วันนี้ ขอพูดเรื่องเกี่ยวกับรถไฟราษฎร์สายที่ห้าของไทย เป็นรถไฟเพื่อการอุตสาหกรรมโดยเฉพาะ คือ รถไฟขนอ้อยของบริษัทน้ำตาลไทย จำกัด รัฐวิสาหกิจของรัฐบาล ซึ่งตั้งอยู่ที่ อ.เกาะคา จ.ลำปาง ต.วังกะพี้ อ.เมืองฯ จ.อุตรดิตถ์ และ อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี
สำหรับประวัติความเป็นมานั้น เมื่อปี พ.ศ.๒๔๘๐ ได้มีการวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างโรงงานน้ำตาล โดย พลเอก พระยาพหลพยุหเสนา (พจน์ พหลโยธิน) นายกรัฐมนตรีของไทยขณะนั้นเป็นประธาน และโรงงานได้เริ่มเดินเครื่องทำงานราวปีเศษต่อมา
ภาพจากหนังสือ "รถจักร รถพ่วงประวัติศาสตร์รถไฟไทย"
ภาพถ่ายทางอากาศจากกรมแผนที่ทหาร
พร้อมๆ กับการก่อสร้างโรงงาน ได้มีการวางรางรถไฟเล็ก (๖๐ ซม.)สำหรับขนอ้อยจากลูกไร่ โดยใช้รางและรถจักรไอน้ำที่รับซื้อจากกิจการรถไฟสายพระพุทธบาท ตัดข้ามถนนพหลโยธิน สู่ไร่อ้อยในพื้นที่ใกล้เคียง โดยมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกไปถึง อ.แม่ทะ โดยมีทางแยกข้ามน้ำแม่จางลงสู่ทิศใต้ และข้ามแม่น้ำวังไปยัง อ.เสริมงาม ในเวลาต่อมา
ภาพโดย Mr. Robert Lalimore เมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ค.ศ.๑๙๔๘
และในปี พ.ศ.๒๔๘๒ ได้มีการวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างโรงงานน้ำตาลวังกะพี้ โดย พลเอก พระยาพหลพยุหเสนา (พจน์ พหลโยธิน) เป็นประธานเช่นกัน และโรงงานได้เริ่มเดินเครื่องทำงานในปี พ.ศ.๒๔๘๔ รับกับมหาสงครามโลกครั้งที่ ๒ พอดี
สำหรับโรงงานที่ อ.เกาะคา จ.ลำปาง ใช้เครื่องจักรของบริษัท สโกด้าเวอร์ค ประเทศเชคโกสโลวาเกีย เริ่มเปิดดำเนินการหีบอ้อยในวันที่ ๑๘ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๘๐ มีกำลังการหีบอ้อยในระยะแรก วันละ ๕๐๐ ตัน และในปี พ.ศ.๒๔๘๔ สำหรับ "โรงงานน้ำตาลไทยอุตรดิตถ์" ซึ่งเป็นแห่งที่ ๒ โดยซื้อโรงงานมาจากฟิลิปปินส์ เริ่มหีบอ้อยตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๔๘๕ มีกำลังการผลิต ๕๐๐ ตันอ้อยต่อวันเช่นเดียวกัน โรงงานน้ำตาลทั้ง ๒ แห่ง ยังเปิดดำเนินการจนถึงปัจจุบัน โดยโรงงานน้ำตาลลำปางมีกำลังการผลิต ๒,๙๓๘ ตันอ้อยต่อวัน และ โรงงานน้ำตาลไทยอุตรดิตถ์ มีกำลังการผลิต ๑,๗๓๘ ตันอ้อยต่อวัน
กระทู้ก่อนนอน (๑๖๗)
สำหรับประวัติความเป็นมานั้น เมื่อปี พ.ศ.๒๔๘๐ ได้มีการวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างโรงงานน้ำตาล โดย พลเอก พระยาพหลพยุหเสนา (พจน์ พหลโยธิน) นายกรัฐมนตรีของไทยขณะนั้นเป็นประธาน และโรงงานได้เริ่มเดินเครื่องทำงานราวปีเศษต่อมา
ภาพจากหนังสือ "รถจักร รถพ่วงประวัติศาสตร์รถไฟไทย"
ภาพถ่ายทางอากาศจากกรมแผนที่ทหาร
พร้อมๆ กับการก่อสร้างโรงงาน ได้มีการวางรางรถไฟเล็ก (๖๐ ซม.)สำหรับขนอ้อยจากลูกไร่ โดยใช้รางและรถจักรไอน้ำที่รับซื้อจากกิจการรถไฟสายพระพุทธบาท ตัดข้ามถนนพหลโยธิน สู่ไร่อ้อยในพื้นที่ใกล้เคียง โดยมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกไปถึง อ.แม่ทะ โดยมีทางแยกข้ามน้ำแม่จางลงสู่ทิศใต้ และข้ามแม่น้ำวังไปยัง อ.เสริมงาม ในเวลาต่อมา
ภาพโดย Mr. Robert Lalimore เมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ค.ศ.๑๙๔๘
และในปี พ.ศ.๒๔๘๒ ได้มีการวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างโรงงานน้ำตาลวังกะพี้ โดย พลเอก พระยาพหลพยุหเสนา (พจน์ พหลโยธิน) เป็นประธานเช่นกัน และโรงงานได้เริ่มเดินเครื่องทำงานในปี พ.ศ.๒๔๘๔ รับกับมหาสงครามโลกครั้งที่ ๒ พอดี
สำหรับโรงงานที่ อ.เกาะคา จ.ลำปาง ใช้เครื่องจักรของบริษัท สโกด้าเวอร์ค ประเทศเชคโกสโลวาเกีย เริ่มเปิดดำเนินการหีบอ้อยในวันที่ ๑๘ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๘๐ มีกำลังการหีบอ้อยในระยะแรก วันละ ๕๐๐ ตัน และในปี พ.ศ.๒๔๘๔ สำหรับ "โรงงานน้ำตาลไทยอุตรดิตถ์" ซึ่งเป็นแห่งที่ ๒ โดยซื้อโรงงานมาจากฟิลิปปินส์ เริ่มหีบอ้อยตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๔๘๕ มีกำลังการผลิต ๕๐๐ ตันอ้อยต่อวันเช่นเดียวกัน โรงงานน้ำตาลทั้ง ๒ แห่ง ยังเปิดดำเนินการจนถึงปัจจุบัน โดยโรงงานน้ำตาลลำปางมีกำลังการผลิต ๒,๙๓๘ ตันอ้อยต่อวัน และ โรงงานน้ำตาลไทยอุตรดิตถ์ มีกำลังการผลิต ๑,๗๓๘ ตันอ้อยต่อวัน