ถึงน้องๆที่กำลังจะขึ้น ม.4 หรือช่วงระยะเวลาม.ปลาย ครั้งแรกในชีวิตนะ
ไม่กี่วันที่ผ่านมาเนี่ย มีที่โรงเรียนแห่งนึงประกาศคะแนนสอบรวมทั้งหมดของน้องม.3 ขึ้น ม.4 แต่ก่อนไม่มีประกาศบอกคะแนนรวมว่าได้เท่าไหร่ ปัจจุบันทางโรงเรียนที่เราอยู่เพิ่งได้ทำระบบที่ให้นักเรียนสามารถเช็คคะแนนตัวเองว่าได้เท่าไหร่ น้องก็เช็คคะแนนดูอยู่บ้านได้ไง ทำให้น้องๆวันนั้นเกิดกระแสดราม่าเรื่องห้องเรียนขึ้น น้องๆหลายคนที่เลือกเรียนสายวิทย์ต่างบอกอัพสเตตัสในทำนองเดียวกันว่า คะแนนน้อยมากกกกกก ได้อยู่ห้องท้ายสุดท้ายของสายวิทย์แน่เลย พี่ๆม.ปลายที่เห็น รวมถึงเราด้วยต่างออกมาแสดงความคิดเห็นเชิงคล้ายกันว่า ห้องต้นๆก็ไม่ได้หมายความว่าเก่งเสมอไป , พี่สอบติดห้องเรียนพิเศษ แต่ไม่เอา เรียนห้องธรรมดาห้อง 1 ด้วย ตอนนี้ก็ยังไม่มีที่เรียนเลย , ห้องคิงหลายๆคนก็ไม่ได้ติดหมอหรือคณะดังๆ , ห้องท้ายๆคนสอบติดหมอก็มี , ห้องท้ายๆทำงานมีเงิน ใช้ด้วยตัวเองก็มี , พี่อยู่ห้องท้ายสุดยังติดวิศวะ ลาดกระบังเลย , น้องอยู่ห้องไหนไม่สำคัญเท่าน้องจะคุมตัวเองได้หรือเปล่า , ครูคนสอนก็สอนแบบคล้ายกัน ไม่ได้ต่างกันมาก ข้อสอบชุดเดียวกัน วัดความรู้เหมือนกัน, ห้องต้นๆเด็กกิจกรรมมีเยอะกว่าห้องท้ายๆนะ เขาก็เลือกที่จะเรียนคณะที่เขาอยากเข้า ไม่ใช่หมอหรือวิศวะก็มีเยอะแยะไป , เพื่อนพี่บางคนม.ต้นเรียนเก่งจนครูชมว่าจะได้เรียนมหาลัยดีๆแน่ พอมา ม.ปลายติดเพื่อน ติดแฟน เกรดไม่ดีก็มี คุมตัวเองไม่ได้เลยก็มี ส่วนบางคนกลับกัน เก่งขึ้นจนน่าตกใจ , เรียนพิเศษเอาก็ได้ จากแต่ก่อนพี่ไม่รู้เรื่องเลย ตอนนี้เป็นต้นฉบับให้เพื่อนห้องต้นๆเลยอ่ะ , คะแนนสอบในโรงเรียนออกมาอาจจะไม่ดี แต่สอบเข้ามหาลัยได้เยอะนะเว้ยยยยย มีที่เรียนแล้วด้วย ฯลฯ และพี่ๆต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า อยู่ห้องไหนไม่สำคัญหรอกน้อง ถ้าน้องตั้งใจเรียน มีความพยายาม สอบเข้ามหาลัยได้ น้องจะลืมเรื่องห้องเรียนไปเลยแหละ ในทางกลับกันเราจะรู้สึกภูมิใจมากกว่านะที่เราทำมันได้อ่ะ เป้าหมายของม.ปลาย คือ สอบติดคณะที่ตัวเองอยากเรียน หรือมหาลัยที่ฝันไว้ หรือทั้ง 2อย่างปะ
ปล. ไม่อยากให้น้องๆกังวลเรื่องห้องเรียนนะ สังคมม.ปลาย มันมีความหลากหลายมากกกกกกก หลายอารมณ์ด้วย เจอเพื่อนใหม่ด้วย มันจะแตกต่างออกไปจากม.ต้นเลยแหละ ไม่มีใครเขามานั่งเสียใจกับการที่เราได้อยู่ห้องนี้ๆหรอกน่ะ เอ่อ จะคบเพื่อนก็ขอนะ ขอให้ช่วยกันเรียนนะ เวลาในม.ปลายมันเหมือนจะนานนะ แค่ 3 ปีก็เข้ามหาลัยแล้ว เตรียมตัวให้ดีๆ ทบทวนหนังสือบ้าง อย่าไปเครียด ถ้าเราเตรียมตัวมาดี เตรียมตัวมาดีในที่นี้คือ มีความพร้อมทั้งความรู้และทักษะการทำข้อสอบมาเยอะ เป็นเวลาสะสมนะ ไม่ใช่ กี่ไม่กี่เดือนก็อัดๆๆ ตายแน่นอน 555555 น้องได้เข้าแน่นอนคณะที่น้องอยากเข้าไปเรียนอ่ะ ถ้าเตรียมตัวมาดีนะ คือเราต้องมีพักบ้าง เล่นบ้าง แต่ใกล้ช่วงสอบก็ต้องฟิตหน่อยนะ 55555 แค่นี้แหละ มันไม่ยากเกินไปหรอก ถ้าน้องทำได้อ่ะ ฝืนตัวเองหน่อยนะ วันข้างหน้าจะได้ไม่มานั่งบ่นแบบพวกพี่ให้น้องฟังแบบนี้
ปลิง. ขอให้เชื่อคำที่รุ่นพี่หลายๆคนบ่นเรื่องเรียนให้ฟัง เพราะนั้นคือเรื่องที่พวกพี่เจอเข้ากับตัวแล้วและต้องการจะบอกให้พวกน้องๆนั้นได้เตรียมตัวเอาไว้ โดยเฉพาะสอบ Gat/Pat O-Net เป็นต้นนนนนนน
จากใจรุ่นพี่ ที่อยากจะบอกน้องๆเด็กใหม่ ม.ปลาย
ไม่กี่วันที่ผ่านมาเนี่ย มีที่โรงเรียนแห่งนึงประกาศคะแนนสอบรวมทั้งหมดของน้องม.3 ขึ้น ม.4 แต่ก่อนไม่มีประกาศบอกคะแนนรวมว่าได้เท่าไหร่ ปัจจุบันทางโรงเรียนที่เราอยู่เพิ่งได้ทำระบบที่ให้นักเรียนสามารถเช็คคะแนนตัวเองว่าได้เท่าไหร่ น้องก็เช็คคะแนนดูอยู่บ้านได้ไง ทำให้น้องๆวันนั้นเกิดกระแสดราม่าเรื่องห้องเรียนขึ้น น้องๆหลายคนที่เลือกเรียนสายวิทย์ต่างบอกอัพสเตตัสในทำนองเดียวกันว่า คะแนนน้อยมากกกกกก ได้อยู่ห้องท้ายสุดท้ายของสายวิทย์แน่เลย พี่ๆม.ปลายที่เห็น รวมถึงเราด้วยต่างออกมาแสดงความคิดเห็นเชิงคล้ายกันว่า ห้องต้นๆก็ไม่ได้หมายความว่าเก่งเสมอไป , พี่สอบติดห้องเรียนพิเศษ แต่ไม่เอา เรียนห้องธรรมดาห้อง 1 ด้วย ตอนนี้ก็ยังไม่มีที่เรียนเลย , ห้องคิงหลายๆคนก็ไม่ได้ติดหมอหรือคณะดังๆ , ห้องท้ายๆคนสอบติดหมอก็มี , ห้องท้ายๆทำงานมีเงิน ใช้ด้วยตัวเองก็มี , พี่อยู่ห้องท้ายสุดยังติดวิศวะ ลาดกระบังเลย , น้องอยู่ห้องไหนไม่สำคัญเท่าน้องจะคุมตัวเองได้หรือเปล่า , ครูคนสอนก็สอนแบบคล้ายกัน ไม่ได้ต่างกันมาก ข้อสอบชุดเดียวกัน วัดความรู้เหมือนกัน, ห้องต้นๆเด็กกิจกรรมมีเยอะกว่าห้องท้ายๆนะ เขาก็เลือกที่จะเรียนคณะที่เขาอยากเข้า ไม่ใช่หมอหรือวิศวะก็มีเยอะแยะไป , เพื่อนพี่บางคนม.ต้นเรียนเก่งจนครูชมว่าจะได้เรียนมหาลัยดีๆแน่ พอมา ม.ปลายติดเพื่อน ติดแฟน เกรดไม่ดีก็มี คุมตัวเองไม่ได้เลยก็มี ส่วนบางคนกลับกัน เก่งขึ้นจนน่าตกใจ , เรียนพิเศษเอาก็ได้ จากแต่ก่อนพี่ไม่รู้เรื่องเลย ตอนนี้เป็นต้นฉบับให้เพื่อนห้องต้นๆเลยอ่ะ , คะแนนสอบในโรงเรียนออกมาอาจจะไม่ดี แต่สอบเข้ามหาลัยได้เยอะนะเว้ยยยยย มีที่เรียนแล้วด้วย ฯลฯ และพี่ๆต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า อยู่ห้องไหนไม่สำคัญหรอกน้อง ถ้าน้องตั้งใจเรียน มีความพยายาม สอบเข้ามหาลัยได้ น้องจะลืมเรื่องห้องเรียนไปเลยแหละ ในทางกลับกันเราจะรู้สึกภูมิใจมากกว่านะที่เราทำมันได้อ่ะ เป้าหมายของม.ปลาย คือ สอบติดคณะที่ตัวเองอยากเรียน หรือมหาลัยที่ฝันไว้ หรือทั้ง 2อย่างปะ
ปล. ไม่อยากให้น้องๆกังวลเรื่องห้องเรียนนะ สังคมม.ปลาย มันมีความหลากหลายมากกกกกกก หลายอารมณ์ด้วย เจอเพื่อนใหม่ด้วย มันจะแตกต่างออกไปจากม.ต้นเลยแหละ ไม่มีใครเขามานั่งเสียใจกับการที่เราได้อยู่ห้องนี้ๆหรอกน่ะ เอ่อ จะคบเพื่อนก็ขอนะ ขอให้ช่วยกันเรียนนะ เวลาในม.ปลายมันเหมือนจะนานนะ แค่ 3 ปีก็เข้ามหาลัยแล้ว เตรียมตัวให้ดีๆ ทบทวนหนังสือบ้าง อย่าไปเครียด ถ้าเราเตรียมตัวมาดี เตรียมตัวมาดีในที่นี้คือ มีความพร้อมทั้งความรู้และทักษะการทำข้อสอบมาเยอะ เป็นเวลาสะสมนะ ไม่ใช่ กี่ไม่กี่เดือนก็อัดๆๆ ตายแน่นอน 555555 น้องได้เข้าแน่นอนคณะที่น้องอยากเข้าไปเรียนอ่ะ ถ้าเตรียมตัวมาดีนะ คือเราต้องมีพักบ้าง เล่นบ้าง แต่ใกล้ช่วงสอบก็ต้องฟิตหน่อยนะ 55555 แค่นี้แหละ มันไม่ยากเกินไปหรอก ถ้าน้องทำได้อ่ะ ฝืนตัวเองหน่อยนะ วันข้างหน้าจะได้ไม่มานั่งบ่นแบบพวกพี่ให้น้องฟังแบบนี้
ปลิง. ขอให้เชื่อคำที่รุ่นพี่หลายๆคนบ่นเรื่องเรียนให้ฟัง เพราะนั้นคือเรื่องที่พวกพี่เจอเข้ากับตัวแล้วและต้องการจะบอกให้พวกน้องๆนั้นได้เตรียมตัวเอาไว้ โดยเฉพาะสอบ Gat/Pat O-Net เป็นต้นนนนนนน