“ร่าง”รัฐธรรมนูญฉบับปราบโกงของชายไทยวัย 79 ปี นามว่ามีชัย ฤชุพันธุ์ ปรากฏโฉมให้คนไทยได้ยลกัน ก็มีทั้งดอกไม้และก้อนอิฐปลิวว่อน หล่นตุ๊บตั๊บใส่คนร่างจนเกือบหัวร้างข้างแตก หลบกันชุลมุนวุ่นวาย
ที่เห็นด้วยก็ยกข้อดี ไม่เห็นด้วยก็ยกข้อเสีย วิจารณ์กันในมุมของตัวเอง แสดงทัศนะให้สังคมเห็นคล้อย รับหรือไม่รับเพราะอะไร ?
เป็นที่รู้ๆกันว่าพรรคการเมืองพรรคหนึ่งและกลุ่มการเมืองกลุ่มหนึ่ง แสดงเจตนารมณ์แน่วแน่เป็นเอกฉันท์ตั้งแต่เบื้องต้นแล้วว่า ยังไงก็ไม่รับ
แต่อีกฝากฝั่งหนึ่ง มิตรร่วมรบมาด้วยกัน ในสงครามขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ประเภทแยกกันเดินรวมกันตี ฝ่ายนี้ดันทะลึ่งมี 2 ขั้ว 2 ข้าง คือข้างหนึ่งเป็น
“แฟนคลับลุงตู่” อีกข้างหนึ่งเป็น
“แฟนคลับ ปชป.”
กลุ่มที่เป็น“แฟนคลับลุงตู่” ในแต่ละขั้วแต่ละข้างก็ยังแยกแตกตัวออกไปอีกเป็น 2 ข้างเหมือนกัน
คือข้างหนึ่ง อยากให้บ้านเมืองคงสภาพอยู่อย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ เพราะรู้สึกว่ากำลังสงบเงียบ ไม่มีม็อบ ไม่มีชุมนุม จึงไม่อยากเลือกตั้ง ไม่สนใจ รธน. จึงจะไม่ไปโหวตรับ !
อีกฝั่งหนึ่งมองไกลหน่อย อยากให้มีเลือกตั้งเป็นที่ยอมรับของต่างชาติ เพราะมองว่าถึงแม้จะมีเลือกตั้ง อย่างไรเสีย คสช.ก็จะยังคุมอำนาจต่อไปอยู่ดี จึงจะไปโหวตรับ
ส่วนข้าง“แฟนคลับ ปชป.” ก็ถือเป็นกลุ่มผู้มีพระคุณกลุ่มหนึ่งในการขับไล่รัฐบาลเก่าจนมีวันนี้ ก็แบ่งออกไปเป็น 2 ข้างเหมือนกัน
ข้างหนึ่งก็อยากให้มีการเลือกตั้ง โดยมีความหวังมาแต่ต้นว่า รธน.ฉบับนี้จะออกมาในแบบที่ข้างตนเองจะต้องได้เปรียบอีกฝั่งหนึ่งแน่ๆ ถึงแม้รัฐธรรมนูญจะเป็นอย่างไรในวันนี้ สุดท้าย ก็จะตะล่อมเข้ามาให้ฝั่งตนเองครองอำนาจจนได้ จึงจะไปโหวตรับ
แต่แฟนคลับอีกข้างหนึ่ง คิดหนักหน่อย เพราะเห็นว่าเป็นรัฐธรรมนูญกินรวบ ตนเองไม่ได้อะไร แถมยังจะถูกแย่งเอา “พุงปลาไปกิน”อีกด้วย ก็ออกอาการเคืองตะหงิดๆ จะไปโหวตไม่รับ
เดอะมาร์ค หัวหน้าพรรค ปชป. ก็ออกมาแนวๆนี้แหละ
จะเห็นอาการฟื๊ดฟ๊าดฮัดเช้ยๆ อิหลักอิเหลื่อของเดอะมาร์คที่ออกมาติติง รธน.ว่ามีข้อเสียมากกว่าข้อดี แถมเคืองชนิดควันออกหู ที่มีคำถามพ่วงของครูหยุย วัลลภ ตังคณานุรักษ์ สอดไส้เข้าไปอีกว่า จะให้ สว.เลือกนายกฯได้หรือไม่ ซึ่งเดอะมาร์คมองว่าเป็นการลิดรอนสิทธิของประชาชนไทย ว่าไปนั่น !
จึงออกมาขยับไมค์ ส่งสัญญาณแทนควันไฟไปให้ถึงหูบางคน เพื่อจะได้หาวิธีปรับแก้ให้เข้าทาง แต่เดอะมาร์คยังแทงกั๊ก ไม่ฟันธงว่า “รับ”หรือ “ไม่รับ”ชัดๆ ประมาณว่าให้บางคนลองไปคิดดูเป็นการบ้าน ว่าถ้าไม่ทำตามที่เดอะมาร์คพูด จะเกิดอะไรขึ้น ฮั่นแน่ ??
ยิ่งสลิ่มทั้งหลาย ยิ่งค่อนข้างสับสน วิตกกังวลกับประชามติในวันที่ 7 สิงหานี้ ประเภทไม่รู้จะเอายังไงดี มองซ้ายก็เดินหน้า มองขวาก็ถอยหลัง จนต้องนอนเอาเท้าก่ายหน้าผากกันทีเดียว !
จะรับก็แย่ เพราะต้องอยู่ไปอย่างนี้อีก 10 ปี พรรคตนเองไม่มีหวังได้แกนนำจัดตั้งเป็นรัฐบาล หรืออาจได้เป็น แต่เดอะมาร์คก็แค่เป็นที่ปรึกษา ไม่ได้เป็นผู้นำประเทศ แต่จะไม่รับก็แย่ เพราะจะไม่ได้เลือกตั้งอีกนาน ทำให้อนาคตทางการเมืองริบหรี่ลงไปเรื่อยๆ ดีไม่มี เกิดบางคนยิ่งอยู่นานยิ่งเพลิน ไม่อยากไปไหนขึ้นมา ก็จะแย่หนักลงไปอีก
แต่สำหรับผม เรื่องจะผ่านไม่ผ่าน ไม่ตื่นเต้น ไม่ใช่ปัญหา ขอร้องอย่างเดียวถ้า ปชป.จะทำพฤติกรรมเหมือนปีพฤษภา 35 ตอนล้มคุณสุจินดาอีก กรุณาอย่ามาชวนผมไปด้วยนะ ผมไม่ว่างครับ !!!
เมื่อสลิ่มมาถึงทางแยก ???
ที่เห็นด้วยก็ยกข้อดี ไม่เห็นด้วยก็ยกข้อเสีย วิจารณ์กันในมุมของตัวเอง แสดงทัศนะให้สังคมเห็นคล้อย รับหรือไม่รับเพราะอะไร ?
เป็นที่รู้ๆกันว่าพรรคการเมืองพรรคหนึ่งและกลุ่มการเมืองกลุ่มหนึ่ง แสดงเจตนารมณ์แน่วแน่เป็นเอกฉันท์ตั้งแต่เบื้องต้นแล้วว่า ยังไงก็ไม่รับ
แต่อีกฝากฝั่งหนึ่ง มิตรร่วมรบมาด้วยกัน ในสงครามขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ประเภทแยกกันเดินรวมกันตี ฝ่ายนี้ดันทะลึ่งมี 2 ขั้ว 2 ข้าง คือข้างหนึ่งเป็น “แฟนคลับลุงตู่” อีกข้างหนึ่งเป็น “แฟนคลับ ปชป.”
กลุ่มที่เป็น“แฟนคลับลุงตู่” ในแต่ละขั้วแต่ละข้างก็ยังแยกแตกตัวออกไปอีกเป็น 2 ข้างเหมือนกัน
คือข้างหนึ่ง อยากให้บ้านเมืองคงสภาพอยู่อย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ เพราะรู้สึกว่ากำลังสงบเงียบ ไม่มีม็อบ ไม่มีชุมนุม จึงไม่อยากเลือกตั้ง ไม่สนใจ รธน. จึงจะไม่ไปโหวตรับ !
อีกฝั่งหนึ่งมองไกลหน่อย อยากให้มีเลือกตั้งเป็นที่ยอมรับของต่างชาติ เพราะมองว่าถึงแม้จะมีเลือกตั้ง อย่างไรเสีย คสช.ก็จะยังคุมอำนาจต่อไปอยู่ดี จึงจะไปโหวตรับ
ส่วนข้าง“แฟนคลับ ปชป.” ก็ถือเป็นกลุ่มผู้มีพระคุณกลุ่มหนึ่งในการขับไล่รัฐบาลเก่าจนมีวันนี้ ก็แบ่งออกไปเป็น 2 ข้างเหมือนกัน
ข้างหนึ่งก็อยากให้มีการเลือกตั้ง โดยมีความหวังมาแต่ต้นว่า รธน.ฉบับนี้จะออกมาในแบบที่ข้างตนเองจะต้องได้เปรียบอีกฝั่งหนึ่งแน่ๆ ถึงแม้รัฐธรรมนูญจะเป็นอย่างไรในวันนี้ สุดท้าย ก็จะตะล่อมเข้ามาให้ฝั่งตนเองครองอำนาจจนได้ จึงจะไปโหวตรับ
แต่แฟนคลับอีกข้างหนึ่ง คิดหนักหน่อย เพราะเห็นว่าเป็นรัฐธรรมนูญกินรวบ ตนเองไม่ได้อะไร แถมยังจะถูกแย่งเอา “พุงปลาไปกิน”อีกด้วย ก็ออกอาการเคืองตะหงิดๆ จะไปโหวตไม่รับ
เดอะมาร์ค หัวหน้าพรรค ปชป. ก็ออกมาแนวๆนี้แหละ
จะเห็นอาการฟื๊ดฟ๊าดฮัดเช้ยๆ อิหลักอิเหลื่อของเดอะมาร์คที่ออกมาติติง รธน.ว่ามีข้อเสียมากกว่าข้อดี แถมเคืองชนิดควันออกหู ที่มีคำถามพ่วงของครูหยุย วัลลภ ตังคณานุรักษ์ สอดไส้เข้าไปอีกว่า จะให้ สว.เลือกนายกฯได้หรือไม่ ซึ่งเดอะมาร์คมองว่าเป็นการลิดรอนสิทธิของประชาชนไทย ว่าไปนั่น !
จึงออกมาขยับไมค์ ส่งสัญญาณแทนควันไฟไปให้ถึงหูบางคน เพื่อจะได้หาวิธีปรับแก้ให้เข้าทาง แต่เดอะมาร์คยังแทงกั๊ก ไม่ฟันธงว่า “รับ”หรือ “ไม่รับ”ชัดๆ ประมาณว่าให้บางคนลองไปคิดดูเป็นการบ้าน ว่าถ้าไม่ทำตามที่เดอะมาร์คพูด จะเกิดอะไรขึ้น ฮั่นแน่ ??
ยิ่งสลิ่มทั้งหลาย ยิ่งค่อนข้างสับสน วิตกกังวลกับประชามติในวันที่ 7 สิงหานี้ ประเภทไม่รู้จะเอายังไงดี มองซ้ายก็เดินหน้า มองขวาก็ถอยหลัง จนต้องนอนเอาเท้าก่ายหน้าผากกันทีเดียว !
จะรับก็แย่ เพราะต้องอยู่ไปอย่างนี้อีก 10 ปี พรรคตนเองไม่มีหวังได้แกนนำจัดตั้งเป็นรัฐบาล หรืออาจได้เป็น แต่เดอะมาร์คก็แค่เป็นที่ปรึกษา ไม่ได้เป็นผู้นำประเทศ แต่จะไม่รับก็แย่ เพราะจะไม่ได้เลือกตั้งอีกนาน ทำให้อนาคตทางการเมืองริบหรี่ลงไปเรื่อยๆ ดีไม่มี เกิดบางคนยิ่งอยู่นานยิ่งเพลิน ไม่อยากไปไหนขึ้นมา ก็จะแย่หนักลงไปอีก
แต่สำหรับผม เรื่องจะผ่านไม่ผ่าน ไม่ตื่นเต้น ไม่ใช่ปัญหา ขอร้องอย่างเดียวถ้า ปชป.จะทำพฤติกรรมเหมือนปีพฤษภา 35 ตอนล้มคุณสุจินดาอีก กรุณาอย่ามาชวนผมไปด้วยนะ ผมไม่ว่างครับ !!!