เริ่มจะมีปัญหากับคนที่ทำงาน ไม่รู้จะจัดการยังไง

อายุ 27 ปี ทำงาน it support ครับ เงินเดือน 23k หน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ทำในแต่ละเดือนคือ เตรียมเครื่องให้พนักงานใหม่ แจ้งเคลมคอม ซ่อมคอมที่หมดประกัน ทำอีเมล์พนักงานใหม่ และจัดเตรียมอุปกรณ์ไอทีอื่นๆ เสริมให้พนักงานตามที่ร้องขอ นอกจากนี้ก็ไม่ได้ทำอะไร เรื่องจัดเตรียม IP-Phone และ Printer ที่ต้องมีรหัสเข้าไปทำเฉพาะ พี่ในทีมก็กั๊กไม่ยอมสอน ไม่ให้รหัสผ่านเข้าระบบ เคยขอให้สอน ก็รับปาก แต่เวลาจริงก็แอบไปทำคนเดียวจนเสร็จไม่บอกเรา เหมือนจะใช้เป็นไม้ตายกันถูกไล่ออก เพราะอายุ 40 กว่าๆกันแล้ว คงหางานใหม่ลำบาก วันแรกที่เราเข้ามาไม่สอนอะไรเลย ไม่พูดด้วยเลย อยากรู้อะไรบอกให้ไปหาดูคลิปใน youtube เอาเอง ซึ่งเราเองก็ไม่รู้ว่าต้องทำยังไง แต่ก็ศึกษาในส่วนที่ศึกษาได้เท่ากับหน้าที่ๆทำทุกวันนี้

ส่วนเรื่อง network ดูแค่เบื้องต้น ว่าเป็นปัญหาที่ network หรือเป็นที่เครื่องคอมแค่นั้น ถ้าเป็นที่ net ก็ส่งให้ทีม network แก้ไป ยอมรับว่าเราไม่ได้จบไอทีมาเลยครับ จบวิศวะอิเล็กมา ไม่มีความรู้เกี่ยวกับ IT เลย มาทำงานนอกสายเลยจริงๆ ที่มาทำบอกเลยตรงๆว่า ไม่ได้ชอบทางด้านนี้เลยครับ แต่ทางบ้านมีภาระหนี้สินมากมาย จำต้องยอมทำ ทำงาน support มาจะได้ 3 ปีแล้ว (ที่แรก เงินเดือน 15k ทำได้ปีนึง ที่ปัจจุบันทำได้สองปี) แค่จะหางานทำก็ยากแล้วครับ กระทู้นี้อยากระบายความในใจ และอยากขอคำปรึกษานะครับ คือ ณ ตอนนี้เรามีปัญหาอยู่กับพนักงานสองคน จะขออธิบายเป็นทีละคนไป

- หัวหน้าแผนก HR คนใหม่ ตอนเจอเค้าครั้งแรก เค้าจะเป็นคนชอบถามนั่นถามนี่เรามาก บางคำถามไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับหน้าที่เรา ก็จะจู้จี้ถาม จนเราเริ่มรำคาญ และก็ขอตัว หาทางเลี่ยงๆไปไม่อยากจะคุยด้วยนัก เช่น บริษัทจะทำการปรับเปลี่ยนจัดพื้นที่ทำงานใหม่ ปลั๊กไฟของแผนกอื่นไม่พอ ก็มาดึงเราไปดู ซึ่งเราไม่ได้มีหน้าที่จัดเตรียมตรงส่วนนี้ เป็นหน้าที่ของธุรการฝ่ายอาคารเค้าก็บอกว่าไม่รู้ได้ยังไง ต้องรู้สิ เราก็เลยแกล้งปวดท้องอยากเข้าห้องน้ำเลี่ยงไป จนทุกวันนี้เดินผ่านโต๊ะเค้ายังสยองเลยครับ

และที่น่าหนักใจไปกว่านั้น คือ เค้าจบและทำงานทางสาย Training มา เพิ่งเข้างานมาได้ไม่ถึง 2 อาทิตย์ ก็เร่งทำผลงานโดยให้พนักงานทุกคนเขียนแผนพัฒนาตัวเองใน 1 ปี ว่าจะพัฒนาเรื่องอะไรบ้าง ซึ่งจากเดิมไม่เข้มงวดอะไรมาก ยึดตาม KPI เท่านั้น โดยส่งแบบร่างให้พนักงานทุกคนในวันพฤหัส จากนั้นให้เขียนส่งวันศุกร์ ซึ่งใครก็ค้านในที่ประชุมว่ายังไงก็เร็วไป เขียนไม่ทัน แต่ด้วยความที่ว่างานที่เราทำมันพัฒนาได้ยาก จะไปทำในส่วนที่ต้องรับผิดชอบ ที่ต้องมีคนสอนถึงจะทำได้ คนในทีมก็ไม่สอน ก็ไม่รู้จะเขียนอะไร ก็เขียนไปว่าจะศึกษา windows10 กับ network เบื้องต้น ส่งหัวหน้าใหญ่ไป แต่แล้วก็มีปัญหากับหัวหน้าใหญ่อีก ซึ่งจะได้เล่าต่อไป

- หัวหน้าใหญ่ อายุ 35 ปี ประสบการณ์ทำงาน 12 ปี ทางด้านไอที สำหรับทีมเรามีอยู่สี่คน หัวหน้าใหญ่ หัวหน้าทีม พี่อีกคน แล้วก็เรา หัวหน้าใหญ่จะดูพวกระบบทุกอย่าง ระบบฐานข้อมูล และดู network บางส่วน เพื่อช่วยฝ่ายเน็ตเวิร์กที่ขี้เกียจทำงาน และทำงานที่นี่มานาน ไม่ได้ดูงาน it support อย่างเรา และเราก็ไม่ได้รับมอบหมายให้ดู network ในออฟฟิศเลย ช่วงเราเข้ามาแรกๆ ยอมรับว่าหัวหน้าใหญ่จู้จี้กับเรามาก เค้ามาจากบริษัท it แนว training เป็นบริษัทที่ต้องมีการพัฒนาตัวเองตลอดเวลา ไม่งั้นจะตามคนในทีมงานไม่ทัน ซึ่งคิดว่ายังติดนิสัยกดดันตัวเองมาลงกับเรา ช่วงเข้ามาแรกๆเรายังปรับตัวไม่ได้ เรารู้สึกอึดอัด ทำงานเจ็ดวันแรก ร้อนใจแทบจะอกแตก คงไม่มีอารมณ์ไปเรียนอะไรกับเค้านัก เค้าก็มากดดันเราให้เราไปหาหนังสือ network มาอ่าน บางทีก็มา train เรา เราก็ข่มใจตัวเองฟังเค้านะ แต่เค้าเป็นคนแบบสอนคนอื่นไม่รู้เรื่องเลยก็ว่าได้ แบบความรู้เยอะ แต่ถ่ายทอดไม่เป็น แล้วก็สั่งนั่นนี่ ให้เราไปทำการบ้านให้ไปค้นคว้าตามที่เค้าสั่ง แต่เราก็ไม่ได้ทำ เพราะทำงานหลักก็ไม่มีเวลาแล้ว บวกกับไม่ใช่หน้าที่เรา

แล้วเค้าก็มาตามกดดัน มาทวงที่เค้าถามไปทุกวันๆ บางทีมาถามพี่อีกคนว่า เรามีงานอะไรมั้ยวันนี้ แล้วก็มาขอตัวเราไปคุยเรื่องการบ้าน โดยใช้คำว่า "เชือดเล่น" ในห้องตัวต่อตัว จนวันนึงเราทนไม่ไหว ชักสีหน้าใส่แล้วก็บอกไปตรงๆว่า พี่ครับ ถ้าผมว่างจริงๆผมจะไปหาพี่เองนะครับ ไม่ต้องตามขนาดนี้หรอกครับ จากนั้นเค้าก็ไม่มาทวงอะไรจากเรา แต่ก็คุยกันปกติ ไปกินข้าวก็คุยกันนอกเรื่องไม่ใช่เรื่องงาน ส่วนมากจะเป็นคนนิสัยอวดรู้ไปทุกเรื่อง ขนาดเรื่อง พระไตรปิฎก ยังบอกว่า "พระไตรปิฎกประกอบด้วย พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ผมบวชเรียนมา" เราก็แอบขำ ทั้งๆที่รู้ว่ามันไม่ใช่ แต่เราก็นิ่งๆ ไม่พูดไป รักษาหน้าหัวหน้า จนกระทั่งหัวหน้า HR ใหม่เข้ามา เราส่งแบบพัฒนาตัวเองไปให้เค้าดู เค้าก็เรียกเราเข้าห้องเย็นตัวต่อตัว แล้วใส่เต็มที่เลยครับ

เค้าพูดว่า "ถ้าให้มองนะ เรามีความรู้เกี่ยวกับ windows ยังไม่ถึงครึ่งนึงเลยด้วยซ้ำ ทำงานมาสองปีเป็นแค่ซ่อมเครื่องกับเคลมได้แค่นั้น หยุดนิ่งไม่ได้พัฒนาอะไรเพิ่ม ส่วนผมอ่ะมีความรู้เต็มหัว แต่ไม่รู้จะถ่ายทอดให้พวกคุณเข้าใจได้แค่ไหน และก็ไม่รู้จะยอมรับฟังกันหรือเปล่า เพราะผมเองก็เป็นคนพูดให้คนอื่นฟังยังไม่ค่อยจะรู้เรื่องเลย แล้วบางทีก็พูดกับตัวเองก็ยังงงตัวเองเหมือนกัน ตอนที่ทำงานเก่า ผมก็เคยเจอนะ เด็กทำงานไม่นานอย่างคุณ ผมก็พยายามกดดันเค้านะ ซึ่งไม่รู้ว่ามากเกินไปหรือเปล่า เด็กหลายคนที่ผมเจอ ส่วนมากทนไม่ไหว ไปบอกผู้จัดการว่า ผมจะอะไรนักหนากับพวกเค้า สุดท้ายเค้าก็ไม่ผ่านโปรกัน เก็บของออกจากออฟฟิศไป" ถ้าวิเคราะห์ดูหัวหน้าใหญ่ก็คงจะคาใจเรา ตั้งแต่เราเข้ามาใหม่ๆ ว่าทำไมไม่ทนความกดดันจากเค้าบ้าง ประมาณนั้น เราก็คิดว่าถ้าผมรู้เกี่ยวกับระบบเท่าพี่ ก็เป็นเรื่องแปลกแล้วล่ะครับ ผมทำงานมากี่ปี พี่ทำงานมากี่ปี ถ้าผมรู้เท่าพี่ เค้าก็คงไล่พี่ออกไปแล้วล่ะครับ ขำๆ 555 เค้าก็เลยบอกว่า จะมีเล่าอธิบายเรื่อง network ให้ฟังวันละครึ่งชั่วโมง ไม่รู้จะเหมาะสมมั้ย เค้าก็เขียนเพิ่มไปในแบบประเมินเรา

ตอนนี้รู้สึกว่าไม่ค่อยจะสบายใจเท่าไหร่ ตั้งแต่หัวหน้า HR คนใหม่ เข้ามา รู้สึกไม่ค่อยถูกชะตา และเป็นสาเหตุให้หัวหน้าใหญ่กับเราเริ่มจะมีปัญหากันมากขึ้น เพราะเราเองก็รู้ตัวเลยว่าไม่ได้ชอบงานสายไอทีสักนิดเลย ที่มาทำได้ก็ฟลุ๊คมากๆ แล้ว ต้องหาเงินใช้หนี้ให้พ่อแม่ อีกหลายปี ทุกวันนี้ก็ทำงานเสริมเป็นครูสอนพิเศษอยู่ และคิดว่าถ้าจับเป็นธุรกิจได้เมื่อไหร่ จะลาออกสักที เบื่อมากๆ และแน่นอนว่าถ้าหัวหน้าใหญ่จะเทรนเค้าคงไม่ไปเทรนพี่อีกสองคนในทีม เพราะเค้าแก่แล้วบอกไม่ค่อยจะฟัง ก็คงจะมุ่งมาอัดก๊อปปี้ใส่เราเท่านั้นแหละ สิ่งที่กลัวก็คือถ้าทำไม่ได้ตามเป้าที่หัวหน้าใหญ่เขียนไปในแบบพัฒนา เราจะงานงอกหรือป่าวไรงี้ อยากได้คำปรึกษาครับ ว่าควรจะจัดการกับชีวิตอย่างไร แบบไม่ให้เครียด หรืออะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด ช่างมัน ทำเท่าที่ทำได้ก็พอ เพราะผลงานที่เป็น paper หัวหน้า HR ก็ได้อยู่ดี แต่เราเดือดร้อนมาก ขอคำแนะนำด้วยครับ ขอบคุณครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่