เรื่องของเรื่องคือ ฉันเป็นนักเรียนวมว.

เรื่องของเรื่องคือ ฉันเป็นนักเรียนวมว.แห่งหนึ่งในจังหวัดภาคกลางที่ไม่ใช่กรุงเทพมหานคร... ขณะนี้รับนักเรียนสองห้องในปีการศึกษา 2559
หลายๆคนที่เข้ามาอ่านอาจจะรู้แล้วว่าเป็นศูนย์ไหน โรงเรียนอะไรยังไง แต่หลายๆคนที่เข้ามาอ่านก็อาจจะงงๆ เอ๊ะ วมว.คืออะไร
ขอเล่าแบบย่อๆ ตัดมาได้ใจความเลยแล้วกัน มันเป็นห้องเรียนพิเศษโครงการวิทยาศาสตร์ไรงี้ ที่กำกับโดยมหาวิทยาลัย
สั้นๆก็คือ เรียนฟรีมีเงินเดือนมีที่พัก(เป็นนักเรียนประจำ)แล้วก็มีอะไรพิเศษๆกว่านักเรียนปกตินิดหน่อย ซึ่งแล้วแต่ทางแต่ละศูนย์จะจัดสรรงบประมาณ...
.
นี่เป็นการเขียนกระทู้ครั้งแรก ถ้าผิดอะไรยังไงก็ขออภัยไว้ก่อนตรงนี้เลยนะคะ ป.ล.ยืมไอดีเพื่อนมา
.
ปกติงบประมาณที่จัดให้นักเรียนแต่ละคนได้รับในแต่ละปีการศึกษาคือ 200,000 บาท ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนเงินที่เยอะมากๆ มากเกินพอเลยด้วยซ้ำ
ศูนย์ที่เราอยู่ จัดงบประมาณเป็นเงินเดือนให้นักเรียน ให้ค่าน้ำค่าไฟ นอกจากนี้จะมีค่าเทอมของโรงเรียน ค่าเทอมของมหาวิทยาลัยรวมถึงค่าแลปต่างๆ ค่ารถ(ที่ใช้รับส่งนักเรียน) ค่าหอ ค่าทำกิจกรรมต่างๆ ทั้งหมดนี้ก็ถูกรวมไปในเงินจำนวน 200,000 บาทแล้ว
.
มาถึงตรงนี้ เชื่อว่าผู้อ่านหลายๆท่านคงจะเริ่มสนใจโครงการนี้ขึ้นมาแล้วใช่มั๊ยค่ะ
ใช่ค่ะ เพราะเราเอง ก็สนใจเอามากๆตั้งแต่ตอนม.3 ตั้งแต่ตอนที่กำลังเตรียมตัวสอบเข้ารร.มหิดลวิทยานุสรณ์
อย่างที่หลายท่านทราบกันดีว่าเราสามารถเลือกสอบรร.มหิดลวิทยานุสรณ์คู่กับโรงเรียนจุฬาภรณ์หรือโครงการวมว.ได้
เราเองก็เลือกโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์คู่กับโครงการวมว.ศูนย์ปัจจุบันที่เราศึกษาอยู่
พอประกาศผลรอบแรกมา เราไม่ติดมหิดล ก็แอบเสียใจนะ แต่ก็โอเค เพราะเราเองก็ยังเตรียมตัวไม่พร้อมเท่าคนอื่นเขา
แต่เราสอบติดโครงการวมว. คือ ณ จุดจุดนั้นเราดีใจมากกกกกกกกกก แบบ ชีวิตฉันจะดีแล้วแกร เหลือสอบรอบสองอีกนิดนึง
.
ณ วันสอบรอบสอง
ก็มีการแนะนำโครงการ บลาๆ อะไรหลายอย่าง
รวมไปถึง ข้อที่เราชอบมากๆคือ ที่นี่จะมีการสอบวัดผลทางภาษาอังกฤษโดยการสอบโทอิค
ซึ่งถ้านักเรียนได้คะแนนน้อย ก็จะมีการเปิดสอนติวให้นอกเหนือเวลาเรียน โดยเฉพาะเลย
คือโดยส่วนตัวเราเป็นคนชอบภาษาอังกฤษมากๆ พอรู้ว่ามีอะไรดีๆแบบนี้ก็ยิ่งชอบมากๆๆๆๆๆๆขึ้นไปกว่าเดิมอีก
.
พอสอบรอบสองเสร็จแล้วเราก็สอบติด อันนั้นคือปริ่มยิ่งกว่ารอบแรกอีก ดีใจมาก ดีใจแบบ กระโดดทั่วบ้านเลย
เราก็เลยลาออกจากรร.เก่าแล้วเลือกมายืนยันสิทธิ์ที่นี่ ตัดสินใจแน่วแน่ว่ายังไงก็จะมาเรียนที่นี่แน่
(รร.เก่าเราอยู่ในกทม. เป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงพอสมควร บุคลากรคนใหญ่คนโต ส่วนใหญ่ท่านก็เรียนที่นี่กัน)
เราก็แอบเสียดายที่ต้องลาออกจากรร.เก่านะ แต่ก็มาคิดๆดู อยู่วมว.นี่ได้เรียนฟรีและอะไรอีกหลายๆอย่างเลย
.
มาถึงตอนเรียน
เข้ามาม.4 ชีวิตปกติดี เอ้อ ลืมบอกไป ถ้านับรุ่นของวมว.รวม เรารุ่นเจ็ด แต่ถ้าของศูนย์เรา เราเป็นรุ่นสี่
เวลาเรียกแทนรุ่นเรา หรือรุ่นพี่ รุ่นน้อง จะเรียกตามรุ่นของศูนย์เรานะ
(ต่อๆ) ตอนนั้น เราเพิ่งเข้าไปม.4 ชีวิตก็ยังงงๆกับที่ใหม่ๆ ช่วงซัมเมอร์ก็มีการเรียนปรับพื้นฐานปกติ...
เรียนที่โรงเรียนกับอาจารย์ที่โรงเรียน (ปกติตอนเปิดเทอมจริงๆ วิทย์คณิตจะเรียนกับอาจารย์มหาลัย)
ปกติๆ ธรรมดา ไม่มีอะไร
แล้ววันหนึ่งเราก็ทราบว่า พี่รุ่นสองกำลังทำโครงงานเพื่อไปแข่งฟอรั่ม ตู้หูว โครงงานของพี่แต่ละคนที่สุดยอดทั้งนั้น
.
[1. ประเด็นที่หนึ่ง โครงงานเจ้าปัญหา]
.
ซึ่งตอนนั้น การเบิกงบประมาณของโครงงานคือ... ให้เงินไปทั้งปึก แบบว่า สมมติมีงบมาให้ พันนึง ก็เอาไปพันนึงเลย
แต่พอรุ่นสามเป็นต้นมา ทางโรงเรียนก็ปรับให้เป็นการเอาใบเสร็จไปเบิกแทน............................................................
กลุ่มไหนใช้ไม่ครบหนึ่งพันบาท(งบสมมติ) ก็ไม่ได้ให้ครบหนึ่งพันบาท อันนี้คือประเด็นแรก เราก็ยังพอโอเคนะ อะทำใจ.........
แต่มันไม่ใช่แค่นี้ คือปกติ งบโครงงาน และการจัดการเรื่องต่างๆจะถูกส่งมาที่โรงเรียน และโครงงานที่เข้าแข่งขันฟอรั่มจะมีสองแบบคือ โปสเตอร์และออรัล (ออรัลคือโครงงานพรีเซนต์ภาษาอังกฤษ) ตอนแรกทางโรงเรียนแจ้งผ่านนักเรียน และฝากบอกต่อกันมาเรื่อยๆ ว่า
"โครงงานออรัล สามารถลงแข่งขันได้แค่หนึ่งกลุ่มต่อหนึ่งสาขา เท่านั้น"
ในห้องเราก็เลยตกลงกัน กลุ่มไหนที่เลือกสาขาลงได้ก่อนแล้วอยากลงออรัลก็ลงไป ส่วนโครงงานกลุ่มเราก็ยังไม่ได้สาขา พอเรามาคุยกับอาจารย์ที่ปรึกษาก็สรุปได้ว่า ลงเป็นโครงงานสาขาชีวะไป
เวลาก็ผ่านไปเรื่อยๆจนกระทั่งเราทำโครงงานใกล้จะเสร็จแล้ว ทางโรงเรียนก็เรียกประชุมอาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานอีกรอบ แล้วทางโรงเรียนก็บอกว่า
"โครงงานออรัลสามารถลงกี่กลุ่มก็ได้ แต่ที่นักเรียนไม่ลงกัน ก็เพราะถอดใจ กลัวเหนื่อย"
เห้ย คือไรว้ะ อันนี้เราไม่พอใจมากๆ คือบ้าป่ะ กลุ่มเราที่แรกจะลงออรัล แต่สาขาที่เราจะลงคือมีเพื่อนลงก่อนแล้ว เราก็เลยไม่ได้ลง แล้วโรงเรียนมาพูดงี้คือไรว้ะ! เห้ย ไม่เข้าใจ คือต้องการอะไร แกล้งนักเรียน? สะใจ?  โรงเรียนทำยังงี้เพื่ออะไร? โมโหแรงมาก เพื่อนในห้องเราก็งงกันไปถ้วนหน้า อึ้งกิมกี่กันไปทั้งบาง
*โยนขี้ก้อนที่หนึ่ง*
.
[2. ประเด็นที่สอง ไปญี่ปุ่น...ช่างลุ้นนัก]
แล้วพอหลังจากนั้น เราก็มารู้ว่ารุ่นพี่รุ่นสองจะไปญี่ปุ่น! เราก็แบบ โว้ว ว้าว ที่นี่เขาไปญี่ปุ่นด้วยเหรอ โหยดีอะแกร๊
แล้วพอฉันอยู่ม.5ฉันก็ได้ไปงี้อะดิ่ เกร๋ๆอะ โรงเรียนเก่าไม่ได้ไปหว่ะ อิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิ ตอนนั้นคือ ปริ่มขั้นสุด ได้ไปญี่ปุ่นด้วย ดีใจมาก แต่การไปญี่ปุ่นนั้น โรงเรียนจะมีงบประมาณให้คนละ 10,000 บาท ซึ่งนอกจากนี้นักเรียนก็ต้องออกค่าใช้จ่ายเอง (ประมาณ 3x,xxx) เราก็แบบ เออๆ แพงนะ แต่ไปกับเพื่อนหว่ะ อยากไป แถมได้ไปพรีเซนต์โครงงาน บลาๆด้วย เกร๋ๆ
รุ่นหนึ่ง ไปสิงคโปร์ ไปฟรี รุ่นสอง ไปญี่ปุ่น เสียตังค์ อะ สิงคโปร์มันใกล้ ญี่ปุ่นแพงกว่า อืมๆ อันนี้เข้าใจ ไม่มีอะไร ข้ามมันไป
ต่อมา เรากำลังจะขึ้นม.5 แน่นอนว่าก็ต้องเป็นช่วงที่รุ่นพี่รุ่นสามจะได้ไปญี่ปุ่นเหมือนกัน แต่รุ่นพี่รุ่นสามตัดสินใจขอเลื่อนเป็นไปตอนม.6แทน อ่า โรงเรียนก็โอเค ตามบาย ได้เหล่ย นักเรียนขอมา โรงเรียนจัดให้จย้า แล้วพอตอนรุ่นเราใกล้ๆจะจบเทอม 2 ของม.5 โรงเรียนก็ให้ตัวแทนเพื่อนมาถามเลยจ้า ว่าจะไปประเทศไหน นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ ญี่ปุ่น เวียดนาม ซึ่งค่าใช้จ่าย...
นิวซีแลนด์ ประมาณแปดหมื่น สิงคโปร์ ฟรี ญี่ปุ่น สามหมื่นกว่า เวียดนาม ฟรี
ทั้งห้องเราก็อยากไปญี่ปุ่นกัน แต่ก็มีเพื่อนบางคนที่ไม่สามารถออกค่าใช้จ่ายได้ ดังนั้นห้องเราจึงตัดสินใจเลือกสิงคโปร์
ณ วันที่ไปเสนอกับอาจารย์ท่านหนึ่งของโรงเรียน
ขอไปสิงคโปร์ แต่อาจารย์สวนกลับมาว่า "ไปสิงคโปร์ไม่ได้ ผมไม่มี connection กับทางมหาวิทยาลัยของสิงคโปร์ แต่ถ้าไปญี่ปุ่น ไปได้ เพราะผมมี connection กับทางมหาวิทยาลัยของเขา" ห้องเราก็เครียดๆกัน แต่เพื่อนเราคนหนึ่งมาบอกกับเราว่า มีอีกศูนย์หนึ่งเขาไปเกาหลีกัน ฟรีด้วย ไอเรา ด้วยความที่อยากให้เพื่อนทั้งห้องได้ไปด้วยกัน ก็เลยเสนออาจารย์ไปเลยว่า (อันนี้จำบทสนทนาได้แม่น)
เรา: อาจารย์คะ งั้นไปเกาหลีแทนได้มั๊ยคะ มีเพื่อนต่างศูนย์ก็ไปนะคะ ไม่เสียเงินด้วย หนูว่า.. (จริงๆจะตอบว่าค่าใช้จ่ายน่าจะถูกกว่าญี่ปุ่นนะคะ แต่อาจารย์คนนั้นก็สวนกลับมาทันที เน้นว่า ทันที! แบบไม่รอให้เราพูดจบเลย)
อาจารย์: คุณก็ไปติดต่อมหาวิทยาลัยของเกาหลีมาให้ผมสิ ติดต่อให้หน่อย แล้วผมจะพาไปเลย
เราอึ้งมากค่ะ คือเราแค่เสนอเฉยๆ เผื่อว่าอาจจะเป็นไปได้ ด้วยความคิดของเด็ก... ทำไมถึงต้องสวนกลับมาแบบนี้? คือความคิดเราอาจจะห่วยไป แต่เราไม่ได้มีเจตนาร้ายหรืออะไรเลยนะ แถมตอนนั้นที่เราพูด เราก็ไม่ได้ขึ้นเสียงด้วย ไม่ได้ชักสีหน้าหรืออะไรเลย ทำหน้าปกติแนวอ้อนวอนซะด้วยซ้ำ เราพูดค่ะ คะ ทุกคำเลยด้วย แต่อาจารย์เขาสวนกลับมาแบบนี้ เราก็ -.- ไม่อยากจะอคตินะ แต่แบบ... ก็ดูสิคะ
หลังจากวันนั้น สรุปได้ใจความกันมากว่า เขาจะพารุ่นเราไปญี่ปุ่นหลังจบฟอรั่มค่ะ โดยมีการออกค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมคนละสามหมื่นกว่าบาท ฮัลโหล แล้วจะเสนอประเทศมาให้เลือกเพื่อติ่งอะไรจ้ะ
....แต่วันนี้ เราได้รับแจ้งอย่างลับๆมาว่า.....
รุ่นสี่ คือรุ่นที่ถูกโรงเรียนกลั่นแกล้งทุกวิธีทาง (มันมีสตอรี่นะตรงนี้ แต่ขอเล่าวันหลังนะ5555555555) แกล้งทุกๆอย่างทั้งแต่ค่ายสานฯ (ประเด็นต่อไป) จนถึงเรื่องไปญี่ปุ่น งานนี้จบไม่สวยแน่นอน มีดราม่าแน่ๆ ตอนที่พารุ่นสามไป ก็มีพี่บางคนที่ไม่ไป อ่าว งี้แล้วงบหนี่งหมื่นที่ให้นักเรียนแต่ละคนหายไปไหนหว่า แล้วถ้าไม่พารุ่นเราไป แล้วงบจะหายไปไหนหว่า... แล้วถ้าพาไปม.6นี่คือสรุปได้เลยว่า "โรงเรียนนี้ตั้งใจกลั่นแกล้งรุ่นสี่จริงๆ"
และ ทางโรงเรียนบอกว่าจะพาไปหลังฟอรั่ม (ต้นพ.ค.59) มารอดูกันค่าคุณผู้โชมมม
.
อมก. คืออะไร นี่โยนขี้ใส่รุ่นสี่อีกแล้วเหรอ ทำไมถึงทำแบบนี้?
มีผปครวมถึงนักเรียนหลายคนบ่นมากๆ ว่าตัดสินใจเลือกมาที่นี่แล้วผิดหวังสุดๆ เสียใจมากที่มาเรียนที่นี่
.
[ประเด็นที่ 3 ค่ายสานสัมพันธ์ ฉันรักเธอ อิอิ]
รุ่นเจ็ด เข้าค่ายที่ไหนจ๊ะ..................สงขลาจ้าสงขลา คือสงขลาเป็นอะไรที่ไกลมากจากศูนย์เราซึ่งอยู่ภาคกลาง นั่งรถไปนี่คือตูดบานแน่ๆ
แล้วให้ทายว่าเรานั่งอะไรไป......
"รถบัสสองชั้นจ้า"
ระยะเวลาที่นั่งรถกับเข้าค่ายนี่เกือบสองอาทิตย์ได้มั๊ง555555555 นั่งเบาะจนตัวจะเป็นรูปเก้าอี้แล้วจ้า แล้วคือ นั่งรถไม่ใช่ประเด็นหลัก ประเด็นคือ มีอีกศูนย์เช่นกันที่นั่งรถมา แต่ศูนย์นั้น เขาพาไปแวะพักก่อนที่ตจว.คืนหนึ่ง มีกินอาหารทะเลอิ่มหนำสำราญ นอนหลับสบายใจ............. ส่วนศูนย์ไหนที่ไม่ได้นั่งรถ เขาก็นั่งเครื่องบินกันมานะจ๊ะ ล้ะศูนย์เราคือระ นั่งรถ แวะปั๊ม กินข้าวเซเว่น หืม นอนก็นอนบนรถ อันตรายก็อันตรายนะ ไปถึงสงขลาเลย ไม่ใช่ไปพักผ่อนตากอากาศที่หัวหินนะคะท่าน
แต่เรื่องที่ทำเราปรี๊ดแตกสุดๆคือ ค่ายสานฯรุ่นแปด จัดที่มหาสารคาม
แล้วรุ่นห้านั่งเครื่อง.......................................... อืม ไปมหาสารคามนั่งเครื่อง ไปสงขลานั่งรถ จ้า
โยนขี้มาอีกแล้วหนิ55555555555555
.
[ประเด็นที่ 4 ฉันอยากไปทัศนศึกษาจังเหล่ยแกร๊]
อันนี้ขอเล่าแบบกระชับฉับไวนะ
อนึ่ง คือควรจะมีการพานักเรียนไปเข้าค่าย หรืออบรมกิจกรรมนอกสถานที่ ซึ่งพอมาถึงรุ่นเรา... มันไม่มี๊ไม่มี มันมีแค่ค่ายดาราศาสตร์ อันนี้ไม่เกี่ยวกับโรงเรียนเลย มหาวิทยาลัยเขาจัดทุกปีอยู่แล้ว ต่อมา ค่ายวิจัยฯของชมรม...ก็ส่วนหนึ่งของชมรมอะ คือมันต้องมีอยู่แล้วไง ไม่มีไม่ได้ หลังจากนี้ก็มีแต่ค่ายของโรงเรียน เช่นค่ายวิทย์ ค่ายผู้นำ คือมันไม่ใช่อะแกร๊ มันไม่ใช่เลยจริงๆ ส่วนทัศนศึกษาเหรอ... จำได้ว่าถ้าพาไปแค่วมว.นี่มีอยู่ครั้งเดียวหรือสองครั้งเองนะ ไม่มากกว่านี้ ฮัลโหล งบหายไปไหนเหรอ รุ่นหนึ่งได้งบเยอะกว่ารุ่นสี่เหรอ เอ๊ะ ก็ไม่น่าจะใช่นะ ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น นักเรียนโครงการวิทย์นี่ไม่ใช่ที่ต้องการพัฒนาเด็กเหรอ คือไม่พาไปดูงานหน่อยเหรอ ไม่สนับสนุนให้ชอบวิทยาศาสตร์อะไรเลยเหรอ เห็นศูนย์อื่นเขาก็พาไปกันนะ เอ๊ะงงแรง
.
ตัวอักษรเต็มล้ะ55555 เดี๋ยวพิมพ์ต่อที่คอมเมนต์น่าจ่า
แล้วก็ต้องขออภัยที่บางคำก็วิบัติ แต่เพื่อรรถรสในการอ่าน5555 และถ้าหากแท็กผิดห้องขออภัย
.
ยังไม่อยากโดนไล่ออกนะ5555555555555555555555555
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
จุดประสงค์ของการตั้งกระทู้นี้ไม่ใช่มาเพื่อประจานศูนย์ตัวเองหรือประจานอะไรทั้งนั้น แต่อยากเป็นหูเป็นตาเป็นปากแทนนักเรียนในศูนย์เราทุกๆคน ไม่มีใครคนอื่นที่จะมาเข้าใจความรู้สึกที่ต้องพบเจอได้มากกว่าพวกเราอีกแล้ว พูดตรงๆเลยว่าตอนนี้พิมพ์ไปก็ร้องไห้นะ คือเสียใจที่ตัดสินใจลาออกจากรร.เก่าแล้วย้ายมาอยู่ที่นี่ ตอนแรกคิดว่าจะเจออะไรที่ดีๆ แต่พอมาอยู่จริงๆแล้วไม่ใช่อย่างที่คิดไว้เลย ถึงแม้ทางมหาวิทยาลัยจะดูแลนักเรียนดีมากๆ แต่ทางโรงเรียนกลับหาทางกลั่นแกล้งตลอด... ใช่ ถ้าถามจากปากอาจารย์ในโรงเรียนตรงๆ เขาก็จะบอกมาว่า “ใครจะไปแกล้งนักเรียนวมว.ได้ ไม่มีใครแกล้งพวกคุณหรอก” แต่การกระทำที่พวกคุณทำอยู่มันตรงข้ามกับสิ่งที่พวกคุณพูดมากๆ เราอยากให้การตั้งกระทู้ครั้งนี้เป็นสิ่งเตือนใจให้กับอาจารย์และคณะผู้บริหารที่โรงเรียน ให้ช่วยพิจารณาในเรื่องปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น ให้ช่วยแก้ไข และจัดการทุกเรื่องให้เป็นธรรมด้วย รวมถึงเรื่องวิชาเลือกด้วย(ประเด็นนี้ยังไม่ได้เล่า ตัวอักษรเต็มก่อน) หลายๆเรื่องมันก็เป็นเรื่องที่พูดไม่ได้ หรือไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ แต่เชื่อว่าทุกๆคนก็ประสบปัญหาเหล่านั้นอยู่เต็มอก เรื่องบางเรื่องก็ต้องอาศัยทั้งน้ำพักน้ำแรงของอาจารย์และนักเรียนร่วมกัน แต่ในเมื่ออาจารย์ไม่เริ่ม นักเรียนจะไปเริ่มได้ไง
ยอมรับนะว่ามีหลายครั้งที่นักเรียนก็รวมกันทำเรื่องไม่ดี แต่นั้นก็เป็นเพราะเราอยากเรียกร้องสิทธิที่เราควรจะได้ เรียกร้องในสิ่งที่มันเคยเกิดขึ้นกับรุ่นหนึ่ง เรียกร้องหาสิ่งดีๆที่มันไม่มี ณ ตอนนี้ ที่เราทำอะไรกันไป ก็เพราะอยากเรียกร้องสิ่งเหล่านั้นกลับคืนมา เพื่พวกเราเอง และเพื่อนรุ่นน้องรุ่นหลังจากนี้ (ถ้าจะสามารถเป็นไปได้จริง) ถ้าเราไม่เรียกร้องสิทธิของเรากลับมาในวันนี้ รุ่นน้องรุ่นหน้าและรุ่นต่อๆไปที่เข้ามาก็จะไม่เหลืออะไรอีกเลย สิทธิพิเศษอะไรหลายๆอย่าง พวกเขาจะไม่ได้รับมันอีกเลย ทั้งๆที่โรงเรียนก็บอกว่าเป็น “นักเรียนทุน”
และอยากฝากถึงรุ่นน้องต่อๆไปในปีหน้าหน้าที่เลือกที่จะมาสมัครเข้าที่นี่ ขอเตือนเลยว่าน้องจะต้องมาพบเจอปัญหาอีกหลายอย่างที่มันเกินเยียวยา ถ้าน้องไม่อยากเป็นแบบรุ่นพี่ที่พลาดตัดสินใจผิด ก็อย่าเลือกสมัครเลย อยู่รร.เดิมของน้องเถอะ เรียนที่นี่ วิชาการได้ โควต้าได้ แต่น้องจะยอมทนกับเรื่องบ้าๆไป 3 ปีเลยเหรอ? เวลาส่วนตัวแทบไม่มี ถูกใช้วานสารพัด เพียงเพรา “เป็นนักเรียนทุน” คือมันไม่ได้เกี่ยวอะไรเลย แต่โรงเรียนก็อ้างคำพูดว่า “เป็นนักเรียนทุน” อยู่ตลอด ใช้งานสารพัดจนแทบไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง วานให้ทำโน่นทำนี่ ทั้งๆที่นักเรียนห้องปกติไม่ได้ทำอะไรเลย นี่ยังไม่นับกีฬาสียอดแย่ที่สร้างปัญหาได้ทุกปี รวมไปถึงการวางระบบชมรมที่บังคับอะไรก็ไม่รู้อีกมากมาย คือมันแย่มาก อย่ามาเลย ได้ทุน ได้โควต้า ก็จริง แต่เอามาแลกมันก็ไม่คุ้มกันหรอก อยู่รร.เก่าของน้อง แล้วตั้งใจเรียน ไปสอบตรง แอดมิชชั่นยังจะซะกว่า น้องอาจคิดว่ามันเท่จะตาย เป็นนักเรียนทุน ยังไงเรื่องอะไรแบบนี้น้องก็ทนได้อยู่แล้ว งั้นก็เอาเลย มาสมัครเลย แล้วน้องจะรู้ว่ามันไม่ได้สวยหรูเหมือนในกระทู้เด็กดีหรอก
.
ป.ล. ยังมีประเด็นที่ค้างที่ยังไม่ได้เล่าอีกหลายอย่าง
.
ป.ล.2 อยากให้ช่วยแชร์กระทู้นี้ ช่วยเป็นปากเป็นเสียงแทนเราที ไม่รู้จะหันไปพึ่งใครเลยจริงๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่