"รู้เท่าไม่ถึงการณ์" กับเรื่องจริงดื่มจริงและพังจริง!!!

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ ชาวพันทิป นี่เป็นกระทู้แรกของเรา อยากโพสต์เรื่องราวและแชร์ให้อ่านค่ะ ผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยนะคะ

ช่วงนี้เห็นข่าวอุบัติเหตุเมาแล้วขับและยังเห็นโฆษณาดื่มไม่ขับของ สสส. ในช่วงเทศกาลอยู่เรื่อยๆ เมื่อก่อนก็อาจจะเห็นแล้วเฉยๆ  แต่ตอนนี้ทำให้นึกถึงเหตุการณ์ตัวเองขึ้นมา  ถึงแม้เรื่องราวอาจจะไม่ได้ใหญ่โต  แต่มันก็เป็นบทเรียนครั้งใหญ่ที่ทำให้จำไปตลอดชีวิต  เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เรารู้สึกผิดมากและไม่กล้ากินเหล้าแล้วขับรถอีกเลย

เรื่องนี้ผ่านมาได้ 3 เดือนแล้ว  เพิ่งเอามาเล่าอยากให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับใครที่ชอบดื่มแล้วต้องขับรถ
คือวันนั้นเราเลิกงานค่อนข้างดึกเกือบๆ 4 ทุ่ม  เลยชวนเพื่อนๆ นั่งชิลนิดหน่อย  ร้านใกล้ๆที่ทำงานก็สั่งอาหารและเครื่องดื่มเหล้า-เบียร์- ค็อกเทลมาด้วยนิดหน่อย  เรารู้ตัวว่าต้องขับรถอยู่แล้วเลยดื่มค็อกเทลไปแก้วนึง  เคยอ่านมาว่าถ้ากินแค่แก้วเดียวเจอด่านโดนเป่าก็ไม่เกิน  เลยคิดว่าไม่เป็นไรหรอก  แต่สักพักความรู้สึกตอนนั้นแอบตึงๆ นิดหน่อยเหมือนว่าค็อกเทลก็แอบแรงใช่ย่อย  แต่ไม่ได้เมานะคือคิดว่าตัวเองยังมีสติ!

พอกินเสร็จอาหารหมด  ทุกคนก็เตรียมตัวแยกย้ายกลับบ้านก่อนจะออกจากร้านเพื่อนๆ ก็ไม่ได้ทักอะไรเพราะเห็นเรากินไปแค่แก้วเดียว  เลยไม่ห่วงอะไรมากตอนนั้นก็ประมาณเที่ยงคืน  เพื่อนก็นั่งแท็กซี่กลับบ้างแฟนมารับบ้าง  ส่วนเราก็ขับรถกลับระยะทางจากร้านกลับบ้านประมาณ 10 กิโล  คิดว่าไม่เป็นไรขับไปเรื่อยๆเจอด่านก็เป่าไม่ถึงอยู่แล้วก็ขับออกจากร้านไป
ระหว่างขับรถเกือบจะถึงบ้านอยู่แล้ว  ก็มีเงาดำๆวิ่งตัดหน้ารถเราเร็วมากและระยะก็กระชั้นชิดมากเราไม่ทันได้แตะเบรคหรือหักหลบได้เลย  แล้วก็มีเสียง“โครม” ดังขึ้นมาตอนนั้นตกใจและทำอะไรไม่ถูกในใจภาวนาว่าขอให้ไม่ใช่ชนคนด้วยเถิดแล้วก็รีบจอดแล้วลงมาดูว่ามีอะไร

ตอนลงจากรถยิ่ง งง หนักกว่าเดิมไปอีก เกิดอะไรขึ้น!!! ทำไมกันชนรถถึงหลุดพังอะไรขนาดนั้น  ก้มไปมองใต้ท้องรถหันมองรอบๆก็ไม่เห็นมีอะไรเกิดคำถามเป็นร้อยเป็นพันว่า..รถเป็นอะไรไปโดนอะไร?????????  แอบหลอนเหมือนกันนะเราก็ยังมีสติอยู่นะไม่ได้เมาอะไรขนาดนั้น



หลังจากยืน งง อยู่ซักพัก  ก็มีลุงคนนึงที่ขับมอเตอร์ไซต์ตามหลังมาแกจอดรถและลงมาดูถามว่าเป็นยังไง   เพราะลุงก็หักหลบ“หมา”ที่เราชนไปเมื่อกี้ทำให้มอไซต์ลุงเกือบล้มเหมือนกัน   พอลุงเห็นสภาพรถเราแล้วตกใจเหมือนกันคาดว่าอาการหมาน่าจะหนักน่าดู  เรากับลุงเลยเดินหาหมาทั่วถนนหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอรู้สึกสงสารมันมากตอนนั้น  จิตตกไปเลยค่ะรู้สึกผิดบาปมาก

หลังจากเกิดเรื่องนี้ทำให้เราคิดได้ว่าการที่เราดื่มนิดๆหน่อยๆแล้วขับในคืนนั้น  แม้เราจะคิดว่าไม่เมา  แต่ก็ยอมรับว่าความรู้สึกเราช้าลงจริงๆ  อาจเป็นเพราะตอนนั้นก็ดึกแล้วแถมทำงานมาทั้งวันยังมาดื่มอีก   คงทำให้ความรู้สึกเราช้าไม่โดยไม่รู้ตัวเลยเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น   โดยที่ตัวเองไม่ทันระวังตัวแถมรถก็พังเอาไปจอดทิ้งไว้  ที่อู่สองเดือนเต็มๆถ้าเกิดว่าวันนั้นเราชนคนหรือชนรถคนอื่นขึ้นมาเรื่องคงไม่จบแค่นี้  บางทีอาจจะเกิดเหตุการณ์ที่กลายเป็นตราบาปหรืออาจเป็นฆาตรกรไปตลอดชีวิตก็ได้

แค่วันนั้นรู้ว่าขับรถชนหมาเรายังรู้สึกเสียใจมาจนถึงวันนี้เลย  เสียใจที่ไม่สามารถช่วยอะไรมันได้รู้สึกผิดมากๆๆ แต่สุดท้ายก็ต้องยอมรับความจริงว่าเราผิด และไม่รู้ว่ามันเป็นยังไงบ้าง   จากที่เมื่อก่อนเคยคิดว่าดื่มนิดเดียวคงไม่เป็นไรเอาสนุกๆขำๆ  เจอด่านก็คงเป่าไม่ขึ้นหรอกแต่จากนี้หากคิดจะขับรถคงจะเลือกดื่มไม่ขับแล้ว

สุดท้ายก็อยากฝากบอกเพื่อนๆในพันทิปทุกคนนะคะว่า

ถ้าคิดว่าดื่มแค่แก้วเดียวแล้วไม่เป็นไร  คิดว่าเราไหวเราเอาอยู่  เรื่องที่เราเล่ามาก็เป็นอุทาหรณ์ที่ชัดแล้วนะ  ซึ่งตัวเราเองคิดว่าบางทีอาจจะไม่ใช่แค่กันชนหลุดเท่านั้น  แต่มันอาจจะเกิดความสูญเสียมากกว่านี้ก็ได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่