ข่าวตามลิงก์นะครับ
http://manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9590000036919
เนื้อข่าวเด็ด --> “โครงการดังกล่าวมีกำหนดการอยู่ในห้วงเวลาตรงกันกับกิจกรรมประเพณีสงกรานต์ของชาวอำเภอปาย ซึ่งทางเทศบาลเป็นเจ้าภาพ และมีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดงานประเพณีสงกรานต์ อันมีกิจกรรมหลักที่เกี่ยวเนื่องตามหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริงเป็นอันมากอยู่แล้ว ดังนั้น ทางเทศบาลตำบลปาย ไม่สามารถร่วมเป็นกรรมการจัดงานดังกล่าวได้”
มองให้เห็นเป็นปรากฎการณ์.. จะเห็นประเด็นที่น่าสนใจแฝงอยู่
1.ปกติงานบุญใหญ่ช่วงสงกรานต์ในทุกถิ่นทั่วไทยล้วนจัดเป็นงานใหญ่อยู่แล้ว.. การดันอีเวนท์ในช่วงดังกล่าว ไม่มีการถามไถ่ อยากจัดก็จัดเลยโดยไม่ถามไถ่ อาศัย "ขอความร่วมมือ"... เป็นการรุกพื้นที่ทางวัฒนธรรมท้องถิ่นให้หดตัวลงหรือไม่?... การดักจัดงานตักบาตรก่อน ทำให้คนตักบาตรตามประเพณีท้องถิ่นลดน้อยลงหรือไม่?
2.ชัดเจนนะครับว่ามี "โต๊ะละ 1000" .. หากแห่งละ 100 โต๊ะก็ 7 แสนบาท, หาก 200 โต๊ะก็ล้านสี่แสนบาท.. อ้างถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว.. เงินจำนวนนี้จะมีการตรวจสอบหรือไม่?.. ส่วนของทำบุญที่เกินๆ ล้นๆ หากประเมินแล้วก็จะมี "มูลค่า" ไม่น่าจะต่างกันมากนัก...
3.การจัดอีเวนท์บุญดูดทรัพยากรบุญลักษณะนี้.. เป็นการส่งเสริมพุทธศาสนาจริงหรือ? ... หรือเป็นเพียงโปรโมทลัทธิใหญ่ ลดความสำคัญของพุทธในท้องถิ่นลงไป? พุทธแบบนี้สุดท้ายทรัพยากรบุญไปรวมศูนย์อยู่ที่ใคร?
จริงแล้วเราต้องการพุทธอีเวนท์บุญแบบนี้จริงๆ หรือครับ? .. ไหนว่าจะปฏิรูปการปกครองพุทธเป็นแบบกระจายอำนาจ ซึ่งจะทำให้พุทธไทยเราเข้าสู่ความเข้มแข็งในระดับฐานราก.. ทำไมผมรู้สึกว่าการเผยแผ่ของพุทธมันคล้ายยุคล่าอาณานิคมบุญเข้าไปทุกที.. เจ้าอาณานิคมบุญนี่คือความเข้มแข็งของพุทธศาสนาจริงๆ หรือครับ?
ข่าวผู้จัดการ: คัดค้านตักบาตรฟุ่มเฟือย-พุทธพาณิชย์ คนเมืองปายไม่เอาธรรมกาย--> 777 มหัศจรรย์ จัดงานยังไงไม่ดูใจคนท้องถิ่น
http://manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9590000036919
เนื้อข่าวเด็ด --> “โครงการดังกล่าวมีกำหนดการอยู่ในห้วงเวลาตรงกันกับกิจกรรมประเพณีสงกรานต์ของชาวอำเภอปาย ซึ่งทางเทศบาลเป็นเจ้าภาพ และมีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดงานประเพณีสงกรานต์ อันมีกิจกรรมหลักที่เกี่ยวเนื่องตามหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริงเป็นอันมากอยู่แล้ว ดังนั้น ทางเทศบาลตำบลปาย ไม่สามารถร่วมเป็นกรรมการจัดงานดังกล่าวได้”
มองให้เห็นเป็นปรากฎการณ์.. จะเห็นประเด็นที่น่าสนใจแฝงอยู่
1.ปกติงานบุญใหญ่ช่วงสงกรานต์ในทุกถิ่นทั่วไทยล้วนจัดเป็นงานใหญ่อยู่แล้ว.. การดันอีเวนท์ในช่วงดังกล่าว ไม่มีการถามไถ่ อยากจัดก็จัดเลยโดยไม่ถามไถ่ อาศัย "ขอความร่วมมือ"... เป็นการรุกพื้นที่ทางวัฒนธรรมท้องถิ่นให้หดตัวลงหรือไม่?... การดักจัดงานตักบาตรก่อน ทำให้คนตักบาตรตามประเพณีท้องถิ่นลดน้อยลงหรือไม่?
2.ชัดเจนนะครับว่ามี "โต๊ะละ 1000" .. หากแห่งละ 100 โต๊ะก็ 7 แสนบาท, หาก 200 โต๊ะก็ล้านสี่แสนบาท.. อ้างถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว.. เงินจำนวนนี้จะมีการตรวจสอบหรือไม่?.. ส่วนของทำบุญที่เกินๆ ล้นๆ หากประเมินแล้วก็จะมี "มูลค่า" ไม่น่าจะต่างกันมากนัก...
3.การจัดอีเวนท์บุญดูดทรัพยากรบุญลักษณะนี้.. เป็นการส่งเสริมพุทธศาสนาจริงหรือ? ... หรือเป็นเพียงโปรโมทลัทธิใหญ่ ลดความสำคัญของพุทธในท้องถิ่นลงไป? พุทธแบบนี้สุดท้ายทรัพยากรบุญไปรวมศูนย์อยู่ที่ใคร?
จริงแล้วเราต้องการพุทธอีเวนท์บุญแบบนี้จริงๆ หรือครับ? .. ไหนว่าจะปฏิรูปการปกครองพุทธเป็นแบบกระจายอำนาจ ซึ่งจะทำให้พุทธไทยเราเข้าสู่ความเข้มแข็งในระดับฐานราก.. ทำไมผมรู้สึกว่าการเผยแผ่ของพุทธมันคล้ายยุคล่าอาณานิคมบุญเข้าไปทุกที.. เจ้าอาณานิคมบุญนี่คือความเข้มแข็งของพุทธศาสนาจริงๆ หรือครับ?