สวัสดีครับ อันนี้เป็นกระทู้แรกของผม ผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยนะครับ เคยแต่เป็นผู้อ่านมานาน ในส่วนตัวก็มีเรื่องมีปัญหา ที่อยากจะแก้ไข เกี่ยวกับความรักความรู้สึก เหมือนเพื่อนๆ ที่ผมเคยอ่านมานาน ฮ่าๆ เลยลองตั้งดูมั่ง ยินดีรับฟังทุกความคิดเห็นครับ...เข้าเรื่องเลยละกันครับ
ผมรู้จักผญ.คนนึง จากการที่ผมได้ไปเที่ยวกับเพื่อนๆ เราเหมือนถูกชะตากันตั้งแต่ ครั้งแรกที่เจอ กามเทพก็เลยแผงศรให้เราสองคนได้ทำความรู้จักกัน ฮ่าๆ เราคุยกันสักพักใหญ่ๆ พาเขาไปเที่ยว ไปโน้นไปนี่ตามภาษา ประมาณ 3-4 เดือน จนสนิทกันมากขึ้น ทำให้เราทั้งคู่เริ่มมีความรู้สึกว่า เราเริ่มจะรักกันโดยสนิทใจแล้ว แต่ยังไม่มีการบอกตกลงกันแค่นั้นเอง มีนอนด้วยกันเวลาไป ตจว. แต่ไม่เคยมีอะไรกันครับ สุดท้ายเราก็ได้คบหากันเป็นเรื่องเป็นราว แรกๆความรักระหว่างผมและเขามีความสุขมาก เราไปไหนมาไหนกัน ได้อยู่ด้วยกัน เขาดูแลผมดีมากทีเดียว กลับกันผมค่อนข้างเหนื่อยกับงาน เลยละเลยเขามากพอสมควร ถึงกับบางทีไม่ไปหาเขาเป็นอาทิตย์ๆ ต้องบอกก่อนว่าเราไม่ได้อยู่ด้วยกันเหมือน สามี-ภรรยา คือเลิกงานผมก็ไปหา นอนตื่นผมก็ไปทำงาน และบางทีผมก็นอนบ้านตัวเองครับ ส่วนเวลาไปหาเขาก็คือ เป็นคอนโดของเขา เวลาไปหาเขาก็ถามผมตลอดเหนื่อยไหม หิวข้าวรึเปล่า กินอะไรไหม คือดูแลผมดีมาก ทำให้ผมรักเขามาก เรารู้กันดีว่าเรารักกันแค่ไหน ระยะเวลาก็ดำเนินไปเรื่อยๆ และก็ทำให้รู้จักกันมากขึ้นๆ จนได้รู้ว่าเขาเองมีปัญหาที่ต้องรับผิดชอบทางบ้านเขาเองเยอะมากๆๆ เงินทอง ค่าใช้จ่ายในบ้าน ซึ่งเขาเองเป็นคนดีมากดีเดียว คือ จะไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากผมเลย เหตุผลที่ว่า ไม่ใช่เรื่องของผมไม่อยากทำให้ลำบากเพราะเขา แต่ผมสิครับ ความคิดคือทำไมผมจะช่วยเหลือเขาไม่ได้หรอ เพราะเขาก็คือคนที่สำคัญในชีวิตผมอยู่ และเราก็รักกันมาก สุขด้วยกันพอทุกข์ก็ควรทุกข์ด้วยกันรึเปล่า แต่เขายืนยันว่า เขาไม่อยากให้ผมต้องมามีภาระเพราะเขา ความคิดเขาเป็นคนที่ดีจริงๆ แต่ในเมื่อคนที่เรารักทุกข์เราก็ทุกข์ เราคบกันประมาณ 4 ปีกว่าๆครับ สุดท้าย วันที่แตกหักก็มาถึง
เขาตัดสินใจเองว่า จะไปจากผม ซึ่งไม่มีมูล ไม่มีอากรับกริยา บ่งชี้มาก่อน ทำให้ผมตั้งตัวไม่ทันมากๆครับ(เขาไม่มีคนอื่นครับ ค่อนข้างเชื่อว่าที่ไปจากผมด้วยเหตุผลนี้) ด้วยเหตุผลว่า เขาต้องไปทำงานเพื่อหาเงินให้ทางบ้าน ด้วยภาระ และ หน้าที่ เขาจำเป็นต้องทำแบบนี้เพื่อทางบ้านเขาเอง และ เพื่อตัวผม เพราะเขาจะไม่มีเวลาไปไหนมาไหนกับผม และไม่มีเวลามานั่งคิดเรื่องความรัก ตอนนี้เขาขอ ไปทำภาระ หน้าที่ ของเขาให้เสร็จ โดยที่จะไม่ทำให้ผมลำบากใจอีก โดยการถามผมว่า "เลิกกับเขาไหม" ผมไม่ตอบครับตัดสายทิ้ง และ ยอมรับมันอย่างเดียว ส่วนตัวแล้วผมเป็นคนค่อนข้างเคารพการตัดสินใจ ของคน มากทีเดียว จะไม่ค่อยยื้อหรือ ขัดขวาง อะไรใคร สุดท้ายเราก็จบกันทั้งๆที่รักกันมาก เขาบอกผมว่า เขาขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น ขอโทษจริงๆ เขารักผมมาก ยอมรับว่าความรู้สึกมันทรมานมากๆครับ มันกระทันหันมาก ทุกอย่างจบลงพร้อมกับความรู้สึกที่เหมือนเดิมทุกอย่าง ทรมานแต่ก็ต้องยอมรับให้ได้ เราไม่ได้ขาดการติดต่อกันหลังจากที่เลิกกัน แต่คุยแค่ใน แชทไลน์ คุยกันแบบคนที่ยังคงรักกัน อาจจะมีการเปลี่ยนไปบ้างเป็นธรรมดาตามสถานะ ไม่เคยบอกรักกันแล้ว หรือแม้แต่คิดถึง มีแต่ผมที่เป็นฝ่ายบอก แต่เรารู้สึกกันอยู่ตลอด แต่ไม่มีการโทรหากัน เราคุยผ่านกันแค่ตัวหนังสือเท่านั้นเสียงไม่เคยได้ยิน มันเลยการเป็นการรอคอย ด้วยความหวัง ว่าสักวันจะกลับมารักกันเหมือนเดิม รอเขาโดยที่ไม่เคยคุยกับผญคนไหนไม่เคยแม้แต่จะคิด หรือเพราะ เราทุกข์อยู่ด้วย รักมากอยู่ด้วย เลยไม่เคยเปิดใจให้ใครเข้ามา เขาเองก็ทักผมมาตลอดทุกวันไม่เคยขาด ผมเองความรู้สึกที่เคยมีก็ไม่เคยหายไปไหนเลยสักวันเดียว ซึ่งเขาก็บอกผมแบบนั้น ว่าเขาก็เป็นเหมือนกัน แต่เหมือนเวรกรรมที่ทำให้เรามาเจอกันไม่ได้ ทั้งๆที่รักกันมาก และวันเวลาก็ผ่านไป เราเลิกกันเข้าเดือนที่ ประมาณ ที่7 ที่8 ก็ติดต่อกันตลอดมา เวลาไม่เคยเยียวยาความรู้สึก แต่ก็เชื่อว่าทุกอย่างที่เจ็บปวด วันเวลาจะช่วยเยียวยาได้เป็นธรรมดาของชีวิต ไม่มีใครสุขตลอดเวลาและไม่มีใครทุกข์ตลอดเวลา เช่นกัน แต่ผมตัดเขาไม่ได้เลยระยะเวลาไม่ช่วยอะไร หรือเพราะ ก็ยังคุยกันอยู่ทุกวันเลยยิ่งทำให้แย่มากขึ้นๆ ลองคิดดูครับ ความรู้สึกทุกอย่างยังอยู่แต่ไม่ได้เจอกัน ทำอะไรก็ไม่ได้เลย ทรมานแค่ไหน สุดท้ายพอทุกข์มากขึ้นๆ ก็เลยถามเขาว่าจะมาเจอกันได้ไหม คำตอบคือ ยังไม่ได้!! เสียใจครับยอมรับ มันเหมือนว่า เวลามันเยียวยาเขาไปแล้ว เขาอยู่ได้แล้วโดยที่ไม่ต้องมีผม แต่ผมสิครับ เฮ้อ.. ก็เลยแหย่ถามไปตรงๆว่า มีคนคบใหม่แล้วใช่ไหม คำตอบคือ....มีคุยๆกันอยู่ แต่ไม่ได้คบ ... คำตอบนี้ทำให้หัวใจผมสลาย แต่ก็ทำให้รู้ว่าผมเองควรจะหยุด ที่จะรอ ที่จะโหยหาถึงเขา ควรจะทำใจและดำเนินชีวิตของตัวเองต่อไปให้ได้ แต่ก็ครับ ความเสียใจยิ่งทวีคูณ จนทนไม่ไหว ต้องหันไปพึ่งทางธรรม 555 ไม่เห็นทุกข์ไม่เห็นธรรม จริงๆครับ ต้องขอบคุณ พระธรรมคำสั่งสอน สุดท้ายทำให้ผมดีขึ้น จากความรู้สึกที่เหมือนตายทั้งเป็น ความรู้สึกที่รอคอย ผิดหวัง ค่อยๆดีขึ้น กลายเป็น สวดมนต์ นั่งสมาธิ ยกระดับจิตใจเราให้มากขึ้น แต่ก็ยังคุยกันทุกวันเหมือนเดิม แต่หลังๆเขามีการหายไป ทักแชทบ้างไม่ทักบ้าง คุยบ้างไม่คุยกันบ้าง บวกกับใจของผมเองก็ดีขึ้น ทำใจยอมรับว่าเขา ต้องเจอทางใหม่แล้ว
วันเวลาก็ผ่านไปเป็นปีกว่าๆ ยังคงมีทักมีคุยกันปกติ ถามว่าผมยังรักไหม รักครับ แต่เหมือนรักเป็น รักถูกทาง รักโดยที่เริ่มไม่ทุกข์แล้ว ยังคงเป็นห่วงเขามาก แต่ทุกข์น้อยลง คุยน้อยลงเข้าทางธรรมมากขึ้น ดีขึ้นเยอะมากครับ จนคิดว่าเราขาดกันแล้วจริงๆ ก็ยินดี ไม่เคยเสียใจที่ได้รักเขา ทุกอย่างค่อยๆเยียวยาหัวใจและความรู้สึกผม ให้ดีขึ้น จนเขารู้สึกได้ว่าผมเปลี่ยนไปได้แล้ว และเขาก็หายไปจากที่เคยทักกันทุกวัน กลายเป็นหายไปป็นอาทิตย์ๆ ซึ่งผมเองทำใจได้แล้ว ไม่ทุกข์แล้ว
และแล้วว ...เขาก็กลับมาทักแชทผมอีกหบังจากที่หายไป และบอกผมว่า "มาเจอเขาได้มั๊ย!!! ยังรักผมทุกวันไม่เคยเปลี่ยนไป" ยอมรับว่าดีใจ แต่ก็กลัวว่าใจผมเองจะกลับไปทุกข์เหมือนเดิม ตอนนี้ดีขึ้นแล้วทำไมต้องทำกันแบบนี้!!!! พยายามรวบรวมสติ ดึงจิตดึงใจไม่ให้ย้อนกลับไป ดึงความรู้สึกที่หลุดออกมาได้ ให้อยู่แบบนี้ให้ได้ ไม่อยากกลับไปทรมานแล้ว ตอนเรารอไม่คิดจะมาเจอ แต่ใจยอมรับว่าอยากเจอครับ พอเขาพูดมาแบบนี้ใจผมก็มีแอบหลุดเอียงมาหาเขาอีกครับ เพราะ ลึกๆยังคงรัก ปีกว่าๆไม่ได้เจอ อีกใจก็กลัวจะกลับไปทุกข์อีกกว่าจะ ผ่านมาได้ก็เล่นเอาเป็นปีๆ กินไม่ได้ นอนไม่หลับ ทรมานกว่าจะหลุด และก็มาเจอเรื่องแบบนี้ เพื่อนๆคิดว่า ผมควรจะทำยังดีครับ?
ขอบคุณที่ อ่านเรื่องราวของผม นี่เป็นครั้งแรก ยังไงก็แนะนำ ติ ชม ได้ครับ ขอคุณมากครับ
ความสัมพันธ์ แบบกึ่งๆ เดินหน้าไม่ได้ ถอยหลังไม่ได้ เพื่อนๆคิดว่ายังไงบ้างครับ
ผมรู้จักผญ.คนนึง จากการที่ผมได้ไปเที่ยวกับเพื่อนๆ เราเหมือนถูกชะตากันตั้งแต่ ครั้งแรกที่เจอ กามเทพก็เลยแผงศรให้เราสองคนได้ทำความรู้จักกัน ฮ่าๆ เราคุยกันสักพักใหญ่ๆ พาเขาไปเที่ยว ไปโน้นไปนี่ตามภาษา ประมาณ 3-4 เดือน จนสนิทกันมากขึ้น ทำให้เราทั้งคู่เริ่มมีความรู้สึกว่า เราเริ่มจะรักกันโดยสนิทใจแล้ว แต่ยังไม่มีการบอกตกลงกันแค่นั้นเอง มีนอนด้วยกันเวลาไป ตจว. แต่ไม่เคยมีอะไรกันครับ สุดท้ายเราก็ได้คบหากันเป็นเรื่องเป็นราว แรกๆความรักระหว่างผมและเขามีความสุขมาก เราไปไหนมาไหนกัน ได้อยู่ด้วยกัน เขาดูแลผมดีมากทีเดียว กลับกันผมค่อนข้างเหนื่อยกับงาน เลยละเลยเขามากพอสมควร ถึงกับบางทีไม่ไปหาเขาเป็นอาทิตย์ๆ ต้องบอกก่อนว่าเราไม่ได้อยู่ด้วยกันเหมือน สามี-ภรรยา คือเลิกงานผมก็ไปหา นอนตื่นผมก็ไปทำงาน และบางทีผมก็นอนบ้านตัวเองครับ ส่วนเวลาไปหาเขาก็คือ เป็นคอนโดของเขา เวลาไปหาเขาก็ถามผมตลอดเหนื่อยไหม หิวข้าวรึเปล่า กินอะไรไหม คือดูแลผมดีมาก ทำให้ผมรักเขามาก เรารู้กันดีว่าเรารักกันแค่ไหน ระยะเวลาก็ดำเนินไปเรื่อยๆ และก็ทำให้รู้จักกันมากขึ้นๆ จนได้รู้ว่าเขาเองมีปัญหาที่ต้องรับผิดชอบทางบ้านเขาเองเยอะมากๆๆ เงินทอง ค่าใช้จ่ายในบ้าน ซึ่งเขาเองเป็นคนดีมากดีเดียว คือ จะไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากผมเลย เหตุผลที่ว่า ไม่ใช่เรื่องของผมไม่อยากทำให้ลำบากเพราะเขา แต่ผมสิครับ ความคิดคือทำไมผมจะช่วยเหลือเขาไม่ได้หรอ เพราะเขาก็คือคนที่สำคัญในชีวิตผมอยู่ และเราก็รักกันมาก สุขด้วยกันพอทุกข์ก็ควรทุกข์ด้วยกันรึเปล่า แต่เขายืนยันว่า เขาไม่อยากให้ผมต้องมามีภาระเพราะเขา ความคิดเขาเป็นคนที่ดีจริงๆ แต่ในเมื่อคนที่เรารักทุกข์เราก็ทุกข์ เราคบกันประมาณ 4 ปีกว่าๆครับ สุดท้าย วันที่แตกหักก็มาถึง
เขาตัดสินใจเองว่า จะไปจากผม ซึ่งไม่มีมูล ไม่มีอากรับกริยา บ่งชี้มาก่อน ทำให้ผมตั้งตัวไม่ทันมากๆครับ(เขาไม่มีคนอื่นครับ ค่อนข้างเชื่อว่าที่ไปจากผมด้วยเหตุผลนี้) ด้วยเหตุผลว่า เขาต้องไปทำงานเพื่อหาเงินให้ทางบ้าน ด้วยภาระ และ หน้าที่ เขาจำเป็นต้องทำแบบนี้เพื่อทางบ้านเขาเอง และ เพื่อตัวผม เพราะเขาจะไม่มีเวลาไปไหนมาไหนกับผม และไม่มีเวลามานั่งคิดเรื่องความรัก ตอนนี้เขาขอ ไปทำภาระ หน้าที่ ของเขาให้เสร็จ โดยที่จะไม่ทำให้ผมลำบากใจอีก โดยการถามผมว่า "เลิกกับเขาไหม" ผมไม่ตอบครับตัดสายทิ้ง และ ยอมรับมันอย่างเดียว ส่วนตัวแล้วผมเป็นคนค่อนข้างเคารพการตัดสินใจ ของคน มากทีเดียว จะไม่ค่อยยื้อหรือ ขัดขวาง อะไรใคร สุดท้ายเราก็จบกันทั้งๆที่รักกันมาก เขาบอกผมว่า เขาขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น ขอโทษจริงๆ เขารักผมมาก ยอมรับว่าความรู้สึกมันทรมานมากๆครับ มันกระทันหันมาก ทุกอย่างจบลงพร้อมกับความรู้สึกที่เหมือนเดิมทุกอย่าง ทรมานแต่ก็ต้องยอมรับให้ได้ เราไม่ได้ขาดการติดต่อกันหลังจากที่เลิกกัน แต่คุยแค่ใน แชทไลน์ คุยกันแบบคนที่ยังคงรักกัน อาจจะมีการเปลี่ยนไปบ้างเป็นธรรมดาตามสถานะ ไม่เคยบอกรักกันแล้ว หรือแม้แต่คิดถึง มีแต่ผมที่เป็นฝ่ายบอก แต่เรารู้สึกกันอยู่ตลอด แต่ไม่มีการโทรหากัน เราคุยผ่านกันแค่ตัวหนังสือเท่านั้นเสียงไม่เคยได้ยิน มันเลยการเป็นการรอคอย ด้วยความหวัง ว่าสักวันจะกลับมารักกันเหมือนเดิม รอเขาโดยที่ไม่เคยคุยกับผญคนไหนไม่เคยแม้แต่จะคิด หรือเพราะ เราทุกข์อยู่ด้วย รักมากอยู่ด้วย เลยไม่เคยเปิดใจให้ใครเข้ามา เขาเองก็ทักผมมาตลอดทุกวันไม่เคยขาด ผมเองความรู้สึกที่เคยมีก็ไม่เคยหายไปไหนเลยสักวันเดียว ซึ่งเขาก็บอกผมแบบนั้น ว่าเขาก็เป็นเหมือนกัน แต่เหมือนเวรกรรมที่ทำให้เรามาเจอกันไม่ได้ ทั้งๆที่รักกันมาก และวันเวลาก็ผ่านไป เราเลิกกันเข้าเดือนที่ ประมาณ ที่7 ที่8 ก็ติดต่อกันตลอดมา เวลาไม่เคยเยียวยาความรู้สึก แต่ก็เชื่อว่าทุกอย่างที่เจ็บปวด วันเวลาจะช่วยเยียวยาได้เป็นธรรมดาของชีวิต ไม่มีใครสุขตลอดเวลาและไม่มีใครทุกข์ตลอดเวลา เช่นกัน แต่ผมตัดเขาไม่ได้เลยระยะเวลาไม่ช่วยอะไร หรือเพราะ ก็ยังคุยกันอยู่ทุกวันเลยยิ่งทำให้แย่มากขึ้นๆ ลองคิดดูครับ ความรู้สึกทุกอย่างยังอยู่แต่ไม่ได้เจอกัน ทำอะไรก็ไม่ได้เลย ทรมานแค่ไหน สุดท้ายพอทุกข์มากขึ้นๆ ก็เลยถามเขาว่าจะมาเจอกันได้ไหม คำตอบคือ ยังไม่ได้!! เสียใจครับยอมรับ มันเหมือนว่า เวลามันเยียวยาเขาไปแล้ว เขาอยู่ได้แล้วโดยที่ไม่ต้องมีผม แต่ผมสิครับ เฮ้อ.. ก็เลยแหย่ถามไปตรงๆว่า มีคนคบใหม่แล้วใช่ไหม คำตอบคือ....มีคุยๆกันอยู่ แต่ไม่ได้คบ ... คำตอบนี้ทำให้หัวใจผมสลาย แต่ก็ทำให้รู้ว่าผมเองควรจะหยุด ที่จะรอ ที่จะโหยหาถึงเขา ควรจะทำใจและดำเนินชีวิตของตัวเองต่อไปให้ได้ แต่ก็ครับ ความเสียใจยิ่งทวีคูณ จนทนไม่ไหว ต้องหันไปพึ่งทางธรรม 555 ไม่เห็นทุกข์ไม่เห็นธรรม จริงๆครับ ต้องขอบคุณ พระธรรมคำสั่งสอน สุดท้ายทำให้ผมดีขึ้น จากความรู้สึกที่เหมือนตายทั้งเป็น ความรู้สึกที่รอคอย ผิดหวัง ค่อยๆดีขึ้น กลายเป็น สวดมนต์ นั่งสมาธิ ยกระดับจิตใจเราให้มากขึ้น แต่ก็ยังคุยกันทุกวันเหมือนเดิม แต่หลังๆเขามีการหายไป ทักแชทบ้างไม่ทักบ้าง คุยบ้างไม่คุยกันบ้าง บวกกับใจของผมเองก็ดีขึ้น ทำใจยอมรับว่าเขา ต้องเจอทางใหม่แล้ว
วันเวลาก็ผ่านไปเป็นปีกว่าๆ ยังคงมีทักมีคุยกันปกติ ถามว่าผมยังรักไหม รักครับ แต่เหมือนรักเป็น รักถูกทาง รักโดยที่เริ่มไม่ทุกข์แล้ว ยังคงเป็นห่วงเขามาก แต่ทุกข์น้อยลง คุยน้อยลงเข้าทางธรรมมากขึ้น ดีขึ้นเยอะมากครับ จนคิดว่าเราขาดกันแล้วจริงๆ ก็ยินดี ไม่เคยเสียใจที่ได้รักเขา ทุกอย่างค่อยๆเยียวยาหัวใจและความรู้สึกผม ให้ดีขึ้น จนเขารู้สึกได้ว่าผมเปลี่ยนไปได้แล้ว และเขาก็หายไปจากที่เคยทักกันทุกวัน กลายเป็นหายไปป็นอาทิตย์ๆ ซึ่งผมเองทำใจได้แล้ว ไม่ทุกข์แล้ว
และแล้วว ...เขาก็กลับมาทักแชทผมอีกหบังจากที่หายไป และบอกผมว่า "มาเจอเขาได้มั๊ย!!! ยังรักผมทุกวันไม่เคยเปลี่ยนไป" ยอมรับว่าดีใจ แต่ก็กลัวว่าใจผมเองจะกลับไปทุกข์เหมือนเดิม ตอนนี้ดีขึ้นแล้วทำไมต้องทำกันแบบนี้!!!! พยายามรวบรวมสติ ดึงจิตดึงใจไม่ให้ย้อนกลับไป ดึงความรู้สึกที่หลุดออกมาได้ ให้อยู่แบบนี้ให้ได้ ไม่อยากกลับไปทรมานแล้ว ตอนเรารอไม่คิดจะมาเจอ แต่ใจยอมรับว่าอยากเจอครับ พอเขาพูดมาแบบนี้ใจผมก็มีแอบหลุดเอียงมาหาเขาอีกครับ เพราะ ลึกๆยังคงรัก ปีกว่าๆไม่ได้เจอ อีกใจก็กลัวจะกลับไปทุกข์อีกกว่าจะ ผ่านมาได้ก็เล่นเอาเป็นปีๆ กินไม่ได้ นอนไม่หลับ ทรมานกว่าจะหลุด และก็มาเจอเรื่องแบบนี้ เพื่อนๆคิดว่า ผมควรจะทำยังดีครับ?
ขอบคุณที่ อ่านเรื่องราวของผม นี่เป็นครั้งแรก ยังไงก็แนะนำ ติ ชม ได้ครับ ขอคุณมากครับ