เชื่อมั้ยครับ ว่าวันหนึ่ง สิ่งที่ทำให้ผมอยากเรียนภาษามากขึ้น ก็เพราะมีแรงบันดาลใจที่ไม่เหมือนใครแน่นนอน (ผมเชื่อว่างั้นนะ 555++)
ผมขอเท้าความก่อนว่า ในตอนประถม แววของผมจะไปทางวิทยศาสตร์มาก คือแบบ มันน่าค้นหา คือมันตื้นเต้นทุกครั้งที่มีการทดลอง แต่อยู่ๆวันหนึ่ง มีสิ่งที่ทำให้ผมมีความคิด คือการมีโทรศัพท์ครั้งแรก ตอน ป.3 นั้นคือจุดเริ่มต้นของผม 555++ พอมา ป.4 เท่านั้นละ คือสมัยนั้นโทรศัพท์พึ่งมีบลูธูทไง ส่งไฟล์หากันแบบไร้สานย อี้ดอกกกกก มันเริ้ดมากกกก เลยมีสิ่งหนึ่งที่เป็นสิ่งที่พวกเราตามหา 555++ คือคลิปโป้นั้นเอง ไอ้คลิปไทยไม่เท่าไหร่ ฝรั่งไรงี้ ฟังไม่รู้เรื่อง แต่อยากรู้ไง ก็เลยหาหนทางที่จะศึกษาภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง จนมา ป4. เทอม 2 ไปร้านคุรุภัณฑ์ ไปซื้อดิกชันนารี ของอะไรไม่รู้เล่มสีชมพูเล็กๆ 45 บาท ศึกษาคำศัพท์ทุกคำ แล้วเอาคำที่ประมาณว่าได้ยินมาเรียบเรียง แต่ก่อนหน้านนี้ คือเปิดคอมที่บ้านศึกษาเรื่องการเทียบอักษรมาก่อนหน้า ทำให้เรามีพื้นฐานในการเขียนคำนั้นนี้ 555++ แล้วพอได้คำ ก็เอามาเรียงๆกัน แม้บางทีไวยากรณ์มันจะไม่ได้เอาซะเลย ก็ไม่รู้ไงว่ามันคืออะไร 5555++ อิบ้าเอ้ยยยยย ไม่รู้อะไรเยอะแยะ Past นั้นนี้วุ่นวาย จำได้ว่าคำแรกที่อยากหาว่าคำำว่า OH มันแปลว่าอะไร 555++ แหม เราก็

มาก หานั้นนี้ แต่นั้นคือสิ่งเล็กๆที่ทำให้ผมจุดประกายถึงอนาคตของผม ตอน ม.1 หาซื้อหนังสือ GRAMMAR มาศึกษานั้นนี้จริงจัง แต่คลิปก็ยังดูอยู่นะ ศึกษาไรงี้ 555++ แต่ทำให้ผมเข้าใจไวยากรณ์มากขึ้นๆ จนมา ม.3 เรียนถึงเนื้อหาที่ไม่ได้อะไรมากนัก เพราะครูที่เค้าสอนก็พอประมาณๆ ไม่ได้แอดวานซ์อะไรมาก (ก็แหงละ เราสนใจซะที่ไหน) พอมาระดับ ปวช. คือแบบ มันต้องสตรองมากขึ้นไง เริ่มคุยกับชาวต่างชาติ ทั้งๆที่แกรมม่า ครึ่งๆกลางๆ สับหน้าบ้างหลังบ้าง Bing บ้าง Google บ้าง ซ่งมันก็ปกติ มันทำให้ภาษาเราแข็งแรงขึ้น
###นอกเรื่องแปป Part1###
ระหว่าที่เราเลิกเรียนวันนั้น มีฝรั่งหูยยยยย หล่อมาก ดีออก เรานี้แทบวิ่งไป หูยขี่จักรยานมา ยิ้มเชียว พอไปไกล้เท่านั้น "สวัสดีครับ เย็นนี้ว่างไหม ไปเข้าโบสท์ด้วยกันครับ " อีสัสสเอ้ยยยย พูดไทยชัดกว่ากูอีก
ต่อๆ ทีนี้ เริ่มที่จะฉายแววมั้ง ซึ่งหาตัวเองอยู่นานว่าชอบไร ผมของเกริ่นนะครับ ผมเรียนอยู่ วิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดแห่งหนึ่งในภาคอิสาน ซึ่งก็ดังอยู่พอสมควร ซึ่งแต่ละปีแต่ละเทอม ก็มีอีเวนท์เยอะแยะ เอ่าาาาา อีนี้ เข้าเรื่องเรียนภาษาสิ คือผมจะเล่าว่า ผมได้มีโอกาสจากอาจารย์ท่านหนึ่ง มาชักชวนผมไปแข่งทักษะภาอังกฤษซึ่งเป็นหัวข้อที่ยากมาก เป็นการสาธิตแบบภาษาอังกฤษ ซึ่งตอนนั้นผมอยู่ ปี 2 อ้อ ปี1 ผมแข่ง ภาษาไทย กะ วิทยาศาสตร์ด้วยนะ
แต่ปี2 มีอังกฤษ งานเดียวที่สตรองสุด เราก็ตบปากรับคำไป ก็แหม การจริตกูเปะซะขนาดนี้ ยังไงต้องได้แหละแหมมมมมมมม ต่อมาก็เกิดการซ้อมหนัก อักแกรมม่า ดูสื่อ ตปท.มากขึ้น ดูหนังซับอังกฤษมากขึ้น โดยเฉพาะ Ugly Betty 555+ ทั้ง 4 ซีซั่นเลย โห ตาแฉะ แปลจนหัวนอคไปหลายรอบ มันทำให้ผมสนุกกับภาษามากขึ้น มากขึ้นๆ
เอ่าละ ง่ายๆเลย สรุปเลย การเรียนภาษษสำหรับผม มันไปจำเป็นต้องเรียนในห้องเสมอไป อาจจะเรียนจากประสบการณ์จริง หรือจากสิ่งที่ตัวเองชอบ แต่ก็อย่าทื้งการเรียนในห้องนะ เพราะบางสิ่งบางอย่างมันไม่เหมอืนกัน อินเตอร์เน็ตมันไม่ได้มีไว้เฟสบุค หรือเล่นSocial หรือแบบ เกมส์ออนไลน์เสมอไป เราต้องเอาพวกนี้เข้าหัวบ้าง ใช่อยู่ ที่เราควรเน้นวิทย์ คณิต แต่ลืมไปแล้วหรอ ภาษาก็จำเป็นในการสื่อสารเช่นกัน ถ้าหากวันหนึ่งภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่มีอิธพลมากกว่านี้ พวกคุณจะเขียนสูตรพีธาโกรัส หรือท่องตารางธาตุสื่อสารกันหรอ มันก็ต้องมีควบคู่กันไป ไม่ขาดกันเกินกัน รับรองสนุกแน่นอนการใช้ชีวิตของเรา เอาเป็นว่าสุดท้ายนี้ ขอฝากให้น้องๆทุกคนคิด หรือแม้กระทั้งพี่ๆ ป้าๆ น้องๆ อาๆ ทั้งหลายนะครับ ภาษาไม่จำเป็นต้องเปะ พูดไปเลย ขนาดวิชาคณิต เราก็ยังมีผิดบ้างถูกบ้าง ใช่ว่าเราจะแคร์ สักวัน ความสุขนั้นจะอป็นของเรา
สุดท้ายจริงๆครับ กระผมไม่ได้ว่า วิทยาศาตร์ และคณิตไม่ดีนะ ก็แหม ถ้าเราไม่มีพวกนี้ ผมจะมีคอมนั่งๆกดๆ พิมพ์ให้พวกพี่ๆน้องๆอ่านหรอ โอเคครับ สวัสดีครับ
ประสบการณ์การเรียนรู้ภาษาอังกฤษด้วยตนเองมันดีอย่างไร?
ผมขอเท้าความก่อนว่า ในตอนประถม แววของผมจะไปทางวิทยศาสตร์มาก คือแบบ มันน่าค้นหา คือมันตื้นเต้นทุกครั้งที่มีการทดลอง แต่อยู่ๆวันหนึ่ง มีสิ่งที่ทำให้ผมมีความคิด คือการมีโทรศัพท์ครั้งแรก ตอน ป.3 นั้นคือจุดเริ่มต้นของผม 555++ พอมา ป.4 เท่านั้นละ คือสมัยนั้นโทรศัพท์พึ่งมีบลูธูทไง ส่งไฟล์หากันแบบไร้สานย อี้ดอกกกกก มันเริ้ดมากกกก เลยมีสิ่งหนึ่งที่เป็นสิ่งที่พวกเราตามหา 555++ คือคลิปโป้นั้นเอง ไอ้คลิปไทยไม่เท่าไหร่ ฝรั่งไรงี้ ฟังไม่รู้เรื่อง แต่อยากรู้ไง ก็เลยหาหนทางที่จะศึกษาภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง จนมา ป4. เทอม 2 ไปร้านคุรุภัณฑ์ ไปซื้อดิกชันนารี ของอะไรไม่รู้เล่มสีชมพูเล็กๆ 45 บาท ศึกษาคำศัพท์ทุกคำ แล้วเอาคำที่ประมาณว่าได้ยินมาเรียบเรียง แต่ก่อนหน้านนี้ คือเปิดคอมที่บ้านศึกษาเรื่องการเทียบอักษรมาก่อนหน้า ทำให้เรามีพื้นฐานในการเขียนคำนั้นนี้ 555++ แล้วพอได้คำ ก็เอามาเรียงๆกัน แม้บางทีไวยากรณ์มันจะไม่ได้เอาซะเลย ก็ไม่รู้ไงว่ามันคืออะไร 5555++ อิบ้าเอ้ยยยยย ไม่รู้อะไรเยอะแยะ Past นั้นนี้วุ่นวาย จำได้ว่าคำแรกที่อยากหาว่าคำำว่า OH มันแปลว่าอะไร 555++ แหม เราก็
###นอกเรื่องแปป Part1###
ระหว่าที่เราเลิกเรียนวันนั้น มีฝรั่งหูยยยยย หล่อมาก ดีออก เรานี้แทบวิ่งไป หูยขี่จักรยานมา ยิ้มเชียว พอไปไกล้เท่านั้น "สวัสดีครับ เย็นนี้ว่างไหม ไปเข้าโบสท์ด้วยกันครับ " อีสัสสเอ้ยยยย พูดไทยชัดกว่ากูอีก
ต่อๆ ทีนี้ เริ่มที่จะฉายแววมั้ง ซึ่งหาตัวเองอยู่นานว่าชอบไร ผมของเกริ่นนะครับ ผมเรียนอยู่ วิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดแห่งหนึ่งในภาคอิสาน ซึ่งก็ดังอยู่พอสมควร ซึ่งแต่ละปีแต่ละเทอม ก็มีอีเวนท์เยอะแยะ เอ่าาาาา อีนี้ เข้าเรื่องเรียนภาษาสิ คือผมจะเล่าว่า ผมได้มีโอกาสจากอาจารย์ท่านหนึ่ง มาชักชวนผมไปแข่งทักษะภาอังกฤษซึ่งเป็นหัวข้อที่ยากมาก เป็นการสาธิตแบบภาษาอังกฤษ ซึ่งตอนนั้นผมอยู่ ปี 2 อ้อ ปี1 ผมแข่ง ภาษาไทย กะ วิทยาศาสตร์ด้วยนะ
แต่ปี2 มีอังกฤษ งานเดียวที่สตรองสุด เราก็ตบปากรับคำไป ก็แหม การจริตกูเปะซะขนาดนี้ ยังไงต้องได้แหละแหมมมมมมมม ต่อมาก็เกิดการซ้อมหนัก อักแกรมม่า ดูสื่อ ตปท.มากขึ้น ดูหนังซับอังกฤษมากขึ้น โดยเฉพาะ Ugly Betty 555+ ทั้ง 4 ซีซั่นเลย โห ตาแฉะ แปลจนหัวนอคไปหลายรอบ มันทำให้ผมสนุกกับภาษามากขึ้น มากขึ้นๆ
เอ่าละ ง่ายๆเลย สรุปเลย การเรียนภาษษสำหรับผม มันไปจำเป็นต้องเรียนในห้องเสมอไป อาจจะเรียนจากประสบการณ์จริง หรือจากสิ่งที่ตัวเองชอบ แต่ก็อย่าทื้งการเรียนในห้องนะ เพราะบางสิ่งบางอย่างมันไม่เหมอืนกัน อินเตอร์เน็ตมันไม่ได้มีไว้เฟสบุค หรือเล่นSocial หรือแบบ เกมส์ออนไลน์เสมอไป เราต้องเอาพวกนี้เข้าหัวบ้าง ใช่อยู่ ที่เราควรเน้นวิทย์ คณิต แต่ลืมไปแล้วหรอ ภาษาก็จำเป็นในการสื่อสารเช่นกัน ถ้าหากวันหนึ่งภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่มีอิธพลมากกว่านี้ พวกคุณจะเขียนสูตรพีธาโกรัส หรือท่องตารางธาตุสื่อสารกันหรอ มันก็ต้องมีควบคู่กันไป ไม่ขาดกันเกินกัน รับรองสนุกแน่นอนการใช้ชีวิตของเรา เอาเป็นว่าสุดท้ายนี้ ขอฝากให้น้องๆทุกคนคิด หรือแม้กระทั้งพี่ๆ ป้าๆ น้องๆ อาๆ ทั้งหลายนะครับ ภาษาไม่จำเป็นต้องเปะ พูดไปเลย ขนาดวิชาคณิต เราก็ยังมีผิดบ้างถูกบ้าง ใช่ว่าเราจะแคร์ สักวัน ความสุขนั้นจะอป็นของเรา
สุดท้ายจริงๆครับ กระผมไม่ได้ว่า วิทยาศาตร์ และคณิตไม่ดีนะ ก็แหม ถ้าเราไม่มีพวกนี้ ผมจะมีคอมนั่งๆกดๆ พิมพ์ให้พวกพี่ๆน้องๆอ่านหรอ โอเคครับ สวัสดีครับ