เนื่องจากเห็นว่าปลายปีนี้
DEATH NOTE 2016 ก็จะเข้าฉายแล้ว ซึ่งก็มีหลายคนที่ยังสงสัยว่าเรื่องราวก่อนหน้าภาคล่าสุดนี้เป็นมายังไง (เข้ามาถามในเพจพอสมควร) ผมจึงถือโอกาสนี้ทำสปอยล์สรุปของสองภาคเริ่มต้นมาให้อ่านกันครับ โดยจะเริ่มจากภาคแรกก่อนเลย
*****ย้ำอีกรอบว่า “สปอยล์” นะจ๊ะ*****
ในค่ำคืนที่ฝนตก ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ได้มีสมุดบันทึกสีดำปริศนาเล่มหนึ่งตกลงมาจากฟ้า ที่หน้าปกมีอักษรภาษาอังกฤษคำว่า
DEATH NOTE เขียนเอาไว้อยู่
อีกมุมหนึ่งของเมือง ได้เกิดคดีคนร้ายจับตัวประกันเกิดขึ้น และชายหนุ่มปริศนาก็กำลังเขียนชื่อใครคนหนึ่งกำลังเขียนชื่อบางคนลงไปในสมุดของตน ต่อมา ณ ที่เกิดเหตุ คนร้ายก็เสียชีวิตจากอาการหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน
"เดธโน้ต" บันทึกปริศนาที่ตกลงมายังโลก
ที่โรงเรียนมัธยมปลายแห่งหนึ่ง
ยางามิ ไลท์กำลังแข่งบาสฯ พนันเงินอยู่ และด้วยฝีมือขั้นเทพ เขาก็ชนะอย่างไม่ยากเย็น หลังจากแข่งเสร็จ ไลท์ก็ไปนั่งคุยกับ
ชิโอชิ แฟนสาวถึงเหตุการณ์ที่คนร้ายหลายรายหัวใจล้มเหลวอย่างไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งก็ทำให้เขานึกถึงค่ำคืนที่ฝนตกนั้น
ไลท์เจาะเข้าไปในฐานข้อมูลของกรมตำรวจ และก็ได้รู้ว่าคนร้ายอุกฉกรรจ์มากมายที่รอดพ้นเงื้อมมือของกฎหมายไปได้ นั่นจึงเป็นสาเหตุให้เขาเริ่มหมดศรัทธาในกระบวนการยุติธรรม คืนนั้นเอง ไลท์ก็ได้ไปที่ผับที่ฆาตกรรายหนึ่งกำลังนั่งคุยอยู่กับเพื่อน และจากคำพูดที่หลุดมาจากปากของฆาตกรรายนี้ ก็ทำให้เขาสิ้นศรัทธาในกฎหมายไปอย่างสมบูรณ์
ไลท์ไปยังผับที่ฆาตกรรายหนึ่งชอบไป
ไลท์ออกมาจากผับแห่งนั้นด้วยความสิ้นหวังและโยนหนังสือประมวลกฎหมายทิ้ง พลันสายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นสมุดประหลาด ด้วยความสงสัย ไลท์จึงหยิบขึ้นมาดู ทันใดนั้นเอง ยมทูตตนหนึ่งที่ชื่อว่า
ลุคก็ได้ปรากฏตัวขึ้นและบอกวิธีใช้บันทึกเล่มนี้ให้ไลท์ฟัง
ใครก็ตามที่สัมผัสกับเดธโน้ตจะสามารถมองเห็นยมทูตที่เป็นเจ้าของได้
หลังจากที่รู้ว่าเดธโน้ตสามารถใช้ฆ่าคนได้เพียงแค่เขียนชื่อ ก็รู้สึกไม่เชื่อ แต่เขาก็ลองเขียนชื่อฆาตกรรายหนึ่งลงไปแล้วเข้านอน
รุ่งเช้า ไลท์เปิดหนังสือพิมพ์แล้วก็พบว่าฆาตกรที่ตนเขียนชื่อลงไปในเดธโน้ตได้เสียชีวิตลงแล้วจริงๆ แต่เขาก็ยังไม่เชื่อในอำนาจของบันทึกอย่างสนิทใจ จึงใช้มันเขียนชื่อฆาตกรที่ได้พบกันเมื่อวานลงไปอีกคนเพื่อยืนยัน
โลกในตอนนี้ ได้ขนานนามฆาตกรลึกลับรายนี้ว่า
คิระ ซึ่งก็มีทั้งฝ่ายที่สนับสนุนและฝ่ายต่อต้าน ร้อนถึงกรมตำรวจทั่วโลก ต่างก็ไม่นิ่งนอนใจ พยายามไล่ล่าฆาตกรรายนี้กันอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะที่ประเทศญี่ปุ่น
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติญี่ปุ่น
ยางามิ โซอิจิโร่กำลังพูดคุยกับอธิบดีฯ เกี่ยวกับคิระ ขณะเดียวกัน
วาตาริก็เดินทางมาถึงและได้ให้ทั้งคู่ สนทนากับ
แอล นักสืบที่สำนักงานตำรวจสากลส่งมาช่วยคลี่คลายคดีคิระ ซึ่งแอลได้สันนิษฐานว่าคิระน่าจะอยู่ที่ญี่ปุ่นนี่เอง
แอลได้ออกแถลงการณ์ผ่านทางโทรทัศน์ว่าตนจะขอสู้กับคิระ เมื่อได้รู้ดังนั้น ไลท์จึงรีบเขียนชื่อที่ได้เห็นลงไปทันที แต่กลับกลายเป็นว่าเขาต้องเสียท่า เพราะคนที่ไลท์เขียนชื่อลงไปคือนักโทษที่มีกำหนดประหารในวันนี้ ซึ่งแอลได้ใช้เขาเพื่อเป็นนกต่อในการยืนยันข้อสันนิษฐานว่าคิระอาศัยอยู่ที่ญี่ปุ่น
แอลออกสื่อประกาศสงครามกับคิระ
แอลติดต่อไปที่สำนักงานตำรวจฯ อีกครั้งและบอกให้รู้ว่าพอจะระบุตัวผู้ต้องสงสัยว่าเป็นคิระได้แล้ว โดยเขาได้ส่งเจ้าหน้าที่ FBI ไปคอยสังเกตความเคลื่อนไหวของผู้ต้องสงสัยทุกคน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือยางามิ ไลท์ และเจ้าหน้าที่ที่ติดตามไลท์อยู่ก็คือ
เรย์ มัทสึอิ
ไลท์ใช้เดธโน้ตวางแผนให้คนร้ายจี้รถบัสที่ตนกับชิโอริโดยสารไปเพื่อเปิดช่องให้เรย์เปิดเผยชื่อจริงออกมา ซึ่งไลท์ก็ทำสำเร็จ และโจรคนนั้นเมื่อสัมผัสเดธโน้ตก็ได้เห็นลุค จึงเกิดคลุ้มคลั่ง กระโดดลงจากรถบัส โดนรถชนตายอนาถ
ไลท์กับเรย์ร่วมกันวางแผนจับคนร้าย
เมื่อได้ชื่อมาสมใจ ไลท์ก็ใช้เดธโน้ตกำหนดพฤติกรรมของเหยื่ออีกครั้ง โดยเขาบังคับให้เรย์ไปขึ้นรถไฟใต้ดินและเขียนชื่อ FBI ที่เหลือลงไปในกระดาษที่เตรียมไว้ให้
นาโอมิที่เห็นความผิดปรกติของคู่หมั้นตัวเอง จึงแอบติดตามเรย์ไปและก็ต้องเห็นคนรักของตัวเองตายไปต่อหน้าต่อตา
นาโอมิคร่ำครวญที่เห็นคู่หมั้นตัวเองตายลงต่อหน้า
แอลเชิญให้กองสืบสวนคดีคิระไปพบกันที่ฐานลับ ซึ่งก็เป็นการพบกันครั้งแรกที่ไม่น่ายินดีสักเท่าไหร่ เพราะเมื่อ
มัทสึดะได้เห็นพฤติกรรมแปลกๆ ของแอลก็ของขึ้นจนเกือบทะเลาะกัน และเมื่อได้ฟังข้อสันนิษฐานของแอล กองสืบสวนทุกคนจึงรู้ว่ายางามิ ไลท์ ลูกชายของหัวหน้าโซอิจิโร่ก็ตกเป็นผู้ต้องสงสัยด้วย โดยแอลได้เสนอว่าจะติดกล้องสอดแนมในบ้านของผู้ต้องสงสัยทุกคน ซึ่งก็ถูกคัดค้านตามระเบียบ แต่โซอิจิโร่ก็ยอมรับข้อเสนอนี้เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของทุกครอบครัว
กองสืบสวนคดีคิระเข้าพบกับแอลที่ฐานลับ
อีกด้านหนึ่ง นาโอมิก็ออกตามหาเบาะแสของคนที่เรย์เคยติดตามตัวอยู่ จนสาวไปถึงไลท์ เธอจึงนัดพบเขาผ่านชิโอริ เมื่อไลท์มาพบ เธอก็แสดงอาการตั้งแง่กับอีกฝ่ายอย่างชัดเจน และทิ้งนามบัตรไว้ให้เผื่อมีข้อมูลเพิ่มเติมที่จะแลกเปลี่ยนกัน ไลท์รู้ในทันทีว่านี่เป็นชื่อปลอมและออกตามสืบจนได้ชื่อจริงของเธอมาได้สำเร็จ
นาโอมินัดพบกับไลท์
ขณะเดียวกัน กองสืบสวนก็ยังเฝ้าสังเกตุพฤติกรรมของผู้ต้องสงสัยอย่างต่อเนื่อง และก็มีฆาตกรเสียชีวิต ในเวลาที่ไลท์ไม่น่าจะลงมือได้ กองสืบสวนจึงกดดันแอลให้เลิกสงสัยไลท์และนำกล้องสอดแนมที่บ้านออก โดยไม่รู้เลยว่าไลท์ซ่อนทีวีขนาดเล็กและเศษเดธโน้ตไว้ในถุงขนม มีเพียงแอลเท่านั้นที่สะดุดใจกับเรื่องนี้
ทีวีขนาดเล็กและเศษเดธโน้ตในถุงขนม
นาโอมิบังคับชิโอริให้โทรหาไลท์เพื่อนัดเดทที่หอศิลป์แห่งหนึ่ง เมื่อไปถึงไลท์ก็พบว่านี่เป็นอุบายเพื่อล่อให้ตนออกมาเพื่อสำเร็จโทษ ขณะที่นาโอมิกำลังเงื้อไกหวังจะสังหารไลท์ ชิโอริก็เอาตัวเองเข้ารับกระสุนเองจนสิ้นใจ นาโอมิที่ทำพลาดก็เกิดอาการคลุ้มคลั่งยิงตัวตายตามไปด้วย
ชิโอริใช้ตัวเองรับกระสุนแทนไลท์
โซอิจิโร่และแอลพร้อมกำลังตำรวจเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ และแอลก็เข้ามาเปิดเผยตัวตนกับไลท์พร้อมถุงขนมยี่ห้อเดียวกับที่ไลท์ใช้ทำทริคซ่อนบันทึก ในที่สุดสองขั้วอัจฉริยะก็ได้เผชิญหน้ากัน
แอลเปิดเผยตัวตนให้ไลท์รับรู้
**********จบภาคแรก**********
[สปอยล์] สรุปเรื่องราวใน DEATH NOTE (2006)
*****ย้ำอีกรอบว่า “สปอยล์” นะจ๊ะ*****
ในค่ำคืนที่ฝนตก ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ได้มีสมุดบันทึกสีดำปริศนาเล่มหนึ่งตกลงมาจากฟ้า ที่หน้าปกมีอักษรภาษาอังกฤษคำว่า
DEATH NOTE เขียนเอาไว้อยู่
อีกมุมหนึ่งของเมือง ได้เกิดคดีคนร้ายจับตัวประกันเกิดขึ้น และชายหนุ่มปริศนาก็กำลังเขียนชื่อใครคนหนึ่งกำลังเขียนชื่อบางคนลงไปในสมุดของตน ต่อมา ณ ที่เกิดเหตุ คนร้ายก็เสียชีวิตจากอาการหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน
ที่โรงเรียนมัธยมปลายแห่งหนึ่ง ยางามิ ไลท์กำลังแข่งบาสฯ พนันเงินอยู่ และด้วยฝีมือขั้นเทพ เขาก็ชนะอย่างไม่ยากเย็น หลังจากแข่งเสร็จ ไลท์ก็ไปนั่งคุยกับชิโอชิ แฟนสาวถึงเหตุการณ์ที่คนร้ายหลายรายหัวใจล้มเหลวอย่างไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งก็ทำให้เขานึกถึงค่ำคืนที่ฝนตกนั้น
ไลท์เจาะเข้าไปในฐานข้อมูลของกรมตำรวจ และก็ได้รู้ว่าคนร้ายอุกฉกรรจ์มากมายที่รอดพ้นเงื้อมมือของกฎหมายไปได้ นั่นจึงเป็นสาเหตุให้เขาเริ่มหมดศรัทธาในกระบวนการยุติธรรม คืนนั้นเอง ไลท์ก็ได้ไปที่ผับที่ฆาตกรรายหนึ่งกำลังนั่งคุยอยู่กับเพื่อน และจากคำพูดที่หลุดมาจากปากของฆาตกรรายนี้ ก็ทำให้เขาสิ้นศรัทธาในกฎหมายไปอย่างสมบูรณ์
ไลท์ออกมาจากผับแห่งนั้นด้วยความสิ้นหวังและโยนหนังสือประมวลกฎหมายทิ้ง พลันสายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นสมุดประหลาด ด้วยความสงสัย ไลท์จึงหยิบขึ้นมาดู ทันใดนั้นเอง ยมทูตตนหนึ่งที่ชื่อว่าลุคก็ได้ปรากฏตัวขึ้นและบอกวิธีใช้บันทึกเล่มนี้ให้ไลท์ฟัง
หลังจากที่รู้ว่าเดธโน้ตสามารถใช้ฆ่าคนได้เพียงแค่เขียนชื่อ ก็รู้สึกไม่เชื่อ แต่เขาก็ลองเขียนชื่อฆาตกรรายหนึ่งลงไปแล้วเข้านอน
รุ่งเช้า ไลท์เปิดหนังสือพิมพ์แล้วก็พบว่าฆาตกรที่ตนเขียนชื่อลงไปในเดธโน้ตได้เสียชีวิตลงแล้วจริงๆ แต่เขาก็ยังไม่เชื่อในอำนาจของบันทึกอย่างสนิทใจ จึงใช้มันเขียนชื่อฆาตกรที่ได้พบกันเมื่อวานลงไปอีกคนเพื่อยืนยัน
โลกในตอนนี้ ได้ขนานนามฆาตกรลึกลับรายนี้ว่าคิระ ซึ่งก็มีทั้งฝ่ายที่สนับสนุนและฝ่ายต่อต้าน ร้อนถึงกรมตำรวจทั่วโลก ต่างก็ไม่นิ่งนอนใจ พยายามไล่ล่าฆาตกรรายนี้กันอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะที่ประเทศญี่ปุ่น
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติญี่ปุ่น ยางามิ โซอิจิโร่กำลังพูดคุยกับอธิบดีฯ เกี่ยวกับคิระ ขณะเดียวกัน วาตาริก็เดินทางมาถึงและได้ให้ทั้งคู่ สนทนากับแอล นักสืบที่สำนักงานตำรวจสากลส่งมาช่วยคลี่คลายคดีคิระ ซึ่งแอลได้สันนิษฐานว่าคิระน่าจะอยู่ที่ญี่ปุ่นนี่เอง
แอลได้ออกแถลงการณ์ผ่านทางโทรทัศน์ว่าตนจะขอสู้กับคิระ เมื่อได้รู้ดังนั้น ไลท์จึงรีบเขียนชื่อที่ได้เห็นลงไปทันที แต่กลับกลายเป็นว่าเขาต้องเสียท่า เพราะคนที่ไลท์เขียนชื่อลงไปคือนักโทษที่มีกำหนดประหารในวันนี้ ซึ่งแอลได้ใช้เขาเพื่อเป็นนกต่อในการยืนยันข้อสันนิษฐานว่าคิระอาศัยอยู่ที่ญี่ปุ่น
แอลติดต่อไปที่สำนักงานตำรวจฯ อีกครั้งและบอกให้รู้ว่าพอจะระบุตัวผู้ต้องสงสัยว่าเป็นคิระได้แล้ว โดยเขาได้ส่งเจ้าหน้าที่ FBI ไปคอยสังเกตความเคลื่อนไหวของผู้ต้องสงสัยทุกคน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือยางามิ ไลท์ และเจ้าหน้าที่ที่ติดตามไลท์อยู่ก็คือเรย์ มัทสึอิ
ไลท์ใช้เดธโน้ตวางแผนให้คนร้ายจี้รถบัสที่ตนกับชิโอริโดยสารไปเพื่อเปิดช่องให้เรย์เปิดเผยชื่อจริงออกมา ซึ่งไลท์ก็ทำสำเร็จ และโจรคนนั้นเมื่อสัมผัสเดธโน้ตก็ได้เห็นลุค จึงเกิดคลุ้มคลั่ง กระโดดลงจากรถบัส โดนรถชนตายอนาถ
เมื่อได้ชื่อมาสมใจ ไลท์ก็ใช้เดธโน้ตกำหนดพฤติกรรมของเหยื่ออีกครั้ง โดยเขาบังคับให้เรย์ไปขึ้นรถไฟใต้ดินและเขียนชื่อ FBI ที่เหลือลงไปในกระดาษที่เตรียมไว้ให้
นาโอมิที่เห็นความผิดปรกติของคู่หมั้นตัวเอง จึงแอบติดตามเรย์ไปและก็ต้องเห็นคนรักของตัวเองตายไปต่อหน้าต่อตา
แอลเชิญให้กองสืบสวนคดีคิระไปพบกันที่ฐานลับ ซึ่งก็เป็นการพบกันครั้งแรกที่ไม่น่ายินดีสักเท่าไหร่ เพราะเมื่อมัทสึดะได้เห็นพฤติกรรมแปลกๆ ของแอลก็ของขึ้นจนเกือบทะเลาะกัน และเมื่อได้ฟังข้อสันนิษฐานของแอล กองสืบสวนทุกคนจึงรู้ว่ายางามิ ไลท์ ลูกชายของหัวหน้าโซอิจิโร่ก็ตกเป็นผู้ต้องสงสัยด้วย โดยแอลได้เสนอว่าจะติดกล้องสอดแนมในบ้านของผู้ต้องสงสัยทุกคน ซึ่งก็ถูกคัดค้านตามระเบียบ แต่โซอิจิโร่ก็ยอมรับข้อเสนอนี้เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของทุกครอบครัว
อีกด้านหนึ่ง นาโอมิก็ออกตามหาเบาะแสของคนที่เรย์เคยติดตามตัวอยู่ จนสาวไปถึงไลท์ เธอจึงนัดพบเขาผ่านชิโอริ เมื่อไลท์มาพบ เธอก็แสดงอาการตั้งแง่กับอีกฝ่ายอย่างชัดเจน และทิ้งนามบัตรไว้ให้เผื่อมีข้อมูลเพิ่มเติมที่จะแลกเปลี่ยนกัน ไลท์รู้ในทันทีว่านี่เป็นชื่อปลอมและออกตามสืบจนได้ชื่อจริงของเธอมาได้สำเร็จ
ขณะเดียวกัน กองสืบสวนก็ยังเฝ้าสังเกตุพฤติกรรมของผู้ต้องสงสัยอย่างต่อเนื่อง และก็มีฆาตกรเสียชีวิต ในเวลาที่ไลท์ไม่น่าจะลงมือได้ กองสืบสวนจึงกดดันแอลให้เลิกสงสัยไลท์และนำกล้องสอดแนมที่บ้านออก โดยไม่รู้เลยว่าไลท์ซ่อนทีวีขนาดเล็กและเศษเดธโน้ตไว้ในถุงขนม มีเพียงแอลเท่านั้นที่สะดุดใจกับเรื่องนี้
นาโอมิบังคับชิโอริให้โทรหาไลท์เพื่อนัดเดทที่หอศิลป์แห่งหนึ่ง เมื่อไปถึงไลท์ก็พบว่านี่เป็นอุบายเพื่อล่อให้ตนออกมาเพื่อสำเร็จโทษ ขณะที่นาโอมิกำลังเงื้อไกหวังจะสังหารไลท์ ชิโอริก็เอาตัวเองเข้ารับกระสุนเองจนสิ้นใจ นาโอมิที่ทำพลาดก็เกิดอาการคลุ้มคลั่งยิงตัวตายตามไปด้วย
โซอิจิโร่และแอลพร้อมกำลังตำรวจเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ และแอลก็เข้ามาเปิดเผยตัวตนกับไลท์พร้อมถุงขนมยี่ห้อเดียวกับที่ไลท์ใช้ทำทริคซ่อนบันทึก ในที่สุดสองขั้วอัจฉริยะก็ได้เผชิญหน้ากัน