ขอแฉชีวิตตัวเอง กับ ความฝันที่เรียกร้อง....

ขอแนะนำตัวเองก่อนนะครับผมขอใช้นามแฝงว่า บี อายุตอนนี้26ครับ บ้านฐานะปานกลางค่อนไปทางจนซะด้วย ความฝันของผมคืออยากเป็นล่ามภาษาญี่ปุ่นครับ กระทู้นี้ผมตั้งขึ้นมาเผื่อแฉชีวิตตัวเองที่ผ่านมาอยากให้น้อง ๆ ที่กำลังอยู่ในช่วงวัยหัวเลี้ยวหัวต่อถ้าได้อ่านก็อาจจะช่วยได้ไม่มากก็น้อยในการตัดสินใจเรื่องการเรียน ส่วนพี่ ๆ เพื่อน ๆ ท่านใดเข้ามาอ่านผมก็ขอกราบขอบพระคุณมาก ๆ นะครับที่รับฟังเรื่องราวชีวิตของคนที่ได้ตัดสินใจผิดพลาดในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ของผมแต่ส่งผลมาถึงจนปัจจุบัน
     
     ก่อนอื่นเลยผมขอเล่าเรื่องเป็นแบบช่วงเวลาเอานะครับเพราะแต่ล่ะปีที่ผ่านมาในชีวิตของผมก็ค่อนข้างที่จะขึ้นและลงแบบยาว ๆ ตลอดเลยกระทู้นี้ผมบอกก่อนเลยนะครับว่ายาวมากแต่อยากให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับคนที่อายุน้อย ๆ และ "ทุก ๆ ท่านจะคอมเม้นยังไงก็ได้แรงแค่ไหนก็ได้ ส่งหลังไมค์มาก็ยังได้นะครับผมแค่อยากระบายความในใจนี้ซักที"
          
     เริ่มช่วงปีแรกนะครับช่วงปี 2548 ช่วงปีนี้ผมเรียนจบม.3 และตอนนั้นผลการเรียนผมเรียกได้ว่าห่วยมากเกรดแค่ 2.33 เท่านั้นซึ่งการที่ผมจะได้ใช้โควต้านักเรียนเก่าเข้าม.ปลายที่เดิมนั้นต้องเกรด 2.80 ขึ้นไปตอนนั้นผมก็แคว้งเลยที่บ้านก็เหมือนผิดหวังกัน แต่ดีที่ว่าผมไปลงชื่อเอาไว้แล้วมีคนสละสิทธิ์ผมเลยได้เข้าไปเรียนม.ปลาย แต่สุดท้ายปัญหาก็เกิดครับเพราะผมไม่สามารถเลือกสายที่จะเรียนได้เนื่องจากห้องเต็มหมดแล้วทางโรงเรียนเลยเปิด "ห้องสายเกษตร-ภาษาไทย" ขึ้นมาให้เด็กที่รายชื่อตกหล่นนั้นเข้าเรียน ซึ่งตอนแรกผมตั้งใจจะเรียนห้อง "อังกฤษ-ฝรั่งเศส" ผมเลยไม่ลงชื่อเพราะไม่ชอบเลย หลังจากนั้นก็มีงานวันวิชาการที่โรงเรียนและโรงเรียนพาณิชย์ต่าง ๆ ก็มาเปิดบูทประชาสัมพันธ์โรงเรียนมากมายผมเลยนึกขึ้นได้ว่างั้นเราเรียนสายปวช.ดีกว่าถ้าดวงเราไม่ไปทางม.ปลาย และผมก็เดินเข้าออกบูทมากมายเพื่อเลือกโรงเรียนที่สนใจจนเจอโรงเรียนที่ผมสนใจอยากจะเรียนมาก ๆ คือ SBAC(สะพานใหม่) แต่ติดตรงที่ค่าเทอมค่อนข้างแพง(ย้อนไป11ปีที่แล้วค่าเทอมปวช.ที่นี้2หมื่นกว่าบาทนะครับไม่มีเงินอุดหนุนจากใครทั้งนั้นแบบสมัยนี้) ผมเอาเรื่องนี้ไปปรึกษากับที่บ้านพ่อกับแม่ก็ไม่เห็นด้วยเพราะไกลมาก(บ้านผมอยู่บางบัวทอง) และคงจ่ายให้ไม่ไหวเพราะพี่ชายผมก็เรียนปวช.เอกชนอีกทีนึง ตอนนั้นผมก็เลยกลับมาแคว้งอีกครั้งเพื่อน ๆ ก็ได้ที่เรียนจะหมดแล้วจนผมเอาเรื่องนี้ไปคุยกับเพื่อนที่สนิทด้วยก็เลยชวนกันไปดูSBACซะหน่อย พอที่บ้านรู้ว่าผมแอบไปดูโรงเรียนมาแม่คงเข้าใจว่าผมคงอยากเรียนที่นี้มากแต่ทั้ง ๆ ที่แม่อุตสาห์นั้งวินไปตามโรงเรียนพาณิชย์แถวบ้านเพื่อถามค่าเทอมมาแล้วหลายโรง เลยบอกว่างั้นเรียนที่นี้ก็ได้แต่ต้องตั้งใจเรียนนะเพราะมันไกลบ้านมากแล้วแม่ไม่ยอมให้อยู่หอด้วยแม่เลยให้เงินผมมาหมื่นนึงผมกำเงินหมื่นนึงในขณะที่ตอนนั้นผมไม่รู้เลยว่าไอ้เงินหมื่นนึงเนี้ยมันมีค่าขนาดไหนไปสมัครเรียน

     พอไปถึงที่โรงเรียนผมก็สมัครเรียนพร้อมกับจ่ายเงินหมื่นนึงนั้นไปส่วนที่เหลือต้องมาจ่ายก่อนสอบกลางภาค(เงินหมื่นนึงนี้เหมือนดั่งหายไปกับสายลม) และผมเองด้วยความที่มาสมัครช่วงที่จะเปิดภาคเรียนแล้วทำให้ผมเจอปัญหาเดิมเลยคือ "สาขาอื่นเต็มหมดแล้ว" ตอนนั้นเองผมตั้งใจจะเรียนการท่องเที่ยวมากแต่ก็เต็มอาจารย์บอกว่าตอนนี้มีสองสาขาที่ยังไม่เต็มคือ สาขาการขาย กับ สาขางานภาษาต่างประเทศ ผมตัดสินใจนานมากเพราะการขายผมยังไม่รู้เลยว่ามันเรียนเกี่ยวกับอะไรส่วนภาษาตอนนั้นผมภาษาไม่ได้เลยแต่สุดท้ายผมก็เลือก "สาขางานภาษาต่างประเทศ" ครับและนี้คือส่วนหนึ่งของจุดเปลี่ยนต่าง ๆ ในชีวิตของผมครับ...เดียวมาต่อนะครับขอเดินทางกลับกทม.ก่อนนะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่