“เซน” วิถีแห่งจิตใจและธรรมชาติ#2

ก่อนอื่นต้องขอบคุณทุกท่านที่อ่าน, โหวต, และคอมเม้นท์ในตอนที่ผ่านมาแล้วนะครับ
ได้กำลังใจและได้ข้อคิดดีๆจากเพื่อนๆมากมายเลยครับ (ดูตอนเก่าได้ที่ spoil นะครับ)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

สำหรับตอนที่2 นี้ บอกตามตรงเลยครับว่าแปลค่อนข้างยากครับ
นอกจากเนื้อหาหลักในหนังสือแล้ว ผมต้องไปอ่านคำอธิบายจากที่ต่างๆมาเสริมด้วยครับ
เพราะขึ้นชื่อว่า เซน แล้ว แม้แต่คนญี่ปุ่นยังยอมรับเลยว่าลึกซึ้งมากครับ
เดี๋ยวเรามาเริ่มกันเลยนะครับ




色即是空(しきそくぜくう)
“รูป, รส, กลิ่น, เสียง, สัมผัสทั้งหลายล้วนเปลี่ยนแปลงไม่มีแก่นสาร
คุณค่าของชีวิตที่แท้จริงคือการให้ความสำคัญกับปัจจุบันและธรรมชาติรอบตัว”

สำหรับคุณแล้ว “ความสุข” คืออะไร
การมีตำแหน่งหน้าที่การงานสูงๆในสังคม เกียรติยศ ชื่อเสียง
หรือการมีเงินทองมากมายไว้ซื้อสิ่งของต่างๆที่ต้องการ?

ในคัมภีร์ “ปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร” กล่าวไว้ว่า “สิ่งที่เราคิดว่ามี จริงๆแล้วมันไม่ได้มีอยู่จริง”
สิ่งที่ตาเรามองเห็น หรือสิ่งที่เราคิดไว้ จริงๆแล้วทุกอย่างคือภาพลวงตา
เพราะไม่นานสิ่งเหล่านั้นก็จะเปลี่ยนแปลงสูญสลายไป

เกียรติยศ, ชื่อเสียง, ตำแหน่ง, เงินทอง ทุกอย่างล้วนมีวันเปลี่ยนแปลง
มีทั้งเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น และเลวร้ายลง (มีลาภ เสื่อมลาภ)
สิ่งเหล่านี้ล้วนไม่เที่ยง หากเรายึดติด(คาดหวัง)กับสิ่งเหล่านี้มากเกินไป
ชีวิตก็จะดำเนินไปโดยไร้ความหมาย

ลองมองดูรอบๆตัวเราสิว่าจริงๆแล้วชีวิตเราคงอยู่ได้อย่างไร
เราได้ดื่มน้ำสะอาดจากที่ไหน ได้ทานผลไม้เลิศรสจากที่ใด
ทุกอย่างล้วนมาจากความกรุณาของธรรมชาติทั้งนั้น
แม้เราจะมองไม่เห็นการทำงานของธรรมชาติ แต่ธรรมชาติก็คอยมอบสิ่งดีๆให้เราตลอดเวลา

ดังนั้นเราจึงไม่ควรไปยึดติดกับวัตถุนอกตัว(เกียรติยศ, ชื่อเสียง, เงินทอง)ให้มากเกิน
อย่ามัวเพลิดเพลินกับสิ่งเหล่านั้นจนกระทั่งลืมความสำคัญของธรรมชาติรอบๆตัวของเราไป



จบไปแล้วครับสำหรับเรื่องที่2
โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่าประเด็นหลักน่าจะต้องการสื่อว่า “สิ่งใดๆในโลกล้วนไม่เที่ยง ไม่พึงยึดติด”
แต่ก็จะมีคำถามตามมาว่าแล้วแก่นสารของชีวิตคืออะไร (คนญี่ปุ่นชอบตั้งคำถามและหาเหตุผลครับ)

ก็เลยมีส่วนเสริมอธิบายเพิ่มเติมว่า คุณค่าของชีวิตก็คือการทำปัจจุบันให้ดี
และนอกจากนี้ก็ต้องรู้จักคุณค่า และรักษาธรรมชาติเอาไว้ด้วย

พอมีส่วนอธิบายเสริมขึ้นมาเลยตรงกับวิถีชีวิตของคนญี่ปุ่นเลยครับ
เพราะคนญี่ปุ่นเป็นคนที่รักธรรมชาติมากครับ
อาจจะได้อิทธิพลมาจากศาสนาชินโต(วิถีแห่งเทพเจ้า : เชื่อว่าธรรมชาติทุกอย่างมีเทพเจ้าดูแลอยู่)
ซึ่งเป็นความเชื่อดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่น

ผมเคยถูกเพื่อนคนไทยถามว่า “จุดเด่นของญี่ปุ่นคืออะไร”
ผมก็ตอบไปว่า “คือการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีและธรรมชาติให้เข้ากันอย่างลงตัว”


ญี่ปุ่นเป็นประเทศอุตสาหกรรม มีการทำอุตสาหกรรมหนักมากมาย
แต่ขณะเดียวกันก็เน้นการอนุรักษ์ธรรมชาติด้วยเช่นกัน
ซึ่งเพื่อนๆคนไหนที่เคยไปญี่ปุ่นก็คงได้เห็นภาพวิถีชีวิตที่ผูกพันกับธรรมชาติของชาวญี่ปุ่นแล้วใช่ไหมครับ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

เรื่องนี้แปลค่อนข้างยากต้องตีความกันหลายรอบพอสมควร
เพื่อนๆอ่านแล้วได้ข้อคิดอะไรบ้างครับ หรือมีความเห็นอย่างไรก็แบ่งปันกันได้นะครับ
อมยิ้ม01



ปิดท้ายด้วยความหมายของศัพท์ภาษาญี่ปุ่นซึ่งผมใส่คำอ่านสำเนียงไทยไปด้วย
อาจจะสะกดแปลกๆสักหน่อย แต่อยากเลียนเสียงให้ใกล้เคียงที่สุดครับ
ส่วนท่านที่เรียนภาษาญี่ปุ่นมาก็ฝึกอ่านที่ตัวฮิรางานะดีกว่านะครับ

地位:ちい:ฉิอิ:ตำแหน่ง
名誉:めいよ:เมอิโหยะ:เกียรติยศ
世間:せけん:เสะเค็ง:สังคม, โลกมนุษย์
称賛:しょうさん:โชอุซัง:ยกย่อง
望む:のぞむ:โนโซหมุ:ต้องการ
惑う:まどう:มะโดอุ:หลงทาง, สับสน
絶えず:たえず:ทะเอะสึ:ไม่ขาดสาย
実体:じったい:จิทไทอิ:สภาพที่แท้จริง
恵み:めぐみ:เมะกุมิ:ความกรุณา
美味しい:おいしい:โออิชิอิ:อร่อย
果物:くだもの:คุดะโมโหนะ:ผลไม้
みずみずしい:มิซึมิซึชิอิ:ชุ่มฉ่า, มีน้ำมีนวล
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่