แสงดาวข้ามกาลเวลา#3

พราวนภาลุกขึ้นแต่งตัวไปทำงานเหมือนทุกวัน
เธอลืมความเศร้าไปแล้วหลังจากมีเรื่องราวประหลาดเกิดขึ้นมากมาย

ขาประจำของบลอกฟ้าใสเดอะเจไดเกิร์ลที่รัก
บางครั้งเรื่องราวก็มหัศจรรย์เกินไปสำหรับชีวิตธรรมดาของฉัน
ไม่รู้ทำไมฉันถึงฝัน ฝันว่าไปอยู่ในห้องของเขา
ฝันว่าฉันกับเขา...เคยเจอกันตลอดในร่างอื่น!!
เขาเป็นใครฉันรู้แล้ว ดีใจที่มีเพื่อนอยู่ในฝันประหลาดด้วยกัน
ดีกว่าเจอเรื่องแปลกๆอยู่คนเดียวแล้วไม่รู้จะคุยกับใคร
เขาดูเขินๆนะที่ในฝันเราเหมือนได้จูบกัน
แต่...ฉันว่ามัน ‘ค่อนข้างเค็ม’ มากกว่าน่ะ
จูบจริงๆจะเค็มแบบนี้ไหม?

ถึงจะเกิดเรื่องหลายเรื่องในสองสามเดือนที่ผ่านมา
แต่เธอก็ยังคงทำงาน ทำงาน ทำงานเหมือนเดิม
“เดี๋ยวนะคะ รอก่อนคนไข้ในห้องหัวใจกำลังหยุดเต้นค่ะ”
พราวนภาหันไปบอกคนไข้ที่เข้ามาโวยวายอยู่หน้าโต๊ะตรวจในห้องฉุกเฉิน ที่มาตรวจเพราะเป็นไข้หวัด
ว่าแล้วก็รีบวิ่งไปดูคนไข้ที่ฉุกเฉินกว่า
แม้ว่างานจะหนัก แต่เธอก็มีความสุขเมื่อใครสักคนมีชีวิตรอดหลังจากผ่านการรักษาของเธอ
วันนั้นเธออยู่เวรห้องฉุกเฉินถึงเที่ยงคืน
พราวนภาขับรถกลับหอพัก
เธอเหนื่อยมากเกือบจะนอนทั้งที่ยังไม่ได้อาบน้ำ
แต่ก็ทนไม่ไหวเพราะเพิ่งกลับมาจากโรงพยาบาล
พอหัวถึงหมอนยังไม่ทันหลับสนิทดี...เอาอีกแล้ว
พราวนภาลืมตาขึ้นในความมืดสลัว เธอรู้...นี่ไม่ใช่ห้องของเธอ
เวลานั้นเจ้าของห้องก็เปิดประตูเข้ามา ไฟกลางห้องถูกเปิดขึ้น

“เว้ยยยย” สายฟ้าตกใจที่พราวนภามานอนอยู่บนเตียงของเขา
ไม่รู้ว่าใครตกใจกว่ากันแน่!
“มาอยู่นี่ได้ยังไง”

“ดาวก็ไม่รู้ หลับตาแป้บเดียว...ก็มาโผล่ที่นี่”

“เฮ้อ” สายฟ้าวางกระเป๋าลง
เริ่มชินกับการที่จู่ๆพราวนภาก็เข้ามาในห้องนอนของเขาจากทางไหนก็ไม่อาจรู้ได้

“เดี๋ยวเราอาบน้ำก่อนนะ เธอนั่งรอนอนรอไปก่อน เดี๋ยวเรามาคุยด้วย”

ใช่ พราวนภาก็อยากจะคุยกับเขาเหมือนกัน
เธอกับเขาร่วมมือกันอาจจะหาคำตอบได้ว่า...ตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกับเราสองคนกันแน่
เท่าที่รู้ตอนนี้คือ เธอกับเขาใช้ ‘ชีวิตอื่น’ ร่วมกันมาหลายครั้ง

“เราจะไปถามใครดีนะเรื่องนี้”
พราวนภาเอ่ยขึ้นก่อน
สายฟ้าหันไปค้นอะไรในกระเป๋าแล้วโยนสมุดเล่มหนึ่งออกมา
“เราไปหาข้อมูลมาบ้างแล้ว ช่วยกันดูเถอะว่าพอจะพึ่ง...ที่ไหนได้บ้าง”

ในสมุดมีชื่อหมอดูลายมือ หมอดูพลังจิต คนอ่านกรรม สำนักเทพ นักสะกดจิต

“เราว่า ที่นี่แหละ”
เธอชี้ไปที่โรงเรียนของจิตแพทย์คนหนึ่ง
รายละเอียดที่ได้คือโรงเรียนสอนการสะกดจิตเพื่อย้อนรอยไปค้นหาตนเองในอดีต เพื่อเข้าใจตนเองในปัจจุบัน

“เราว่าดู...เอ่อ ประหลาดน้อยที่สุดนะ”

สายฟ้ายิ้ม
“โอเค งั้นเราจะไปที่นี่กัน”

สายฟ้ายังพูดไม่ทันจบ ก็มีเสียงสั่นสะเทือนขึ้น รอบตัวทั้งคู่บิดม้วน
ทั้งสองคนเข้ามายืนใกล้กัน
พื้นยังโคลงเคลง ทั้งคู่ถูกรอยแยกของอากาศดูดเข้าไปในช่องแคบๆช่องหนึ่ง
พราวนภาลืมตาขึ้นเมื่อพื้นหยุดโคลง

...คราวนี้พราวนภาเห็นผู้หญิงผมทองเป็นลอนหน้าขาวๆของเธอเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตา
เธอกำลังรั้งผู้ชายคนหนึ่งไว้...ชายคนนั้น ‘ประธานชมรมอเมริกันฟุตบอล’
เขาหันมาหาพราวนภา
เธอรู้สึกว่าตัวเองกำลังยิ้มเยาะแหม่มผมทองคนนั้น
ทั้งๆที่ในใจจริงๆของพราวนภา สงสารผู้หญิงคนนั้นสุดใจ
เธอเข้าใจดี การโดนทิ้งเป็นอย่างไร ในหัวใจของพราวนภากำลังร้องไห้
แต่ร่างของเธอกำลังเกาะแขนร่างของสายฟ้าแล้วเดินส่ายสะโพกออกไปจากบ้านของผู้หญิงที่น่าสงสารนั้น
แล้วอากาศก็บิดเบี้ยวอีกครั้ง!

พราวนภาเข้าไปอยู่ในห้องห้องหนึ่ง

“จอห์นฉันรู้ว่าคุณ...มีภรรยาแล้ว” ร่างที่พราวนภาอาศัยอยู่กำลังพูดเป็นภาษาอังกฤษ
ผู้หญิงคนนั้นบีบน้ำตาแล้วโอบรัดรอบคอของชายร่างใหญ่

“แต่ฉันรักคุณมากนะคะ คุณรู้ไหม”

‘โห เจ้าบทบาทมาก’ พราวนภาคิด
ทันใดนั้นเอง

“โรส ...คุณช่าง...” เขาเชยคางเธอขึ้น
‘เห้ย เอาอีกแล้ววว ไม่เอาแล้วววว รู้แล้ววววว’
พราวนภารู้สึกว่าตัวเองหลับตาแน่นกลัวความรู้สึก ‘เค็ม’ นั้นมาก

อากาศรอบข้างหมุนเวียนอย่างแรงอีกครั้ง
เธอลืมตาคราวนี้ไม่ใช่ที่ห้องของสายฟ้า แต่เป็นห้องของเธอเอง
นาฬิกาบนกำแพงบอกเวลาตีสาม
พราวนภาเอามือก่ายหน้าผาก
“เหนื่อยมากเลยวันนี้ นอนสามสี่ชั่วโมงก็เอาวะ”
นึกถึงงานที่ต้องทำพรุ่งนี้ พราวนภาก็หลับสนิทในไม่กี่อึดใจ
หลังจากนั้นสองสัปดาห์เธอไม่ฝันอีกเลย และเพิ่งนึกได้ว่า
เธอยังไม่รู้จะติดต่อกับสายฟ้ายังไง นอกจากจะหลับตาฝันแล้วไปโผล่ที่ห้องของเขา!!!
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่