คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
พี่อาจจะตอบไม่ตรงประเด็นนะครับ
มุมมองพี่มองว่า เข้าก็ยากแล้ว ออกนี่ยากกว่า ถ้าเราไม่ชอบจริงๆ บางคนเข้าไปเสียเวลาเรียน (ปี 3 นี้จะวัดว่าเราชอบมันจริงๆหรือไม่ ถ้าไม่ชอบทนไปก็เท่านั้น) พี่กำลังจะบอกว่าจะมองแค่การหางานอย่างเดียวไม่ได้ครับ
ลองมองที่ความชอบ + ความถนัดของตัวเอง
วิศวะเมื่อก่อนมีแปดเกียร์ แต่มาตอนนี้มีมากมาย ไม่ใช่ว่าจบมาแล้วจะมีงานเสมอ มันขึ้นอยู่กับความสามารถเราด้วยครับ ถ้าเราทำในสิ่งที่เรารักเราจะอยู่กับมันได้ และในที่สุดวันนึงจะประสบความสำเร็จเองครับ ถ้าเราจบมาแล้วเราไม่ชอบ เรายังต้องมาทำงานด้านนั้นอีกจะทรมาณขนาดไหน?
พี่จะบอกว่าพี่เรียนสายวิทย์คณิตมา แต่สุดท้ายพี่ไปจบที่ภาษา เพราะพี่ถนัดและชอบมันมากกว่า
ตอนแรกพี่เละเทะมากด้วยซ้ำ พี่ท้อ ร้องไห้ ซึมเศร้า กินอะไรไม่ลงไปหลายเดือน แต่สุดท้ายพี่ก็มีที่เรียน เหนื่อยหน่ะ เหนื่อยทุกคนครับ ชีวิตนี้ หากเรายอมแพ้ เราอาจจะไม่มีวันไปถึงจุดหมาย แต่หากเราสู้มันต่อไปทุกวัน วันๆนึง การต่อสู้ของเราอาจนำพาเราไปถึงจุดหมายแบบไม่คาดคิดได้
คนที่ตัดสินใจได้คือสัญชาติญาณของน้องเอง น้องต้องเลือกทางเองครับ
อย่ายอมน้อมรับชะตาเมื่อสิ้นวัน
อดีตเมื่อจากไปก็เผาไหม้เป็นทุลี จงตั้งสติไปหาฝัน
จงสู้ แม้จะเหลือเพียงแสงสุดท้าย
มุมมองพี่มองว่า เข้าก็ยากแล้ว ออกนี่ยากกว่า ถ้าเราไม่ชอบจริงๆ บางคนเข้าไปเสียเวลาเรียน (ปี 3 นี้จะวัดว่าเราชอบมันจริงๆหรือไม่ ถ้าไม่ชอบทนไปก็เท่านั้น) พี่กำลังจะบอกว่าจะมองแค่การหางานอย่างเดียวไม่ได้ครับ
ลองมองที่ความชอบ + ความถนัดของตัวเอง
วิศวะเมื่อก่อนมีแปดเกียร์ แต่มาตอนนี้มีมากมาย ไม่ใช่ว่าจบมาแล้วจะมีงานเสมอ มันขึ้นอยู่กับความสามารถเราด้วยครับ ถ้าเราทำในสิ่งที่เรารักเราจะอยู่กับมันได้ และในที่สุดวันนึงจะประสบความสำเร็จเองครับ ถ้าเราจบมาแล้วเราไม่ชอบ เรายังต้องมาทำงานด้านนั้นอีกจะทรมาณขนาดไหน?
พี่จะบอกว่าพี่เรียนสายวิทย์คณิตมา แต่สุดท้ายพี่ไปจบที่ภาษา เพราะพี่ถนัดและชอบมันมากกว่า
ตอนแรกพี่เละเทะมากด้วยซ้ำ พี่ท้อ ร้องไห้ ซึมเศร้า กินอะไรไม่ลงไปหลายเดือน แต่สุดท้ายพี่ก็มีที่เรียน เหนื่อยหน่ะ เหนื่อยทุกคนครับ ชีวิตนี้ หากเรายอมแพ้ เราอาจจะไม่มีวันไปถึงจุดหมาย แต่หากเราสู้มันต่อไปทุกวัน วันๆนึง การต่อสู้ของเราอาจนำพาเราไปถึงจุดหมายแบบไม่คาดคิดได้
คนที่ตัดสินใจได้คือสัญชาติญาณของน้องเอง น้องต้องเลือกทางเองครับ
อย่ายอมน้อมรับชะตาเมื่อสิ้นวัน
อดีตเมื่อจากไปก็เผาไหม้เป็นทุลี จงตั้งสติไปหาฝัน
จงสู้ แม้จะเหลือเพียงแสงสุดท้าย
แสดงความคิดเห็น
เด็กแอดมิชชั่น แต่แม่ไม่เข้าใจ
แต่ทว่าแม่เหมือนอยากให้เราเอาคณะที่จบมาแล้วมีงานทำ มีการงานที่มั่นคง(ประมาณงานราชการ) แต่สำหรับเรา เราคิดว่าครุศาตร์จบมามันได้แค่ทางเดียว ส่วนวิศวะมันสามารถหางานได้กว้างกว่า ทำให้เรากับแม่ผิดใจกัน แล้วทีนี้แม่ก็เริ่มต่อว่าเรื่องรับตรงต่างๆว่า '' แล้วที่ไปสมัครรับตรง พอติดแล้วไม่เอา คืออะไร ไปสัมภาษนู้นนี่นั้น ถ้าไม่อยากได้แล้วไปทำไม รู้มั้ยว่าไปแต่ละครั้งมันใช้จ่ายเท่าไหร่ '' ( ก่อนหน้านี้เราเคยไปสัมภาษมา 2 ครั้ง คือ คณะวิศวะของมหาลัยนึง ซึ่งมันเป็นครั้งแรกสำหรับเราเราคิดว่าที่เราไปเพื่อไปหาประสบการณ์ แล้วก็มันอยู่ใกล้บ้าน ส่วนครั้งที่2 เราไปสัมภาษคณะพยาบาล เพราะตอนนั้นลังเลมาก เหมือนกับมีญาติส่วนใหญ่เรียนพยาบาลทั้งนั้นแล้วเขาก็บอกข้อดีต่างๆนาๆ แล้วแม่ก็เห็นด้วย เราก็เลยไปสัมภาษ แต่สุดท้ายที่เราไม่เอาพยาบาลเพราะว่า ตอนสัมภาษเรารู้สึกมันไม่ใช่สำหรับเราและอีกอย่างเราเป็น ผช แล้วตอนไปสัมมันไม่มี ผช เลยสักคน เลยกลับมาปรึกษากับแม่ แม่ก็คิดว่าเราน่าจะไม่เหมาะเหมือนกัน เลยสละสิทธิ์เพื่อที่จะรอแอดมิชชั่น ปล.ก่อนทุกครั้งที่เราไปสัมภาษเราจะขอท่านก่อนเสมอว่าไปได้มั้ย สมัครได้มั้ย เราปรึกษาท่านทุกครั้งเมื่อมีการสมัคร )
แต่พอมาตอนนี้เหมือนท่านไม่เข้าใจเราเลยสักอย่าง คือเราน้อยใจมาก เราคิดว่าท่านจะเป็นคนที่เข้าใจเรามากที่สุดแต่กลับไม่ใช่ คือเราเหนื่อยมาก ท้อมากเลย อยากขอความคิดเห็นจากคนอื่นๆ ว่าเราควรทำไงดี...ขอบคุณครับ