวข้างทาง
นั่งไปนั่งมาเริ่มมืด ที่ไหนก็ไม่รู้5555 น่าจะนครสวรรค์มั้ง ประมาณนั้นแหระ อ่อ ใช่ๆ ถูกแล้ว 18.42น.เราอยู่นครสวรรค์
เวลาผ่านไป รถไฟก็เคลื่อนไปเรื่อยๆ เมื่อเราละสายตาจากหน้าจอมือถือ มองไป 2 ข้างทาง โหๆๆ บางช่วงที่ไม่มีบ้านคนคือมืดมากค่ะ แต่ในรถเปิดไฟอยู่ตลอดนะ
เราชอบบรรยากาศแบบนี้นะ นั่งคิดอะไรเพลินดี เรามีเวลาว่างเยอะ ค่อยๆไป ไม่รีบ "ชีวิต ช้าบ้างก็ได้"
3ทุ่มรถไฟเคลื่อนถึงพิษณุโลก ยังพอจะมีของกินขายอยู่ แต่พอดึกๆก็ไม่มีแล้วค่ะ ความลำบากของการนั่งรถไฟชั้น 3 คือการหลับ
ถ้าไม่เพลียจริงๆคงหลับไม่ลง บางคนลงไปนอนบนพื้น แจ๊คนี่หลับรวมๆกันไม่ถึงชั่วโมงมั้ง คือรู้สึกตัวอยู่ตลอดเวลา นั่งๆอยู่ถ้าเมื่อยก็ลุกขึ้นยืนได้นะคะ เป็นเรื่องปกติเลย ถึงจะเป็นหน้าร้อน แต่กลางคืนหนาวมาก ใครจะใช้บริการอย่าลืมเตรียมผ้าไปห่มด้วยค่ะ
หรือไม่ก็เสื้อแขนยาวค่ะ ตี4กว่าๆ รถไฟเทียบชานชลาที่สถานีเชียงใหม่

เรานี่เอ๋อเลย แน่นอนว่ามันตรงเวลาค่ะ และมันก็เช้ามาก เอาไงดีล่ะ เช้าเกิน เข้าห้องน้ำก่อนเป็นอันดับแรก จะแปรงฟันก็คนเยอะ ขี้เกียจรอ สรุปไม่ได้ล้างหน้าแปรงฟันทั้งวันจนถึงเวลาเช็คอินที่โรงแรม 5555
หลังจากเข้าห้องน้ำ ก็คงต้องเติมพลังกันหน่อย ทานข้าวที่สถานีรถไฟ สรุปว่ากินไม่ลง เช้าเกิน
รอฟ้าสว่างก็หารถเข้าเวียง ตอนเช้ารถประจำทางยังไม่วิ่ง เราก็ไม่อยากอยู่สถานีรถไฟละ ยอมเสียค่าแท็กซี 60 ไปตั้งหลักที่ประตูท่าแพ
พูดถึงเชียงใหม่ แจ๊คเคยมาบ่อยนะ แต่ไปเที่ยวรอบนอก เที่ยวในเมือง2ครั้ง ไปกับเพื่อน ไปกับทัวร์
ครั้งนี้เที่ยวเองคนเดียวแอบตื่นเต้นนะ แต่ชอบ ลุ้นดีว่าเราจะเจออะไร
จริงๆเรามีแผนนะ คือวันแรกจะเช่าจักรยานปั่นเที่ยวในเวียง เดินเล่น หาร้านกาแฟ ชิกๆ ชิลๆ นั่งเล่นแถวนิมมาน แล้วก็คิดว่าจะไม่ไปไหน ขอ นั่งๆนอนๆ เดินๆถ่ายรูปวัดตอนกลางคืนในเวียงนี่แหระ ตั้งใจจะไปอยู่เฉยๆ ณ จุดนี้พูดเลยว่าผิดแผนทุกอย่าง คือวันแรกเรามีเวลามากเลยล่ะ เพราะเช็คอินได้เร็วสุดบ่ายโมง และกลายเป็นว่าพอไปถึงสะพายเป้ ปวดไหล่ สัมภาระเกะกะ ทุกอย่างยกเลิก ไม่มีอารมจะปั่นจักรยาน ไม่มีอารมณ์จะทำอะไร เดี๋ยวๆคือแผนที่วางไว้ ยกเลิกง่ายๆ ดื้อๆ แบบนี้เลยหรา 55555
ก็ใช่ดิ่ มาคนเดียว อะไรก็ได้

เลยถ่ายรูปอยู่แถวๆประตูท่าแพ อยากสระผมมาก ร้านก็ยังไม่เปิด เดินจนถึงตลาดประตูเชียงใหม่ เจอร้านทำผมแล้ว แต่คนเยอะ เลยเดินหาของกินก่อน และแล้วก็ได้สระผม สมใจค่ะสบายหัวเลย เวลาก็ยังเหลือ หันไปเห็นป้าย ทางไปวัดศรีสุพรรณ เขียนว่า อุโบสถเงิน
น่าสนใจค่ะ เลยเดินตามป้ายไป

หาไม่เจอก็แวะถามชาวบ้านแถวนั้นค่ะ เป็นวัดอยู่ชุมชนวัวลาย ที่นี่เป็นชุมชนทำเครื่องเงิน

อุโบสถในวัดที่เป็นเงินนี้ เป็นหลังแรกในโลก และเราโชคดีมาก ไปวันที่มีพิธีปอยหลวงพอดี มีอาจารย์จากหลายที่มาทำพิธี มีการแสดงต่างๆ เราเข้าไปตอนท้ายๆแล้ว เลยไม่ได้เห็นพิธีตั้งแต่เริ่ม ไม่รู้ล่ะถือว่าได้บุญด้วย

อุโบสถสวยค่ะ แต่รูปไม่ค่อยสวยนะ เพราะมีอุปกรณ์ประกอบพิธีบังอยู่ ข้างในห้ามผู้หญิงเข้า เลยถ่ายมาได้แต่ด้านนอก
สรุปนั่งอยู่ที่วัดนานเลย ดูการแสดง นั่งเย็นๆ สบายๆ ตอนเดินถ่ายรูป มีพี่คนหนึ่ง เราจะเรียกเค้าว่าอะไรดีก็ไม่รู้ ประมาณว่าเป็น PRของวัดอ่ะค่ะ ขออภัย เรียกไม่ถูกจริงๆ พี่เอาหนังสือประวัติการสร้างอุโบสถมาให้ แนะนำให้เข้าไปไหว้พระในโบถ อยากรู้อะไรในวัดถามพี่เค้าได้ พี่เค้าชวนทานอาหารกลางวัน แต่เราเขิลอ่ะไปคนเดียว ไม่ดีกว่า รายการอาหารวันนั้นน่ากินมากอ่ะ ได้ยินเสียงประกาศรายการอาหาร หนึ่งในนั้นมีข้าวซอยของโปรดเราด้วย หลังจากออกจากวัดมาเลยแวะร้านอาหารแถวๆนั้นค่ะ

จัดข้าวซอยมาเลย 55555
กางแผนที่แล้วจากประตูเชียงใหม่ ไปอิมพีเรียลแม่ปิง ดูไม่ไกล เดินสิ่ รออะไร ไม่โบกรถแดง เพราะมันไม่ไกล อยากเดิน วาดแผนที่ในหัว ถ้ามีรถก็คือต้องขับเองอ่ะ แล้วเราจะจำทางได้แผนที่จะเข้ามาอยู่ในหัวแบบออโต้เลย แต่ไม่มีรถไง ก็เลือกเดิน เข้าเช็คอินที่โรงแรม บ่ายโมง สิ่งแรกที่ทำคืออาบน้ำ ล้างหน้าแปรงฟัน แล้วก็นอนนนนนนน รายการวันนี้จบแล้ว เดี๋ยวออกอีกที่ตอนมืด

วิวหลังห้องค่ะ
โรงแรมอยู่ไกล้ ไนท์บาร์ซ่าค่ะ วันธรรมดาไม่มีถนนคนเดิน ก็เดินไนท์บาร์ซ่านี่แหระ

สังเกตุอย่างหนึ่งว่าชาวต่างชาติเยอะมาก คนไทยนี่น้อยมากอ่ะ แม้กระทั่งที่โรงแรม ไม่ค่อยมีคนไทยพัก อ๋อ คนไทยเค้าทำงานกันไง ไม่ใช่หน้าเทศกาล คือมีแกว่างอยู่คนเดียวไงแจ๊ค

มาดูบรรยากาศกันค่ะ

เดินย่านไนท์บาร์ซาดูของแล้วให้ความรู้สึกเหมือนยกประตูน้ำไปไว้ที่เชียงใหม่ คือใช่เลย แถมเดินๆไปเจอห้างพันทิพย์ด้วย

ถ้าจะหาอะไรกินกลางคืนก็ย่านนี้แหระค่ะ มีอาหารทุกประเภท

มื้อค่ำของแจ๊คค่ะ หอยทอดข้างทาง เดินกิน อร่อยดี

ที่ต้องไม่ลืมคือ โปสการ์ด

วิวหลังห้องยามค่ำคืน
กลับมาถึงห้องขาแทบหลุด ตอนเดินไม่รู้สึกอะไรนะ พอหยุดเดินปวดขามากๆ จบคืนแรก นอนหลับเป็นตาย

ตื่น 9.30 กว่าจะอาบน้ำแต่งตัว ไม่ทันอาหารเช้าที่โรงแรม แต่เรามีขนมที่ซื้อมาจากตลาด ใส่ตู้เย็นไว้ กว่าเราจะออกจากห้องก็เที่ยงๆได้ค่ะ เดินไปร้านเช่าจักรยาน ร้านนี้ใครๆก็ชมว่าบริการดี ที่สำคัญมีเสือภูเขาให้เช่าด้วย ร้านเข้าซอยนันทาราม ฝั่งตรงข้ามตลาดประตูเชียงใหม่ ตรงเข้าไปเรื่อยๆ ร้านอยู่ขวามือ ป้ายเขียนว่าร้านเช่าจักรยาน ข้อมูลที่หามาคือร้านNK เราคิดว่าเข้าร้านผิดซะอีก แต่ถูกแล้วล่ะ
ชื่อเพจร้านค่ะ ร้านเช่าจักรยาน เชียงใหม่
ราคาก็ 24ชั่วโมง 300 บาท มัดจำ 1,000 พร้อมกับวางบัตรประชาชน มีหมวก,โซ่ล็อกและไฟ
พี่เจ้าของร้านเป็นคนปั่นจักรยานค่ะ อัธยาไสยดี คุยอยู่พักนึง เลยถามเส้นทางว่าไปไหนได้บ้าง พี่เอาแผนที่มาให้ 1 อัน แนะนำเส้นทางปั่นให้ด้วย เรารู้สึกเสียดายมากที่เพิ่งมาเช่าวันที่ 2 ตอนบ่าย ไม่งั้นเราคงได้เที่ยวมากกว่านี้ ความจริงถ้าอยากปั่นไกลๆ เราสามารถเอาจักรยานขึ้นสองแถวไปปั่นได้ แค่สอบถามเวลารถเที่ยวสุดท้ายสักนิด
ได้แล้วค่ะจักรยานสีแดง หมวกสีขียว ถุงมือเตรียมไปเอง พี่เลือกสีจักรยาน สีหมวก เข้ากับชุดหนูมากค่ะ ถ่ายรูปก่อนค่ะสิ่งสำคัญ 555

ขอบคุณพี่เจ้าของร้านด้วยค่ะสำหรับรูป
จากที่ดูๆ ระยะทางมา แกรนแคนยอน ไกล้สุด ไปทางหางดง ขากลับ แวะอุทยานหลวงราชพฤกษได้ โอเค เฟอเฟคมากแผนนี้ ถ่ายรูปเสร็จ พี่เจ้าของร้านบอกพร้อมแล้วก็ลุย!!!!!!!
เดี๋ยวมาเล่าต่อนะคะ
[CR] ลุยเดี่ยว story นั่งรถไฟฟรีไปเชียงใหม่ เป้ 1 ใบ กับใจงงๆ
เดินทาง 28-3-59 ความจริงเชียงใหม่ ไม่ได้อยู่ในแผนการเดินทางของแจ๊คในปิดเทอมนี้ แต่แจ๊คได้ที่พักฟรี ที่อิมพีเรียลแม่ปิง 2 คืน สามารถใช้ได้ถึงกันยา 59 กางปฏิทินแล้ว ช่วงหน้าร้อนเนี่ยเราว่างสุด ตารางชีวิตแน่นอนที่สุด ก็ปิดเทอมไง ไหนๆก็ไหนๆละ ฟรีให้หมดละกัน รถไฟฟรีเป็นอย่างหนึ่งที่อยากลอง ถึงใครจะบอกว่า ลำบากลำบน ทรหด ลองนั่งแล้วจะรู้สึก เราอาจจะเดี้ยงไปเลยก็ได้ 55555 แต่ต้องลอง ไม่งั้นจะรู้ได้ไง จะได้เล่าให้คนอื่นฟังได้เต็มปาก
ก็เลยแพลนไว้ว่าช่วงนี้แหระ เวลาเยอะดี เป็นครั้งแรกที่ไปขึ้นรถไฟที่หัวลำโพง
แล้วก็ครั้งแรกที่นั่งรถไฟไปเชียงใหม่ เข้าไปก็ไม่ยากเย็น เจอช่องซื้อตั๋วเลย
ไปถึงก็ไปยื่นบัตรประชาชน พร้อมทั้งบอกว่าไปเชียงใหม่ พี่เจ้าหน้าที่ก็จัดที่นั่งให้ คีย์เลขประจำตัวประชาชนของเรา
ออกตั๋วให้13:45 ชานชลาที่ 10 คันที่3 ออกตรงเวลาเป๊ะ แต่ถึงตรงเวลามั้ย ไม่รู้ ได้เลข 46 ฝั่งซ้าย ติดทางเดิน แต่ช่วงบ่ายร้อนค่ะ นั่งฝั่งพระอาทิตย์ งั้นเราก็มีโอกาสได้ดูพระอาทิตย์ตกดินป่ะ 555 สรุปไม่เห็น
วิถีชีวิตบนรถไฟก็ มีพ่อค้าแม่ค้าเดินขายของกันตลอด ไม่ต้องกลัวอดค่ะ อย่างที่รู้ๆกัน เบาะหันหน้าเข้าหากัน นั่ง4คน
ก็เลยเป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องคุยกัน เพราะเรา4คนไปลงเชียงใหม่เหมือนกัน คิดดูว่ากี่ชั่วโมง ไม่คุยกันได้ไง ชั่วโมงกว่าๆก็ถึงสถานีรังสิต อีกชั่วโมงก็อยุธยา
นั่งชมวิวข้างทาง
นั่งไปนั่งมาเริ่มมืด ที่ไหนก็ไม่รู้5555 น่าจะนครสวรรค์มั้ง ประมาณนั้นแหระ อ่อ ใช่ๆ ถูกแล้ว 18.42น.เราอยู่นครสวรรค์
เวลาผ่านไป รถไฟก็เคลื่อนไปเรื่อยๆ เมื่อเราละสายตาจากหน้าจอมือถือ มองไป 2 ข้างทาง โหๆๆ บางช่วงที่ไม่มีบ้านคนคือมืดมากค่ะ แต่ในรถเปิดไฟอยู่ตลอดนะ
3ทุ่มรถไฟเคลื่อนถึงพิษณุโลก ยังพอจะมีของกินขายอยู่ แต่พอดึกๆก็ไม่มีแล้วค่ะ ความลำบากของการนั่งรถไฟชั้น 3 คือการหลับ
ถ้าไม่เพลียจริงๆคงหลับไม่ลง บางคนลงไปนอนบนพื้น แจ๊คนี่หลับรวมๆกันไม่ถึงชั่วโมงมั้ง คือรู้สึกตัวอยู่ตลอดเวลา นั่งๆอยู่ถ้าเมื่อยก็ลุกขึ้นยืนได้นะคะ เป็นเรื่องปกติเลย ถึงจะเป็นหน้าร้อน แต่กลางคืนหนาวมาก ใครจะใช้บริการอย่าลืมเตรียมผ้าไปห่มด้วยค่ะ
หรือไม่ก็เสื้อแขนยาวค่ะ ตี4กว่าๆ รถไฟเทียบชานชลาที่สถานีเชียงใหม่
เรานี่เอ๋อเลย แน่นอนว่ามันตรงเวลาค่ะ และมันก็เช้ามาก เอาไงดีล่ะ เช้าเกิน เข้าห้องน้ำก่อนเป็นอันดับแรก จะแปรงฟันก็คนเยอะ ขี้เกียจรอ สรุปไม่ได้ล้างหน้าแปรงฟันทั้งวันจนถึงเวลาเช็คอินที่โรงแรม 5555
หลังจากเข้าห้องน้ำ ก็คงต้องเติมพลังกันหน่อย ทานข้าวที่สถานีรถไฟ สรุปว่ากินไม่ลง เช้าเกิน
รอฟ้าสว่างก็หารถเข้าเวียง ตอนเช้ารถประจำทางยังไม่วิ่ง เราก็ไม่อยากอยู่สถานีรถไฟละ ยอมเสียค่าแท็กซี 60 ไปตั้งหลักที่ประตูท่าแพ
ครั้งนี้เที่ยวเองคนเดียวแอบตื่นเต้นนะ แต่ชอบ ลุ้นดีว่าเราจะเจออะไร
จริงๆเรามีแผนนะ คือวันแรกจะเช่าจักรยานปั่นเที่ยวในเวียง เดินเล่น หาร้านกาแฟ ชิกๆ ชิลๆ นั่งเล่นแถวนิมมาน แล้วก็คิดว่าจะไม่ไปไหน ขอ นั่งๆนอนๆ เดินๆถ่ายรูปวัดตอนกลางคืนในเวียงนี่แหระ ตั้งใจจะไปอยู่เฉยๆ ณ จุดนี้พูดเลยว่าผิดแผนทุกอย่าง คือวันแรกเรามีเวลามากเลยล่ะ เพราะเช็คอินได้เร็วสุดบ่ายโมง และกลายเป็นว่าพอไปถึงสะพายเป้ ปวดไหล่ สัมภาระเกะกะ ทุกอย่างยกเลิก ไม่มีอารมจะปั่นจักรยาน ไม่มีอารมณ์จะทำอะไร เดี๋ยวๆคือแผนที่วางไว้ ยกเลิกง่ายๆ ดื้อๆ แบบนี้เลยหรา 55555
ก็ใช่ดิ่ มาคนเดียว อะไรก็ได้
เลยถ่ายรูปอยู่แถวๆประตูท่าแพ อยากสระผมมาก ร้านก็ยังไม่เปิด เดินจนถึงตลาดประตูเชียงใหม่ เจอร้านทำผมแล้ว แต่คนเยอะ เลยเดินหาของกินก่อน และแล้วก็ได้สระผม สมใจค่ะสบายหัวเลย เวลาก็ยังเหลือ หันไปเห็นป้าย ทางไปวัดศรีสุพรรณ เขียนว่า อุโบสถเงิน
น่าสนใจค่ะ เลยเดินตามป้ายไป
หาไม่เจอก็แวะถามชาวบ้านแถวนั้นค่ะ เป็นวัดอยู่ชุมชนวัวลาย ที่นี่เป็นชุมชนทำเครื่องเงิน
อุโบสถในวัดที่เป็นเงินนี้ เป็นหลังแรกในโลก และเราโชคดีมาก ไปวันที่มีพิธีปอยหลวงพอดี มีอาจารย์จากหลายที่มาทำพิธี มีการแสดงต่างๆ เราเข้าไปตอนท้ายๆแล้ว เลยไม่ได้เห็นพิธีตั้งแต่เริ่ม ไม่รู้ล่ะถือว่าได้บุญด้วย
อุโบสถสวยค่ะ แต่รูปไม่ค่อยสวยนะ เพราะมีอุปกรณ์ประกอบพิธีบังอยู่ ข้างในห้ามผู้หญิงเข้า เลยถ่ายมาได้แต่ด้านนอก
สรุปนั่งอยู่ที่วัดนานเลย ดูการแสดง นั่งเย็นๆ สบายๆ ตอนเดินถ่ายรูป มีพี่คนหนึ่ง เราจะเรียกเค้าว่าอะไรดีก็ไม่รู้ ประมาณว่าเป็น PRของวัดอ่ะค่ะ ขออภัย เรียกไม่ถูกจริงๆ พี่เอาหนังสือประวัติการสร้างอุโบสถมาให้ แนะนำให้เข้าไปไหว้พระในโบถ อยากรู้อะไรในวัดถามพี่เค้าได้ พี่เค้าชวนทานอาหารกลางวัน แต่เราเขิลอ่ะไปคนเดียว ไม่ดีกว่า รายการอาหารวันนั้นน่ากินมากอ่ะ ได้ยินเสียงประกาศรายการอาหาร หนึ่งในนั้นมีข้าวซอยของโปรดเราด้วย หลังจากออกจากวัดมาเลยแวะร้านอาหารแถวๆนั้นค่ะ
จัดข้าวซอยมาเลย 55555
กางแผนที่แล้วจากประตูเชียงใหม่ ไปอิมพีเรียลแม่ปิง ดูไม่ไกล เดินสิ่ รออะไร ไม่โบกรถแดง เพราะมันไม่ไกล อยากเดิน วาดแผนที่ในหัว ถ้ามีรถก็คือต้องขับเองอ่ะ แล้วเราจะจำทางได้แผนที่จะเข้ามาอยู่ในหัวแบบออโต้เลย แต่ไม่มีรถไง ก็เลือกเดิน เข้าเช็คอินที่โรงแรม บ่ายโมง สิ่งแรกที่ทำคืออาบน้ำ ล้างหน้าแปรงฟัน แล้วก็นอนนนนนนน รายการวันนี้จบแล้ว เดี๋ยวออกอีกที่ตอนมืด
วิวหลังห้องค่ะ
โรงแรมอยู่ไกล้ ไนท์บาร์ซ่าค่ะ วันธรรมดาไม่มีถนนคนเดิน ก็เดินไนท์บาร์ซ่านี่แหระ
สังเกตุอย่างหนึ่งว่าชาวต่างชาติเยอะมาก คนไทยนี่น้อยมากอ่ะ แม้กระทั่งที่โรงแรม ไม่ค่อยมีคนไทยพัก อ๋อ คนไทยเค้าทำงานกันไง ไม่ใช่หน้าเทศกาล คือมีแกว่างอยู่คนเดียวไงแจ๊ค
มาดูบรรยากาศกันค่ะ
เดินย่านไนท์บาร์ซาดูของแล้วให้ความรู้สึกเหมือนยกประตูน้ำไปไว้ที่เชียงใหม่ คือใช่เลย แถมเดินๆไปเจอห้างพันทิพย์ด้วย
ถ้าจะหาอะไรกินกลางคืนก็ย่านนี้แหระค่ะ มีอาหารทุกประเภท
มื้อค่ำของแจ๊คค่ะ หอยทอดข้างทาง เดินกิน อร่อยดี
ที่ต้องไม่ลืมคือ โปสการ์ด
วิวหลังห้องยามค่ำคืน
กลับมาถึงห้องขาแทบหลุด ตอนเดินไม่รู้สึกอะไรนะ พอหยุดเดินปวดขามากๆ จบคืนแรก นอนหลับเป็นตาย
ตื่น 9.30 กว่าจะอาบน้ำแต่งตัว ไม่ทันอาหารเช้าที่โรงแรม แต่เรามีขนมที่ซื้อมาจากตลาด ใส่ตู้เย็นไว้ กว่าเราจะออกจากห้องก็เที่ยงๆได้ค่ะ เดินไปร้านเช่าจักรยาน ร้านนี้ใครๆก็ชมว่าบริการดี ที่สำคัญมีเสือภูเขาให้เช่าด้วย ร้านเข้าซอยนันทาราม ฝั่งตรงข้ามตลาดประตูเชียงใหม่ ตรงเข้าไปเรื่อยๆ ร้านอยู่ขวามือ ป้ายเขียนว่าร้านเช่าจักรยาน ข้อมูลที่หามาคือร้านNK เราคิดว่าเข้าร้านผิดซะอีก แต่ถูกแล้วล่ะ
ชื่อเพจร้านค่ะ ร้านเช่าจักรยาน เชียงใหม่
ราคาก็ 24ชั่วโมง 300 บาท มัดจำ 1,000 พร้อมกับวางบัตรประชาชน มีหมวก,โซ่ล็อกและไฟ
พี่เจ้าของร้านเป็นคนปั่นจักรยานค่ะ อัธยาไสยดี คุยอยู่พักนึง เลยถามเส้นทางว่าไปไหนได้บ้าง พี่เอาแผนที่มาให้ 1 อัน แนะนำเส้นทางปั่นให้ด้วย เรารู้สึกเสียดายมากที่เพิ่งมาเช่าวันที่ 2 ตอนบ่าย ไม่งั้นเราคงได้เที่ยวมากกว่านี้ ความจริงถ้าอยากปั่นไกลๆ เราสามารถเอาจักรยานขึ้นสองแถวไปปั่นได้ แค่สอบถามเวลารถเที่ยวสุดท้ายสักนิด
ได้แล้วค่ะจักรยานสีแดง หมวกสีขียว ถุงมือเตรียมไปเอง พี่เลือกสีจักรยาน สีหมวก เข้ากับชุดหนูมากค่ะ ถ่ายรูปก่อนค่ะสิ่งสำคัญ 555
ขอบคุณพี่เจ้าของร้านด้วยค่ะสำหรับรูป
จากที่ดูๆ ระยะทางมา แกรนแคนยอน ไกล้สุด ไปทางหางดง ขากลับ แวะอุทยานหลวงราชพฤกษได้ โอเค เฟอเฟคมากแผนนี้ ถ่ายรูปเสร็จ พี่เจ้าของร้านบอกพร้อมแล้วก็ลุย!!!!!!!
เดี๋ยวมาเล่าต่อนะคะ