เรื่องต้องรู้ก่อนอบขนม

Baking 101 ของแม่พลอยซานฟราน
www.facebook.com/maekruasanfran101

วันนี้ขอหยุดควงตะหลิว ปิดเตาอบมาเขียนเรื่องเบสิกเล็กๆน้อยๆของการทำขนมนะคะ จะได้ไม่ต้องแทรก หมายเหตุในทุกๆขั้นตอน  ในทุกๆสูตร (แต่จะแทรก link นี้ให้กับผู้อ่านหน้าใหม่ให้ได้ทราบกันเท่านั้น)

ต้องออกตัวก่อนว่า tips ที่จะเขียน รวบรวมมาจากการอ่าน การทำ ที่ผ่านมาไม่กี่ปีเอง หากท่านใดมี tip เด็ดๆ ขอเชิญบอกเพิ่มเติมได้เลยคะ จะเป็นพระคุณอย่างมาก

จะอบขนมทั้งที นอกจากมีเวลาแล้วยังต้องใจรักด้วยคะ เพราะการเข้าครัวคือการทดลอง ซึ่งจะมีผิด มีถูก มีอร่อย มีไม่อร่อย ดังนั้น ถ้าใจรัก หรือทำใจให้รักแล้ว การผิดพลาด หรือความไม่อร่อย จะกลายเป็นความท้าทายและความสนุกคะ

Baking 101 ของแม่พลอยซานฟราน
•    อ่านสูตรให้ครบ ทั้งส่วนผสม ขึ้นตอนและหมายเหตุในทุกๆสูตร เพราะผู้เขียนอาจแทรกอะไรดีๆให้คุณได้รู้ และคุณจะได้เตรียมตัว
        เตรียมเวลา และเตรียมส่วนผสมและอุปกรณ์ได้ถูกต้อง

•    อุปกรณ์ที่สำคัญที่หลายคนไม่สนใจว่าต้องมี แต่คุณต้องมี คือ
       i)     เครื่องวัดอุณหภูมิในเตาอบหรือ Oven Thermometer: สำคัญมาก ต้องมี อย่ากะหรือใช้ความรู้สึกเอาว่าเตาร้อนได้ทีแล้ว
        หรือคิดว่าเตาอบของเรา  โชว์หรือเตือนว่าร้อนถึงอุณภูมิที่ต้องการแล้ว …. หลายท่านพลาดมาแล้วคะ
        (ประสิทธิภาพเตาก็อาจลดได้ตามกาลเวลา)

      ii)         นาฬิกาเตือนหรือ Kitchen Timer: เวลากับการอบนั้นสำคัญมาก ผิดไป นาทีสองนาทีนี่สามารถเห็นความแตกต่างเลยนะคะ
        โดยเฉพาะการอบมัฟฟิ่น เพราะขนาดเค้าเล็ก แป๊ปเดียวก็สุก

•    การทำเค้ก ส่วนใหญ่ ส่วนผสมจะใช้ ณ ที่อุณหภูมิห้อง เช่น เนย ไข่ นม ผลไม้
        (ยกเว้นการทำบางอย่างเช่น pie, puff, scone จะใช้เนย หรือส่วนผสมอย่างอื่นที่เย็น)
        ดังนั้นต้องอ่านสูตรให้ละเอียดคะ)

•    ถ้าลืมเอาไข่และเนยออกจากตู้เย็น แต่จะเริ่มปฏิบัติการแล้วทำไง!
       i)    ไข่: จับหย่อนลงน้ำอุ่นเลย
       ii)    เนย: ตัดเป็นก้อนเล็กๆ วางลงบนจาน แล้วเอาแก้วที่อุ่นๆ (เข้า microwave) ครอบ

•    เวลาในการอบที่สูตรให้มาเป็นแค่แนวทาง แต่เตาอบแต่ละเตานั้นแตกต่าง
        เราอบไปเราจะรู้ว่าเตาเราอบมัฟฟิ่นถ้วยใหญ่ใช้เวลาเท่าไหร่ ถ้วยเล็กใช้เวลาเท่าไหร่
        ดังนั้นดูเวลาในสูตรเป็นไกด์ และเช็คเค็กของเราทุกครั้งว่าสุกแล้วหรือยังก่อนปิดเตา
       (ใช้ไม้เสียบลูกชิ้น จิ้มลงไปในเค็ก ถ้าดึงออกมาแล้วไม้สะอาดก็แปลว่าสุกแล้ว)

•    เช็คคุณภาพของส่วนผสมโดยเฉพาะ ยีสต์ เบคกิ้งโซดา เบคกิ้งพาวเดอร์ เพราะถ้าเด็กๆทั้งสามเสื่อมคุณภาพแล้ว ขนมอบ/ขนมปังคุณจะไม่ฟู
       i)    ยีสต์: (ใช้ถ้วยขนาด 1 ถ้วยตวง) ผสมน้ำตาล 1 ชช.กับน้ำอุ่น (44-45 องศาเซลเซียส) 1/4 ถ้วย
       จากนั้นเติมยีสต์ 2 ¼ ชช. ลงไป รอ 10 นาที ถ้าเกิดฟองจนสูงถึงขีด ½ ถ้วยตวงก็แปลว่าใช้ได้

      ii)    เบคกิ้งโซดา: ผสมเบคกิ้งโซดา ¼ ชช. กับน้ำส้มสายชู 2 ชช. ถ้าผสมแล้วเกิดฟอง แสดงว่าใช้ได้

     iii)    เบคกิ้งพาวเดอร์: ผสมเบคกิ้งพาวเดอร์ 1 ชช. กับน้ำอุ่นเกือบร้อน 1/3 ถ้วย ถ้าผสมแล้วเกิดฟอง แสดงว่าใช้ได้

•    ก่อนแต่งหน้าแต่งตาเค้ก ต้องรอให้เค้กเย็นสนิทก่อนไม่งั้นครีมหรือน้ำตาลที่จะแต่งจะละลายหมด

•    ขนาดของพิมพ์นั้นสำคัญ จะทำให้เค้กไม่สุกหรือไหม้ได้ถ้าใช้ผิดขนาด

•    การผสมเค็ก ขอให้ผสมแค่ให้พอเข้ากัน ไม่ต้องกวน ไม่ต้องผสมจนเป็นครีมเนียนสวย (ยกเว้นสูตรบอก)
        เพราะการทำเช่นนั้นจะทำให้ส่วนประกอบของแป้งเค้าเปลี่ยนไป ผลที่ได้คือเนื้อเค้กแข็ง แน่น
        (ลองนึกถึงการกวนแป้งเปียกสิคะ ยิ่งกวนยิ่งเหนียว ติดหนึบ)


เอาเบาๆ เพียงแค่นี้แล้วกันนะคะ เดี๋ยวจะเบื่อกัน แต่อย่างที่บอก ใครมีเทคนิคอะไรเพิ่มเติมก็บอกกันได้


เข้าไปดูสูตรอาหาร เค้ก คุ๊กกี้ ขนม แบบ healthy และไม่อ้วน
ที่มีข้อมูล ส่วนผสมและวิธีทำครบถ้วนได้ที่ เฟสบุ๊คเพจ “แม่พลอยซานฟราน”
ตามลิงค์นี้เลย https://www.facebook.com/maekruasanfran101/
แล้วอย่าลืมกด like เป็น แฟนเพจด้วยน้า จะได้เห็นทุกสูตร

(comment ที่ facebook ดีกว่านะคะ เพราะจะตอบได้ทันท่วงทีมากกว่า
เพราะเข้า facebook บ่อยกว่า นะค่ะ....ต้องขอโทษด้วยค่าาาา ในความไม่สะดวก)


ขอบคุณคะ

แม่พลอยซานฟราน