แต่เป็นฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน การที่จะเอา U-22 หรือ U-23 ไปเตะในรายการนี้มันไม่เหมาะสม เพราะซีเกมส์ก็จำกัดอายุอยู่แล้ว รายการนี้
เป็นการชิงชัยของบอลชุดใหญ่มันไม่ใช่เวทีทดสอบดาวรุ่ง(หลงประเด็นหรือเปล่า) แต่มันเป็นการช่วงชิง " ศักดิ์ศรี "ความเป็นหนึ่งของชนชาติ อาเซียน ทั้ง 10 กว่าประเทศ ( ประมาณว่าญี่ปุ่นจะเน้นคว้าแชมป์บอลโลกแต่ไม่สนแชมป์เอเชียแล้ว เลยส่ง U-23มาแข่งชิงแชมป์เอเชียแทนอย่างงั้นหรือเปล่า ) ผมก็เห็นเขาสามารถทำควบคู่กันไปได้ ทุกอย่างอยู่ที่การบริหารจัดการที่ดี
ฟุตบอลไทยเราเหนือกว่าอาเซียนมากจริงหรือ
1 ฟุตบอล U-16 U-19 ที่ผ่านมาเราผ่านเข้ารอบเป็นอันดับ 2 ที่ดีที่สุดของสาย ( อาศัยผลจากคู่อื่นเป็นตัวกำหนดด้วย )
2 ฟุตบอล AFF ที่ผ่านมานัดชิงนัดสุดท้ายเราแพ้ 3-2 สกอร์รวม 4-3 ( แต่เราก็มีแพ้เขาอยุ่ดี ซึ่งไม่ได้ห่างชั้นกับเขามากเลย )
3 ฟุตบอล U-23 คัดไปโอลิมปิกเราตกรอบแรกแบบไม่ชนะใคร ( รูปเกมส์ไม่ได้เปรียบใครเลย )
4 ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก 12 ทีมสุดท้าย ถึงจะผลงานดี แต่ก็ไม่ชนะอิรักซึ่งเป็นทีมระดับเอเชียทั้ง 2 เกมส์ ( ที่ชนะได้คือทีมระดับอาเซียน )
5 ฟุตบอลไทยชุดใหญ่ที่มีผลงานดีในตอนนี้เพราะ โค๊ชซิโก้ ( ดีเพราะตัวโค๊ชไม่ใช่ระบบโครงสร้าง เมื่อไหร่ที่ไม่มีโค๊ชซิโก้เราก็จะกลับมาอยู่ในวังวนเดิม ๆ)
จะเห็นได้ว่าเราแค่วูบวาบ ยังไม่มีมาตราฐานที่แน่นอน เมื่อไหร่ที่เรามีโครงสร้างฟุตบอลที่แน่นอน(ซึ่งก็กำลังทำอยู่) นักเตะจะมีศักยภาพมากขึ้นจะรู้ว่าควรจะเล่นไปในทิศทางใดในตำแหน่งนั้น ๆใครจะมาเป็นโค๊ชก็ไม่แตกต่างกันมากนัก เราจะมีมาตราฐานคงเส้นคงวา เช่น ได้แชมป์ AFF อยู่เป็นประจำ ได้เข้ารอบเอเชี่ยนคลับ ได้เข้ารอบ 12 ทีมสุดท้ายบอลโลก และสร้างผลงานดีขึ้น ดีขึ้น ตามลำดับ(นั่นแหละเราระดับเอเชียของแท้)
โดยส่วนตัวไม่อยากให้เราได้หน้าแล้วลืมหลัง ควรทำควบคู่กันไป ถ้าเรากลัวนักเตะกรอบก็ใช้วิธี โรเตชั่น เอาครับ เช่นว่า
1 ใช้ทีมชาติชุดใหญ่ แต่เป็นตัวสำรองเป็นแกนหลัก ผสมตัวจริงบ้างในช่วงท้ายเกมส์ ในบางแมช ประโยชน์ที่จะได้
1.1 ได้เล่นเป็นทีมเวิร์คระหว่าง ตัวสำรองด้วยกัน กับตัวสำรองและตัวจริง ให้มันกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น( เพราะตัวสำรองไม่ค่อยได้ลงในแมชจริง )
1.2 ได้ลองทีมซ้อมใหญ่ก่อนถึงทัวนาเม้นท์หลักฟุตบอลโลกรอบ 12 สุดท้ายปลายปีนี้ - 2560
1.3 มีโอกาสได้แชมป์ติดมือ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อตนเอง เกียรติยศ ชื่อเสียงของนักฟุตบอลและประเทศชาติพร้อมสัทธาจากแฟนบอล
2 ใช้ตัวสำรองชุดใหญ่ผสมนักเตะที่โชว์ฟอร์มในลีกได้ดีรวมทั้งดาวรุ่งบางคน เช่น ศิวกรณ์ จากเทโร หรือคนอื่น ๆ ประโยชน์ที่จะได้
1.1 ใครโชว์ฟอร์มได้ดีมีโอกาสก้าวเข้าสู่ทีมชาติชุดใหญ่ในอนาคต
1.2 สร้างการแข่งขันในทีมขึ้น เพื่อทางเลือกที่ดีในอนาคต
3 ใช้ U-22 U-23 ( อันนี้ไม่เห็นด้วยอย่างแรง ไม่ใช่ทัวนาเมนท์จำกัดอายุ ไม่ได้ประโยชน์ ถ้าอยากได้ประโยชน์ต้องไปอุ่นเครื่องกับทีมระดับเอเชียครับ )
ปล. ใครจะเห็นด้วยกับผมหรือเปล่าก็ไม่รู้ได้ แต่ผมขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่าผม เมื้อย มาก สุดท้ายก็แล้วแต่สมาคมละกันครับ
AFF ไม่ใช่เวทีทดสอบ U ต่าง ๆ
เป็นการชิงชัยของบอลชุดใหญ่มันไม่ใช่เวทีทดสอบดาวรุ่ง(หลงประเด็นหรือเปล่า) แต่มันเป็นการช่วงชิง " ศักดิ์ศรี "ความเป็นหนึ่งของชนชาติ อาเซียน ทั้ง 10 กว่าประเทศ ( ประมาณว่าญี่ปุ่นจะเน้นคว้าแชมป์บอลโลกแต่ไม่สนแชมป์เอเชียแล้ว เลยส่ง U-23มาแข่งชิงแชมป์เอเชียแทนอย่างงั้นหรือเปล่า ) ผมก็เห็นเขาสามารถทำควบคู่กันไปได้ ทุกอย่างอยู่ที่การบริหารจัดการที่ดี
ฟุตบอลไทยเราเหนือกว่าอาเซียนมากจริงหรือ
1 ฟุตบอล U-16 U-19 ที่ผ่านมาเราผ่านเข้ารอบเป็นอันดับ 2 ที่ดีที่สุดของสาย ( อาศัยผลจากคู่อื่นเป็นตัวกำหนดด้วย )
2 ฟุตบอล AFF ที่ผ่านมานัดชิงนัดสุดท้ายเราแพ้ 3-2 สกอร์รวม 4-3 ( แต่เราก็มีแพ้เขาอยุ่ดี ซึ่งไม่ได้ห่างชั้นกับเขามากเลย )
3 ฟุตบอล U-23 คัดไปโอลิมปิกเราตกรอบแรกแบบไม่ชนะใคร ( รูปเกมส์ไม่ได้เปรียบใครเลย )
4 ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก 12 ทีมสุดท้าย ถึงจะผลงานดี แต่ก็ไม่ชนะอิรักซึ่งเป็นทีมระดับเอเชียทั้ง 2 เกมส์ ( ที่ชนะได้คือทีมระดับอาเซียน )
5 ฟุตบอลไทยชุดใหญ่ที่มีผลงานดีในตอนนี้เพราะ โค๊ชซิโก้ ( ดีเพราะตัวโค๊ชไม่ใช่ระบบโครงสร้าง เมื่อไหร่ที่ไม่มีโค๊ชซิโก้เราก็จะกลับมาอยู่ในวังวนเดิม ๆ)
จะเห็นได้ว่าเราแค่วูบวาบ ยังไม่มีมาตราฐานที่แน่นอน เมื่อไหร่ที่เรามีโครงสร้างฟุตบอลที่แน่นอน(ซึ่งก็กำลังทำอยู่) นักเตะจะมีศักยภาพมากขึ้นจะรู้ว่าควรจะเล่นไปในทิศทางใดในตำแหน่งนั้น ๆใครจะมาเป็นโค๊ชก็ไม่แตกต่างกันมากนัก เราจะมีมาตราฐานคงเส้นคงวา เช่น ได้แชมป์ AFF อยู่เป็นประจำ ได้เข้ารอบเอเชี่ยนคลับ ได้เข้ารอบ 12 ทีมสุดท้ายบอลโลก และสร้างผลงานดีขึ้น ดีขึ้น ตามลำดับ(นั่นแหละเราระดับเอเชียของแท้)
โดยส่วนตัวไม่อยากให้เราได้หน้าแล้วลืมหลัง ควรทำควบคู่กันไป ถ้าเรากลัวนักเตะกรอบก็ใช้วิธี โรเตชั่น เอาครับ เช่นว่า
1 ใช้ทีมชาติชุดใหญ่ แต่เป็นตัวสำรองเป็นแกนหลัก ผสมตัวจริงบ้างในช่วงท้ายเกมส์ ในบางแมช ประโยชน์ที่จะได้
1.1 ได้เล่นเป็นทีมเวิร์คระหว่าง ตัวสำรองด้วยกัน กับตัวสำรองและตัวจริง ให้มันกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น( เพราะตัวสำรองไม่ค่อยได้ลงในแมชจริง )
1.2 ได้ลองทีมซ้อมใหญ่ก่อนถึงทัวนาเม้นท์หลักฟุตบอลโลกรอบ 12 สุดท้ายปลายปีนี้ - 2560
1.3 มีโอกาสได้แชมป์ติดมือ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อตนเอง เกียรติยศ ชื่อเสียงของนักฟุตบอลและประเทศชาติพร้อมสัทธาจากแฟนบอล
2 ใช้ตัวสำรองชุดใหญ่ผสมนักเตะที่โชว์ฟอร์มในลีกได้ดีรวมทั้งดาวรุ่งบางคน เช่น ศิวกรณ์ จากเทโร หรือคนอื่น ๆ ประโยชน์ที่จะได้
1.1 ใครโชว์ฟอร์มได้ดีมีโอกาสก้าวเข้าสู่ทีมชาติชุดใหญ่ในอนาคต
1.2 สร้างการแข่งขันในทีมขึ้น เพื่อทางเลือกที่ดีในอนาคต
3 ใช้ U-22 U-23 ( อันนี้ไม่เห็นด้วยอย่างแรง ไม่ใช่ทัวนาเมนท์จำกัดอายุ ไม่ได้ประโยชน์ ถ้าอยากได้ประโยชน์ต้องไปอุ่นเครื่องกับทีมระดับเอเชียครับ )
ปล. ใครจะเห็นด้วยกับผมหรือเปล่าก็ไม่รู้ได้ แต่ผมขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่าผม เมื้อย มาก สุดท้ายก็แล้วแต่สมาคมละกันครับ