จากพระติดยาเสพติดสู่การเดินทางสายธรรม
วันที่ 1 เมษายน เป็นอีกหนึ่งวันที่อาตมารอคอยสำหรับครั้งแรกในชีวิตบรรพชิตของอาตมา และการทำตาม สัจจะ ที่อาตมาได้ให้ไว้ก่อนบวช คือ การธุดงค์ 43 ตำลึงทองทุกหนึ่งย่างก้าวที่อาตมาได้เดิน อาตมาของอุทิศให้กับครอบครัวอันเป็นที่รักของอาตมา ลุง bob น้องพิมพ์สำหรับของขวัญวันแต่งงาน และครู อาจารย์ มิตรสหาย ครอบครัวเจ๊สุข เจ้ากรรมนายเวร ของอาตมา

อาตมามาบวชเพื่อ ลด ละ
การบวชครั้งนี้ของอาตมา บวชมาเพื่อลด ละ นิสัยของอาตมา อาตมาพยายามเตือนตนเองอยู่เสมอ การจะเปลี่ยนนิสัยที่ไม่ดีของอาตมา ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ภายในระยะเวลาข้ามคืน ฉะนั้นอาตมาจะไม่ฝืนการกระทำของตนเอง หากความรู้สึกบอกว่าอยาก อาตมาจะอดทน แต่หากเป็นความต้องการจนชีวิตของอาตมาไม่สามารถขาดได้ อาตมาจะไม่ฝืนอดทน แต่จะค่อยๆพิจารณารับความต้องการนั้นมาอย่างมีสติ (นี้คือความคิดที่อาตมาได้พิจารณาให้ตัวของอาตมาเอง ขณะก้าวเดินในธุดงค์)

หายนะของความใฝ่สูง
อตีดของอาตมาต้องการใฝ่หาในสิ่งที่อาตมาสามารถเอื้อมถึงได้ยาก อยากเสียจนไม่รู้จักคำว่า"พอ" ถึงจะมีคำว่า "รอ" แต่ก็รออย่าง "อิจฉา" และ "ริษยา" อาตมายอมทำตนเองให้ตกต่ำ เพื่อจะทำให้คนที่อาตมารักหรือหวังผลประโยชน์จากเขาเหล่านั้นเกิดความสงสาร อาตมาขอแค่ความสุขแบบฉาบฉวย ขอแค่คนอื่นมองว่าอาตมาก็เด่น มองว่าอาตมาก็ดี เพื่อหวังให้พวกเขาเหล่านั้นชักชวนอาตมาเข้ากลุ่มหรือสนใจในตัวของอาตมา จะทำอย่างไรได้หากพื้นฐานของอาตมามีไม่ได้เท่ากับพวกเขา จริงอยู่ความรู้ ความสามารถของอาตมาที่มี อาจสามารถหาสิ่งเหล่านั้นมาได้ แต่อาจจะต้องใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตเพื่อจะได้มาเพียงแค่เศษหนึ่งส่วนร้อยของพวกเขาเหล่านั้น อาตมาจะเลือกที่จะยอมทำร้ายตนเอง ยอมที่จะลดศักดิ์ของตนเองเพื่อแรกกับสิ่งเหล่านั้น ขณะนี้ หลังจากเสร็จกิจธุดงค์ในครั้งนี้อาตมาของให้"สัจจะ"กับตนเองว่า อาตมายอมละทิ้งของทุกอย่างที่อาตมาได้มาซึ่งกิเลสอันโง่เขลา เพื่อเริ่มต้นชีวิตภายใต้ร่มกาสาวพัสตร์ อาตมาขอให้บุญกุศลที่อาตมาได้ทำช่วยส่งผลให้อาตมาได้เริ่มต้นจากศูนย์ อย่าติดลบก็ถือเป็นกุศลอันสูงสุดในการออกธุดงค์ในครั้งนี้แล้ว

ขอผลบุญช่วยหนุนสติ
อาตมาอยากไหมที่จะกลับไปใช้ชีวิตสุขสบายเหมือนเดิม งานก็ไม่ต้องทำ เงินก็มีใช้ แต่มองย้อนคิดด้วยเหตุผล แล้วอะไรล่ะที่อาตมาจะเหลือ ชีวิตก็คงเหลือแค่การหายใจทิ้งไปวันๆ สนุกอยู่กับของฟุ่มเฟือย ลืมคำว่ารับผิดชอบ สุขจนกลายเป็นคนเห็นแก่ตัว กลับจากธุดงค์ในครั้งนี้ ทำให้อาตมาได้พิจารณาตนเองในหลายต่อหลายเรื่องในตัวตนของตนเอง อย่างน้อยขอกุศลบุญที่อาตมาทำช่วยส่งผลให้อาตมาคิดอะไรในทางที่ถูกที่ชอบและคิดอย่างมีสติด้วยเถิด

รับใช้กรรมอย่างมีสติ
การเดินในครั้งนี้แตกต่างจากการเดินในอดีตของอาตมา แต่ก่อนอาตมาเคยเดินเพื่อมองหาแหล่งอบายมุขเพื่อมั่วสุมทั้งยาเสพติด เซ็กส์ ซึ่งวัตถุประสงค์ของการเดินในอดีตจุดจบมีเพียงแต่ "ทุกข์" แต่การเดินในครั้งนี้ของอาตมาทำให้อาตมารับรู้และย่อมรับผลกรรมที่ตัวเองเคยก่อไว้ในอตีดเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะถูกเรียกว่าไอ้ขี้ยาเหมือน "น้ำพุ" เจ็บป่วยเหมือน "พละ" นี้แหละคือผลกรรมที่ติดตามตัวของอาตมาอยู่ หากเป็นเหมือนก่อนอาตมาคงจะไม่มีคำตอบที่เหมาะสมให้กับตัวเองว่าจะจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นเช่นไร แต่ด้วยการเดินพิจารณาตนเองอย่างมีสติในขณะนี้ อาตมาจะเตือนตนเองว่า อาตมาจะไม่ทุกข์อยู่กับกรรมที่อาตมาต้องชดใช้นาน แต่อาตมาจะค่อยๆเตือนตัวเองอยู่เสมอว่าจะรับกรรมที่เคยทำไว้อย่างมี"สติ"

อย่ากินอย่างเบียดเบียน
อาตมายอมรับว่ายังมีกิเลิศเรื่องอยากจะฉันท์ของที่อร่อยถูกลิ้น อยากฉันท์เยอะๆ ด้วยความที่อาตมาถือสัจจะ ฉันท์เพียงวันละหนึ่งมื้อ ถือว่าอาตมาโชคดีเหลือเกินที่ได้มาพิจารณาเรื่อง
ยิ่งฉันท์มากยิ่งเบียดเบียนมาก
หิวแค่ไหนก็ได้แค่อิ่ม
อร่อยลิ้น แต่ต้องแลกด้วยชีวิตสัตว์อื่น

คืนสู่สามัญ
Back to the Basic -- คืนสู่สามัญ นอกจากสภาพอากาศที่ร้อนระอุแล้ว สัมภาระที่ติดตัวอาตมา ก็เป็นหนึ่งในอุปสรรคที่ทดสอบความอดทนของอาตมา กลดสำหรับปักนอน บาตรสำหรับฉันท์อาหาร หากเดินเพียงหนึ่งหรือสองกิโลเมตรคงจะเป็นเรื่องที่ปกติ แต่ในแต่ละวันอาตมาเดินเกือบ 15 กิโลเมตร เดินขึ้นเขา เข้าป่า ผ่านถนนดินลูกรัง เดินริมขอบถนนที่รถยนต์สัญจรผ่านไปมา "เหนื่อยนะ" แต่ทำให้คิดได้ว่าอะไรที่ไม่จำเป็นก็ตัดออกไปจากชีวิตบ้างก็ได้ เพราะต่อให้ขาดสิ่งของที่ไม่จำเป็น สิ่งของที่ฟุ่มเฟือย แต่ชีวิตการยังอยู่ได้

ธุดงค์แห่งการทดสอบสังขาร
อาตมาถือว่ายังโชคดีมากที่เป็นคนผิวคล้ำทำให้แสงแดดไม่สามารถทำอะไรกับผิวของอาตมาได้มากนัก แต่พระบางท่าน ผิวหนังลอก ไหม้ เพราะแสงแดดที่แผดเผ่าระหว่างการเดินธุดงค์ แต่พระผู้ใหญ่ที่เคยผ่านการเดินธุดงค์มาแล้ว ท่านบอกว่าอีกสักพักผิวที่โดนแสงแดดไหม้เดี๋ยวก็ดีเองนี่เป็นอีกหนึ่งบททดสอบของการเดินธุดงค์

อาตมายังไม่รู้จะได้บวชเป็นพระนานเท่าใดแต่สิ่งที่รู้ในตอนนี้คือส่วนหนึ่งของชีวิตขออุทิศให้กับสังคม
จากพระติดยาเสพติดสู่การเดินทางสายธรรม
วันที่ 1 เมษายน เป็นอีกหนึ่งวันที่อาตมารอคอยสำหรับครั้งแรกในชีวิตบรรพชิตของอาตมา และการทำตาม สัจจะ ที่อาตมาได้ให้ไว้ก่อนบวช คือ การธุดงค์ 43 ตำลึงทองทุกหนึ่งย่างก้าวที่อาตมาได้เดิน อาตมาของอุทิศให้กับครอบครัวอันเป็นที่รักของอาตมา ลุง bob น้องพิมพ์สำหรับของขวัญวันแต่งงาน และครู อาจารย์ มิตรสหาย ครอบครัวเจ๊สุข เจ้ากรรมนายเวร ของอาตมา
อาตมามาบวชเพื่อ ลด ละ
การบวชครั้งนี้ของอาตมา บวชมาเพื่อลด ละ นิสัยของอาตมา อาตมาพยายามเตือนตนเองอยู่เสมอ การจะเปลี่ยนนิสัยที่ไม่ดีของอาตมา ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ภายในระยะเวลาข้ามคืน ฉะนั้นอาตมาจะไม่ฝืนการกระทำของตนเอง หากความรู้สึกบอกว่าอยาก อาตมาจะอดทน แต่หากเป็นความต้องการจนชีวิตของอาตมาไม่สามารถขาดได้ อาตมาจะไม่ฝืนอดทน แต่จะค่อยๆพิจารณารับความต้องการนั้นมาอย่างมีสติ (นี้คือความคิดที่อาตมาได้พิจารณาให้ตัวของอาตมาเอง ขณะก้าวเดินในธุดงค์)
หายนะของความใฝ่สูง
อตีดของอาตมาต้องการใฝ่หาในสิ่งที่อาตมาสามารถเอื้อมถึงได้ยาก อยากเสียจนไม่รู้จักคำว่า"พอ" ถึงจะมีคำว่า "รอ" แต่ก็รออย่าง "อิจฉา" และ "ริษยา" อาตมายอมทำตนเองให้ตกต่ำ เพื่อจะทำให้คนที่อาตมารักหรือหวังผลประโยชน์จากเขาเหล่านั้นเกิดความสงสาร อาตมาขอแค่ความสุขแบบฉาบฉวย ขอแค่คนอื่นมองว่าอาตมาก็เด่น มองว่าอาตมาก็ดี เพื่อหวังให้พวกเขาเหล่านั้นชักชวนอาตมาเข้ากลุ่มหรือสนใจในตัวของอาตมา จะทำอย่างไรได้หากพื้นฐานของอาตมามีไม่ได้เท่ากับพวกเขา จริงอยู่ความรู้ ความสามารถของอาตมาที่มี อาจสามารถหาสิ่งเหล่านั้นมาได้ แต่อาจจะต้องใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตเพื่อจะได้มาเพียงแค่เศษหนึ่งส่วนร้อยของพวกเขาเหล่านั้น อาตมาจะเลือกที่จะยอมทำร้ายตนเอง ยอมที่จะลดศักดิ์ของตนเองเพื่อแรกกับสิ่งเหล่านั้น ขณะนี้ หลังจากเสร็จกิจธุดงค์ในครั้งนี้อาตมาของให้"สัจจะ"กับตนเองว่า อาตมายอมละทิ้งของทุกอย่างที่อาตมาได้มาซึ่งกิเลสอันโง่เขลา เพื่อเริ่มต้นชีวิตภายใต้ร่มกาสาวพัสตร์ อาตมาขอให้บุญกุศลที่อาตมาได้ทำช่วยส่งผลให้อาตมาได้เริ่มต้นจากศูนย์ อย่าติดลบก็ถือเป็นกุศลอันสูงสุดในการออกธุดงค์ในครั้งนี้แล้ว
ขอผลบุญช่วยหนุนสติ
อาตมาอยากไหมที่จะกลับไปใช้ชีวิตสุขสบายเหมือนเดิม งานก็ไม่ต้องทำ เงินก็มีใช้ แต่มองย้อนคิดด้วยเหตุผล แล้วอะไรล่ะที่อาตมาจะเหลือ ชีวิตก็คงเหลือแค่การหายใจทิ้งไปวันๆ สนุกอยู่กับของฟุ่มเฟือย ลืมคำว่ารับผิดชอบ สุขจนกลายเป็นคนเห็นแก่ตัว กลับจากธุดงค์ในครั้งนี้ ทำให้อาตมาได้พิจารณาตนเองในหลายต่อหลายเรื่องในตัวตนของตนเอง อย่างน้อยขอกุศลบุญที่อาตมาทำช่วยส่งผลให้อาตมาคิดอะไรในทางที่ถูกที่ชอบและคิดอย่างมีสติด้วยเถิด
รับใช้กรรมอย่างมีสติ
การเดินในครั้งนี้แตกต่างจากการเดินในอดีตของอาตมา แต่ก่อนอาตมาเคยเดินเพื่อมองหาแหล่งอบายมุขเพื่อมั่วสุมทั้งยาเสพติด เซ็กส์ ซึ่งวัตถุประสงค์ของการเดินในอดีตจุดจบมีเพียงแต่ "ทุกข์" แต่การเดินในครั้งนี้ของอาตมาทำให้อาตมารับรู้และย่อมรับผลกรรมที่ตัวเองเคยก่อไว้ในอตีดเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะถูกเรียกว่าไอ้ขี้ยาเหมือน "น้ำพุ" เจ็บป่วยเหมือน "พละ" นี้แหละคือผลกรรมที่ติดตามตัวของอาตมาอยู่ หากเป็นเหมือนก่อนอาตมาคงจะไม่มีคำตอบที่เหมาะสมให้กับตัวเองว่าจะจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นเช่นไร แต่ด้วยการเดินพิจารณาตนเองอย่างมีสติในขณะนี้ อาตมาจะเตือนตนเองว่า อาตมาจะไม่ทุกข์อยู่กับกรรมที่อาตมาต้องชดใช้นาน แต่อาตมาจะค่อยๆเตือนตัวเองอยู่เสมอว่าจะรับกรรมที่เคยทำไว้อย่างมี"สติ"
อย่ากินอย่างเบียดเบียน
อาตมายอมรับว่ายังมีกิเลิศเรื่องอยากจะฉันท์ของที่อร่อยถูกลิ้น อยากฉันท์เยอะๆ ด้วยความที่อาตมาถือสัจจะ ฉันท์เพียงวันละหนึ่งมื้อ ถือว่าอาตมาโชคดีเหลือเกินที่ได้มาพิจารณาเรื่อง
ยิ่งฉันท์มากยิ่งเบียดเบียนมาก
หิวแค่ไหนก็ได้แค่อิ่ม
อร่อยลิ้น แต่ต้องแลกด้วยชีวิตสัตว์อื่น
คืนสู่สามัญ
Back to the Basic -- คืนสู่สามัญ นอกจากสภาพอากาศที่ร้อนระอุแล้ว สัมภาระที่ติดตัวอาตมา ก็เป็นหนึ่งในอุปสรรคที่ทดสอบความอดทนของอาตมา กลดสำหรับปักนอน บาตรสำหรับฉันท์อาหาร หากเดินเพียงหนึ่งหรือสองกิโลเมตรคงจะเป็นเรื่องที่ปกติ แต่ในแต่ละวันอาตมาเดินเกือบ 15 กิโลเมตร เดินขึ้นเขา เข้าป่า ผ่านถนนดินลูกรัง เดินริมขอบถนนที่รถยนต์สัญจรผ่านไปมา "เหนื่อยนะ" แต่ทำให้คิดได้ว่าอะไรที่ไม่จำเป็นก็ตัดออกไปจากชีวิตบ้างก็ได้ เพราะต่อให้ขาดสิ่งของที่ไม่จำเป็น สิ่งของที่ฟุ่มเฟือย แต่ชีวิตการยังอยู่ได้
ธุดงค์แห่งการทดสอบสังขาร
อาตมาถือว่ายังโชคดีมากที่เป็นคนผิวคล้ำทำให้แสงแดดไม่สามารถทำอะไรกับผิวของอาตมาได้มากนัก แต่พระบางท่าน ผิวหนังลอก ไหม้ เพราะแสงแดดที่แผดเผ่าระหว่างการเดินธุดงค์ แต่พระผู้ใหญ่ที่เคยผ่านการเดินธุดงค์มาแล้ว ท่านบอกว่าอีกสักพักผิวที่โดนแสงแดดไหม้เดี๋ยวก็ดีเองนี่เป็นอีกหนึ่งบททดสอบของการเดินธุดงค์
อาตมายังไม่รู้จะได้บวชเป็นพระนานเท่าใดแต่สิ่งที่รู้ในตอนนี้คือส่วนหนึ่งของชีวิตขออุทิศให้กับสังคม