กระทู้นี้ค่อนข้างไร้สาระและเวิ่นเว้อนะคะ บอกก่อน
จขกท.มีโอกาสได้ไปเที่ยวญี่ปุ่น นอนโฮสเทลรวม วันสุดท้ายที่จะกลับเราลองเล่นแอพทินเดอร์ดู ก็ได้แมทช์กับผู้ชายคนนึง คือหน้าคุ้นมาก สรุปคุยกันไปคุยกันมา นอนโฮสเทลเดียวกัน แต่คนละห้อง เค้าเป็นคนมาเก๊ามาเที่ยวญี่ปุ่น เค้าเช็คเอาท์ก่อนเราไปชม.นึง ทีนี้คุยกันค่อนข้างถูกคอ เค้าเลยขอไลน์เรา จนมาคุยไลน์กัน คร่าวๆคือ เค้าอายุมากกว่าเรา2ปี เป็นสถาปนิก เค้าค่อนข้างเฟรนด์ลี่ แต่ไม่ได้ออกแนวหลีเท่าไหร่นะคะ อารมณ์เพื่อนๆ
คุยกันสักอาทิตย์นึงเริ่มมีหยอดบ้าง เรียกเราว่า baby ซึ่งอันนี้เพื่อนฝรั่งเรียกเราปกติอยู่แล้ว เราเลยว่าไม่น่าจะหยอด จนแบบ my sweet , my baby , my ตามด้วยชื่อเรา .. เราเลยมองว่าอาจจะมีการเลยเถิดถ้าไม่ถามเพื่อความสบายใจ เราเลยลองถามว่าคุณมีแฟนหรือยัง? เค้าก็บอกเพิ่งเลิกไป5-6เดือน เค้าก็ถามเรากลับว่า แล้วคุณมีแฟนไหม? เราก็บอกว่าไม่มีเหมือนกันค่ะ พอเราบอกว่าไม่มี เค้าก็เหมือนเริ่มคุยได้สนิทใจมากขึ้น อันนี้ยื่นแชทให้เพื่อนสนิทอ่าน นางก็คิดแบบเรานะ ฮา
จริงๆก็ไม่ได้คุยอะไรมากมาย วันๆนึงก็กู๊ดมอร์นิ่ง กินข้าวยัง กินอะไร วันนี้งานเยอะไหม ทำอะไรบ้าง มีถามเรื่องส่วนตัวก็แค่วันเกิด สมาชิกครอบครัวว่ามีกี่คน อะไรเทือกๆนี้ค่ะ คือไม่กล้าถามมากกลัวเค้าจะมองว่าเสียมารยาท มีเม้ามอยประสบการณ์การไปเที่ยวต่างถิ่นของเราบ้าง บ่นเรื่องเรียนป.โทบ้าง แล้วก็เล่าเกี่ยวกับวัฒนธรรมไทยนิดหน่อย
แต่คือคำพูดมันก็สนิทใจมากขึ้นค่ะ เริ่มมีคำกุ๊กกิ๊ก เริ่มแบบ I'm so tired .. I need your hug. แล้วก็ Sweet dream my sweet ทั้งหมดทั้งมวลคือคุยกันเดือนนึง มีส่งรูปแลกกันดูบ้าง อย่างเค้าชอบอาหารไทย เวลาเรากินอะไรที่ดูน่ากินเราก็ส่งไปหาเค้า เค้ากินอาหารมาเก๊าน่ากินก็จะส่งกลับมา คืออารมณ์ก็วัยรุ่นทั่วไปแหละค่ะ แต่เราเริ่มรู้สึกมากขึ้นทุกๆวัน เพราะคุยกันแทบทั้งวัน เรากลายเป็นว่าติดเค้าแล้ว เราไม่รู้เค้าจะหลอกเราไหม เค้าแค่บอกว่าชอบเวลาเราเขินนะมันมีแรงดึงดูดต่อเค้ามากๆ สำหรับเราคือเค้าไม่หล่อเลย แต่เราก็ชอบเค้าแบบที่เค้าเป็นอย่างทุกๆวันที่คุยกันมา
ตอนนี้เราลังเลที่จะหยุดไว้เท่านี้และพยายามทำให้เป็นเพื่อนอย่างชัดเจนไปเลย หรือเราจะเดินหน้าไปต่อดี มันหลายอย่างที่สับสนในใจเราตอนนี้มากๆ ทั้งอยู่ไกลกัน โอกาสจะเจอกันคงมีไม่เยอะ เค้าทำงานประจำ วันหยุดประจำปีก็น้อยมากๆค่ะ ส่วนเราก็เช่นกัน... แต่ในใจบางทีก็บอกว่าต้องสู้สักตั้ง บางทีก็บอกว่าอย่าพยายามเลย มันตีกันไปหมด เราลังเล สับสนในใจมากตอนนี้ ...
ใครเคยสับสนว่าควร 'หยุด หรือ 'ไปต่อ' ..
จขกท.มีโอกาสได้ไปเที่ยวญี่ปุ่น นอนโฮสเทลรวม วันสุดท้ายที่จะกลับเราลองเล่นแอพทินเดอร์ดู ก็ได้แมทช์กับผู้ชายคนนึง คือหน้าคุ้นมาก สรุปคุยกันไปคุยกันมา นอนโฮสเทลเดียวกัน แต่คนละห้อง เค้าเป็นคนมาเก๊ามาเที่ยวญี่ปุ่น เค้าเช็คเอาท์ก่อนเราไปชม.นึง ทีนี้คุยกันค่อนข้างถูกคอ เค้าเลยขอไลน์เรา จนมาคุยไลน์กัน คร่าวๆคือ เค้าอายุมากกว่าเรา2ปี เป็นสถาปนิก เค้าค่อนข้างเฟรนด์ลี่ แต่ไม่ได้ออกแนวหลีเท่าไหร่นะคะ อารมณ์เพื่อนๆ
คุยกันสักอาทิตย์นึงเริ่มมีหยอดบ้าง เรียกเราว่า baby ซึ่งอันนี้เพื่อนฝรั่งเรียกเราปกติอยู่แล้ว เราเลยว่าไม่น่าจะหยอด จนแบบ my sweet , my baby , my ตามด้วยชื่อเรา .. เราเลยมองว่าอาจจะมีการเลยเถิดถ้าไม่ถามเพื่อความสบายใจ เราเลยลองถามว่าคุณมีแฟนหรือยัง? เค้าก็บอกเพิ่งเลิกไป5-6เดือน เค้าก็ถามเรากลับว่า แล้วคุณมีแฟนไหม? เราก็บอกว่าไม่มีเหมือนกันค่ะ พอเราบอกว่าไม่มี เค้าก็เหมือนเริ่มคุยได้สนิทใจมากขึ้น อันนี้ยื่นแชทให้เพื่อนสนิทอ่าน นางก็คิดแบบเรานะ ฮา
จริงๆก็ไม่ได้คุยอะไรมากมาย วันๆนึงก็กู๊ดมอร์นิ่ง กินข้าวยัง กินอะไร วันนี้งานเยอะไหม ทำอะไรบ้าง มีถามเรื่องส่วนตัวก็แค่วันเกิด สมาชิกครอบครัวว่ามีกี่คน อะไรเทือกๆนี้ค่ะ คือไม่กล้าถามมากกลัวเค้าจะมองว่าเสียมารยาท มีเม้ามอยประสบการณ์การไปเที่ยวต่างถิ่นของเราบ้าง บ่นเรื่องเรียนป.โทบ้าง แล้วก็เล่าเกี่ยวกับวัฒนธรรมไทยนิดหน่อย
แต่คือคำพูดมันก็สนิทใจมากขึ้นค่ะ เริ่มมีคำกุ๊กกิ๊ก เริ่มแบบ I'm so tired .. I need your hug. แล้วก็ Sweet dream my sweet ทั้งหมดทั้งมวลคือคุยกันเดือนนึง มีส่งรูปแลกกันดูบ้าง อย่างเค้าชอบอาหารไทย เวลาเรากินอะไรที่ดูน่ากินเราก็ส่งไปหาเค้า เค้ากินอาหารมาเก๊าน่ากินก็จะส่งกลับมา คืออารมณ์ก็วัยรุ่นทั่วไปแหละค่ะ แต่เราเริ่มรู้สึกมากขึ้นทุกๆวัน เพราะคุยกันแทบทั้งวัน เรากลายเป็นว่าติดเค้าแล้ว เราไม่รู้เค้าจะหลอกเราไหม เค้าแค่บอกว่าชอบเวลาเราเขินนะมันมีแรงดึงดูดต่อเค้ามากๆ สำหรับเราคือเค้าไม่หล่อเลย แต่เราก็ชอบเค้าแบบที่เค้าเป็นอย่างทุกๆวันที่คุยกันมา
ตอนนี้เราลังเลที่จะหยุดไว้เท่านี้และพยายามทำให้เป็นเพื่อนอย่างชัดเจนไปเลย หรือเราจะเดินหน้าไปต่อดี มันหลายอย่างที่สับสนในใจเราตอนนี้มากๆ ทั้งอยู่ไกลกัน โอกาสจะเจอกันคงมีไม่เยอะ เค้าทำงานประจำ วันหยุดประจำปีก็น้อยมากๆค่ะ ส่วนเราก็เช่นกัน... แต่ในใจบางทีก็บอกว่าต้องสู้สักตั้ง บางทีก็บอกว่าอย่าพยายามเลย มันตีกันไปหมด เราลังเล สับสนในใจมากตอนนี้ ...