คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
ไม่ใช่ครับ
พระยาตากตีฝ่าออกมาตอนที่พม่าเข้าล้อมกรุงแล้ว คือในช่วงเดือนยี่ ปลาย พ.ศ.๒๓๐๙ ก่อนกรุงศรีอยุทธยาจะเสียราว ๓ เดือน ซึ่งตอนนั้นกองทัพพม่าตั้งค่ายมาถึงวัดกระชาย วัดพลับพลาไชย วัดเต่า วัดสุเรนทร์ วัดแดงที่อยู่เขตชานพระนครแล้ว
ตามพระราชพงศาวดารระบุว่าตอนที่ตีฝ่าพม่าออกไปจากวัดพิชัยทรงมีทหารจีนและไทยอยู่ในกองทัพของพระองค์ราว ๑๐๐๐ เศษ และได้ตีฝ่าทหารพม่าไปโดยตลอดจนไปถึงพัทยา แต่ถ้าเป็นจดหมายเหตุความทรงจำของกรมหลวงนิรนทรเทวีระจะระบุว่ามีทหารติดตามพระองค์แค่ ๕๐๐ คน
ส่วนเรื่องที่ว่าชุมนุมต่างๆมีกำลังเหนือกว่าชุมนุมพระยาตากก็ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาครับ ถ้าดูตอนที่พระเจ้ากรุงธนบุรีตีฝ่าออกจากกรุงใหม่ๆ ก็นับว่าเสียเปรียบ เพราะชุมนุมอื่นๆ มีเมืองของตนเองเป็นฐานที่มั่นอย่างพิษณุโลก นครศรีธรรมราช และยังมีหัวเมืองใกล้เคียงซึ่งอยู่ใต้อำนาจอีกมาก กำลังพลก็ย่อมมากกว่าพระยาตากแน่นอน
แต่ระยะหลังชุมนุมพระเจ้ากรุงธนบุรีก็เข้มแข็งมากขึ้นโดยอาศัยหัวเมืองชายทะเลตะวันออกเป็นฐาน จนสามารถยกทัพตีพม่าออกไปกรุงศรีอยุทธยากลับมาได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ชุมนุมอื่นๆ ไม่ได้ทำ และพระองค์ก็ทรงรับเจ้านายกรุงเก่ามาอุปภัมภ์ไว้มาก น่าจะเป็นการส่งเสริมบารมีของพระองค์ให้มีความชอบธรรมในการสืบทอดอำนาจต่อจากพระเจ้าแผ่นดินกรุงศรีอยุทธยามากขึ้น และทำให้หัวเมืองส่วนใหญ่ในภาคกลางมาขึ้นกับพระองค์จึงน่าจะทำให้พระองค์มีกำลังกล้าแข็งพอที่จะเริ่มทำสงครามกับชุมนุมอื่นๆ ได้ครับ
ส่วนที่ไปตีเจ้าพระฝางหลังสุด ต้องอธิบายว่าเดิมพระองค์คิดจะไปตีชุมนุมเจ้าพระยาพิษณุโลกซึ่งอยู่ใต้ลงมาก่อน แต่พระองค์ถูกยิงที่พระชงฆ์จึงต้องถอยทัพกลับมาแล้วหันไปตีชุมนุมอื่นอย่างชุมนุมเจ้านครและเจ้าพิมายแทน ระหว่างนั้นเองเมื่อเจ้าพิษณุโลกถึงแก่พิราลัย เจ้าพระฝางเลยได้โอกาสบุกมาตีเมืองพิษณุโลกได้สำเร็จ แล้วเทครัวเมืองพิษณุโลกทั้งหมดกลับไปเมืองสวาคบุรี ทำให้หัวเมืองฝ่ายเหนือตกอยู่ใต้อำนาจเจ้าพระฝางทั้งหมด กำลังเจ้าพระฝางน่าจะเข้มแข็งขึ้น จึงน่าจะเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้พระเจ้ากรุงธนบุรีเลือกไปตีชุมนุมอื่นก่อนแล้วย้อมกับมาตีเจ้าพระฝางเป็นชุมนุมสุดท้าย
ที่ว่าพระเจ้ากรุงธนบุรีไปเจรจากับเจ้าพระฝางจนเจ้าพระฝางมาร่วมมือเท่าที่ทราบไม่มีหลักฐานที่กล่าวถึงเรื่องนี้ครับ ตามพระราชพงศาวดารระบุว่ารบกันถึงขั้นล้อมเมืองสวางคบุรี สุดท้ายเจ้าพระฝางสู้ไม่ได้ก็ลอบหนีจากเมืองไปไม่สามารถตามตัวมาได้ แต่ก็ได้หัวเมืองฝ่ายเหนือทั้งหมดกลับมาอยู๋ใต้พระราชอาณาเขตเหมือนครั้งกรุงศรีอยุทธยาตามเดิม
แล้วรามัญไม่ใช่พม่า แต่เป็นชาวมอญครับ
พระยาตากตีฝ่าออกมาตอนที่พม่าเข้าล้อมกรุงแล้ว คือในช่วงเดือนยี่ ปลาย พ.ศ.๒๓๐๙ ก่อนกรุงศรีอยุทธยาจะเสียราว ๓ เดือน ซึ่งตอนนั้นกองทัพพม่าตั้งค่ายมาถึงวัดกระชาย วัดพลับพลาไชย วัดเต่า วัดสุเรนทร์ วัดแดงที่อยู่เขตชานพระนครแล้ว
ตามพระราชพงศาวดารระบุว่าตอนที่ตีฝ่าพม่าออกไปจากวัดพิชัยทรงมีทหารจีนและไทยอยู่ในกองทัพของพระองค์ราว ๑๐๐๐ เศษ และได้ตีฝ่าทหารพม่าไปโดยตลอดจนไปถึงพัทยา แต่ถ้าเป็นจดหมายเหตุความทรงจำของกรมหลวงนิรนทรเทวีระจะระบุว่ามีทหารติดตามพระองค์แค่ ๕๐๐ คน
ส่วนเรื่องที่ว่าชุมนุมต่างๆมีกำลังเหนือกว่าชุมนุมพระยาตากก็ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาครับ ถ้าดูตอนที่พระเจ้ากรุงธนบุรีตีฝ่าออกจากกรุงใหม่ๆ ก็นับว่าเสียเปรียบ เพราะชุมนุมอื่นๆ มีเมืองของตนเองเป็นฐานที่มั่นอย่างพิษณุโลก นครศรีธรรมราช และยังมีหัวเมืองใกล้เคียงซึ่งอยู่ใต้อำนาจอีกมาก กำลังพลก็ย่อมมากกว่าพระยาตากแน่นอน
แต่ระยะหลังชุมนุมพระเจ้ากรุงธนบุรีก็เข้มแข็งมากขึ้นโดยอาศัยหัวเมืองชายทะเลตะวันออกเป็นฐาน จนสามารถยกทัพตีพม่าออกไปกรุงศรีอยุทธยากลับมาได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ชุมนุมอื่นๆ ไม่ได้ทำ และพระองค์ก็ทรงรับเจ้านายกรุงเก่ามาอุปภัมภ์ไว้มาก น่าจะเป็นการส่งเสริมบารมีของพระองค์ให้มีความชอบธรรมในการสืบทอดอำนาจต่อจากพระเจ้าแผ่นดินกรุงศรีอยุทธยามากขึ้น และทำให้หัวเมืองส่วนใหญ่ในภาคกลางมาขึ้นกับพระองค์จึงน่าจะทำให้พระองค์มีกำลังกล้าแข็งพอที่จะเริ่มทำสงครามกับชุมนุมอื่นๆ ได้ครับ
ส่วนที่ไปตีเจ้าพระฝางหลังสุด ต้องอธิบายว่าเดิมพระองค์คิดจะไปตีชุมนุมเจ้าพระยาพิษณุโลกซึ่งอยู่ใต้ลงมาก่อน แต่พระองค์ถูกยิงที่พระชงฆ์จึงต้องถอยทัพกลับมาแล้วหันไปตีชุมนุมอื่นอย่างชุมนุมเจ้านครและเจ้าพิมายแทน ระหว่างนั้นเองเมื่อเจ้าพิษณุโลกถึงแก่พิราลัย เจ้าพระฝางเลยได้โอกาสบุกมาตีเมืองพิษณุโลกได้สำเร็จ แล้วเทครัวเมืองพิษณุโลกทั้งหมดกลับไปเมืองสวาคบุรี ทำให้หัวเมืองฝ่ายเหนือตกอยู่ใต้อำนาจเจ้าพระฝางทั้งหมด กำลังเจ้าพระฝางน่าจะเข้มแข็งขึ้น จึงน่าจะเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้พระเจ้ากรุงธนบุรีเลือกไปตีชุมนุมอื่นก่อนแล้วย้อมกับมาตีเจ้าพระฝางเป็นชุมนุมสุดท้าย
ที่ว่าพระเจ้ากรุงธนบุรีไปเจรจากับเจ้าพระฝางจนเจ้าพระฝางมาร่วมมือเท่าที่ทราบไม่มีหลักฐานที่กล่าวถึงเรื่องนี้ครับ ตามพระราชพงศาวดารระบุว่ารบกันถึงขั้นล้อมเมืองสวางคบุรี สุดท้ายเจ้าพระฝางสู้ไม่ได้ก็ลอบหนีจากเมืองไปไม่สามารถตามตัวมาได้ แต่ก็ได้หัวเมืองฝ่ายเหนือทั้งหมดกลับมาอยู๋ใต้พระราชอาณาเขตเหมือนครั้งกรุงศรีอยุทธยาตามเดิม
แล้วรามัญไม่ใช่พม่า แต่เป็นชาวมอญครับ
แสดงความคิดเห็น
ตอนที่สมเด็จพระเจ้าตากสินตีฝ่าออกจากพระนคร....
มีกำลังพลเหนือกว่าทาง สมเด็จพระเจ้าตากสิน หมดเลยใช่ไหมครับ สุดท้ายที่ไปตีคือชุมนุม เจ้าฝางใช่ไหม
เป็นเพราะเจ้าฝาง รวบรวม คนทางเหนือไว้เยอะสุด และเข้มแข็งสุด ในตอนหลังเสียกรุงใหม่ๆใช่ไหมครับ