การเดินทางเที่ยวแบบไม่ตั้งใจ และไม่ค่อยได้เตรียมตัวมาก ร่วมกับเพื่อนนักเดินทางอีกคน
ซึ่งเจอกันใน เพจ #แบกเป้เที่ยว #เที่ยวต่างประเทศกับมิตรภาพของนักเดินทาง
ซึ่งช่วยกันหาข้อมูลระหว่างทาง จึงได้ข้อสรุปคือ การเดินทาง กทม --> ปอตเปต --> เสียมราฐ
ผมขอเริ่มการเดินทางครั้งนี้ที่ หลังจากเราข้ามแดนเข้าสู่ตัวเมืองกัมพูชา
หลังจากข้ามแดนมาแล้ว สิ่งแรกที่จะต้องเจอเลยคือ พยายามหารถเพื่อที่จะเข้าไปที่ เสียมราฐ
ซึ่งจะมี หลายๆคนเข้ามาถาม พร้อมกับเสนอราคาให้กับ เรา ซึ่งราคาจะอยู่ที่ 1,000 - 1,500 บาท โดยรถเป็นรถ camry สภาพ มีทั้งเก่าและใหม่
และคนที่เสนอราคาให้กับเรานั้น ก็จะมีทั้งคนที่เป็นคนขับรถเอง กับ นายหน้า ต้องเลือกกันให้ดีๆนะครับ
ผมเอง รอบนี้ถือว่าเลือกได้ถูกใจเป็นอย่างยิ่ง ราคาขาไป ได้ราคา 1,000 บาท ส่วนถามต่อว่าราคา ขากลับ ราคา อยู่ที่ 800 บาท
เราก็เริ่มออกเดินทาง อ้อบอกก่อนว่า ราคานี้ ถ้าไปกัน 4 คน จะหารกันถูกมากครับ เพราะรถสามารถนั่งได้ 4 คน
เมื่อนั่งไป คุยไป ก็รู้สึกว่า พี่เค้าเป็นคนซื่อๆ เลยถามว่า ถ้าให้พาเที่ยวทั้ง 3 วัน เลย ราคาประมารเท่าไร เค้าก็บอกว่า ถ้า 3 วันเลย ต่อรองได้ ราคา 5,000 บาท
นั่งคิดกันสักพัก แต่ว่า ไหนๆก็ไหนๆ ข้อมูลของพวกเราก็ยังแทบจะไม่ทราบเลยว่า ต้องเที่ยวที่ไหนยังไง เมื่อไรมั้ง
ก็เลยคิดว่า โอเค 5,000 นำเที่ยวทุกที่ แล้วต่อจากนี้ พี่เป้า (ลืมบอก พี่เค้าชื่อพี่เป้าและสามารถ คุยภาษาไทยได้)
ส่วนใครที่จะให้ใช้บริการ ก็สามารถ ติดต่อได้นะครับ ขอ contact มาให้ละครับ
แอบภูมิใจเล็กๆ ไอดีไลน์ของพี่เค้า ผมเป็นคนตั้งให้เอง 5555
เอาละหลังจากตกลงกันเรียบร้อย เราก็เริ่มเดินทาง ที่แรกที่เค้าแนะนำ ก็คือ โตนเลสาป
ที่ที่จะต้องนั่งเรือไปเพื่อดูหมู่บ้านกลางน้ำ พร้อมกับวิถีชีวิต และจรเข้
แต่ตอนที่เราไปถึงเป็นเวลา บ่ายพอดี ซึ่งแดดแรงมาก เราจึงเลือกที่จะไม่ไป คิดว่าจะกลับเข้าเมืองเพื่อที่จะได้มีเวลาไปหาโรงแรม ที่ถูก และอยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวช่วงกลางคืน
ระหว่างทางกลับ ก็ผ่าน ร้านทำกระเป๋าหนัง จรเข้ ก็เลยแวะดู นึกไม่ถึงว่าที่นี่จะเป็นฟาร์มจรเข้อีกด้วย
โดยที่จะเข้าฟาร์มนี้ จะเสียค่าเข้า 3 US ไหนๆมาแล้วก็เข้าซะหน่อย
หลังจากดูแล้ว ในฟาร์ม จรเข้เยอะมาก แล้วก็คุ้มที่จะเข้าดู 555
เอาละ หลังจากดูเสร็จแล้ว ก็ทำภารกิจ หาโรงแรม พี่เป้าก็วนพาไปหาโรงแรมไปเรื่อยๆ จนไปถึง ที่นี่
>>>>>>>>>เดอะ มูน วิลลา แอนด์ คาเฟ่ (The Moon Villa & Cafe)<<<<<<<<<<<<<
สภาพดี มีอ่างอาบน้ำ อยู่ใกล้ Old market และ Pub street เดินไม่ถึง 5 นาที ราคาประมาณ 500-600 บาท
ที่สำคัญพนักงานก็ต้อนรับอย่างดี สามารถสอบถามรายละเอียดได้ดีทีเดียว
หลังจากเข้าที่พัก ได้พักร้อนกันสักหน่อย ก็ถึงเวลา 4 โมงเย็น เวลาที่ต้องออกเดินทางอีกครั้ง ไปซื้อ ตั๋ว เข้าชมเมือง
มีทั้ง แบบ 1/3/7 วัน ราคาก็ 20 US 40 US ส่วน 7 วัน ลืมดู 5555
สำหรับเรา ก็ ตั๋ว 1 DAY ส่วนสถานที่ซื้อหรอครับ หลายๆคนก่อนหน้านี้ คง รีวิวเป็นที่นี่
แต่ตอนนี้เค้าเปลี่ยนที่ใหม่ เป็นที่นี่
แล้วก็ต้องบอกเลยว่า ควรมารอก่อน เพราะถ้ามาช้า จะเจอสภาพนี้
เราต้องไปซื้อด้วยตัวเองทุกคนน้า เพราะจะต้องถ่ายรูปด้วย บัตรที่ได้จะเป็นแบบนี้
ซึ่งเราจะต้องไป ชม บาเค็ง ซึ่งเป็นที่ชมพระอาทิตย์ตกดิน
ทางขึ้น มี 2 วิธี คือขึ้นช้าง แล้วก็เดิน ไม่ต้องถาม พวกผมเดิน ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
เมื่อขึ้นไปถึง เรายังต้องรอต่อแถวเพื่อขึ้นบนยอดปราสาท เพื่อไปดูจุดที่สูงที่สุด
เมื่อขึ้นไปถึงบนยอด ทุกคนจะรู้สึก ฟิน สุดๆๆๆ
ภารกิจต่อไปหลังจากชมวิว เสร็จแล้ว ก็เตรียมตัว ลัลล้าในช่วงกลางคืน
เดินเล่นที่ Old market
ต่อด้วย การเดิน Pub Street พร้อมกับหาของกินไปด้วย
ระหว่างนั่งชิลๆกับเพื่อนๆนักเดินทาง ก็มีนักเดินทางที่คลั่งไคล้ในเสียงเพลง เต้นตามจังหวะ ยังกับดู STep up เลย
ค่ำคืนนี้ก็จบลงด้วยความรื่นเริงสุดๆ แต่ภารกิจพรุ่งนี้ ดูโหดร้ายนัก เพราะเราต้องตื่นมาดู พระอาทิตย์ขึ้น ตั้งแต่ ตี 5 และวนดู ปราสาททั้งหมด ภายใน 1 วัน
แล้วจะมาเขียนการเดินทางในวันที่ 2 ต่อให้น้าาาา
[CR] เที่ยวเขมร แบบไม่ค่อยได้เตรียมตัว ก็เที่ยวได้
ซึ่งเจอกันใน เพจ #แบกเป้เที่ยว #เที่ยวต่างประเทศกับมิตรภาพของนักเดินทาง
ซึ่งช่วยกันหาข้อมูลระหว่างทาง จึงได้ข้อสรุปคือ การเดินทาง กทม --> ปอตเปต --> เสียมราฐ
ผมขอเริ่มการเดินทางครั้งนี้ที่ หลังจากเราข้ามแดนเข้าสู่ตัวเมืองกัมพูชา
หลังจากข้ามแดนมาแล้ว สิ่งแรกที่จะต้องเจอเลยคือ พยายามหารถเพื่อที่จะเข้าไปที่ เสียมราฐ
ซึ่งจะมี หลายๆคนเข้ามาถาม พร้อมกับเสนอราคาให้กับ เรา ซึ่งราคาจะอยู่ที่ 1,000 - 1,500 บาท โดยรถเป็นรถ camry สภาพ มีทั้งเก่าและใหม่
และคนที่เสนอราคาให้กับเรานั้น ก็จะมีทั้งคนที่เป็นคนขับรถเอง กับ นายหน้า ต้องเลือกกันให้ดีๆนะครับ
ผมเอง รอบนี้ถือว่าเลือกได้ถูกใจเป็นอย่างยิ่ง ราคาขาไป ได้ราคา 1,000 บาท ส่วนถามต่อว่าราคา ขากลับ ราคา อยู่ที่ 800 บาท
เราก็เริ่มออกเดินทาง อ้อบอกก่อนว่า ราคานี้ ถ้าไปกัน 4 คน จะหารกันถูกมากครับ เพราะรถสามารถนั่งได้ 4 คน
เมื่อนั่งไป คุยไป ก็รู้สึกว่า พี่เค้าเป็นคนซื่อๆ เลยถามว่า ถ้าให้พาเที่ยวทั้ง 3 วัน เลย ราคาประมารเท่าไร เค้าก็บอกว่า ถ้า 3 วันเลย ต่อรองได้ ราคา 5,000 บาท
นั่งคิดกันสักพัก แต่ว่า ไหนๆก็ไหนๆ ข้อมูลของพวกเราก็ยังแทบจะไม่ทราบเลยว่า ต้องเที่ยวที่ไหนยังไง เมื่อไรมั้ง
ก็เลยคิดว่า โอเค 5,000 นำเที่ยวทุกที่ แล้วต่อจากนี้ พี่เป้า (ลืมบอก พี่เค้าชื่อพี่เป้าและสามารถ คุยภาษาไทยได้)
ส่วนใครที่จะให้ใช้บริการ ก็สามารถ ติดต่อได้นะครับ ขอ contact มาให้ละครับ
แอบภูมิใจเล็กๆ ไอดีไลน์ของพี่เค้า ผมเป็นคนตั้งให้เอง 5555
เอาละหลังจากตกลงกันเรียบร้อย เราก็เริ่มเดินทาง ที่แรกที่เค้าแนะนำ ก็คือ โตนเลสาป
ที่ที่จะต้องนั่งเรือไปเพื่อดูหมู่บ้านกลางน้ำ พร้อมกับวิถีชีวิต และจรเข้
แต่ตอนที่เราไปถึงเป็นเวลา บ่ายพอดี ซึ่งแดดแรงมาก เราจึงเลือกที่จะไม่ไป คิดว่าจะกลับเข้าเมืองเพื่อที่จะได้มีเวลาไปหาโรงแรม ที่ถูก และอยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวช่วงกลางคืน
ระหว่างทางกลับ ก็ผ่าน ร้านทำกระเป๋าหนัง จรเข้ ก็เลยแวะดู นึกไม่ถึงว่าที่นี่จะเป็นฟาร์มจรเข้อีกด้วย
โดยที่จะเข้าฟาร์มนี้ จะเสียค่าเข้า 3 US ไหนๆมาแล้วก็เข้าซะหน่อย
หลังจากดูแล้ว ในฟาร์ม จรเข้เยอะมาก แล้วก็คุ้มที่จะเข้าดู 555
เอาละ หลังจากดูเสร็จแล้ว ก็ทำภารกิจ หาโรงแรม พี่เป้าก็วนพาไปหาโรงแรมไปเรื่อยๆ จนไปถึง ที่นี่
>>>>>>>>>เดอะ มูน วิลลา แอนด์ คาเฟ่ (The Moon Villa & Cafe)<<<<<<<<<<<<<
สภาพดี มีอ่างอาบน้ำ อยู่ใกล้ Old market และ Pub street เดินไม่ถึง 5 นาที ราคาประมาณ 500-600 บาท
ที่สำคัญพนักงานก็ต้อนรับอย่างดี สามารถสอบถามรายละเอียดได้ดีทีเดียว
หลังจากเข้าที่พัก ได้พักร้อนกันสักหน่อย ก็ถึงเวลา 4 โมงเย็น เวลาที่ต้องออกเดินทางอีกครั้ง ไปซื้อ ตั๋ว เข้าชมเมือง
มีทั้ง แบบ 1/3/7 วัน ราคาก็ 20 US 40 US ส่วน 7 วัน ลืมดู 5555
สำหรับเรา ก็ ตั๋ว 1 DAY ส่วนสถานที่ซื้อหรอครับ หลายๆคนก่อนหน้านี้ คง รีวิวเป็นที่นี่
แต่ตอนนี้เค้าเปลี่ยนที่ใหม่ เป็นที่นี่
แล้วก็ต้องบอกเลยว่า ควรมารอก่อน เพราะถ้ามาช้า จะเจอสภาพนี้
เราต้องไปซื้อด้วยตัวเองทุกคนน้า เพราะจะต้องถ่ายรูปด้วย บัตรที่ได้จะเป็นแบบนี้
ซึ่งเราจะต้องไป ชม บาเค็ง ซึ่งเป็นที่ชมพระอาทิตย์ตกดิน
ทางขึ้น มี 2 วิธี คือขึ้นช้าง แล้วก็เดิน ไม่ต้องถาม พวกผมเดิน ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
เมื่อขึ้นไปถึง เรายังต้องรอต่อแถวเพื่อขึ้นบนยอดปราสาท เพื่อไปดูจุดที่สูงที่สุด
เมื่อขึ้นไปถึงบนยอด ทุกคนจะรู้สึก ฟิน สุดๆๆๆ
ภารกิจต่อไปหลังจากชมวิว เสร็จแล้ว ก็เตรียมตัว ลัลล้าในช่วงกลางคืน
เดินเล่นที่ Old market
ต่อด้วย การเดิน Pub Street พร้อมกับหาของกินไปด้วย
ระหว่างนั่งชิลๆกับเพื่อนๆนักเดินทาง ก็มีนักเดินทางที่คลั่งไคล้ในเสียงเพลง เต้นตามจังหวะ ยังกับดู STep up เลย
ค่ำคืนนี้ก็จบลงด้วยความรื่นเริงสุดๆ แต่ภารกิจพรุ่งนี้ ดูโหดร้ายนัก เพราะเราต้องตื่นมาดู พระอาทิตย์ขึ้น ตั้งแต่ ตี 5 และวนดู ปราสาททั้งหมด ภายใน 1 วัน
แล้วจะมาเขียนการเดินทางในวันที่ 2 ต่อให้น้าาาา
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น