ผมก็เป็นแค่คนที่โชคร้ายในความรักก็เท่านั้นคับ

สวัสดีนะคับเพื่อนๆวันนี้ผมอยากมาแชร์ประสบการณ์ความรักของผมเองที่ได้พบเจอมากับตัวเอง
ชีวิตที่ผ่านมามันก็ไม่ได้ดีและแย่ไปสะทุกเรื่องนะคับแต่ผมคิดแค่ว่าผมแค่เป็นคนโชคไม่เข้าข้างเฉยๆ

เริ่มเรื่องกันเลยนะคับผมขอเกริ่นเรื่องไปตอนเมื่อปีที่แล้วตอนนั้นผมกำลังจะขึ้นม.5เรียนอยู่ต่างจังหวัด
ช่วงนั้นเป็นช่วงสงกรานพอดีเลยผมก็ไปเล่นน้ำสงกรานกับเพื่อนตามปกตินะคับพอค่ำๆกลับมานอน
ที่บ้านของเพื่อนผมก็อยู่กันหลายคนทุกคนก็อาบน้ำเสร็จหมดผมก็นั่งเล่นโทรสับของผมเรื่อยเปื่อย
เลื่อนหน้าฟีดเล่นๆไปในเฟสบุ้คก็ไปเจอคนคนหนึ่งคับผมสมมุติให้มันชื่อ บี นะคับมันเรียนอยู่กทม.
ผมก็เห็นเลยแอดเฟสไปแล้วก็คิดสักพักใหญ่ว่าจะทักมันไปดีไหมเพราะกลัวบีมันไม่อยากคุยกับผมอะคับ
มันเป็นคนออกหน้าตาดีเลยคิดว่าคนคุยต้องเยอะแน่ๆผมก็ถามเพื่อนว่าทักไปดีไหมเพื่อนก็
สนับสนุนกันสะส่วนใหญ่ว่าให้ลองดูผมก็ทักมันไปมันก็ไม่ค่อยตอบหรอกคับไม่เชิงว่าไม่ตอบ
แต่ตอบแบบคนไม่ค่อยสนิทผมก็ใช้วิธีการตื้อ คุยกับมันไปทุกวันๆทักมันไปตลอดมันก็ตอบ
จนผ่านไปสัก2-3อาทิตย์ทุกอย่างมันก็ดีขึ้นเรื่อยๆนะคับมันก็คุยกับผมดีขึ้นดูสนิทกับผมขึ้นผมก็มีความสุข
ในกับคุยกับมันในทุกๆวันพอใกล้ๆเปิดเทอมมันก็ไม่ค่อยว่างอะคับมันก็บอกว่างานเยอะต้องทำนู้นทำนี้
ผมก็เข้าใจมันนะคับว่ามันงานยุ่งจริงๆผมก็รอให้มันตอบบ้างไรบ้าง ผมก็ซื้อสติกเกอร์ไลน์ให้มัน
แต่ส่งไปให้ตรงๆมันก็เขินไปสำหรับตัวผมนะคับ ผมก็เลยบอกมันว่าสั่งสติกเกอร์แล้วมันแถมมาอีกอัน
เลยไม่รู้ว่าจะใช้หลายอันทำไมเลยให้ว่างั้น มันก็บอกประมาณว่าขอบคุณนะ หลังจากนั้นมันก็ใช้
สติกเกอร์ที่ผมส่งให้มันมาตลอด ทุกอย่างมันก็ดีคับแต่เราไม่เคยคุยโทรสับกันเลยเคยแชทกันอย่างเดียว
ผมก็ฟิลที่อยากจะได้ยินเสียงมันบ้างผมก็คิดว่าจะชวนมันวิดิโอคอลดีไหมสุดท้ายผมก็รวบรวมความกล้า
ชวนมันวิดิโอคอลมันก็บอกว่าได้เราก็ได้เปิดกล้องคุยกันคับในที่สุด ผมก็คุยกับมันแต่ก็เขินๆอยู่
มันเป็นฟิลที่ต่างคนต่างเขินอะนะคับผมมีความสุขมากจริงๆที่แชทกับมันมา 2-3 เดือนกว่าจะได้ยินเสียง
หลังจากนั้นผ่านไปช่วงเปิดเทอมต่างคนต่างไม่ว่างมันก็กลับมางานเยอะผมก็ไม่ค่อยมีงานไรเพราะ
ไม่ใช่เด็กกิจกรรมอะนะคับมันก็ทำกิจกรรมที่รร.มันเป็นช่วงที่ยุ่งแต่ผมก็พอรู้แล้วละคับว่าอีกไม่นาน
เดี๋ยวต่างคนก็ต้องจากกันไปอยู่ดีแหละวันหนึ่งอ่ะคับ จนมีช่วงหนึ่งมันมีงานรร.ที่ต้องไปทำแบบยุ่งมาก
ขนาดไม่ได้จับโทรสับเป็นอาทิตย์ตอนๆนั้นเป็นช่วงที่แย่มากเลยคับผมกลายเป็นคนบ้าที่ทักมันไปทุกวัน
เช้ากลางวันเย็นแต่ไม่มีคนอ่านเลยทำแบบนี้เป็นอาทิตย์แล้วเป็นช่วงที่ทางบ้านมีปัญหากันด้วย
ทำให้ช่วงนั้นผมรู้สึกท้อกับชีวิตมากเลยคับจากที่ปกติมีมันเป็นกำลังใจเสมอแตอยู่ดีๆมันหายไปเลย
จนอาทิตย์กว่ามันกลับมาตอบแชทผมผมก็เลยคุยเรื่องของเราสองคนอ่ะคับด้วยความที่มันสัญญา
กับผมว่าจะไม่ไปไหน สัญญาไว้หลายๆสิ่งแต่ผมเข้าใจคับเวลาเปลี่ยนทุกอย่างมันก็เปลี่ยนไปตามเวลา
ผมเลยถามว่าจะเอาไงอ่ะเรื่องเรามันก็ตอบประมาณว่าก็เรื่อยๆอะถ้าขี้เกียจรอเราก็ไม่ต้องคุยก็ได้นะ
คำพูดของมันพูดเหมือนคนไม่แคร์คนรอบข้างเลยตอนนั้นผมก็นอยนะคับผมเลยยอมตัดใจและถอยออกมา
เวลาผ่านไป 4-5 เดือนความรู้สึกที่ผมมีให้กับมันก็จางลงไปตามเวลาผมก็อยู่ของผมเขาก็อยู่ของเขา
แต่ก็มีบ้างที่เราติดต่อกันนะคับถามกันว่าเป็นไงมั้งไรบ้างก็เหมือนเรากลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน
เป็นเหมือนกับคนที่เคยมีความทรงจำที่มีทั้งสุขและเศร้าด้วยกันมา 3-4เดือนผมมีความสุขจริงๆคับ

เวลาผ่านไปจนช่วงมีนาของปีนี้ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมโลกมันแคบขนาดนี้ ทุกสิ่งในชีวิตผมเปลี่ยนไป
เป็นอย่างมากคับมันเป็นเหตุบังเอิญที่ต้องลงมาเรียนต่อม.6ที่กทม.ด้วยเหตุจำเป็นอะคับ มันทำให้ผม
ได้ไปเจอพี่คนหนึ่งคับที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวกับบีมันอะคับเดี๋ยวผมจะมาเล่าต่อนะคับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่