เคยได้อ่านกระทู้ที่ผ่านๆมา รวมถึงเคยฟังพี่ซิกโก้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับ หนุ่ย ศราวุฒิ มาสุข ว่าเป็น Lucky man มาหลายครั้ง
โดยส่วนตัวแล้วชื่นชอบการเล่นของศราวุฒิ มาสุข และติดตามมาระยะนึง
จึงลองรวบรวมผลงานของหนุ่ย ในนามทีมชาติไทยมาดูซิว่าเขาเป็นตัวนำโชคจริงหรือไม่ค่ะ
มาดูกันนะคะ
----------
ขอเริ่มต้นที่การก้าวเข้ามาฝึกซ้อมกับทีมชาติชุดใหญ่ ปี 2011 ในยุควินนี่ ทั้งๆที่ขณะนั้นเจ้าหนุ่ยเล่นในสโมสรระดับลีกภูมิภาคก็ตาม
ถึงแม้ว่าจะไม่มีชื่อเป็น 20 ขุนพลหลักสู้ศึกกับซาอุดิอาระเบียแต่ประสบการณ์ครั้งนั้นอาจเป็นสิ่งที่ผลักดันให้หนุ่ยมีวันนี้ก็ได้

----------------------------------
ต่อกันที่กีฬาซีเกมส์ 2013 ที่พม่า
โอกาสจะได้เป็นขุนพลนักเตะทีมชาติไทยตะลุยศึกซีเกมส์ก็มาถึง โอกาสสุดท้ายของหนุ่ยนั้นช่างมีแต่อุปสรรค
จากอาการบาดเจ็บที่รุมเร้า ทำให้พี่ซิกโก้ลังเลใจที่จะคัดเลือกหนุ่ยไปสู้ศึกในครั้งนั้น
มาอ่านบทความนี้กัน " 'หนุ่ย' ศราวุฒิ มาสุข เริ่มต้นด้วย (ผู้) ร้าย"
อาชีพนักฟุตบอลบางทีเก่งอย่างเดียวไม่พอ...มันต้องเฮงด้วย และสิ่งสำคัญที่สุดต้องอยู่ที่โอกาสและจังหวะที่เหมาะเจาะ โอกาสที่จะสร้างชื่อให้ตัวเองมีไม่มาก อยู่ที่ว่าใครจะสามารถคว้าโอกาสนั้นมาเป็นของตัวเองได้
''หนุ่ย'' ศราวุฒิ มาสุข เจ้าของฉายาปีกพ่อมดจากเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เรื่องของฝีเท้าไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่าหมอนี่เก่งฉกาจขนาดไหน แต่ใครจะเชื่อว่าเด็กหนุ่มจากเชียงรายผู้นี้เกือบที่จะพบกับฝันร้ายและไม่ติดทีมมาลุยศึกซีเกมส์หนนี้ ที่ประเทศเมียนมาร์ เสียแล้ว!
ย้อนกลับไปช่วงระหว่างเก็บตัวฝึกซ้อมที่อัลไพน์ กอล์ฟ รีสอร์ท เชียงใหม่ ปีกกระชากวิญญาณจากค่ายกิเลนผยองปะทะเข้าอย่างจังกับ นพนนท์ คชพลายุกต์ เพื่อนร่วมทีมแบบไม่ได้ตั้งใจ ส่งผลให้ ''หนุ่ย'' เจ็บแผลเก่าบริเวณหัวเข่าที่เคยผ่าขึ้นมาอีกครั้ง
ขึ้นชื่อว่า ''แผลเก่า'' วลีที่นักฟุตบอลทุกคนต้องขยาด ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันหายยากแค่ไหน ''หนุ่ย'' ทำได้เพียงแค่นั่งดูเพื่อนซ้อมที่ข้างสนามนานร่วมสัปดาห์ ทัวร์นาเมนต์แห่งความฝันก็ใกล้เข้ามาทุกขณะ ก่อนที่เจ้าตัวจะเร่งความฟิตในช่วงโค้งสุดท้ายเข้าป้ายเป็น 20 คนสุดท้ายในโผรายชื่อของ ''ซิโก้'' เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง
แต่เรื่องยังไม่จบแค่นั้น! อาการบาดเจ็บของ ''หนุ่ย'' ที่ยังไม่หายขาดเริ่มส่งสัญญาณกำเริบอีกครั้ง ส่งผลให้ ''ซิโก้'' ดีเลย์การคอนเฟิร์มรายชื่อนักเตะ เพราะต้องการเช็กให้แน่ใจว่า ศราวุฒิ มาสุข ไหวหรือไม่ โดยมี ''จุ๊บ'' ภิญโญ อินพินิจ กองหน้าไฮสปีดรอสแตนด์บาย
ประตูห้องประชุมลับถูกปิดดังปั้ง! สตาฟฟ์โค้ชทีมชาติไทยทั้ง 4 ราย นำโดย ''ซิโก้'' แม่ทัพใหญ่นั่งล้อมวงเด็กหนุ่มจากเชียงราย และกองหน้าสแตนด์บายอย่าง ภิญโญ อินพินิจ ถูกสอบสวนอย่างเคร่งเครียด บรรยากาศในห้องสี่เหลี่ยมแม้ไม่ได้เปิดแอร์ แต่ ศราวุฒิ มาสุข ยืนยันว่าอุณหภูมิมันหนาวขึ้นมาถึงหัวใจ
''ไอ้หนุ่ยเอ็งถอนเหอะพี่ขอร้อง ถ้าเจ็บอย่าฝืนไปเลย มันจะเสียโอกาสคนอื่น หลีกทางให้น้องมันเถอะ'' !!! เสียงกดดันด้วยความปวดร้าวจากปากซิโก้
''ผมรู้ตัวเองดีครับว่าผมไหวครับพี่ ผมไม่ใช่ไม่รักน้อง (ภิญโญ) ถ้าผมไม่ไหวจริงๆ ผมจะยอมถอนตัวให้น้องมันไป แต่ตอนนี้สภาพร่างกายผมดีขึ้นมาก ผมมั่นใจว่าผมไหวร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ จะให้พิสูจน์ด้วยอะไรก็ได้''
หลักฐานเพียงคำพูดอย่างเดียวไม่แน่นหนาพอที่จะจับผู้ร้ายปากแข็งได้ ''ซิโก้'' ตัดสินใจส่งตัวไปสแกรนโดยละเอียดด้วยการ MRI ไม่นานเกินรอหมอก็ฟันธงว่าเขาสามารถเล่นได้อย่างไร้ปัญหา นั่นคือใบผ่านทางสุดท้ายก่อนที่ ''ซิโก้'' จะตัดสินใจร่อนใบรายชื่อ 20 คนให้คณะกรรมการโอลิมปิกฯ
กระแสโจมตี ศราวุฒิ มาสุข ผ่านทางโซเชียลเกี่ยวกับเรื่องนี้มีไม่น้อย ซึ่งเจ้าตัวก็รับรู้มาโดยตลอด และอยากที่จะพิสูจน์ฝีเท้าเพื่อสยบคำพูดของนักวิจารณ์แห่งโลกไซเบอร์
''ผมอ่านทุกวันในกระทู้ต่างๆ มีหลายข้อความต่อว่าผมว่า ศราวุฒิ มาสุข เอาไปทำไม และอีกสารพัดคำพูดที่ทำร้ายจิตใจผม แต่ไร้ประโยชน์เพราะมันยิ่งเป็นพลังผลักดันให้ผมอยากจะลุกขึ้นมาพิสูจน์ตัวเองให้ได้ว่าผมก็มีความสามารถไม่แพ้ใคร''
รอบแรก ศราวุฒิ มาสุข ต้องตกเป็นเงาของ ''บาสตำรวจ'' ปกรณ์ เปรมภักดิ์ จนแทบไม่ได้รับโอกาสให้ลงสนามมากนัก มีเปลี่ยนตัวลงไปในช่วงครึ่งหลังประปราย รวมๆ เวลา 4 นัดแรกแทบไม่ถึง 90 นาทีด้วยซ้ำ แต่เขาก็พิสูจน์ให้เห็นด้วยเซนส์ลูกหนังที่ไม่ธรรมดาตามใบสั่งของโค้ช
กระทั่งดาวเตะจากอินทรีเพื่อนตำรวจโชคร้ายมาเดี้ยงเอาในแมตช์เสมอกัมพูชา 0-0 ในนัดปิดท้ายรอบแรก โอกาสของ ''หนุ่ย'' จึงมาถึงนัดต่อมารอบรองชนะเลิศปีกพ่อมดถูกส่งลงสนามเป็น 11 ผู้เล่นตัวจริงครั้งแรกในซีเกมส์ พบกับสิงคโปร์แล้วก็ทำผลงานได้ดีตามมาตรฐาน มีส่วนช่วยทีมสร้างเกมรุกจนผ่านเข้าไปชิงฯ ตามเป้าหมาย
รอบชิงฯ กับอิเหนา ''ซิโก้'' ยังติดใจลีลาการร่ายฝีเท้าของพ่อมดเมืองทองไม่เสื่อมคลาย ตัดสินใจส่งเป็น 11 ตัวแรกอีกครั้ง
กระทั่งเกมดำเนินมาถึง น.21 จังหวะชีวิตของ ศราวุฒิ มาสุข ก็บังเกิด เมื่อเขาได้กลายเป็นนักเตะที่พี่น้องชาวไทยจะต้องจดจำชื่อไปอีกนาน จากจังหวะที่เจ้าตัวกระชากขึ้นมาทางขวา ก่อนจะจ่ายเข้ากลางให้ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ เบิ้ลจังหวะเดียวให้เขาหลุดเข้าไปเกี่ยวบอลลงหนึ่งจังหวะก่อนจะกระดกบอลข้ามหัวผู้รักษาประตูเข้าไปซุกก้นตาข่ายอย่างเหนือชั้น กลายเป็นประตูชัยให้ทีมชาติไทยผงาดครองแชมป์ซีเกมส์ สมัยที่ 14 ได้อย่างยิ่งใหญ่ ซึ่ง ''หนุ่ย'' เปิดใจถึงจังหวะสังหารว่า
''มันเป็นจังหวะที่ผมกระชากขึ้นไปแล้วมองเห็น นิว (ฐิติพันธ์) ผมจึงส่งให้เขาแล้วสปีดไปตัวเปล่าเพื่อเอาบอลในกรอบเขตโทษ โดยเชื่อลึกๆ ว่าเขาจะเบิ้ลจังหวะเดียวมาให้ผม แล้วก็เป็นอย่างที่คิดจริงๆ บอลลอยข้ามหัวกองหลังมาก่อนที่จะตัดสินใจเกี่ยวบอลลงพื้น ผมเหลือบเห็นประตูออกมา นาทีนั้นทำอะไรไม่ได้นอกจากต้องกระดกข้ามหัวอย่างเดียว
ตอนที่บอลลอยกลางอากาศผมยังยืนลุ้นอยู่เลยว่ามันจะเข้าหรือไม่ แต่พอเห็นลูกกระทบตาข่ายก็ไม่รู้แล้วว่ามันจะเป็นอย่างไร ผมทำได้แค่วิ่งๆ ไปไหนก็ยังไม่รู้ รู้แต่ว่ามันคือวินาทีแห่งความสุขที่ไม่สามารถบรรยายได้เลยจริงๆ'' ศราวุฒิ เผยนาทีสังหาร
เบื้องหลังชอตมหัศจรรย์ในการพังประตูชัย เชื่อหรือไม่ว่า ''หนุ่ย'' คิดว่าตัวเองสวมวิญญาณ ซีเนดีน ซีดาน อดีตสตาร์ลูกหนังทีมชาติฝรั่งเศส!!
''ผมยอมรับเลยว่าผมนั่งดูคลิป ซีเนดีน ซีดาน ทุกวัน เขาคือผู้เล่นที่สุดยอดมาก และตอนที่ยิงประตูนั้น จังหวะเกี่ยวบอลลงพื้น ผมบอกเลยว่าเอามาจากการศึกษาวิธีการเล่นของซีดานล้วนๆ แล้วมันก็ได้ผลอย่างเหลือเชื่อจริงๆ''
แม้เริ่มต้นจะถูกตราหน้าเป็นผู้ร้าย...แต่สุดท้ายด้วยหัวใจที่ไม่ยอมแพ้ ''หนุ่ย'' ศราวุฒิ มาสุข เปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาส สามารถจารึกชื่อตัวเองได้ว่า ''ข้าคือฮีโร่ซีเกมส์'' !!!!
บอย พลับพลาไชย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.siamsport.co.th/seagames2013/column_detail.php?IDColumn=21593
ลูกยิงที่สุดสวยนี้แหละที่ทำให้ทีมชาติไทยทวงแชมป์ซีเกมส์กลับมาได้สำเร็จ

ซึ่งการได้แชมป์ซีเกมส์ครั้งนี้ หนุ่ยเองก็เผยถึงความภาคภูมิใจนี้ว่า "ฝันข้อแรกสำเร็จแล้ว"

-----------------------------------------------
มาต่อกันที่ AFF SUZUKI CUP 2014
พอได้ดูคลิปย้อนหลังทำให้เห็นว่าพี่ซิกโก้ให้โอกาสนักเตะหลายคนมากในรอบคัดเลือก ก่อนที่จะเริ่มคงที่ในรอบรองชนะเลิศ
มาดูผลงานหนุ่ยกันเถอะ

ถ้าดูจากคลิปนี้ มีจุดเด่นๆที่น่าสนใจ
- รอบคัดเลือกเจอกับพม่า
นาทีที่ 26.48 หนุ่ยเก็บบอลแล้วจ่ายให้เพื่อน 2 ครั้ง ครั้งแรกเพื่อนยิงไม่สำเร็จ หนุ่ยเก็บได้อีก ล็อคหลบแล้วตอกส้นคืนหลังให้ธนบูรณ์ยิงเข้าไปแบบสวยงาม ซึ่งเป็นผลให้ทีมชาติไทยขึ้นนำ 1 - 0
นาทีที่ 30.40 ครึ่งหลัง หนุ่ยเรียกฟาล์วได้ ซึ่งฟรีคิกลูกนี้ละที่ประกิตดีพร้อมยิงเข้าไปอย่าสวยงาม ส่งผลให้ไทยชนะ 2 - 0
- นัดชิงชนะเลิศ เลค2 กับมาเลเซีย
นาทีที่ 1:33:50 หนุ่ยลากบอลจากฝั่งไทย กระดกบอลเหนือผู้เล่นมาเลเซียก่อนเปิดให้อดิศักดิ์ ไกรสร ส่งให้เจยิงเป็นประตูย้ำคำว่าแชมป์ AFF SUZUKI CUP 2014
ซึ่งเจ้าตัวเคยถูกสัมภาษณ์ในรายการสรยุทธ ถึงความรู้สึกที่ได้มีโอกาสลงเล่นในนามทีมชาติ เห็นได้ถึงความมุ่งมั่นและทัศนคติของหนุ่ยได้เป็นอย่างดี (นาทีที่ 18.00)
และในรายการนี้เองที่โค้ชซิกโก้เปิดเผยว่าหนุ่ยคือ Lucky man มาตั้งแต่ซีเกมส์แล้ว (นาทีที่ 17.00)

-----------------------------------------
ต่อกันที่ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก
นัดไทยเปิดบ้านรับอีรัก (นัดนี้ได้ไปดูที่ราชมังคลาด้วย..........ปลื้มมากกกกกกก)
ไทยโดนนำ 0-2 นาทีที่ 60 กว่าๆ แอบเห็นหนุ่ยมาวอร์มข้างสนาม กรี๊ดเลยค่ะ เพื่อนถามกรี๊ดอะไร บอกว่าเดี๋ยวมาสุขจะลงละนะ 555
พอลงไปแล้วเรียกจุดโทษได้เท่านั้นละ กรี๊ดหนักมากกกกกกกกกกกก

นาทีที่ 7.45 มุ้ยเปิดบอลให้หนุ่ยโดนกระแทกล้มลงไปในกรอบเขตโทษ เสียงนกหวีดพร้อมกับมือของผู้ตัดสินชี้ไปที่จุดโทษ
หลังจากนั้นไม่ถึง 5 นาที นาทีที่ 11.40 ปกเกล้าเปิดบอลให้หนุ่ยส่งต่อให้อุ้ม อุ้มส่งต่อให้ธนา และธนาส่งต่อให้หนุ่ย ก่อนจะเปิดให้มงคลส่งบอลเข้าตาข่ายไปอย่างสุดมันส์ (โดยมีปกเกล้าหลอกอย่างเหนือชั้นถึง 3 ครั้งด้วย 555)
ก่อนแข่งเจอสัมภาษณ์ถามเกี่ยวกับการได้ลงเล่นและความพร้อมนัดเจออีรักด้วย หนุ่ยก็ตอบตามประสาคนถ่อมตัวแต่พร้อมเสมอถ้าได้รับโอกาส

และนัดเจออีรักนอกบ้าน เมื่อ 24 มีนาคม 2559 ที่ผ่านมา
หนุ่ยก็ถูกส่งลงเป็นตัวสำรองในช่วงท้ายเช่นกัน แต่ในนัดนี้ฟอร์มอาจจะไม่ได้หวือหวา แต่ที่น่าสนใจคือ การเรียกฟาล์ว (อีกแล้วครับท่าน)
5 นาทีสุดท้ายก่อนหมดเวลา จากคลิปนาทีที่ 1:33:50 หนุ่ยก็เรียกฟาล์วจากผู้เล่นอีรักได้ ล้มงไปท่าสวยงาม
และจากฟรีคิกนี้เอง อุ้มเปิดแฉลบกำแพงมาเข้าทางกอล์ฟ อดิศักดิ์เตะเข้าไปอย่างสวยงาม

แม้จะจบเกม 2-2 แต่ก็เพียงพอสำหรับการเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่มนะคะ
------------------------------------
เท่าที่นั่งดู จะว่าศราวุฒิ มาสุขเป็นนักเตะนำโชคก็น่าจะได้ แต่ถ้าดูดีๆ เหมือนหนุ่ยจะมีความสามารถในการลากเลื้อย และการเรียกฟาล์วเป็นพิศษ
"โชคอาจจะนำพา แต่ความพยายามและมุ่งมั่นต่างหากที่จะนำมาซึ่งความสำเร็จ"
ชื่นชมนักฟุตบอลทีมชาติไทยทุกรุ่นทุกสมัยและทุกคนค่ะ
ขอให้บอลไทยไปบอลโลก
เย้





ว่าด้วยเรื่องศราวุฒิ มาสุข เป็นนักเตะนำโชคจริงหรือไม่
โดยส่วนตัวแล้วชื่นชอบการเล่นของศราวุฒิ มาสุข และติดตามมาระยะนึง
จึงลองรวบรวมผลงานของหนุ่ย ในนามทีมชาติไทยมาดูซิว่าเขาเป็นตัวนำโชคจริงหรือไม่ค่ะ
มาดูกันนะคะ
----------
ขอเริ่มต้นที่การก้าวเข้ามาฝึกซ้อมกับทีมชาติชุดใหญ่ ปี 2011 ในยุควินนี่ ทั้งๆที่ขณะนั้นเจ้าหนุ่ยเล่นในสโมสรระดับลีกภูมิภาคก็ตาม
ถึงแม้ว่าจะไม่มีชื่อเป็น 20 ขุนพลหลักสู้ศึกกับซาอุดิอาระเบียแต่ประสบการณ์ครั้งนั้นอาจเป็นสิ่งที่ผลักดันให้หนุ่ยมีวันนี้ก็ได้
----------------------------------
ต่อกันที่กีฬาซีเกมส์ 2013 ที่พม่า
โอกาสจะได้เป็นขุนพลนักเตะทีมชาติไทยตะลุยศึกซีเกมส์ก็มาถึง โอกาสสุดท้ายของหนุ่ยนั้นช่างมีแต่อุปสรรค
จากอาการบาดเจ็บที่รุมเร้า ทำให้พี่ซิกโก้ลังเลใจที่จะคัดเลือกหนุ่ยไปสู้ศึกในครั้งนั้น
มาอ่านบทความนี้กัน " 'หนุ่ย' ศราวุฒิ มาสุข เริ่มต้นด้วย (ผู้) ร้าย"
อาชีพนักฟุตบอลบางทีเก่งอย่างเดียวไม่พอ...มันต้องเฮงด้วย และสิ่งสำคัญที่สุดต้องอยู่ที่โอกาสและจังหวะที่เหมาะเจาะ โอกาสที่จะสร้างชื่อให้ตัวเองมีไม่มาก อยู่ที่ว่าใครจะสามารถคว้าโอกาสนั้นมาเป็นของตัวเองได้
''หนุ่ย'' ศราวุฒิ มาสุข เจ้าของฉายาปีกพ่อมดจากเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เรื่องของฝีเท้าไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่าหมอนี่เก่งฉกาจขนาดไหน แต่ใครจะเชื่อว่าเด็กหนุ่มจากเชียงรายผู้นี้เกือบที่จะพบกับฝันร้ายและไม่ติดทีมมาลุยศึกซีเกมส์หนนี้ ที่ประเทศเมียนมาร์ เสียแล้ว!
ย้อนกลับไปช่วงระหว่างเก็บตัวฝึกซ้อมที่อัลไพน์ กอล์ฟ รีสอร์ท เชียงใหม่ ปีกกระชากวิญญาณจากค่ายกิเลนผยองปะทะเข้าอย่างจังกับ นพนนท์ คชพลายุกต์ เพื่อนร่วมทีมแบบไม่ได้ตั้งใจ ส่งผลให้ ''หนุ่ย'' เจ็บแผลเก่าบริเวณหัวเข่าที่เคยผ่าขึ้นมาอีกครั้ง
ขึ้นชื่อว่า ''แผลเก่า'' วลีที่นักฟุตบอลทุกคนต้องขยาด ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันหายยากแค่ไหน ''หนุ่ย'' ทำได้เพียงแค่นั่งดูเพื่อนซ้อมที่ข้างสนามนานร่วมสัปดาห์ ทัวร์นาเมนต์แห่งความฝันก็ใกล้เข้ามาทุกขณะ ก่อนที่เจ้าตัวจะเร่งความฟิตในช่วงโค้งสุดท้ายเข้าป้ายเป็น 20 คนสุดท้ายในโผรายชื่อของ ''ซิโก้'' เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง
แต่เรื่องยังไม่จบแค่นั้น! อาการบาดเจ็บของ ''หนุ่ย'' ที่ยังไม่หายขาดเริ่มส่งสัญญาณกำเริบอีกครั้ง ส่งผลให้ ''ซิโก้'' ดีเลย์การคอนเฟิร์มรายชื่อนักเตะ เพราะต้องการเช็กให้แน่ใจว่า ศราวุฒิ มาสุข ไหวหรือไม่ โดยมี ''จุ๊บ'' ภิญโญ อินพินิจ กองหน้าไฮสปีดรอสแตนด์บาย
ประตูห้องประชุมลับถูกปิดดังปั้ง! สตาฟฟ์โค้ชทีมชาติไทยทั้ง 4 ราย นำโดย ''ซิโก้'' แม่ทัพใหญ่นั่งล้อมวงเด็กหนุ่มจากเชียงราย และกองหน้าสแตนด์บายอย่าง ภิญโญ อินพินิจ ถูกสอบสวนอย่างเคร่งเครียด บรรยากาศในห้องสี่เหลี่ยมแม้ไม่ได้เปิดแอร์ แต่ ศราวุฒิ มาสุข ยืนยันว่าอุณหภูมิมันหนาวขึ้นมาถึงหัวใจ
''ไอ้หนุ่ยเอ็งถอนเหอะพี่ขอร้อง ถ้าเจ็บอย่าฝืนไปเลย มันจะเสียโอกาสคนอื่น หลีกทางให้น้องมันเถอะ'' !!! เสียงกดดันด้วยความปวดร้าวจากปากซิโก้
''ผมรู้ตัวเองดีครับว่าผมไหวครับพี่ ผมไม่ใช่ไม่รักน้อง (ภิญโญ) ถ้าผมไม่ไหวจริงๆ ผมจะยอมถอนตัวให้น้องมันไป แต่ตอนนี้สภาพร่างกายผมดีขึ้นมาก ผมมั่นใจว่าผมไหวร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ จะให้พิสูจน์ด้วยอะไรก็ได้''
หลักฐานเพียงคำพูดอย่างเดียวไม่แน่นหนาพอที่จะจับผู้ร้ายปากแข็งได้ ''ซิโก้'' ตัดสินใจส่งตัวไปสแกรนโดยละเอียดด้วยการ MRI ไม่นานเกินรอหมอก็ฟันธงว่าเขาสามารถเล่นได้อย่างไร้ปัญหา นั่นคือใบผ่านทางสุดท้ายก่อนที่ ''ซิโก้'' จะตัดสินใจร่อนใบรายชื่อ 20 คนให้คณะกรรมการโอลิมปิกฯ
กระแสโจมตี ศราวุฒิ มาสุข ผ่านทางโซเชียลเกี่ยวกับเรื่องนี้มีไม่น้อย ซึ่งเจ้าตัวก็รับรู้มาโดยตลอด และอยากที่จะพิสูจน์ฝีเท้าเพื่อสยบคำพูดของนักวิจารณ์แห่งโลกไซเบอร์
''ผมอ่านทุกวันในกระทู้ต่างๆ มีหลายข้อความต่อว่าผมว่า ศราวุฒิ มาสุข เอาไปทำไม และอีกสารพัดคำพูดที่ทำร้ายจิตใจผม แต่ไร้ประโยชน์เพราะมันยิ่งเป็นพลังผลักดันให้ผมอยากจะลุกขึ้นมาพิสูจน์ตัวเองให้ได้ว่าผมก็มีความสามารถไม่แพ้ใคร''
รอบแรก ศราวุฒิ มาสุข ต้องตกเป็นเงาของ ''บาสตำรวจ'' ปกรณ์ เปรมภักดิ์ จนแทบไม่ได้รับโอกาสให้ลงสนามมากนัก มีเปลี่ยนตัวลงไปในช่วงครึ่งหลังประปราย รวมๆ เวลา 4 นัดแรกแทบไม่ถึง 90 นาทีด้วยซ้ำ แต่เขาก็พิสูจน์ให้เห็นด้วยเซนส์ลูกหนังที่ไม่ธรรมดาตามใบสั่งของโค้ช
กระทั่งดาวเตะจากอินทรีเพื่อนตำรวจโชคร้ายมาเดี้ยงเอาในแมตช์เสมอกัมพูชา 0-0 ในนัดปิดท้ายรอบแรก โอกาสของ ''หนุ่ย'' จึงมาถึงนัดต่อมารอบรองชนะเลิศปีกพ่อมดถูกส่งลงสนามเป็น 11 ผู้เล่นตัวจริงครั้งแรกในซีเกมส์ พบกับสิงคโปร์แล้วก็ทำผลงานได้ดีตามมาตรฐาน มีส่วนช่วยทีมสร้างเกมรุกจนผ่านเข้าไปชิงฯ ตามเป้าหมาย
รอบชิงฯ กับอิเหนา ''ซิโก้'' ยังติดใจลีลาการร่ายฝีเท้าของพ่อมดเมืองทองไม่เสื่อมคลาย ตัดสินใจส่งเป็น 11 ตัวแรกอีกครั้ง
กระทั่งเกมดำเนินมาถึง น.21 จังหวะชีวิตของ ศราวุฒิ มาสุข ก็บังเกิด เมื่อเขาได้กลายเป็นนักเตะที่พี่น้องชาวไทยจะต้องจดจำชื่อไปอีกนาน จากจังหวะที่เจ้าตัวกระชากขึ้นมาทางขวา ก่อนจะจ่ายเข้ากลางให้ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ เบิ้ลจังหวะเดียวให้เขาหลุดเข้าไปเกี่ยวบอลลงหนึ่งจังหวะก่อนจะกระดกบอลข้ามหัวผู้รักษาประตูเข้าไปซุกก้นตาข่ายอย่างเหนือชั้น กลายเป็นประตูชัยให้ทีมชาติไทยผงาดครองแชมป์ซีเกมส์ สมัยที่ 14 ได้อย่างยิ่งใหญ่ ซึ่ง ''หนุ่ย'' เปิดใจถึงจังหวะสังหารว่า
''มันเป็นจังหวะที่ผมกระชากขึ้นไปแล้วมองเห็น นิว (ฐิติพันธ์) ผมจึงส่งให้เขาแล้วสปีดไปตัวเปล่าเพื่อเอาบอลในกรอบเขตโทษ โดยเชื่อลึกๆ ว่าเขาจะเบิ้ลจังหวะเดียวมาให้ผม แล้วก็เป็นอย่างที่คิดจริงๆ บอลลอยข้ามหัวกองหลังมาก่อนที่จะตัดสินใจเกี่ยวบอลลงพื้น ผมเหลือบเห็นประตูออกมา นาทีนั้นทำอะไรไม่ได้นอกจากต้องกระดกข้ามหัวอย่างเดียว
ตอนที่บอลลอยกลางอากาศผมยังยืนลุ้นอยู่เลยว่ามันจะเข้าหรือไม่ แต่พอเห็นลูกกระทบตาข่ายก็ไม่รู้แล้วว่ามันจะเป็นอย่างไร ผมทำได้แค่วิ่งๆ ไปไหนก็ยังไม่รู้ รู้แต่ว่ามันคือวินาทีแห่งความสุขที่ไม่สามารถบรรยายได้เลยจริงๆ'' ศราวุฒิ เผยนาทีสังหาร
เบื้องหลังชอตมหัศจรรย์ในการพังประตูชัย เชื่อหรือไม่ว่า ''หนุ่ย'' คิดว่าตัวเองสวมวิญญาณ ซีเนดีน ซีดาน อดีตสตาร์ลูกหนังทีมชาติฝรั่งเศส!!
''ผมยอมรับเลยว่าผมนั่งดูคลิป ซีเนดีน ซีดาน ทุกวัน เขาคือผู้เล่นที่สุดยอดมาก และตอนที่ยิงประตูนั้น จังหวะเกี่ยวบอลลงพื้น ผมบอกเลยว่าเอามาจากการศึกษาวิธีการเล่นของซีดานล้วนๆ แล้วมันก็ได้ผลอย่างเหลือเชื่อจริงๆ''
แม้เริ่มต้นจะถูกตราหน้าเป็นผู้ร้าย...แต่สุดท้ายด้วยหัวใจที่ไม่ยอมแพ้ ''หนุ่ย'' ศราวุฒิ มาสุข เปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาส สามารถจารึกชื่อตัวเองได้ว่า ''ข้าคือฮีโร่ซีเกมส์'' !!!!
บอย พลับพลาไชย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ลูกยิงที่สุดสวยนี้แหละที่ทำให้ทีมชาติไทยทวงแชมป์ซีเกมส์กลับมาได้สำเร็จ
ซึ่งการได้แชมป์ซีเกมส์ครั้งนี้ หนุ่ยเองก็เผยถึงความภาคภูมิใจนี้ว่า "ฝันข้อแรกสำเร็จแล้ว"
-----------------------------------------------
มาต่อกันที่ AFF SUZUKI CUP 2014
พอได้ดูคลิปย้อนหลังทำให้เห็นว่าพี่ซิกโก้ให้โอกาสนักเตะหลายคนมากในรอบคัดเลือก ก่อนที่จะเริ่มคงที่ในรอบรองชนะเลิศ
มาดูผลงานหนุ่ยกันเถอะ
ถ้าดูจากคลิปนี้ มีจุดเด่นๆที่น่าสนใจ
- รอบคัดเลือกเจอกับพม่า
นาทีที่ 26.48 หนุ่ยเก็บบอลแล้วจ่ายให้เพื่อน 2 ครั้ง ครั้งแรกเพื่อนยิงไม่สำเร็จ หนุ่ยเก็บได้อีก ล็อคหลบแล้วตอกส้นคืนหลังให้ธนบูรณ์ยิงเข้าไปแบบสวยงาม ซึ่งเป็นผลให้ทีมชาติไทยขึ้นนำ 1 - 0
นาทีที่ 30.40 ครึ่งหลัง หนุ่ยเรียกฟาล์วได้ ซึ่งฟรีคิกลูกนี้ละที่ประกิตดีพร้อมยิงเข้าไปอย่าสวยงาม ส่งผลให้ไทยชนะ 2 - 0
- นัดชิงชนะเลิศ เลค2 กับมาเลเซีย
นาทีที่ 1:33:50 หนุ่ยลากบอลจากฝั่งไทย กระดกบอลเหนือผู้เล่นมาเลเซียก่อนเปิดให้อดิศักดิ์ ไกรสร ส่งให้เจยิงเป็นประตูย้ำคำว่าแชมป์ AFF SUZUKI CUP 2014
ซึ่งเจ้าตัวเคยถูกสัมภาษณ์ในรายการสรยุทธ ถึงความรู้สึกที่ได้มีโอกาสลงเล่นในนามทีมชาติ เห็นได้ถึงความมุ่งมั่นและทัศนคติของหนุ่ยได้เป็นอย่างดี (นาทีที่ 18.00)
และในรายการนี้เองที่โค้ชซิกโก้เปิดเผยว่าหนุ่ยคือ Lucky man มาตั้งแต่ซีเกมส์แล้ว (นาทีที่ 17.00)
-----------------------------------------
ต่อกันที่ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก
นัดไทยเปิดบ้านรับอีรัก (นัดนี้ได้ไปดูที่ราชมังคลาด้วย..........ปลื้มมากกกกกกก)
ไทยโดนนำ 0-2 นาทีที่ 60 กว่าๆ แอบเห็นหนุ่ยมาวอร์มข้างสนาม กรี๊ดเลยค่ะ เพื่อนถามกรี๊ดอะไร บอกว่าเดี๋ยวมาสุขจะลงละนะ 555
พอลงไปแล้วเรียกจุดโทษได้เท่านั้นละ กรี๊ดหนักมากกกกกกกกกกกก
นาทีที่ 7.45 มุ้ยเปิดบอลให้หนุ่ยโดนกระแทกล้มลงไปในกรอบเขตโทษ เสียงนกหวีดพร้อมกับมือของผู้ตัดสินชี้ไปที่จุดโทษ
หลังจากนั้นไม่ถึง 5 นาที นาทีที่ 11.40 ปกเกล้าเปิดบอลให้หนุ่ยส่งต่อให้อุ้ม อุ้มส่งต่อให้ธนา และธนาส่งต่อให้หนุ่ย ก่อนจะเปิดให้มงคลส่งบอลเข้าตาข่ายไปอย่างสุดมันส์ (โดยมีปกเกล้าหลอกอย่างเหนือชั้นถึง 3 ครั้งด้วย 555)
ก่อนแข่งเจอสัมภาษณ์ถามเกี่ยวกับการได้ลงเล่นและความพร้อมนัดเจออีรักด้วย หนุ่ยก็ตอบตามประสาคนถ่อมตัวแต่พร้อมเสมอถ้าได้รับโอกาส
และนัดเจออีรักนอกบ้าน เมื่อ 24 มีนาคม 2559 ที่ผ่านมา
หนุ่ยก็ถูกส่งลงเป็นตัวสำรองในช่วงท้ายเช่นกัน แต่ในนัดนี้ฟอร์มอาจจะไม่ได้หวือหวา แต่ที่น่าสนใจคือ การเรียกฟาล์ว (อีกแล้วครับท่าน)
5 นาทีสุดท้ายก่อนหมดเวลา จากคลิปนาทีที่ 1:33:50 หนุ่ยก็เรียกฟาล์วจากผู้เล่นอีรักได้ ล้มงไปท่าสวยงาม
และจากฟรีคิกนี้เอง อุ้มเปิดแฉลบกำแพงมาเข้าทางกอล์ฟ อดิศักดิ์เตะเข้าไปอย่างสวยงาม
แม้จะจบเกม 2-2 แต่ก็เพียงพอสำหรับการเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่มนะคะ
------------------------------------
เท่าที่นั่งดู จะว่าศราวุฒิ มาสุขเป็นนักเตะนำโชคก็น่าจะได้ แต่ถ้าดูดีๆ เหมือนหนุ่ยจะมีความสามารถในการลากเลื้อย และการเรียกฟาล์วเป็นพิศษ
"โชคอาจจะนำพา แต่ความพยายามและมุ่งมั่นต่างหากที่จะนำมาซึ่งความสำเร็จ"
ชื่นชมนักฟุตบอลทีมชาติไทยทุกรุ่นทุกสมัยและทุกคนค่ะ
ขอให้บอลไทยไปบอลโลก
เย้