เธอเป็นชาวอังกฤษ เข้ามาอยู่เมืองไทยเพราะหลงใหลมวยไทย ระหว่างฝีกมวย ก็หารายได้พิเศษเป็นครูสอนภาษาอังกฤษไปด้วย
วันหนึ่งในคลาสเรียน มีนักเรียน (วัยผู้ใหญ่) เข้าเรียนสี่คน เป็นผู้ชายสอง ผู้หญิงสอง ระหว่างที่สอนอยู่นั้น
ช่วงหนึ่งนักเรียนก็หัวเราะ เธอรู้สึกได้ว่าพวกเขาหัวเราะเธอ แต่ไม่รู้เรื่องอะไร จึงทำสีหน้าสงสัย
ก่อนนักเรียนหญิงคนหนึ่งจะปรายตามองนักเรียนชายอีกคนและตอบว่า
"เขาว่าถ้าครูไม่ให้เขาผ่าน เขาจะปล้ำครู"
เธอนิ่ง แล้วเอ่ย
"I don't understand" เธอจริงจัง ทั้งสีหน้าและน้ำเสียง
"rape น่ะครู เขาจะข่มขืนครู" นักเรียนหญิงคนนั้นพยายามอธิบายต่อ
"ฉันเข้าใจคำนั้น" เธอ-ครูสอนภาษาอังกฤษ และเป็นชาวอังกฤษ พูดชัดและช้า
"แต่ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเล่นตลกอะไรแบบนี้"
นี่คือจุดเริ่มต้นในการค้นหาที่มาของวัฒนธรรมอันน่าขยะแขยง ที่พูดถึงการข่มขืนอย่างคะนองปาก
จนกระทั่งกลายมาเป็นบทความ
Rape Culture in Thailand ของ เอ็มมา โธมัส ครูสอนภาษาอังกฤษคนนั้น
บทความนี้ เข้าถึงจารีตผิดๆ ในละครไทยได้ลึกซึ้งยิ่ง อย่างละครบางเรื่อง
พระเอกปล้ำนางเอกในตอนแรกๆ แต่เมื่อพระเอกทำดีด้วยหน่อย นางเอกกลับโอนอ่อน
ท้ายที่สุดก็รักกัน จนคนดูลืมหรือหลงประเด็นใหญ่ที่สุด ในช่วงต้นเรื่องอย่างการข่มขืน กระทำชำเราจนหมดสิ้น
และเรื่องต่อๆ มาก็ปฏิบัติซ้ำแบบนี้อีก เรื่องแล้วเรื่องเล่า
ในบทความยังระบุถึงผลการศึกษาพบว่า ละครไทยที่ออกอากาศตลอดทั้งปี 2557 มีถึง 80%
พบฉากข่มขืน มันบ่อยจนคนซึมซับและรู้สึกได้ว่านี่คือส่วนหนึ่งของความสัมพันธ์ปกติ


และนี่อาจเป็นคำตอบว่าทำไมนักเรียนในคลาสภาษาอังกฤษ ถึงได้พูดออกมาอย่างไม่รู้สึกรู้สาเช่นนั้น
บทความเต็มๆ
https://undertheropes.com/2016/04/01/rape-culture-in-thailand/
บทความ Rape Culture in Thailand กับบทบาทข่มขืนผู้หญิง ในละครไทย
เธอเป็นชาวอังกฤษ เข้ามาอยู่เมืองไทยเพราะหลงใหลมวยไทย ระหว่างฝีกมวย ก็หารายได้พิเศษเป็นครูสอนภาษาอังกฤษไปด้วย
วันหนึ่งในคลาสเรียน มีนักเรียน (วัยผู้ใหญ่) เข้าเรียนสี่คน เป็นผู้ชายสอง ผู้หญิงสอง ระหว่างที่สอนอยู่นั้น
ช่วงหนึ่งนักเรียนก็หัวเราะ เธอรู้สึกได้ว่าพวกเขาหัวเราะเธอ แต่ไม่รู้เรื่องอะไร จึงทำสีหน้าสงสัย
ก่อนนักเรียนหญิงคนหนึ่งจะปรายตามองนักเรียนชายอีกคนและตอบว่า
"เขาว่าถ้าครูไม่ให้เขาผ่าน เขาจะปล้ำครู"
เธอนิ่ง แล้วเอ่ย
"I don't understand" เธอจริงจัง ทั้งสีหน้าและน้ำเสียง
"rape น่ะครู เขาจะข่มขืนครู" นักเรียนหญิงคนนั้นพยายามอธิบายต่อ
"ฉันเข้าใจคำนั้น" เธอ-ครูสอนภาษาอังกฤษ และเป็นชาวอังกฤษ พูดชัดและช้า
"แต่ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเล่นตลกอะไรแบบนี้"
นี่คือจุดเริ่มต้นในการค้นหาที่มาของวัฒนธรรมอันน่าขยะแขยง ที่พูดถึงการข่มขืนอย่างคะนองปาก
จนกระทั่งกลายมาเป็นบทความ Rape Culture in Thailand ของ เอ็มมา โธมัส ครูสอนภาษาอังกฤษคนนั้น
บทความนี้ เข้าถึงจารีตผิดๆ ในละครไทยได้ลึกซึ้งยิ่ง อย่างละครบางเรื่อง
พระเอกปล้ำนางเอกในตอนแรกๆ แต่เมื่อพระเอกทำดีด้วยหน่อย นางเอกกลับโอนอ่อน
ท้ายที่สุดก็รักกัน จนคนดูลืมหรือหลงประเด็นใหญ่ที่สุด ในช่วงต้นเรื่องอย่างการข่มขืน กระทำชำเราจนหมดสิ้น
และเรื่องต่อๆ มาก็ปฏิบัติซ้ำแบบนี้อีก เรื่องแล้วเรื่องเล่า
ในบทความยังระบุถึงผลการศึกษาพบว่า ละครไทยที่ออกอากาศตลอดทั้งปี 2557 มีถึง 80%
พบฉากข่มขืน มันบ่อยจนคนซึมซับและรู้สึกได้ว่านี่คือส่วนหนึ่งของความสัมพันธ์ปกติ
และนี่อาจเป็นคำตอบว่าทำไมนักเรียนในคลาสภาษาอังกฤษ ถึงได้พูดออกมาอย่างไม่รู้สึกรู้สาเช่นนั้น
บทความเต็มๆ https://undertheropes.com/2016/04/01/rape-culture-in-thailand/