[CR] รีวิว ทริปญี่ปุ่น 5 วัน 6 คืน สำหรับคนมีวันลาน้อย รับเงินเดือนปานกลาง

สวัสดีค่ะ  เราจะมาเล่าแบ่งปันประสบการณ์การไปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรกในชี่วิต ในแบบฉบับเฮ มันส์ ฮา กับการเตร็ดเตร่แบบชิวๆ สบายๆ ไม่เร่งรีบมาก
แต่ก็พยามยามเก็บให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่ก็ตามประสาผู้หญิงๆแหละเนอะที่ก็เน้นหนักไปทางช็อปปิ้งนิดนึง อมยิ้ม01
     ทริปนี้เกิดขึ้นได้จาก...อยู่ๆวันหนึ่งประมาณเดือนมีนาคม 2558 สาหร่ายเพื่อนรักก็พูดขึ้นว่า
สาหร่าย :  ลิลลี่...หร่ายอยากไปญี่ปุ่นอ่ะ
ลิลลี่     :  ไป!!! (ตอบด้วยรีเฟล็ก ไม่ผ่านสมองเลยค่ะ)
สาหร่าย :  เย้! งั้นช่วงซากุระปีหน้าพวกเราไปญี่ปุ่นกันนะ
ลิลลี่     :  ได้ๆ
     โฟกัสตรงคำว่า "พวกเรา" ค่ะ  นางหมายรวมถึงแฟนนางด้วย  แล้วจะไปกันแบบเรา 2-3 คนเรอะ  ไม่ล่ะ  ชวนปุกปุยไปอีกคนด้วยดีกว่า
จากนั้นเราก็เริ่มเขียนโปรแกรมการท่องเที่ยวด้วยแรงบันดาลใจจากภาพนี้  ทริปนี้เราเป็นไกด์เองค่ะ (ตื่นเต้นจัด เขียนแพลนล่วงหน้าเกือบปี)

Credit ภาพจาก www.world.jal.com

     ด้วยความที่เข้าใจว่าซากุระที่โตเกียว กับที่คาวากุจิโกะจะบานพร้อมกัน เพราะอยู่ใกล้กัน และด้วยข้อจำกัดของการทำงานที่ต้องมีวันทำงาน
มากกว่า 15 วัน/เดือน  เราจึงตกลงกันได้ว่าจะเดินทางในช่วงวันที่ 28 มีนาคม - 3 เมษายน 2559

     ส่วนในเรื่องของตั๋วเครื่องบินนั้นเราเฝ้าโปรโมชั่นของแอร์เอเชียอยู่เป็นระยะเวลาหลายเดือน  ตั้งแต่...
พฤษภาคม  8,5XX  "อีกนานเนอะ"
สิงหาคม    10,XXX  "รอโปรดีกว่า เกิน 1 หมื่นรับไม่ได้"
ตุลาคม      11,XXX  "จองเถอะ!!!"
และนิทานเรื่องนี้ก็สอนให้รู้ว่า  ถ้ายังไงก็จะไปแน่ๆ  เจอราคาที่ถูกใจแล้วจองเลย  อย่ารอ!
เราพยายามจองให้ค่าโดยสารออกมาต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้  โดยการซื้อน้ำหนักกระเป๋าโหลดรวมกัน
     ขาไปซื้อ  20 กิโล 2 คน // ขากลับซื้อ  30 กิโล  2  คน  สนนราคารวมทั้งสิ้นคนละ  11,180  บาท

จะเห็นได้ว่า นอนบนเครื่องไป 2 คืนแล้ว  ถึงปุ๊บออกเที่ยวเลย  ก็ต้องอึดกันหน่อยนึง


กระเป๋าก็ซื้อโหลดรวมกัน  เอาแบบคุ้มค่าที่สุด

ป.ล. 1  เราและเพื่อนๆเป็นคนธรรมดาที่ไม่ได้มีพรสวรรค์ทางการถ่ายภาพใดๆ เพราะฉะนั้นภาพที่อยู่ในรีวิวนี้ทั้งหมดจึงเป็นแค่ภาพธรรมดาๆที่ถ่ายจากถือถือเท่านั้นนะ
ป.ล. 2  วางแผนล่วงหน้าเป็นปีโปรแกรมอย่างแน่น  แต่พอใกล้วันจะไปยุ่งมาก มากๆ มากจนเกือบไม่มีเงินเยนใช้ แผนจึงถูกปรับเปลี่ยนไปหลายอย่าง

เริ่มออกเดินทางกันเลยค่ะ >>>>
28/03/59
17.45 น.  ณ สนามบินนานาชาติภูเก็ต  ตกเครื่อง!!! ร้องไห้
วิ่งค่ะวิ่ง  วิ่งขึ้นไปซื้อตั๋วใหม่ของแอร์เอเชียที่ชั้น 3  ดูแล้วมีไฟท์ต่อไปตอน 18.30 น.
ลิลลี่ : ซื้อตั๋วไฟท์ถัดไปที่เร็วที่สุดค่ะ  18.30 ใช่มั้ยคะ?
พนง. : ใช่ค่ะ  แต่ไฟท์ 18.30  ไม่ทันแล้ว  เครื่องจอดรอแล้วค่ะ
ลิลลี่ : ร้องไห้  ไม่ได้นะคะ  ถ้าไฟท์ถัดไปไม่ทันค่ะ  ต้องต่อเครื่องไปญี่ปุ่น 5 ทุ่มคืนนี้  แอร์เอเชียนี่แหละ
...สรุปว่าได้ไปไฟท์ฺ  18.30  ซื้อตั๋วใหม่พร้อมกระเป๋า 20 กิโล  รูดปรื้ดไป  3970 บาท
     กรอกตาบนครั้งที่ 1  กระเป๋าเราแค่ 9 กิโลกรัม  นี่ถ้าซื้อแค่ 10 กิโลกรัมจะแค่ 99 บาทมั้ย  เฮ้อ!!!
     กรอกตาบนครั้งที่ 2  พอเข้าไปหน้าเกท  เที่ยวบินไลออน แอร์ที่เราซื้อตั๋วไว้ตอนแรก ยังต่อแถวขึ้นเครื่องอยู่เลย  เรานี่หน้าซีดเลย  
กรอกตาบนกรอกๆๆจนตาเหลือกไปเลยค่ะรอบนี้  (ทั้งหมดทั้งมวลนี้เป็นความสะเพร่าของเราเองที่ไม่เผื่อเวลา)
แล้วเราก็มาถึงสนามบินดอนเมืองโดยสวัสดิภาพ  พบกับเพื่อนที่รอเราอยู่ด้วยใจลุ้นระทึก เพราะเราเป็นไกด์ 555


     ระหว่างรอที่หน้าเกทคือคนเยอะมาก เยอะเหนือความคาดหมายของเราไปมาก เราไม่นึกเลยว่าจะมีคนไปญี่ปุ่นเยอะขนาดนี้
นี่คงจะเต็มลำ  หรือไม่ก็คงเกือบล่ะ
     หลังจากผ่าน  ตม. มาแล้ว  เมื่อเข้าเกทจะถูกตรวจ Boarding Pass และ Passport ครั้งหนึ่ง  เราก็เข้าใจว่าเดี๋ยวคงขึ้นเครื่อได้ไเลย
ไม่ตรวจแล้ว ก็ดีเหมือนกันไม่เสียเวลา  แต่พอต่อแถวขึ้นเครื่องก็ยังคงตรวจปกติอีก 1 ครั้ง ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงตรวจหลายรอบขนาดนั้น
จำได้ว่าครั้งก่อนๆเท่าที่เคยบินไปต่างประเทศมาก็ไม่ได้ตรวจหลายรอบขนาดนี้นะ
    
     ใช้เวลาบินเกือบ 7 ชั่วโมงเราก็มาถึง Narita airport
ชื่อสินค้า:   เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่