กระทู้นี้ จะขอเล่าถึงการฝึกซ้อมของทีมวอลเลย์บอลหญิงจีนที่แคมป์จางโจวเป็นหลัก
โดยอาศัยข้อมูลจากเพจ welovevolley ซึ่งเขาจะมีรายงานความเคลื่อนไหวของทีมวอลเลย์บอลหญิงจีนอยู่เป็นระยะๆ
และก็ข่าวอีก 2-3 ชิ้นนำมาใช้ประกอบการเขียนนี้
ช่วงแรกของการเรียกเก็บตัวฝึกซ้อมที่ปักกิ่งจะยังไม่มีอะไรมาก เป็นการปรับสภาพร่างกาย ฝึกซ้อมเทคนิคด้านต่างๆ
จนเมื่อย้ายมาเก็บตัวฝึกซ้อมที่แคมป์จางโจว ตรงนี้แหล่ะถึงเป็นของจริงที่เข้มข้น เข้มงวด
ทีมวอลเลย์บอลหญิงจีนมาเก็บตัวฝึกซ้อมที่แคมป์จางโจวตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. – 1 เม.ย. 59 ที่ผ่านมา เป็นเวลาทั้งสิ้น 5 สัปดาห์
ฝึกซ้อมกันวันละ 3 เวลา ตอนเช้า 8 โมงครึ่งถึงบ่ายโมง ตอนบ่าย 3 โมงถึง 6 โมงเย็น และตอนค่ำก็มีฝึกซ้อมเพิ่มอีก
แต่เดิมกำหนดเอาไว้ให้ผู้เล่นที่ยังทำได้ไม่ดีไม่ผ่านในตอนฝึกซ้อมปกติ โค้ชก็จะเรียกมาฝึกซ้อมเพิ่มพิเศษตอนค่ำ
แต่ปรากฏว่าผู้เล่นหลายคนที่ไม่ได้ถูกเรียกตัวก็มาซ้อมเพิ่มเติมเองด้วย จึงกลายเป็นฝึกวันละ 3 เวลาไป
ทุกปีวอลเลย์บอลหญิงจีนก็จะมาเก็บตัวที่จางโจวแห่งนี้ ปีนี้ถือเป็นครั้งที่ 44 แล้วที่มาฝึกซ้อมที่นี่
ถือกันว่าจางโจวเป็นบ้านเกิดของวอลเลย์บอลหญิงจีน ที่แคมป์จางโจวนี้หลางผิงจะเรียกร้องคาดหวังจากตัวผู้เล่นสูง
มีจัดแบ่งผู้เล่นออกเป็นกลุ่มๆตามตำแหน่งการเล่น กลุ่มผู้เล่นหัวเสา กลุ่มบอลเร็ว กลุ่มมือเซ็ต กลุ่มลิโบโร่ ....
หลางผิงจะรับผิดชอบดูกลุ่มผู้เล่นหัวเสาเป็นหลัก แต่ก็จะเดินดูการฝึกซ้อมของกลุ่มอื่นด้วย ถ้าพบเจอปัญหาอะไร
ก็จะเรียกหยุดเดี๋ยวนั้น อธิบายสาธิตเป็นกลุ่มๆไปหรืออาจจะพูดให้ฟังทั้งทีม
ครั้งหนึ่งของการฝึกซ้อมที่ปักกิ่งก่อนที่จะไปแคมป์จางโจว กำลังฝึกเรื่องการบล็อกลูก โค้ชหลางถามหยวนซินเยว่ว่า
“ เสี่ยวหยวน สิ่งสำคัญของการบล็อกคืออะไร? “ เมื่อเด็กหยวนตอบจบ โค้ชหลางก็หันไปถามสวีหยุนลี่
“ เสี่ยวลี่ เธอพูดเสริมหน่อยซิ ”
หลางผิงผงกหัว สวีหยุนลี่ตอบได้ถูกต้อง จากนั้นจู่ๆหลางผิงก็หันไปถาม
“ โค้ชไล่ พวกเขาตอบถูกต้องหรือเปล่า?” โค้ชไล่ที่อยู่ด้านหลังถึงกลับอึ้งตั้งตัวไม่ทัน ไม่คิดว่าหลางผิงจะมีเล่นมุกด้วย
ทำเอาทุกคนฮาตรึม
“ การบล็อกเราต้องให้ความสำคัญในเรื่องการเคลื่อนที่ของเท้า การยื่นมือเอียงขึ้นไปแบบนี้ฉันไม่เอา”
สอนเรื่องการบล็อก
ครั้งหนึ่งในการฝึกตบลูก จางฉางหนิงตบลูกไปโดยมีโค้ชผู้ช่วยฝึกซ้อมชาย 2 คนขึ้นบล็อก ลูกบอลเด้งกลับมากระแทก
เข้าไปที่ปากจางฉางหนิงเต็มๆ เลือดกลบปาก แพทย์ประจำทีมรีบมาดูใช้สำลีห้ามเลือด ผ่านไปสักพักเมื่อเลือดหยุดไหล
เธอก็กลับลงสนามมาฝึกซ้อมต่อ
การฝึกซ้อมรายการสุดท้ายจะเป็นการแบ่งทีมเล่นกัน มีวันหนึ่งการแบ่งทีมเล่นจะแตกต่างจากครั้งก่อนคือ
ทีมหนึ่งเล่นรุกตบลูก อีกทีมหนึ่งเล่นรับ ถ้าบล็อกได้หรือรับลูกได้ถือว่าได้แต้ม ทีมแพ้ถูกทำโทษวิดพื้น
การวิดพื้นที่ต้องยกนิ้วมือ
มีครั้งหนึ่ง ผู้เล่นคนหนึ่งหาจังหวะการตบไม่ได้ ได้แต่หยอดลูกข้ามไป หลางผิงเห็นเข้าก็บอกให้หยุด
แล้วก็เข้ามาพูดถึงการหยอดลูกแบบนี้ว่าถ้าไปเจอทีมบราซิลที่มีเกมรับยอดเยี่ยม เล่นลูกแบบนี้ก็คงยากที่จะบรรลุผล
เป้าหมายในการฝึกซ้อมที่แคมป์จางโจว หลางผิงบอกว่า เน้นการฝึกซ้อมเทคนิคส่วนบุคคลค่อนข้างเยอะ ลดจุดอ่อนช่องโหว่
ซึ่งเมื่อแต่ละคนฝีมือพัฒนาขึ้น ทีมทั้งทีมก็จะพัฒนาขึ้นไปด้วย ดังนั้น เราจึงเน้นให้ความสำคัญไปที่การยกระดับเทคนิคฝีมือด้านต่างๆของผู้เล่น
ก็มีฝึกซ้อมทีม เล่นประสานงานกันของผู้เล่นบ้าง แต่คงไม่ใช่วันๆเอาแต่ฝึกซ้อมเทคนิคเฉพาะด้านแต่เพียงอย่างเดียว
แต่ยังไงเวลาส่วนใหญ่จะหมดไปกับการฝึกซ้อมเดี่ยวเทคนิคด้านต่างๆ หลังจากนั้นก็จะมาฝึกซ้อมทีมการเล่นประสานงานระหว่างกัน
นอกจากการฝึกซ้อมเทคนิคด้านต่างๆและการซ้อมเล่นทีมการประสานงานกันระหว่างผู้เล่น ก็จะมีฝึกเรื่องของสมรรถภาพร่างกาย
เวทเทรนนิ่ง จะอยู่ในอัตราส่วน 35% ของการฝึกแต่ละวัน มีการฝึกฝนเรื่องของสภาพจิตใจของผู้เล่น เพราะโอลิมปิกริโอเราอาจจะต้องไปเจอกับสถานการณ์ที่กดดัน ก็ควรจะต้องเตรียมเรื่องตรงนี้ไว้ด้วย
ในช่วงเวลาสำคัญที่ชี้เป็นชี้ตายจะทำยังไงให้จิตใจสามารถรับความกดดันได้ ยกตัวอย่างเราแข่งกับบราซิล อเมริกา
ซึ่งในรายการแข่งขันใหญ่ระดับโลกเรามักแพ้มากกว่าชนะ และถ้าโอลิมปิกครั้งนี้เราเจอกับเขาอีก เราจะต้องเล่นกับเขายังไง
ซึ่งตอนนี้เราก็กำลังศึกษาเรื่องนี้กันอยู่ และจับเอามาฝึกซ้อมกัน
ซึ่งในช่วงระยะหลังๆ การฝึกซ้อมก็จะเน้นหนักไปที่ศึกษาวิธีการเล่นของทีมบราซิลกับทีมอเมริกาเป็นหลัก
มุ่งจัดแผนการฝึกซ้อมในการเล่นกับทีมระดับนี้
หลางผิงพูดถึงทีมบราซิลว่าแม้ผู้เล่นจะอายุมากสักหน่อย แต่ประสบการณ์ล้นเหลือและก็เป็นเจ้าภาพด้วย
ทีมอเมริกามีการผสมผสานระหว่างอายุผู้เล่นได้เหมาะสมลงตัว ศักยภาพทีมแข็งแกร่ง ทีมเซอร์เบียและทีมอิตาลีก็เป็นทีมแข็งแกร่ง
เราต้องยกระดับพัฒนาฝีมือตัวเองให้สูงขึ้นจึงจะสามารถสู้กับคู่แข่งที่แข็งแกร่งเหล่านี้ได้
ถ้าผมอ่านแล้วเข้าใจไม่ผิด หลางผิงจะพูดว่าผู้เล่นเราต้องพัฒนาทักษะฝีมือให้สูงขึ้นแบบกระโดด
คือไม่ใช่พัฒนาไปตามปกติแค่นั้นมันไม่พอ ต้องฝ่าทะลุกำแพงออกไปให้ได้ เช่นนี้ถึงจะไปสู้กับทีมบราซิลได้
*** ยังมีต่อ
การฝึกซ้อมของวอลเลย์บอลหญิงจีน
โดยอาศัยข้อมูลจากเพจ welovevolley ซึ่งเขาจะมีรายงานความเคลื่อนไหวของทีมวอลเลย์บอลหญิงจีนอยู่เป็นระยะๆ
และก็ข่าวอีก 2-3 ชิ้นนำมาใช้ประกอบการเขียนนี้
ช่วงแรกของการเรียกเก็บตัวฝึกซ้อมที่ปักกิ่งจะยังไม่มีอะไรมาก เป็นการปรับสภาพร่างกาย ฝึกซ้อมเทคนิคด้านต่างๆ
จนเมื่อย้ายมาเก็บตัวฝึกซ้อมที่แคมป์จางโจว ตรงนี้แหล่ะถึงเป็นของจริงที่เข้มข้น เข้มงวด
ทีมวอลเลย์บอลหญิงจีนมาเก็บตัวฝึกซ้อมที่แคมป์จางโจวตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. – 1 เม.ย. 59 ที่ผ่านมา เป็นเวลาทั้งสิ้น 5 สัปดาห์
ฝึกซ้อมกันวันละ 3 เวลา ตอนเช้า 8 โมงครึ่งถึงบ่ายโมง ตอนบ่าย 3 โมงถึง 6 โมงเย็น และตอนค่ำก็มีฝึกซ้อมเพิ่มอีก
แต่เดิมกำหนดเอาไว้ให้ผู้เล่นที่ยังทำได้ไม่ดีไม่ผ่านในตอนฝึกซ้อมปกติ โค้ชก็จะเรียกมาฝึกซ้อมเพิ่มพิเศษตอนค่ำ
แต่ปรากฏว่าผู้เล่นหลายคนที่ไม่ได้ถูกเรียกตัวก็มาซ้อมเพิ่มเติมเองด้วย จึงกลายเป็นฝึกวันละ 3 เวลาไป
ถือกันว่าจางโจวเป็นบ้านเกิดของวอลเลย์บอลหญิงจีน ที่แคมป์จางโจวนี้หลางผิงจะเรียกร้องคาดหวังจากตัวผู้เล่นสูง
มีจัดแบ่งผู้เล่นออกเป็นกลุ่มๆตามตำแหน่งการเล่น กลุ่มผู้เล่นหัวเสา กลุ่มบอลเร็ว กลุ่มมือเซ็ต กลุ่มลิโบโร่ ....
หลางผิงจะรับผิดชอบดูกลุ่มผู้เล่นหัวเสาเป็นหลัก แต่ก็จะเดินดูการฝึกซ้อมของกลุ่มอื่นด้วย ถ้าพบเจอปัญหาอะไร
ก็จะเรียกหยุดเดี๋ยวนั้น อธิบายสาธิตเป็นกลุ่มๆไปหรืออาจจะพูดให้ฟังทั้งทีม
“ เสี่ยวหยวน สิ่งสำคัญของการบล็อกคืออะไร? “ เมื่อเด็กหยวนตอบจบ โค้ชหลางก็หันไปถามสวีหยุนลี่
“ เสี่ยวลี่ เธอพูดเสริมหน่อยซิ ”
หลางผิงผงกหัว สวีหยุนลี่ตอบได้ถูกต้อง จากนั้นจู่ๆหลางผิงก็หันไปถาม
“ โค้ชไล่ พวกเขาตอบถูกต้องหรือเปล่า?” โค้ชไล่ที่อยู่ด้านหลังถึงกลับอึ้งตั้งตัวไม่ทัน ไม่คิดว่าหลางผิงจะมีเล่นมุกด้วย
ทำเอาทุกคนฮาตรึม
สอนเรื่องการบล็อก
ครั้งหนึ่งในการฝึกตบลูก จางฉางหนิงตบลูกไปโดยมีโค้ชผู้ช่วยฝึกซ้อมชาย 2 คนขึ้นบล็อก ลูกบอลเด้งกลับมากระแทก
เข้าไปที่ปากจางฉางหนิงเต็มๆ เลือดกลบปาก แพทย์ประจำทีมรีบมาดูใช้สำลีห้ามเลือด ผ่านไปสักพักเมื่อเลือดหยุดไหล
เธอก็กลับลงสนามมาฝึกซ้อมต่อ
ทีมหนึ่งเล่นรุกตบลูก อีกทีมหนึ่งเล่นรับ ถ้าบล็อกได้หรือรับลูกได้ถือว่าได้แต้ม ทีมแพ้ถูกทำโทษวิดพื้น
การวิดพื้นที่ต้องยกนิ้วมือ
แล้วก็เข้ามาพูดถึงการหยอดลูกแบบนี้ว่าถ้าไปเจอทีมบราซิลที่มีเกมรับยอดเยี่ยม เล่นลูกแบบนี้ก็คงยากที่จะบรรลุผล
ซึ่งเมื่อแต่ละคนฝีมือพัฒนาขึ้น ทีมทั้งทีมก็จะพัฒนาขึ้นไปด้วย ดังนั้น เราจึงเน้นให้ความสำคัญไปที่การยกระดับเทคนิคฝีมือด้านต่างๆของผู้เล่น
ก็มีฝึกซ้อมทีม เล่นประสานงานกันของผู้เล่นบ้าง แต่คงไม่ใช่วันๆเอาแต่ฝึกซ้อมเทคนิคเฉพาะด้านแต่เพียงอย่างเดียว
แต่ยังไงเวลาส่วนใหญ่จะหมดไปกับการฝึกซ้อมเดี่ยวเทคนิคด้านต่างๆ หลังจากนั้นก็จะมาฝึกซ้อมทีมการเล่นประสานงานระหว่างกัน
เวทเทรนนิ่ง จะอยู่ในอัตราส่วน 35% ของการฝึกแต่ละวัน มีการฝึกฝนเรื่องของสภาพจิตใจของผู้เล่น เพราะโอลิมปิกริโอเราอาจจะต้องไปเจอกับสถานการณ์ที่กดดัน ก็ควรจะต้องเตรียมเรื่องตรงนี้ไว้ด้วย
ในช่วงเวลาสำคัญที่ชี้เป็นชี้ตายจะทำยังไงให้จิตใจสามารถรับความกดดันได้ ยกตัวอย่างเราแข่งกับบราซิล อเมริกา
ซึ่งในรายการแข่งขันใหญ่ระดับโลกเรามักแพ้มากกว่าชนะ และถ้าโอลิมปิกครั้งนี้เราเจอกับเขาอีก เราจะต้องเล่นกับเขายังไง
ซึ่งตอนนี้เราก็กำลังศึกษาเรื่องนี้กันอยู่ และจับเอามาฝึกซ้อมกัน
ซึ่งในช่วงระยะหลังๆ การฝึกซ้อมก็จะเน้นหนักไปที่ศึกษาวิธีการเล่นของทีมบราซิลกับทีมอเมริกาเป็นหลัก
มุ่งจัดแผนการฝึกซ้อมในการเล่นกับทีมระดับนี้
ทีมอเมริกามีการผสมผสานระหว่างอายุผู้เล่นได้เหมาะสมลงตัว ศักยภาพทีมแข็งแกร่ง ทีมเซอร์เบียและทีมอิตาลีก็เป็นทีมแข็งแกร่ง
เราต้องยกระดับพัฒนาฝีมือตัวเองให้สูงขึ้นจึงจะสามารถสู้กับคู่แข่งที่แข็งแกร่งเหล่านี้ได้
ถ้าผมอ่านแล้วเข้าใจไม่ผิด หลางผิงจะพูดว่าผู้เล่นเราต้องพัฒนาทักษะฝีมือให้สูงขึ้นแบบกระโดด
คือไม่ใช่พัฒนาไปตามปกติแค่นั้นมันไม่พอ ต้องฝ่าทะลุกำแพงออกไปให้ได้ เช่นนี้ถึงจะไปสู้กับทีมบราซิลได้
*** ยังมีต่อ