คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
					
				
								 ความคิดเห็นที่ 15
																			
								
									
								
														
						
					 (อ่านๆดูแล้ว จขกท.ไม่ควร tag ศาสนาเลยจริงๆ เพราะเหมือนมาคุยกับคนที่มีโลกเหตุผลหรือตรรกะแบบคนป่วยคนหลงในทางศาสนานั่นล่ะ !!)
สิ่งที่ควรพิจารณาคือ แม่ต้องหยุดยึดเหนี่ยวยึดถือหรือควรออกห่างๆศาสนาโดยเร็ว เพราะมีแต่จะยิ่งเกิดภาวะลุ่มหลงขาดสติไปกันใหญ่ และสิ่งที่แม่เชื่อและกระทำนั้นก็ได้สร้างความทุกข์แก่จขกท.และผู้เกี่ยวข้อง จึงมีความเป็นบาปที่ชัดเจนด้วย ใช่จะเป็นบุญใหญ่หลวงตามความเชื่อแต่อย่างใด
การจัดการสิ่งต่างๆ
ให้เราเจรจากับแม่และทางวัด(เท่าที่เจรจากันได้) โดยชี้แจงเหตุผลที่ถูกที่ควรไปว่าแม่อยู่ในสภาพผู้ป่วยขาดสติ ไม่เหมาะสมที่จะไปทำสัญญาตกลงใดๆกับใคร และเสนอแนะเหตุผลที่ถูกที่ควรเพื่อเป็นธรรมทานแก่ผู้เกี่ยวข้องเขาจะพิจารณามากน้อยเพียงใด ตลอดจนหาทางบำบัดอาการป่วยและช่วยพัฒนาทิฏฐิและทัศนคติของแม่เท่าที่ช่วยได้
แต่ถ้าแม่ยังคงหลงทิฏฐิเดิมๆ และถ้าทางวัดก็ยืนยันที่จะรับบริจาค(ทานที่ไม่บริสุทธิ์)มาเป็นของวัด หากเป็นเช่นนี้ขอให้วางอุเบกขา(ปล่อยวางจิตใจ)ได้เสมอทุกกรณี ไม่ว่าแม่จะตัดสินใจตัดขาดกับเรา หรือเราตัดสินใจตัดขาดกับแม่ (โดยชั่วคราวหรือโดยถาวรก็ตาม) หรือยังคงเป็นแม่ลูกกันแบบเดิม ฯลฯ ส่วนความกลัวเรื่องอกตัญญูต่อแม่นั้น เป็นภาวะอาการทางจิตที่เรามัวไปยึดถือคร่ำเคร่งตามธรรมเนียมชาวบ่านโดยใช่เหตุ ทั้งนี้ทุกคนไม่ควรมัวมายึดเหนี่ยวยึดถือใดๆจนเกิดภาวะอาการทางจิตอย่างขาดสติทั้งนั้นครับ
								สิ่งที่ควรพิจารณาคือ แม่ต้องหยุดยึดเหนี่ยวยึดถือหรือควรออกห่างๆศาสนาโดยเร็ว เพราะมีแต่จะยิ่งเกิดภาวะลุ่มหลงขาดสติไปกันใหญ่ และสิ่งที่แม่เชื่อและกระทำนั้นก็ได้สร้างความทุกข์แก่จขกท.และผู้เกี่ยวข้อง จึงมีความเป็นบาปที่ชัดเจนด้วย ใช่จะเป็นบุญใหญ่หลวงตามความเชื่อแต่อย่างใด
การจัดการสิ่งต่างๆ
ให้เราเจรจากับแม่และทางวัด(เท่าที่เจรจากันได้) โดยชี้แจงเหตุผลที่ถูกที่ควรไปว่าแม่อยู่ในสภาพผู้ป่วยขาดสติ ไม่เหมาะสมที่จะไปทำสัญญาตกลงใดๆกับใคร และเสนอแนะเหตุผลที่ถูกที่ควรเพื่อเป็นธรรมทานแก่ผู้เกี่ยวข้องเขาจะพิจารณามากน้อยเพียงใด ตลอดจนหาทางบำบัดอาการป่วยและช่วยพัฒนาทิฏฐิและทัศนคติของแม่เท่าที่ช่วยได้
แต่ถ้าแม่ยังคงหลงทิฏฐิเดิมๆ และถ้าทางวัดก็ยืนยันที่จะรับบริจาค(ทานที่ไม่บริสุทธิ์)มาเป็นของวัด หากเป็นเช่นนี้ขอให้วางอุเบกขา(ปล่อยวางจิตใจ)ได้เสมอทุกกรณี ไม่ว่าแม่จะตัดสินใจตัดขาดกับเรา หรือเราตัดสินใจตัดขาดกับแม่ (โดยชั่วคราวหรือโดยถาวรก็ตาม) หรือยังคงเป็นแม่ลูกกันแบบเดิม ฯลฯ ส่วนความกลัวเรื่องอกตัญญูต่อแม่นั้น เป็นภาวะอาการทางจิตที่เรามัวไปยึดถือคร่ำเคร่งตามธรรมเนียมชาวบ่านโดยใช่เหตุ ทั้งนี้ทุกคนไม่ควรมัวมายึดเหนี่ยวยึดถือใดๆจนเกิดภาวะอาการทางจิตอย่างขาดสติทั้งนั้นครับ
 แสดงความคิดเห็น
				
	        
				
	        
				
				 
 
		
				
 	 
			 
						 
							 
							 
							 
							 
							


 
 






 
 


คุณพ่อพึ่งเสียไป แม่เป็นโรคซึมเศร้าจะเอาบ้านไม้สักทองไปถวายวัด ห้ามไม่ฟังโมโหขู่จะตัดลูก ทำไงดีครับ
หลังจากพ่อเสียแม่ก็มีอาการเครียด ซึมเศร้า ตอนนี้ต้องพบจิตเวชทุกเดือน
กลางคืนเดี๋ยวนี้ก็เปิดประตูบ้านไว้บอกสัมผัสได้พ่อจะได้เข้ามาได้
มาเมื่อเช้านี้เดินมาบอกยกบ้านไม้สักทองให้วัดไปแล้วนะ (ยกเฉพาะบ้าน มูลค่าตัวบ้านน่าจะ5แสน+)
โดยบอกว่า
1.บ้านไม้สักทองนี้อาถรรพ์
2.เลยจะบริจาคให้วัดไปไว้ทำบุญทำท่านั่งวิปัสสนา
โดยบอกว่าบริจาคไปแล้วจะให้ผมพาพระไปดูตอนบ่ายนี้
ผมควรทำไงดีครับ เบื้องต้นผมแย้งไปด้วยเหตุและผลทุกอย่าง ไม่อยากขัดศรัทธาแต่ถวายขนาดนี้ก็เกินกำลังทรัพย์บ้านเราเกินไป
โดยข้อมูลเบื้องต้นคือบ้านผมมีทรัพสินรวมไม่ถึง10ล้าน รวมบ้านกับที่ดินครับ
ถ้าไม่พาพระไปบ่ายนี้ท่านขู่จะตัดแม่ตัดลูก ผมจะเป็นลูกอกตัญญูมั้ยครับ เครียดคิดไม่ออกเลยครับ