คุณบรรหาร เจ้าของอุบาทว์วาทกรรม "เป็นฝ่ายค้านแล้วอดอยากปากแห้ง" นั้นช่างเถิด
เพราะแกเสมอต้นเสมอปลายในเชิงการเมืองแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร
คือ เน่าได้เสมอในทุกเรื่อง ขอเพียงให้ตัวเองได้ประโยชน์เท่านั้นพอ
การที่คุณบรรหารออกมาพูดว่า รับได้กับร่างรัฐธรรมนูญเพราะมีข้อดีมากกว่าข้อเสีย
ก็ไม่ใช่เรื่องผิดคาดเหนือความคาดหมายแต่ประการใด
ไม่ใช่เรื่องต้องขบคิดตีความอะไรเลย
ก็แค่ชั้นเชิงการเมืองน้ำเน่าธรรมดา ๆ เท่านั้นเอง
คุณบรรหารพูดแบบนี้ก็เพื่อไม่ให้เสียเพื่อน ไม่ว่าเพื่อนฝ่ายไหน
และที่สำคัญกว่านั้น คือเป้าหมายในการร่วมรัฐบาล ไม่เป็นฝ่ายค้านแน่ ๆ
คุณบรรหารอ่านเกมง่าย ๆ รู้ดีว่าหลังการเลือกตั้ง ไม่มีทางที่พรรคใดจะได้เสียงข้างมาก
รัฐบาลชุดต่อไปอย่างไรก็ต้องเป็นรัฐบาลผสมอย่างน้อยสามพรรค
ไม่มีทางที่คุณบรรหารจะยอมพลาดตกขบวน แกกลัวอดอยากปากแห้ง
ใครจะต้องการนายกฯคนนอก ใครจะต้านนายกฯคนนอก ใครจะมองไกลว่านายกฯจะเป็นใคร
บรรหารไม่สน
ใครจะมาเป็นนายกฯ จะคนนอกหรือคนใน บรรหารรับได้หมด
ขอเพียงพรรคของแกได้เข้าร่วมรัฐบาล
และกว่านั้น แกอาจหวังลึก ๆ เผื่อฟลุคก็เป็นได้
การออกมาพูดแบบไม่เสียเพื่อนนั้น ดีไม่ดีพวกเพื่อนทะเลาะกันมาก ๆ เข้า
แกอาจคว้าชิ้นปลามันไปหม่ำ ด้วยเหตุว่าเป็นคนกลาง เป็นผู้สร้างความสมานฉันท์ ประสานทุกฝ่ายได้ดี
บรรหารเคยเล่นบทบาทนี้มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี 2556
ยิ่งลักษณ์กำลังโดนกระหน่ำ อภิสิทธิ์ไม่มีปัญญาพอที่จะขึ้นแทนยิ่งลักษณ์เพราะเสียงไม่พอ
บรรหารวางบทบาทเดินสายประสานทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายเพื่อไทย ปชป. ให้ร่วมกันกำหนดทางการปฏิรูป
ให้เหตุการณ์สงบ เลิกขัดแย้ง ปิดทางรัฐประหาร ความหวังลึก ๆ คือยิ่งลักษณ์ลาออก บรรหารอาจได้ขึ้นแทน
แต่โดนรู้ทัน โดนอัดกลับหนัก ปชป. ไม่เล่นด้วย แถมแยกร่างสร้าง กปปส. ออกมาเล่นนอกสภาฯ
สร้างเงื่อนไขให้เกิดเหตุการณ์พิเศษ เพื่อหวังได้ประโยชน์อีกรอบเหมือนเมื่อปี 49
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้แต่คราวนี้ ท่าทางจะแห้ว อภิสิทธิ์จึงต้องดิ้นพอสมควร
คราวนี้ บรรหารก็เล่นบทบ้ำเน่าเดิม ๆ
คืออย่างไรก็ขอร่วมรัฐบาล ถือว่ากำไรแล้ว หากฟลุคได้เป็นนายกฯคนกลางขึ้นมา ก็ถือว่าเจอแจ๊คพอต
ส่วนอภิสิทธิ์นั้น อภิมหาเน่าคอด ๆ ที่ออกมาพูดว่าไม่เห็นด้วยรับร่างรัฐธรรมนูญ แต่ไม่บอกว่ารับหรือไม่รับ
และที่บอกว่าไม่รับแน่ ๆ รับไม่ได้ ก็คือเรื่อง ส.ว. สรรหา มีอำนาจโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้
แถมพูดว่า ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ตัวเอง ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์พรรค แต่เพื่อบ้านเมือง
เน่าสนิทเลยจริง ๆ
ในทางเชิงการเมืองนั้น แบบนี้เขาเรียกว่า "อ่อนหัด"
อ่อนหัด แถมน้ำเน่า
ไม่มีทางที่อภิสิทธิ์และ ปชป. จะไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ เพราะพวกตัวเองได้ผลประโยชน์อย่างมาก
ทั้งเรื่องทำให้เพื่อไทยไม่มีทางชนะเลือกตั้งได้เสียงข้างมาก ทั้งเรื่องคุณสมบัติหนีทหารที่ลงเลือกตั้งได้
แล้วจะไม่รับได้ไง
ก็แค่ทำเป็น "กั๊ก" เพื่อสร้างราคาและรอจังหวะตีกินทางการเมืองเท่านั้นเอง
ทำนองอยากให้บอกว่า รับ ก็ต้องมีอะไรมาแลกกันหน่อย เช่น ให้อภิสิทธิ์เป็นนายกฯ (สักปีค่อยลงให้คนนอกเข้ามาแทน)
เป็นเกมต่อรองกับผู้มีอำนาจเท่านั้นเอง
อภิสิทธิ์จะได้วางมือจากการเมืองไปอย่างไม่เสียหน้า ตายตาหลับ
หลุดทั้งคดีทุกคดี พ้นจากคำครหาว่าเป็นนายกฯจากค่ายทหาร
ส่วนเรื่องกล้าบอกว่าไม่รับเรื่อง ส.ว. เลือกนายกฯ
นั่นก็เพราะมันชัดว่า หาก ส.ว. เลือกนายกฯได้ ก็เท่าปิดทางอภิสิทธิ์สนิท เพราะรู้กันดีว่า ส.ว. จะเลือกใคร
และอภิสิทธิ์ก็รู้ จึงกล้าประกาศไม่รับ รับไม่ได้
หากมีแค่ ส.ส. ทีมีอำนาจโหวตเลือกนายกฯ อภิสิทธิ์ก็หวังเข้าวิน เพราะรู้ว่าเมื่อไม่มีพรรคใดได้เสียงข้างมาก
พรรคขนาดกลาง ขนาดเล็ก ก็ย่อมเลือกที่จะอยู่กับ ปชป. มากกว่า เลือกอภิสิทธิ์เป็นนายกฯมากกว่า
เพราะหากไปอยู่กับเพื่อไทย คงอยู่ได้ไม่นาน โดนแน่ ๆ
จึงเป็นรถเที่ยวสุดท้ายของอภิสิทธิ์ในการแก้ตัว แก้ความผิดพลาดในชีวิตทางการเมือง
แต่เมื่อมี ส.ว. เข้ามาเลือกนายกฯด้วย ก็เท่ากับเจาะยางรถเที่ยวสุดท้าย จะยอมได้ไง
จึงเป็นเรื่องล้าหลัง ตกยุด น้ำเน่า
คนรู้ทันกันทั้งเมือง แต่บรรหาร อภิสิทธิ์ ก็ต้องเล่น เพราะเล่นบทอื่นไม่เป็น
จะให้เล่นบทชูนโยบาย อวดวิสัยทัศน์ อย่างทักษิณทำ เพื่อไทยเล่น ทำไม่เป็น
รอลอกได้เท่านั้น
ส่วน กปปส. นั้น แน่นอน อิงกับใคร แนบแน่นกับใครก็เห็นกันอยู่
นี่ก็เน่าสนิทเหมือนกัน
สุเทพไม่รับตำแหน่ง แต่จะคุมเกมอยู่เบื้องหลัง แค่ส่งเด็กในคอนโทรลที่อยู่กับ ปชป. ที่สังกัด กปปส. เข้ามีตำแหน่ง
สุเทพก็รู้ว่าใครจะเป็นนายกฯ ก็สนับสนุนเต็มที่
หากไม่เป็นไปตามแผน ก็ยังมี ปชป. เป็นอะไหล่ ลูกไก่ในกำมือชื่ออภิสิทธิ์ก็ยังมี
กปปส. จึงจะเป็นตัวชุบมือเปิบ ไม่ว่าใครจะเป็นนายกฯ
ส่วนเพื่อไทยนั้น ไม่มีทางแล้ว เหลือแค่จะคุมไม่ให้พรรคโดนสลายได้หรือเปล่าเท่านั้น
ขึ้นกับประชาชนล่ะครับ ว่าจะยังสนับสนุนเพื่อไทยอยู่หรือเปล่า
(แต่ก็น่าเบื่อ รำคาญ ที่เสี่ยแม้วเอาแต่วิ่งเกี๊ยะเซียะไม่เลิก)
นี่แหละครับ ผลจากการปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง
เล่นการเมืองกันวิบัติวายป่วงแหลกลาญ จนวิ่งตามพม่า ด้วยข้ออ้างปฏิรูป
ก็เพื่อแค่นี้แหละ
คือเพื่อโอกาส และผลประโยชน์เท่านั้นเอง
เพราะเล่นตามกติกาปกติไม่มีทางชนะ
รู้ไหม ประเทศไทยใช้คำว่าปฏิรูปมาตั้งแต่ปี 2519
ผ่านมา 40 ปี ยังเน่าไร้เงาจันทร์เหมือนเดิม
ลีลาน้ำเน่าไร้เงาจันทร์ของบรรหาร ศิลปอาชา และ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กับเรื่องรัฐธรรมนูญ และ ส.ว. เลือกนายกฯได้
เพราะแกเสมอต้นเสมอปลายในเชิงการเมืองแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร
คือ เน่าได้เสมอในทุกเรื่อง ขอเพียงให้ตัวเองได้ประโยชน์เท่านั้นพอ
การที่คุณบรรหารออกมาพูดว่า รับได้กับร่างรัฐธรรมนูญเพราะมีข้อดีมากกว่าข้อเสีย
ก็ไม่ใช่เรื่องผิดคาดเหนือความคาดหมายแต่ประการใด
ไม่ใช่เรื่องต้องขบคิดตีความอะไรเลย
ก็แค่ชั้นเชิงการเมืองน้ำเน่าธรรมดา ๆ เท่านั้นเอง
คุณบรรหารพูดแบบนี้ก็เพื่อไม่ให้เสียเพื่อน ไม่ว่าเพื่อนฝ่ายไหน
และที่สำคัญกว่านั้น คือเป้าหมายในการร่วมรัฐบาล ไม่เป็นฝ่ายค้านแน่ ๆ
คุณบรรหารอ่านเกมง่าย ๆ รู้ดีว่าหลังการเลือกตั้ง ไม่มีทางที่พรรคใดจะได้เสียงข้างมาก
รัฐบาลชุดต่อไปอย่างไรก็ต้องเป็นรัฐบาลผสมอย่างน้อยสามพรรค
ไม่มีทางที่คุณบรรหารจะยอมพลาดตกขบวน แกกลัวอดอยากปากแห้ง
ใครจะต้องการนายกฯคนนอก ใครจะต้านนายกฯคนนอก ใครจะมองไกลว่านายกฯจะเป็นใคร
บรรหารไม่สน
ใครจะมาเป็นนายกฯ จะคนนอกหรือคนใน บรรหารรับได้หมด
ขอเพียงพรรคของแกได้เข้าร่วมรัฐบาล
และกว่านั้น แกอาจหวังลึก ๆ เผื่อฟลุคก็เป็นได้
การออกมาพูดแบบไม่เสียเพื่อนนั้น ดีไม่ดีพวกเพื่อนทะเลาะกันมาก ๆ เข้า
แกอาจคว้าชิ้นปลามันไปหม่ำ ด้วยเหตุว่าเป็นคนกลาง เป็นผู้สร้างความสมานฉันท์ ประสานทุกฝ่ายได้ดี
บรรหารเคยเล่นบทบาทนี้มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี 2556
ยิ่งลักษณ์กำลังโดนกระหน่ำ อภิสิทธิ์ไม่มีปัญญาพอที่จะขึ้นแทนยิ่งลักษณ์เพราะเสียงไม่พอ
บรรหารวางบทบาทเดินสายประสานทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายเพื่อไทย ปชป. ให้ร่วมกันกำหนดทางการปฏิรูป
ให้เหตุการณ์สงบ เลิกขัดแย้ง ปิดทางรัฐประหาร ความหวังลึก ๆ คือยิ่งลักษณ์ลาออก บรรหารอาจได้ขึ้นแทน
แต่โดนรู้ทัน โดนอัดกลับหนัก ปชป. ไม่เล่นด้วย แถมแยกร่างสร้าง กปปส. ออกมาเล่นนอกสภาฯ
สร้างเงื่อนไขให้เกิดเหตุการณ์พิเศษ เพื่อหวังได้ประโยชน์อีกรอบเหมือนเมื่อปี 49
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
คราวนี้ บรรหารก็เล่นบทบ้ำเน่าเดิม ๆ
คืออย่างไรก็ขอร่วมรัฐบาล ถือว่ากำไรแล้ว หากฟลุคได้เป็นนายกฯคนกลางขึ้นมา ก็ถือว่าเจอแจ๊คพอต
ส่วนอภิสิทธิ์นั้น อภิมหาเน่าคอด ๆ ที่ออกมาพูดว่าไม่เห็นด้วยรับร่างรัฐธรรมนูญ แต่ไม่บอกว่ารับหรือไม่รับ
และที่บอกว่าไม่รับแน่ ๆ รับไม่ได้ ก็คือเรื่อง ส.ว. สรรหา มีอำนาจโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้
แถมพูดว่า ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ตัวเอง ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์พรรค แต่เพื่อบ้านเมือง
เน่าสนิทเลยจริง ๆ
ในทางเชิงการเมืองนั้น แบบนี้เขาเรียกว่า "อ่อนหัด"
อ่อนหัด แถมน้ำเน่า
ไม่มีทางที่อภิสิทธิ์และ ปชป. จะไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ เพราะพวกตัวเองได้ผลประโยชน์อย่างมาก
ทั้งเรื่องทำให้เพื่อไทยไม่มีทางชนะเลือกตั้งได้เสียงข้างมาก ทั้งเรื่องคุณสมบัติหนีทหารที่ลงเลือกตั้งได้
แล้วจะไม่รับได้ไง
ก็แค่ทำเป็น "กั๊ก" เพื่อสร้างราคาและรอจังหวะตีกินทางการเมืองเท่านั้นเอง
ทำนองอยากให้บอกว่า รับ ก็ต้องมีอะไรมาแลกกันหน่อย เช่น ให้อภิสิทธิ์เป็นนายกฯ (สักปีค่อยลงให้คนนอกเข้ามาแทน)
เป็นเกมต่อรองกับผู้มีอำนาจเท่านั้นเอง
อภิสิทธิ์จะได้วางมือจากการเมืองไปอย่างไม่เสียหน้า ตายตาหลับ
หลุดทั้งคดีทุกคดี พ้นจากคำครหาว่าเป็นนายกฯจากค่ายทหาร
ส่วนเรื่องกล้าบอกว่าไม่รับเรื่อง ส.ว. เลือกนายกฯ
นั่นก็เพราะมันชัดว่า หาก ส.ว. เลือกนายกฯได้ ก็เท่าปิดทางอภิสิทธิ์สนิท เพราะรู้กันดีว่า ส.ว. จะเลือกใคร
และอภิสิทธิ์ก็รู้ จึงกล้าประกาศไม่รับ รับไม่ได้
หากมีแค่ ส.ส. ทีมีอำนาจโหวตเลือกนายกฯ อภิสิทธิ์ก็หวังเข้าวิน เพราะรู้ว่าเมื่อไม่มีพรรคใดได้เสียงข้างมาก
พรรคขนาดกลาง ขนาดเล็ก ก็ย่อมเลือกที่จะอยู่กับ ปชป. มากกว่า เลือกอภิสิทธิ์เป็นนายกฯมากกว่า
เพราะหากไปอยู่กับเพื่อไทย คงอยู่ได้ไม่นาน โดนแน่ ๆ
จึงเป็นรถเที่ยวสุดท้ายของอภิสิทธิ์ในการแก้ตัว แก้ความผิดพลาดในชีวิตทางการเมือง
แต่เมื่อมี ส.ว. เข้ามาเลือกนายกฯด้วย ก็เท่ากับเจาะยางรถเที่ยวสุดท้าย จะยอมได้ไง
จึงเป็นเรื่องล้าหลัง ตกยุด น้ำเน่า
คนรู้ทันกันทั้งเมือง แต่บรรหาร อภิสิทธิ์ ก็ต้องเล่น เพราะเล่นบทอื่นไม่เป็น
จะให้เล่นบทชูนโยบาย อวดวิสัยทัศน์ อย่างทักษิณทำ เพื่อไทยเล่น ทำไม่เป็น
รอลอกได้เท่านั้น
ส่วน กปปส. นั้น แน่นอน อิงกับใคร แนบแน่นกับใครก็เห็นกันอยู่
นี่ก็เน่าสนิทเหมือนกัน
สุเทพไม่รับตำแหน่ง แต่จะคุมเกมอยู่เบื้องหลัง แค่ส่งเด็กในคอนโทรลที่อยู่กับ ปชป. ที่สังกัด กปปส. เข้ามีตำแหน่ง
สุเทพก็รู้ว่าใครจะเป็นนายกฯ ก็สนับสนุนเต็มที่
หากไม่เป็นไปตามแผน ก็ยังมี ปชป. เป็นอะไหล่ ลูกไก่ในกำมือชื่ออภิสิทธิ์ก็ยังมี
กปปส. จึงจะเป็นตัวชุบมือเปิบ ไม่ว่าใครจะเป็นนายกฯ
ส่วนเพื่อไทยนั้น ไม่มีทางแล้ว เหลือแค่จะคุมไม่ให้พรรคโดนสลายได้หรือเปล่าเท่านั้น
ขึ้นกับประชาชนล่ะครับ ว่าจะยังสนับสนุนเพื่อไทยอยู่หรือเปล่า
(แต่ก็น่าเบื่อ รำคาญ ที่เสี่ยแม้วเอาแต่วิ่งเกี๊ยะเซียะไม่เลิก)
นี่แหละครับ ผลจากการปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง
เล่นการเมืองกันวิบัติวายป่วงแหลกลาญ จนวิ่งตามพม่า ด้วยข้ออ้างปฏิรูป
ก็เพื่อแค่นี้แหละ
คือเพื่อโอกาส และผลประโยชน์เท่านั้นเอง
เพราะเล่นตามกติกาปกติไม่มีทางชนะ
รู้ไหม ประเทศไทยใช้คำว่าปฏิรูปมาตั้งแต่ปี 2519
ผ่านมา 40 ปี ยังเน่าไร้เงาจันทร์เหมือนเดิม