แปลมาจาก http://magic.wizards.com/en/articles/archive/uncharted-realms/chandras-origin-fire-logic-2015-06-10
ประมาณกลางๆปีที่แล้ว ทางWizard of the Coast ก็ได้อัพโหลดนิยายประจำแต่ละชุดให้อ่านฟรีในเวปไซต์ของตนเอง
โดยเริ่มตั้งแต่ชุด Magic Origin ที่เป็นชุดที่บอกเล่าถึงที่มาของเพลนวอร์คเกอร์คนสำคัญทั้ง5 คน ที่จะมามีส่วนร่วมในนิยายชุดต่อๆมา
ผมซึ่งปกติก็ตามอ่านเป็นประจำอยู่แล้ว ก็อยากที่จะมาแบ่งปันให้ทุกคนได้ลองทำความรู้จักและสนุกไปกับมัน
การแปลอาจจะแปลกๆไปบ้าง แต่ก็พยายามจะให้ดีที่สุด ถ้าใครเห็นข้อผิดพลาดตรงไหนขอให้บอกนะครับจะทำการแก้ไข
ใครทนรอแปลไม่ไหวอยากจะล่วงหน้าไปก่อนก็ไปตามลิงค์ด้านบนได้เลยนะครับ
ใครอยากจะแชร์ เอาไปเผยแพร่ต่อหรือเอาไปทำอะไรก็ตามสะดวกนะครับ
ผมไม่ขอรับอะไร ทุกๆเครดิตมอบให้แก่ทางผู้สร้างทั้งหมด

ในจักรวาลที่เรียกว่ามัลติเวิร์ส ที่ซึ่งมีดวงดาวที่ถูกเรียกว่าเพลนเป็นจำนวนมากมายล่อยลองอยู่
แต่ละเพลนก็มีสภาพแวดล้อม วัฒนธรรมและปัญหาเป็นของตนเอง
มีเพียงคนกลุ่มเดียวที่สามารถเดินทางไปมาระหว่างเพลนแต่ละแห่งได้ คนเหล่านั้นถูกเรียกว่า เพลนวอร์คเกอร์
จุดเริ่มต้นของแชนด้า : วิถีแห่งไฟ
เมืองเกียร์อเพิล เพลนคาลาแดช
แชนด้า นาลาอา วัย 11 ปีกำลังไต่ขึ้นฝ่าละอองสะเก็ดไฟที่ใครสักคนในครอบครัวหรืออาจจะทั้งคู่
กำลังเชื่อมอะไรบางอย่างอยุ่ในอุโมงค์เหมืองเหนือขึ้นไปจากตัวเธอ
ละอองสะเก็ดไฟกระเด็นกระดอนออกจากผมสีแดง ในขณะที่เธอกำลังยิ้มอยู่
ไต่ขึ้นไปอย่างช้าๆ กระทั่งมาถึงโครงสร้างนั่งร้านที่ถูกยึดติดอยุ่กับผนังอุโมงค์
และแล้วในที่สุดวันนี้ก็มาถึง
พ่อแม่ของเธอเป็นนักประดิษฐ์ ปู่ย่าตายายก็เป็นนักประดิษฐ์ ย้อนไปกระทั่งถึงบรรพบุรุษก็เป็นนักประดิษฐ์
ตระกูลแชนด้าเป็นนักประดิษฐ์มาโดยตลอด
แต่วันนี้จะเป็นวันที่เธอจะได้ครอบครองชะตากรรมที่เธอเป็นคนกำหนดเอง
วันที่จะได้เป็น "นักส่งของ"
การประดิษฐ์ไม่เคยเป็นข้อดีของเธอเลย
ไม่ใช่ว่าเธอไม่ประทับใจหรือไม่ชอบอะไรในสิ่งประดิษฐ์
โลกของเธอนั้นเต็มไปด้วยการคิดค้นและงานวิจัยอันน่าทึ่งรวมไปจนถึงสิ่งมีชีวิตประดิษฐ์อันน่าพิศวงที่ทำด้วยเกียร์
มันแค่เป็นเรื่องสมาธิของเธอที่ดูเหมือนจะหมดไปซะก่อนที่อะไรๆมันจะสำเร็จ
บางที บางเวลาในกระบวนการสร้าง กำปั้นของเธอก็มักจะไปกระแทกใส่ใบหน้าของใครสักคนที่สมควรได้รับมันอยุ่เสมอๆ
มันเป็นความล้มเหลวที่เกิดจากตนเอง เธอยอมรับมัน
เธอเคยทดลองอะไรใหม่ๆอีกหลายอย่าง
เคยตั้งใจจะเอาดีทางด้านศิลปะ
หลักฐานก็คือ เศษซากของพู่กันและผ้าใบ ยังคงกระจัดกระจายอยู่ภายในห้องของเธอ
เคยแม้กระทั่งสมัครเข้าโรงเรียนเฉพาะทาง เพื่อพบว่าถูกส่งกลับมาบ้านพร้อมแผลที่กำปั้นและจดหมายจากครูใหญ่
เธอไม่เคยพบที่ของเธอเลยสักครั้งเดียว ในโลกที่ถูกควบคุมไปด้วยเครื่องยนตร์กลไกและเหล่าตัวแทนจากผู้มีอำนาจ
แต่ในวันนี้ หน้าที่อันแท้จริงของเธอกำลังจะเริ่มต้นขึ้น
แม้ว่าแชนด้าไม่เคยจะได้เป็นช่างเหล็กแบบพ่อ หรือเป็นช่างฝืมือที่เก่งกาจแบบแม่
แต่ในโลกที่ถูกขับเคลื่อนไปด้วยเครื่องจักรอันยิ่งใหญ่แบบนี้ เธอก็ยังสามารถที่จะจัดหาแหล่งพลังงานลึกลับอีเธอร์แก่ผู้ที่ต้องการมันได้
อีเธอร์นั้นถูกควบคุมอย่างแน่นหนาจากเหล่าผู้ที่มีอำนาจ แต่พ่อแม่ของเธอก็มีวิธีที่จะหามันและคอยช่วยเหลือเหล่าผู้ที่ต้องการมันไปเป็นเชื้อเพลิงเพื่อการค้นคว้าที่น่าตื่นเต้นได้อยู่เสมอๆ
แชนด้าปีนผ่านที่กั้นข้ามไปยังชานชาลาที่พ่อของเธอกำลังยุ่งอยู่กับหนึ่งในผลงานการสร้างสรรค์จากโลหะของเขา
เขาดึงแว่นตากันลมแบบเลนส์หนาขึ้นไปบนหัว ทิ้งรอยดำรอบดวงตาคล้ายแรคคูนไว้ที่ใบหน้า
"แชนด้า พ่อไม่ได้บอกหรอว่าให้ลูกอยู่แค่ในที่กั้นเท่านั้นน่ะ แล้วแบบนี้พ่อจะสร้างมันไปทำไมละเนี่ย"
"มันเหมาะที่จะเป็นบันไดมากกว่าน่ะค่ะ" เธอพูดและกอดเข้าไปที่ลำตัวของพ่อ
"พ่อขา หนูพร้อมแล้วนะ ว่าแต่นี่พ่อรู้รึยังว่าหนูพร้อมที่จะไปแล้ว งั้นบอกซะตอนนี้เลยก็ได้ หนูพร้อมที่จะไปแล้วค่ะ"
พ่อของเธอหลบสายตา "ไม่ใช่ว่าพ่อตั้งใจจะฝึกความอดทนให้ลูกอะไรหรอกนะ แต่คนที่ลูกควรบอกน่ะจริงๆแล้วไม่ใช่พ่อหรอก แม่ของลูกต่างหากล่ะ"
เสียงเดินบนโลหะดังขึ้นในขณะที่แม่ของเธอเดินลงมาจากบันไดวนอันมั่นคง เธอสวมถุงมืออย่างหนา มีผ้าปักลวดลายคลุมอยุ่รอบๆบั้นท้ายของเธอ เธอนำภาชนะโลหะติดตัวมาด้วยท่าทางราวกับว่ามันเป็นเค้กสำหรับวันเกิด
"การจัดส่งครั้งแรกของลูก! โอ้ ดูที่เธอซิคิรัน ดูซิๆ ลูกกำลังจะระเบิดอยู่แล้วนะเนี่ย
มานี่มา มาช่วยแม่ปิดผนึกเจ้านี่ก่อนที่ของข้างในหรือไม่ก็ตัวลูกจะระเบิดออกมาซะ"
แม่ของแชนด้าวางภาชนะลง ฝาปิดเรืองแสงเล็กน้อยและส่งเสียงซู่ๆ จากการที่ก๊าซภายในลอดออกมา
เป็นเวลาเดียวกับที่พ่อของเธอบอกให้เธอดูแลตัวเองดีๆอย่างเบาๆ
แชนด้าจัดลูกเตะไปที่ภาชนะอย่างรวดเร็วด้วยรองเท้าบูทของเธอ ฝาปิดยุบเข้าไปแต่มันก็ทำให้เสียงหายตามไปด้วย
แชนด้ายิ้มขึ้นมาเล็กน้อย
"บอกได้เลยว่าลูกจะต้องเป็นนักส่งของที่เยี่ยมที่สุดเท่าที่เมืองนี้เคยมีมา" แม่ของเธอพูดพร้อมขยิบตา
แชนด้าเชิดคางขึ้นทำท่าทางราวผู้ยิ่งใหญ่ "กรุณาเตรียมเหรียญและถ้วยรางวัลรอไว้สำหรับตอนหนูกลับมาถึงแล้วด้วยล่ะ หนูจะพยายามจำพ่อกับแม่ให้ได้นะในวันที่หนูกลายเป็นคนนอกกฏหมายคนสำคัญไปแล้วน่ะ"
"พวกเราขอเสนอเป็นรถที่ทำจากหญ้าแทนละกัน" พ่อของเธอกล่าว "เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมากนะแชนด้า ตอนนี้พวกตัวแทนได้วางกำลังเวรยามไว้มากขึ้นกว่าเดิม แม้ว่าผู้คนจะต้องการสิ่งที่เราจัดหามาให้ก็จริง แต่ถ้าเรานำปัญหาไปให้แก่พวกเขาแล้วละก็พวกเขาก็พร้อมที่จะหันหลังให้เราทันที
แม่กับพ่อมาถึงจุดที่ไม่สามารถหาคนที่เราจะไว้ใจได้แล้วนะ
แชนด้าหยิบภาชนะใส่กระเป๋าสะพายแล้วเหวี่ยงไปไว้กลางหลัง "และในวันนี้เราก็จะไว้ใจยายแก่ที่อาศัยอยุ่ที่โรงหล่อซินะ"
"ใช่ คุณนายพาชิลี" พ่อของเธอกล่าว
"แกเอ็นดูลูกมาตลอดเลยนะ" แม่ของเธอกล่าว "จำไว้ให้ดี แกจะเข้าใจสัญญาณเอง เหล่าคนที่รู้จักสัญญาณนั้นต่างก็รู้ถึงตัวตนของเรา"
"หนูรู้น่ะว่าหนูเป็นใคร แชนด้านักส่งของที่เก่งที่สุดในโลกไงล่ะ"
แม่ของเธอกอดเธอด้วยท่าทางเก้ๆกังๆ ลูบไปที่ภาชนะบนหลังของเธอ
"พ่อกับแม่เชื่อว่าลูกทำได้ ลูกรู้ทาง ลูกรู้จักเมืองนี้ ลูกจะทำมันได้อย่างดี"
"ดูให้แน่ใจนะว่าไม่มีใครแอบตามลูกกลับมาที่นี่"พ่อของเธอบอกเพิ่มเติม แต่แชนด้าก็ปีนออกไปเสียแล้ว
[แปลนิยาย] Magic the Gathering Origin - วิถีแห่งไฟ
ประมาณกลางๆปีที่แล้ว ทางWizard of the Coast ก็ได้อัพโหลดนิยายประจำแต่ละชุดให้อ่านฟรีในเวปไซต์ของตนเอง
โดยเริ่มตั้งแต่ชุด Magic Origin ที่เป็นชุดที่บอกเล่าถึงที่มาของเพลนวอร์คเกอร์คนสำคัญทั้ง5 คน ที่จะมามีส่วนร่วมในนิยายชุดต่อๆมา
ผมซึ่งปกติก็ตามอ่านเป็นประจำอยู่แล้ว ก็อยากที่จะมาแบ่งปันให้ทุกคนได้ลองทำความรู้จักและสนุกไปกับมัน
การแปลอาจจะแปลกๆไปบ้าง แต่ก็พยายามจะให้ดีที่สุด ถ้าใครเห็นข้อผิดพลาดตรงไหนขอให้บอกนะครับจะทำการแก้ไข
ใครทนรอแปลไม่ไหวอยากจะล่วงหน้าไปก่อนก็ไปตามลิงค์ด้านบนได้เลยนะครับ
ใครอยากจะแชร์ เอาไปเผยแพร่ต่อหรือเอาไปทำอะไรก็ตามสะดวกนะครับ
ผมไม่ขอรับอะไร ทุกๆเครดิตมอบให้แก่ทางผู้สร้างทั้งหมด
ในจักรวาลที่เรียกว่ามัลติเวิร์ส ที่ซึ่งมีดวงดาวที่ถูกเรียกว่าเพลนเป็นจำนวนมากมายล่อยลองอยู่
แต่ละเพลนก็มีสภาพแวดล้อม วัฒนธรรมและปัญหาเป็นของตนเอง
มีเพียงคนกลุ่มเดียวที่สามารถเดินทางไปมาระหว่างเพลนแต่ละแห่งได้ คนเหล่านั้นถูกเรียกว่า เพลนวอร์คเกอร์
จุดเริ่มต้นของแชนด้า : วิถีแห่งไฟ
เมืองเกียร์อเพิล เพลนคาลาแดช
แชนด้า นาลาอา วัย 11 ปีกำลังไต่ขึ้นฝ่าละอองสะเก็ดไฟที่ใครสักคนในครอบครัวหรืออาจจะทั้งคู่
กำลังเชื่อมอะไรบางอย่างอยุ่ในอุโมงค์เหมืองเหนือขึ้นไปจากตัวเธอ
ละอองสะเก็ดไฟกระเด็นกระดอนออกจากผมสีแดง ในขณะที่เธอกำลังยิ้มอยู่
ไต่ขึ้นไปอย่างช้าๆ กระทั่งมาถึงโครงสร้างนั่งร้านที่ถูกยึดติดอยุ่กับผนังอุโมงค์
และแล้วในที่สุดวันนี้ก็มาถึง
พ่อแม่ของเธอเป็นนักประดิษฐ์ ปู่ย่าตายายก็เป็นนักประดิษฐ์ ย้อนไปกระทั่งถึงบรรพบุรุษก็เป็นนักประดิษฐ์
ตระกูลแชนด้าเป็นนักประดิษฐ์มาโดยตลอด
แต่วันนี้จะเป็นวันที่เธอจะได้ครอบครองชะตากรรมที่เธอเป็นคนกำหนดเอง
วันที่จะได้เป็น "นักส่งของ"
การประดิษฐ์ไม่เคยเป็นข้อดีของเธอเลย
ไม่ใช่ว่าเธอไม่ประทับใจหรือไม่ชอบอะไรในสิ่งประดิษฐ์
โลกของเธอนั้นเต็มไปด้วยการคิดค้นและงานวิจัยอันน่าทึ่งรวมไปจนถึงสิ่งมีชีวิตประดิษฐ์อันน่าพิศวงที่ทำด้วยเกียร์
มันแค่เป็นเรื่องสมาธิของเธอที่ดูเหมือนจะหมดไปซะก่อนที่อะไรๆมันจะสำเร็จ
บางที บางเวลาในกระบวนการสร้าง กำปั้นของเธอก็มักจะไปกระแทกใส่ใบหน้าของใครสักคนที่สมควรได้รับมันอยุ่เสมอๆ
มันเป็นความล้มเหลวที่เกิดจากตนเอง เธอยอมรับมัน
เธอเคยทดลองอะไรใหม่ๆอีกหลายอย่าง
เคยตั้งใจจะเอาดีทางด้านศิลปะ
หลักฐานก็คือ เศษซากของพู่กันและผ้าใบ ยังคงกระจัดกระจายอยู่ภายในห้องของเธอ
เคยแม้กระทั่งสมัครเข้าโรงเรียนเฉพาะทาง เพื่อพบว่าถูกส่งกลับมาบ้านพร้อมแผลที่กำปั้นและจดหมายจากครูใหญ่
เธอไม่เคยพบที่ของเธอเลยสักครั้งเดียว ในโลกที่ถูกควบคุมไปด้วยเครื่องยนตร์กลไกและเหล่าตัวแทนจากผู้มีอำนาจ
แต่ในวันนี้ หน้าที่อันแท้จริงของเธอกำลังจะเริ่มต้นขึ้น
แม้ว่าแชนด้าไม่เคยจะได้เป็นช่างเหล็กแบบพ่อ หรือเป็นช่างฝืมือที่เก่งกาจแบบแม่
แต่ในโลกที่ถูกขับเคลื่อนไปด้วยเครื่องจักรอันยิ่งใหญ่แบบนี้ เธอก็ยังสามารถที่จะจัดหาแหล่งพลังงานลึกลับอีเธอร์แก่ผู้ที่ต้องการมันได้
อีเธอร์นั้นถูกควบคุมอย่างแน่นหนาจากเหล่าผู้ที่มีอำนาจ แต่พ่อแม่ของเธอก็มีวิธีที่จะหามันและคอยช่วยเหลือเหล่าผู้ที่ต้องการมันไปเป็นเชื้อเพลิงเพื่อการค้นคว้าที่น่าตื่นเต้นได้อยู่เสมอๆ
แชนด้าปีนผ่านที่กั้นข้ามไปยังชานชาลาที่พ่อของเธอกำลังยุ่งอยู่กับหนึ่งในผลงานการสร้างสรรค์จากโลหะของเขา
เขาดึงแว่นตากันลมแบบเลนส์หนาขึ้นไปบนหัว ทิ้งรอยดำรอบดวงตาคล้ายแรคคูนไว้ที่ใบหน้า
"แชนด้า พ่อไม่ได้บอกหรอว่าให้ลูกอยู่แค่ในที่กั้นเท่านั้นน่ะ แล้วแบบนี้พ่อจะสร้างมันไปทำไมละเนี่ย"
"มันเหมาะที่จะเป็นบันไดมากกว่าน่ะค่ะ" เธอพูดและกอดเข้าไปที่ลำตัวของพ่อ
"พ่อขา หนูพร้อมแล้วนะ ว่าแต่นี่พ่อรู้รึยังว่าหนูพร้อมที่จะไปแล้ว งั้นบอกซะตอนนี้เลยก็ได้ หนูพร้อมที่จะไปแล้วค่ะ"
พ่อของเธอหลบสายตา "ไม่ใช่ว่าพ่อตั้งใจจะฝึกความอดทนให้ลูกอะไรหรอกนะ แต่คนที่ลูกควรบอกน่ะจริงๆแล้วไม่ใช่พ่อหรอก แม่ของลูกต่างหากล่ะ"
เสียงเดินบนโลหะดังขึ้นในขณะที่แม่ของเธอเดินลงมาจากบันไดวนอันมั่นคง เธอสวมถุงมืออย่างหนา มีผ้าปักลวดลายคลุมอยุ่รอบๆบั้นท้ายของเธอ เธอนำภาชนะโลหะติดตัวมาด้วยท่าทางราวกับว่ามันเป็นเค้กสำหรับวันเกิด
"การจัดส่งครั้งแรกของลูก! โอ้ ดูที่เธอซิคิรัน ดูซิๆ ลูกกำลังจะระเบิดอยู่แล้วนะเนี่ย
มานี่มา มาช่วยแม่ปิดผนึกเจ้านี่ก่อนที่ของข้างในหรือไม่ก็ตัวลูกจะระเบิดออกมาซะ"
แม่ของแชนด้าวางภาชนะลง ฝาปิดเรืองแสงเล็กน้อยและส่งเสียงซู่ๆ จากการที่ก๊าซภายในลอดออกมา
เป็นเวลาเดียวกับที่พ่อของเธอบอกให้เธอดูแลตัวเองดีๆอย่างเบาๆ
แชนด้าจัดลูกเตะไปที่ภาชนะอย่างรวดเร็วด้วยรองเท้าบูทของเธอ ฝาปิดยุบเข้าไปแต่มันก็ทำให้เสียงหายตามไปด้วย
แชนด้ายิ้มขึ้นมาเล็กน้อย
"บอกได้เลยว่าลูกจะต้องเป็นนักส่งของที่เยี่ยมที่สุดเท่าที่เมืองนี้เคยมีมา" แม่ของเธอพูดพร้อมขยิบตา
แชนด้าเชิดคางขึ้นทำท่าทางราวผู้ยิ่งใหญ่ "กรุณาเตรียมเหรียญและถ้วยรางวัลรอไว้สำหรับตอนหนูกลับมาถึงแล้วด้วยล่ะ หนูจะพยายามจำพ่อกับแม่ให้ได้นะในวันที่หนูกลายเป็นคนนอกกฏหมายคนสำคัญไปแล้วน่ะ"
"พวกเราขอเสนอเป็นรถที่ทำจากหญ้าแทนละกัน" พ่อของเธอกล่าว "เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมากนะแชนด้า ตอนนี้พวกตัวแทนได้วางกำลังเวรยามไว้มากขึ้นกว่าเดิม แม้ว่าผู้คนจะต้องการสิ่งที่เราจัดหามาให้ก็จริง แต่ถ้าเรานำปัญหาไปให้แก่พวกเขาแล้วละก็พวกเขาก็พร้อมที่จะหันหลังให้เราทันที
แม่กับพ่อมาถึงจุดที่ไม่สามารถหาคนที่เราจะไว้ใจได้แล้วนะ
แชนด้าหยิบภาชนะใส่กระเป๋าสะพายแล้วเหวี่ยงไปไว้กลางหลัง "และในวันนี้เราก็จะไว้ใจยายแก่ที่อาศัยอยุ่ที่โรงหล่อซินะ"
"ใช่ คุณนายพาชิลี" พ่อของเธอกล่าว
"แกเอ็นดูลูกมาตลอดเลยนะ" แม่ของเธอกล่าว "จำไว้ให้ดี แกจะเข้าใจสัญญาณเอง เหล่าคนที่รู้จักสัญญาณนั้นต่างก็รู้ถึงตัวตนของเรา"
"หนูรู้น่ะว่าหนูเป็นใคร แชนด้านักส่งของที่เก่งที่สุดในโลกไงล่ะ"
แม่ของเธอกอดเธอด้วยท่าทางเก้ๆกังๆ ลูบไปที่ภาชนะบนหลังของเธอ
"พ่อกับแม่เชื่อว่าลูกทำได้ ลูกรู้ทาง ลูกรู้จักเมืองนี้ ลูกจะทำมันได้อย่างดี"
"ดูให้แน่ใจนะว่าไม่มีใครแอบตามลูกกลับมาที่นี่"พ่อของเธอบอกเพิ่มเติม แต่แชนด้าก็ปีนออกไปเสียแล้ว