ขอเท้าความก่อนนะคะเมื่อปีที่แล้วได้มีโอกาสจะเปิดร้านกาแฟสดเลยลงทุนทำซุ้มไปประมาณ7หมื่นกว่า เรียนชงกาแฟ เรียน ทำน้ำปั่น ซื้อเครื่องกาแฟสดคือลงทุนไปเกือบ2แสน แน่นอนที่สุดมันคือการกู้แต่ปรากฏว่าซุ้มตั้งไม่ได้เพราะทางสถานที่พึ่งออกระเบียบการใหม่ ไม่ให้ตั้งขายของนอกอาคาร เราก็เลยต้องทำเรื่องเข้าไปใหม่ขอใหม่ยื่นเรื่องไป ประมาณกันยายนปีที่แล้วกว่าได้ที่เปิดก็เมื่อต้นปี ระหว่างนั้นก็หมุนเงินที่กู้มา เกือบตายเพราะเงินลงไปแล้วซุ้มทำไปแล้วแต่ไม่ได้ขายแถมซุ้มก็ยังขายไม่ได้
เครียดมาก พึ่งมาได้เปิดขายได้เมื่อต้นปี อยู่ในอาคาร แต่เป็นจุดที่คนไม่ได้เดินผ่าน ระหว่างทำเรื่องขอใหม่ พอดีแถวบ้านเค้าจะเปิดศูนอาหารเราเลยไปติดต่อ เค้าเก็บค่าเช่าเดือนละ4500 (เป็นร้านเดียวที่เสียค่าเช่าเพราะร้านอื่นเค้าตั้งเป็นแผงลอย)วัน2วันแรกก็พอขายได้เพราะมีร้านอาหารมาเปิดหลายร้านอยู่ แต่ร้านอาหารเปิดขายกันไม่เท่าไหร่ก็ไปหมด เหลือร้านกาแฟเราอยู่ร้านเดียว ขายใครล่ะทีนี้ เลยต้องย้าย เพราะระหว่างขาย ก็มีเจ้าของตึกแถวที่เค้าให้เช่าขายอาหารมาติดต่อให้เรายกซุ้มไปขายน้ำที่หน้าตึกเค้า เราเลยยกซุ้มไปขายน้ำหน้าตึกเค้าเสียค่ารถยกไปอีก5000 ก็ขายพอได้นะเราขายตั้งแต่5โมงเย็นถึงประมาณ4ทุ่ม หักค่าเช่าค่าของก็เหลือวันประมาณ4-5ร้อยตอนหลังก็มีลูกค้าประจำเยอะขึ้น ขายได้3เดือนเรื่องร้านที่ขอเปิดก็เรียบร้อย เราเลยเซ้งตรงที่ขายที่ตึกแถวให้น้องที่รู้จักน้องเค้า ไม่มีเงินก้อนเค้าเลยขอผ่อนเราก็ตกลง ทีนี่ได้เปิดที่ใหม่ก็ต้องทำใหม่ ต่อน้ำต่อไฟเข้ามาใหม่รวมๆแล้วเสียเพิ่มไปอีกประมาณ4หมื่นแน่นอนกู้เงินเหมือนเดิมค่ะ เปิดขายเดือนแรกก็พอมีคนรู้จักเดือนที่2ก็ขายดีขึ้น อย่างที่บอกมันไม่ใช่จุดที่คนเดินผ่านลูกค้าส่วนมากก็เป็นลูกค้าประจำ ที่หลงเดินเข้ามาพอซื้อแล้วก็มาซื้ออีก เดือนที่แล้วขายได้ดีหน่อยก็ รวบรวมเงินเอาไปจ่ายหนี้ไม่ได้ส่งมา2เดือนแล้วแต่คนมันจะซวยทำกระเป๋าตังหาย เงินที่จะใช้หนี้เงินที่จะซื้อของไปหมด ถามเราไม่รู้หลอกค่ะว่าเท่าไหร่รู้แต่ทั้งหมดเท่าที่มี เพราะไม่มีเวลาเอาเงินไปฝากเลยขายของเสร็จกลับห้อง วันนั้นเป็นวันแรกที่กลับเร็ว เลยตั้งใจหอบเงินไปจ่ายหนี้ แล้วจะเอาไปฝากด้วย ร้องให้จนตาบวดเลยโมโหตัวเองที่ชุ่ย
มีเงินจำนวนนึงเลือกมาลงทุนเพิ่มแล้วค่อยใช้หนี้ที่หลังทำถูกใช่ใหมคะ
เครียดมาก พึ่งมาได้เปิดขายได้เมื่อต้นปี อยู่ในอาคาร แต่เป็นจุดที่คนไม่ได้เดินผ่าน ระหว่างทำเรื่องขอใหม่ พอดีแถวบ้านเค้าจะเปิดศูนอาหารเราเลยไปติดต่อ เค้าเก็บค่าเช่าเดือนละ4500 (เป็นร้านเดียวที่เสียค่าเช่าเพราะร้านอื่นเค้าตั้งเป็นแผงลอย)วัน2วันแรกก็พอขายได้เพราะมีร้านอาหารมาเปิดหลายร้านอยู่ แต่ร้านอาหารเปิดขายกันไม่เท่าไหร่ก็ไปหมด เหลือร้านกาแฟเราอยู่ร้านเดียว ขายใครล่ะทีนี้ เลยต้องย้าย เพราะระหว่างขาย ก็มีเจ้าของตึกแถวที่เค้าให้เช่าขายอาหารมาติดต่อให้เรายกซุ้มไปขายน้ำที่หน้าตึกเค้า เราเลยยกซุ้มไปขายน้ำหน้าตึกเค้าเสียค่ารถยกไปอีก5000 ก็ขายพอได้นะเราขายตั้งแต่5โมงเย็นถึงประมาณ4ทุ่ม หักค่าเช่าค่าของก็เหลือวันประมาณ4-5ร้อยตอนหลังก็มีลูกค้าประจำเยอะขึ้น ขายได้3เดือนเรื่องร้านที่ขอเปิดก็เรียบร้อย เราเลยเซ้งตรงที่ขายที่ตึกแถวให้น้องที่รู้จักน้องเค้า ไม่มีเงินก้อนเค้าเลยขอผ่อนเราก็ตกลง ทีนี่ได้เปิดที่ใหม่ก็ต้องทำใหม่ ต่อน้ำต่อไฟเข้ามาใหม่รวมๆแล้วเสียเพิ่มไปอีกประมาณ4หมื่นแน่นอนกู้เงินเหมือนเดิมค่ะ เปิดขายเดือนแรกก็พอมีคนรู้จักเดือนที่2ก็ขายดีขึ้น อย่างที่บอกมันไม่ใช่จุดที่คนเดินผ่านลูกค้าส่วนมากก็เป็นลูกค้าประจำ ที่หลงเดินเข้ามาพอซื้อแล้วก็มาซื้ออีก เดือนที่แล้วขายได้ดีหน่อยก็ รวบรวมเงินเอาไปจ่ายหนี้ไม่ได้ส่งมา2เดือนแล้วแต่คนมันจะซวยทำกระเป๋าตังหาย เงินที่จะใช้หนี้เงินที่จะซื้อของไปหมด ถามเราไม่รู้หลอกค่ะว่าเท่าไหร่รู้แต่ทั้งหมดเท่าที่มี เพราะไม่มีเวลาเอาเงินไปฝากเลยขายของเสร็จกลับห้อง วันนั้นเป็นวันแรกที่กลับเร็ว เลยตั้งใจหอบเงินไปจ่ายหนี้ แล้วจะเอาไปฝากด้วย ร้องให้จนตาบวดเลยโมโหตัวเองที่ชุ่ย