รู้จักกับ 'โรบิน ฟรายเดย์' : “อัจฉริยะสุดแสบที่โลกลืม”
โดย : มาสเตอร์ ริท
https://www.facebook.com/MasterReed.1992/
พฤติกรรมล่าสุดของ แจ็ค วิลเชียร์ ที่ไปมีเรื่องราว ณ ไนท์คลับ ทำให้แฟนปืนต่างเป็นกังวล ในอดีตเคยมีนักเตะหลายรายที่ทำท่าจะรุ่งโรจน์ทว่าสุดท้ายด้วยนิสัยสุดเกรียนก็ทำให้พวกเขา “ต้องฝันค้าง”
จอร์จ เบสต์ และ พอล แกสคอยน์ คือแบบอย่างที่ดีในการห้ามเจริญรอยตาม ทว่ากลับมีเรื่องราวชีวิตของชายหนุ่มอีกหนึ่งคนครับที่ไม่ต่างกับอุทาหรณ์สอนใจ และชื่อของเขาก็คือ ‘โรบิน ฟรายเดย์’
เป็นธรรมดาที่หลายคนจะขมวดคิ้วด้วยความสงสัย พร้อมฉงนว่า “เจ้านี่มันใครฟะ!??”
อย่างไรก็ตาม นี่คือหนึ่งในนักเตะนิรนามที่กระทั่ง
พอล แม็คกูแกน อดีตมือเบสแห่งวง “Oasis” ยังต้องโค้งคารวะให้ จนถึงขั้นขนานนามให้ว่า “สุดยอดนักเตะที่โลกลืม”
ว่ากันว่าหากเจ้าตัวไม่ทำตนเองเหลวแหลกเสียก่อน .. บางทีประวัติศาสตร์อาจไม่ปรากฏชื่อของ เอียน รัช บางทีชื่อของ แกรี่ ลินิเกอร์ อาจไม่ถูกจารึกไว้บนหน้าประวัติศาสตร์แห่งอังกฤษ หรือ บางที เลส เฟอร์ดินานด์ อาจกลายเป็นแค่ดาวเตะระดับธรรมดาๆ
ส่วนตำนานของสุดยอดหัวหอกลูกหนังแดนผู้ดีอ่ะเหรอ !?
แน่นอนว่าต้องเป็น ‘โรบิน ฟรายเดย์’ แทน !
วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับเขาผู้นี้กันครับกับชายที่เปรียบดั่ง “เทพบุตรแห่งยุค 70s” แต่กลับต้องมาตกมาตาย และ ไร้ผู้คนจดจำ ..
‘ ด้วยพฤติกรรมสุดแสบ’ ของเขาเอง !
รู้จักกับ “โรบิน ฟรายเดย์”
“ถ้าเขาเกิดมาในยุคสมัยนี้นะ กระทั่ง ‘อลัน เชียเรอร์’ ยังต้องชิดซ้าย” คำสรรเสริญเยินยอที่ไม่ต้องอธิบายให้มากความของ จิมมี่ แอนดรูว์ อดีตนายใหญ่เจ้าตัวเมื่อครั้งค้าแข้งอยู่กับคาร์ดิฟฟ์
กับเด็กรุ่นใหม่แล้วหากเอ่ยชื่อ โรบิน ฟรายเดย์ หลายคนอาจเลิกคิ้วด้วยความสงสัย แต่หากคุณคอลูกหนังรุ่นเก่าซักหน่อย ..
นี่คือหัวหอกระดับตำนานที่ใครต่อใคร “ไม่มีวันลืมเลือน” !
“เขาคือสุดยอดดาวยิงเท่าที่อังกฤษเคยมีมา ไม่ว่าจะใกล้, ไกล หาช่อง หรือ ใช้หัว ฟรายเดย์ จะทำให้คุณต้องน้ำตาตกเสมอ” ทิม เดลเลอร์ นักข่าวบีบีซีขานสรรพคุณของ ฟรายเดย์ ไว้เสร็จสรรพ เส้นทางของเจ้าตัวเริ่มต้นขึ้นกับ คริสตัล พาเลซ ก่อนจะย้ายไปควีนสปาร์ค และ เชลซีในวัยแค่ 13 ปี
ทว่าแม้จะมีพรสวรรค์มากเพียงใด แต่สุดท้ายความฝันการเป็นนักบอลอาชีพของ ฟรายเดย์ ณ เวลานั้น ก็ล้มเหลวเนื่องจากพฤติกรรมที่นอกคอกของเขาเอง
“ ฟรายเดย์มักโดดเรียน-โดดซ้อม พร้อมไปไล่ยิงนกที่สวนสาธารณะ เขาเป็นเด็กที่ไม่ชอบอยู่ในกฎระเบียบ และ มักไปงานคอนเสิร์ต หรือ แอบไปเต้นในผับตั้งแต่เด็ก จนกระทั่งอายุ 15-16 ปี เขาก็เริ่มติดยา” โทนี่ พี่ชายสุดที่รักกล่าวถึงชีวิตที่หลงแสงสีของ ฟรายเดย์ ตั้งแต่วัยเยาว์
นั่นทำให้แทนที่จะได้เริ่มต้นกับทีมใหญ่อย่าง เชลซี หรือ เรดดิ้ง ฟรายเดย์กลับถูกปล่อยตัวจากเยาวชนแล้วต้องไปเริ่มต้นชีวิตใหม่กับ เฮย์ส ทีมในระดับดิวิชั่น 7 ณ เวลานั้น
แต่ถึงกระนั้น กระทั่งช่วงเวลาที่ชีวิตไม่เป็นดั่งฝัน ..
เชื่อไหมครับว่า ‘เจ้าตัวยังไม่แคร์’ !
“ เขาไม่เคยแคร์กับอนาคต แล้วใช้ชีวิตเสเพลไปวันๆ” คำให้การของพ่อบังเกิดเกล้าแท้ๆของ โรบิน ฟรายเดย์ ณ เวลานั้นในช่วงเริ่มต้นอาชีพที่นอกลีก ฟรายเดย์ ในสนามกดประตูเป็นว่าเล่นทว่าชีวิตนอกสนามกลับตรงกันข้ามหลังเจ้าตัวก่อเรื่องงามหน้าด้วยการขโมยรถยนต์ข้างถนน ..
ลองคิดดูครับว่า ในยุคที่เทคโนโลยียังไม่เฟื่องฟูรถเก๋งซักครั้งในสมัยนั้นจะมีราคาแพงมากขนาดไหน จากผลการลักขโมยในครั้งนี้ทำให้ โรบิน ฟรายเดย์ ถูกจำโทษจำคุกกว่า 6 ปี
แต่คนมันจะดังอยู่ที่ไหนก็ย่อมโดดเด่น ช่วงเวลาในคุกแทนที่เจ้าตัวจะกลับสลด เปล่าเลยครับ นั่นทำให้ โรบิน ฟรายเดย์ สถาปนาตนเองเป็นราชาแห่ง “เฟลท์แฮ่ม บอร์สตัล” คุกชื่อดังในกรุงลอนดอน
กับที่นั่น ฟรายเดย์ ฉายแววเด่นด้านฟุตบอลออกมาก่อนถูกเลือกให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมประจำปีของการแข่งขันฟุตบอลคนคุก เพื่อนร่วมกรงหลายรายต่างรอที่จะขอลายเซ็นเจ้าตัว และ ให้ฟรายเดย์สอนทริคการเตะบอลอยู่เสมอ
กระทั่งผู้คุมขังยังอดใจไม่ไหว คงเป็นเรื่องแย่หากนักกีฬามากพรสวรรค์เช่นนี้ต้องมาจบชีวิตลงในคุก เหล่าตำรวจต่างพร้อมเห็นพ้องต้องกันว่า น่าจะสนับสนุนให้เจ้าหนุ่มนี่กลับตัวกลับใจเอาดีด้านฟุตบอลไปเลย นั่นทำให้ช่วงชีวิตของฟรายเดย์ในเรือนจำยุติเพียงแค่ 17 เดือนเท่านั้นก่อนจะถูกส่งไปศูนย์เยาวชนของเรดดิ้ง ..
ซึ่งกับที่ “เดอะ รอยัลส์” นี่เองครับ
ที่ทำให้เจ้าตัว “เปรียบดั่งราชา” ในเวลาต่อมา ..
เทพเจ้าแห่ง “เรดดิ้ง”
“หากคุณลองถามสาวกเรดดิ้งไม่ว่าจะรุ่นเก่า หรือ ไม่ ย่อมไม่มีใครไม่รู้จักเขา ฟรายเดย์คือราชาของเรา และ มันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป” คำให้การของ เดวิด ดอว์น อดีตนักข่าวท้องถิ่นของทีมที่แสดงถึงอิทธิพลของ โรบิน ฟรายเดย์ ที่มีต่อทีมได้เป็นอย่างดี
กับทีม “เดอะ รอยัลส์” แม้จะต้องใช้เวลาซักหน่อยในการขึ้นชุดใหญ่แต่แล้ว ฟรายเดย์ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เพียงแค่เกมนัดแรกระหว่างเจ้าตัวกับทีม ฟรายเดย์ซัดไป 2 ชนิดที่ว่ากันว่า นี่คือประตูสุดสวยของฤดูกาล
ตลอดการเล่นให้เรดดิ้ง แม้จะเล่นบอลอาชีพกับทีมแค่ 3 ปีแต่ก็มากพอที่จะทำให้ชื่อของเจ้าตัวกลายเป็นตำนาน ฟรายเดย์กดไป 53 ลูกจากการลงสนาม 135 นัด
แม้เรดดิ้งจะอยู่ในลีกดิวิชั่น 3 ทว่าชื่อของ โรบิน ฟรายเดย์ กลายเป็นที่โด่งดังในลีกล่าง เจ้าตัวเป็นคนเดียวที่แม้จะขาดซ้อมแต่เพื่อนร่วมทีมก็ไม่มีใครปริปากก่นด่าแต่อย่างใดเนื่องก็เพราะ มั่นใจในศักยภาพของ ฟรายเดย์
จนครั้งหนึ่งบีบีซีถึงกับลงมาทำข่าวพร้อมขนาดนามให้เจ้าตัวว่า
‘ราชาแห่งลีกรอง’ เลยทีเดียว
ด้วยวัยแค่ 22 ปี จากอดีตคนคุกที่สุดสิ้นหวังในชีวิตเส้นทางชีวิตของ ฟรายเดย์ เริ่มสดใสมากขึ้นเรื่อยๆ สื่อต่างๆเริ่มจับจ้องเช่นเดียวกับหลายทีมในลีกสูงสุดเริ่มตาเป็นมันส์ มีเสียงเรียกร้องให้ทีมชาติอังกฤษหนีบแข้งสุดหล่อติดทีมแม้จะอยู่แค่ดิวิชั่น 2 ก็ตาม
อย่างไรก็ดีว่ากันว่า “ความดังมักทำให้คนลืมตัว” ครั้นพอเริ่มโด่งดังเป็นพลุแตก ฟรายเดย์ เริ่มกลับมาใช้ชีวิตสุดเสเพลอีกครั้ง เจ้าตัวหมดเวลาชีวิตไปกับผู้หญิงที่รายล้อมพร้อมกับสถาปนาเป็น “ขี้เมา”
บ้างก็ขาดซ้อมไปดื้อๆ กระทั่งเรดดิ้งทนไม่ไหวตัดใจขายสุดยอดขวัญใจของแฟนๆ ให้กับคาร์ดิฟฟ์ ทั้งที่ทำประตูได้เป็นกอบเป็นกำ ..
ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เพราะ ฝีเท้า , ไม่ใช่เพราะ ศักยภาพของนักเตะ ..
หากแต่เป็น “พฤติกรรมเจ้าตัว” นั่นแหละที่ทำตัวเอง !
สูงสุดคืนสามัญ
เราอาจเคยได้เห็นการเปิดตัวสุดอลังการมากมายในยุคนี้ บ้างก็แค่ชูเสื้อ บ้างก็แจกลายเซ็น หรือ บางคนอาจเดาะบอลโชว์
แต่กับ โรบิน ฟรายเดย์ แล้ว เจ้าตัวทำเรื่อง ‘งามหน้า’ ชนิดที่ยากจะลืมเลือน
ตั้งแต่วันแรกที่เซ็นสัญญากับทีม !
“ ผมไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน เขาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับในระหว่างเดินทางจากเรดดิ้ง สู่ เมืองคาร์ดิฟฟ์ เพื่อจัดการเปิดตัวกับทีม เนื่องจากแอบขึ้นรถไฟฟรีโดยไม่ยอมซื้อตั๋ว” จิมมี่ แอนดรูว์ส กุนซือคาร์ดิฟฟ์เผยถึงสาเหตุที่ศิษย์ใหม่ถอดด้ามไม่อาจมาเซ็นสัญญากับทีมได้ หลังจากที่โดนตำรวจซิวซะก่อนเนื่องจากไม่ยอมจ่ายค่าตั๋วรถไฟ
โชคยังดีที่ คาร์ดิฟฟ์ ไม่ติดใจอะไรก่อนที่อีก 3-4 วันต่อมา ทันทีที่เคลียร์คดีความทีมก็จัดการเซ็นสัญญากับเจ้าตัวอย่างเป็นทางการ
ทว่าแม้จะได้รับบทเรียนซ้ำสองแต่ดูเหมือนว่า ฟรายเดย์ จะยังไม่เข็ดกับพฤติกรรมสุดแสบของตนเอง ก่อนเกมนัดแรกเพียง 1 วัน เจ้าตัวแอบแหกกฎสโมสรด้วยการแอบไปเมาในผับ
และ มีเซ็กซ์กับหญิง 2 รายก่อนเกม !
“ เขาคือ จอร์จ เบสต์ ในเวอร์ชั่นของตัวเขาเอง ฟรายเดย์ ไม่เคยสนใจกฏเกณฑ์ใดๆทั้งสิ้นพร้อมทำตามวิถี “ร็อค & โรล” ในแบบฉบับของ “ฟรายเดย์” จิมมี่ แอนดรูว์ส นายใหญ่คาร์ดิฟฟ์รำลึกถึงความหลังอันสุดแสบของลูกทีม
โชคยังดีของ จอร์จ เบสต์ ที่เจ้าตัวโด่งดังเป็นพลุแตกก่อนจะใช้ชีวิตแบบเหลวแหลก แต่กับ ฟรายเดย์ เจ้าตัวทำตัวโหลยโท่ยทั้งๆที่ยังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของอาชีพตนเอง กาลเวลาผ่านไปเริ่มพิสูจน์ได้ครับว่า คาร์ดิฟฟ์ กำลังเล่นกับไฟ มีหลายครั้งที่ฟรายเดย์หลอกโค้ชว่า ป่วยอยู่ที่บ้านไม่สามารถมาซ้อมได้ทว่าเอาเข้าจริงเจ้าตัวกลับแอบไปเข้าผับ หรือ อยู่ในคอนเสิร์ต
กระทั่งเพื่อนร่วมทีมเจ้าตัวก็ไม่เคยสุงสิง พอล เวนท์ หนึ่งในเพื่อนที่คาร์ดิฟฟ์ ณ ตอนนั้นเผยครับว่า “ เขามักทำตัวลึกลับ ทันทีที่เกมจบ เขาไม่อาบน้ำแต่กลับสวมชุดทับทันที แล้วเดินจากพวกเราไป พร้อมทั้งหายไปตลอดสัปดาห์ กว่าที่เราจะได้พบกับเขาอีกครั้งก็ช่วงก่อนแข่ง 1 วัน!”
ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเซ็นสัญญาใหม่ๆ ครั้งหนึ่ง ฮาร์เลย์ กุนซือเรดดิ้งในเวลานั้นที่เป็นคนขาย ฟรายเดย์ ให้กับคาร์ดิฟฟ์ เคยออกปากเตือน จิมมี่ แอนดรูว์ส แล้วถึงสรรพคุณของยอดแข้งจอมอินดี้
ทว่า แอนดรูว์สกลับไม่ใส่ใจพร้อมทั้งกล่าวว่า “ เขาเป็นนักเตะมากพรสวรรค์ที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็น ไม่ว่าจะต้องเสี่ยงขนาดไหนผมก็ไม่มีทางปล่อยให้เขาหลุดมือ”
เชื่อว่า ถึงตรงนี้ แอนดรูว์ส รู้ซึ้งแล้วเรียบร้อย บางครั้งสุดยอดนักเตะแต่หากปราศจากระเบียบวินัยก็ใช่ว่าจะนำความสุขมาสู่ทีม ความอินดี้ของ โรบิน ฟรายเดย์ เริ่มทำให้ จิมมี่ แอนดรูว์ส ปวดหัวมากขึ้นเรื่อยๆ และ ยากที่จะควบคุม
เรื่องนี้กระทั่งตัวของ ฟรายเดย์ เองก็เริ่มรับรู้ว่า พฤติกรรมตนเองเริ่มสุดเหวี่ยงจนเลยเถิด แล้ววันหนึ่งความอินดี้ของแข้งผมสลวยก็แผลงฤทธิ์ เจ้าตัวโดดซ้อมทีมไปดื้อๆ พร้อมทั้งหายตัวลึกลับโดยไม่มีใครรู้ว่าไปที่ไหน
ทว่ากลับมีอยู่หนึ่งคนที่ล่วงรู้นั่นก็คือ “ฮาร์ลี่ย์” อดีตนายเก่า ..
เนื่องก็เพราะ ฟรายเดย์ ตัดสินใจเดินทางกลับเรดดิ้งเพื่อ “ขอร้อง” ให้ ฮาร์ลี่ย์ เซ็นสัญญาตนเองกลับมา !
“ เขายังคงเรียกผมว่า เจ้านายเสมอ เขามาหาผมพร้อมบอกว่า คุณเป็นหนึ่งในคนที่ทำให้ชีวิตของผมเข้าที่เข้าทาง ขอผมกลับมาอยู่กับคุณได้ไหม ?”
“ ผมรู้สึกเห็นใจเขามาก เพราะ ลึกๆแล้วเราเองก็เสียดาย ฟรายเดย์ เหมือนกัน เขาคือดาวซัลโวตลอด 3 ปีที่อยู่กับเรา ช่างน่าเศร้าที่สโมสรไม่อาจทำได้เนื่องจากงบประมาณในการซื้อตัวกลับไม่เพียงพอ”
โด่งดังขนาดเอาไปสร้างเป็นหนัง
ราวกลับใจสลาย .. ทันทีที่พลาดหวังการคัมแบ็คสู่เรดดิ้ง เส้นทางชีวิตของฟรายเดย์ ก็ดิ่งเหวทันที แทนที่จะกลับตัวกลับใจ ฟรายเดย์กลับใช้ชีวิตราวกับคาสซาโนว่า หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่ เหล้าไม่ดื่ม, บุหรี่ไม่สูบ, ราตรีไม่มี หรืออะไรก็แล้วแต่ ช่วงชีวิตของ ฟรายเดย์ กลับตรงกันข้ามทั้งหมด
ฟรายเดย์ ยังคงทำตัวเสเพลไปเรื่อยๆ จนทีมชาติอังกฤษในเวลานั้นที่หวิดเรียกตัว ฟรายเดย์ ติดธงแทบกลับใจไม่ทัน
แล้วฟางเส้นสุดท้ายของเจ้าตัว และ สโมสร ก็มาถึง วันหนึ่งขณะที่ดวลกับไบร์ทตัน ฟรายเดย์ไปมีเรื่องใส่ มาร์ค ลอว์เรนสัน ก่อนจะบรรจงไล่หวดตำนานลิเวอร์พูลพร้อมฟาดด้วยลำแข้งเข้าไปที่หัวจนส่งผลให้โดนไล่ออกทันที
แต่ความดิบเถื่อนกลับไม่จบแค่นั้นครับ ! พระเจ้าช่วยกล้วยทอด ฟรายเดย์ ที่แม้จะโดนไล่ออกไปแล้วกลับทำเรื่องที่ไร้คนคาดคิดจัดการ “ปล่อยอุจจาระ” ลงบนแผ่นกระดาษพร้อมทั้งแอบเอาก้อนสกปรกนี้นี้ไปใส่กระเป๋าของ ลอว์เรนสัน ในห้องแต่งตัวแบบหน้าตาเฉย !
ผลพวงจากความห่ามในครั้งนี้ทำให้คาร์ดิฟฟ์ไม่ทนอีกต่อไป เช่นเดียวกับเจ้าตัวที่เซ็งกับโทษแบน 4 นัดที่ได้รับพร้อมกับการที่สโมสรไม่ยอมสนับสนุนตน จนถึงขั้นเดินไปหา แอนดรูว์ส นายใหญ่ที่ออฟฟิศพร้อมขอยกเลิกสัญญา
“เพื่อประกาศเลิกเล่น” ทันทีแบบงงๆ!
'โรบิน ฟรายเดย์' : นักเตะอัจฉริยะสุดในอังกฤษ ที่ถูกโลกลืม
โดย : มาสเตอร์ ริท
https://www.facebook.com/MasterReed.1992/
พฤติกรรมล่าสุดของ แจ็ค วิลเชียร์ ที่ไปมีเรื่องราว ณ ไนท์คลับ ทำให้แฟนปืนต่างเป็นกังวล ในอดีตเคยมีนักเตะหลายรายที่ทำท่าจะรุ่งโรจน์ทว่าสุดท้ายด้วยนิสัยสุดเกรียนก็ทำให้พวกเขา “ต้องฝันค้าง”
จอร์จ เบสต์ และ พอล แกสคอยน์ คือแบบอย่างที่ดีในการห้ามเจริญรอยตาม ทว่ากลับมีเรื่องราวชีวิตของชายหนุ่มอีกหนึ่งคนครับที่ไม่ต่างกับอุทาหรณ์สอนใจ และชื่อของเขาก็คือ ‘โรบิน ฟรายเดย์’
เป็นธรรมดาที่หลายคนจะขมวดคิ้วด้วยความสงสัย พร้อมฉงนว่า “เจ้านี่มันใครฟะ!??”
อย่างไรก็ตาม นี่คือหนึ่งในนักเตะนิรนามที่กระทั่ง พอล แม็คกูแกน อดีตมือเบสแห่งวง “Oasis” ยังต้องโค้งคารวะให้ จนถึงขั้นขนานนามให้ว่า “สุดยอดนักเตะที่โลกลืม”
ว่ากันว่าหากเจ้าตัวไม่ทำตนเองเหลวแหลกเสียก่อน .. บางทีประวัติศาสตร์อาจไม่ปรากฏชื่อของ เอียน รัช บางทีชื่อของ แกรี่ ลินิเกอร์ อาจไม่ถูกจารึกไว้บนหน้าประวัติศาสตร์แห่งอังกฤษ หรือ บางที เลส เฟอร์ดินานด์ อาจกลายเป็นแค่ดาวเตะระดับธรรมดาๆ
ส่วนตำนานของสุดยอดหัวหอกลูกหนังแดนผู้ดีอ่ะเหรอ !?
แน่นอนว่าต้องเป็น ‘โรบิน ฟรายเดย์’ แทน !
วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับเขาผู้นี้กันครับกับชายที่เปรียบดั่ง “เทพบุตรแห่งยุค 70s” แต่กลับต้องมาตกมาตาย และ ไร้ผู้คนจดจำ ..
‘ ด้วยพฤติกรรมสุดแสบ’ ของเขาเอง !
รู้จักกับ “โรบิน ฟรายเดย์”
“ถ้าเขาเกิดมาในยุคสมัยนี้นะ กระทั่ง ‘อลัน เชียเรอร์’ ยังต้องชิดซ้าย” คำสรรเสริญเยินยอที่ไม่ต้องอธิบายให้มากความของ จิมมี่ แอนดรูว์ อดีตนายใหญ่เจ้าตัวเมื่อครั้งค้าแข้งอยู่กับคาร์ดิฟฟ์
กับเด็กรุ่นใหม่แล้วหากเอ่ยชื่อ โรบิน ฟรายเดย์ หลายคนอาจเลิกคิ้วด้วยความสงสัย แต่หากคุณคอลูกหนังรุ่นเก่าซักหน่อย ..
นี่คือหัวหอกระดับตำนานที่ใครต่อใคร “ไม่มีวันลืมเลือน” !
“เขาคือสุดยอดดาวยิงเท่าที่อังกฤษเคยมีมา ไม่ว่าจะใกล้, ไกล หาช่อง หรือ ใช้หัว ฟรายเดย์ จะทำให้คุณต้องน้ำตาตกเสมอ” ทิม เดลเลอร์ นักข่าวบีบีซีขานสรรพคุณของ ฟรายเดย์ ไว้เสร็จสรรพ เส้นทางของเจ้าตัวเริ่มต้นขึ้นกับ คริสตัล พาเลซ ก่อนจะย้ายไปควีนสปาร์ค และ เชลซีในวัยแค่ 13 ปี
ทว่าแม้จะมีพรสวรรค์มากเพียงใด แต่สุดท้ายความฝันการเป็นนักบอลอาชีพของ ฟรายเดย์ ณ เวลานั้น ก็ล้มเหลวเนื่องจากพฤติกรรมที่นอกคอกของเขาเอง
“ ฟรายเดย์มักโดดเรียน-โดดซ้อม พร้อมไปไล่ยิงนกที่สวนสาธารณะ เขาเป็นเด็กที่ไม่ชอบอยู่ในกฎระเบียบ และ มักไปงานคอนเสิร์ต หรือ แอบไปเต้นในผับตั้งแต่เด็ก จนกระทั่งอายุ 15-16 ปี เขาก็เริ่มติดยา” โทนี่ พี่ชายสุดที่รักกล่าวถึงชีวิตที่หลงแสงสีของ ฟรายเดย์ ตั้งแต่วัยเยาว์
นั่นทำให้แทนที่จะได้เริ่มต้นกับทีมใหญ่อย่าง เชลซี หรือ เรดดิ้ง ฟรายเดย์กลับถูกปล่อยตัวจากเยาวชนแล้วต้องไปเริ่มต้นชีวิตใหม่กับ เฮย์ส ทีมในระดับดิวิชั่น 7 ณ เวลานั้น
แต่ถึงกระนั้น กระทั่งช่วงเวลาที่ชีวิตไม่เป็นดั่งฝัน ..
เชื่อไหมครับว่า ‘เจ้าตัวยังไม่แคร์’ !
“ เขาไม่เคยแคร์กับอนาคต แล้วใช้ชีวิตเสเพลไปวันๆ” คำให้การของพ่อบังเกิดเกล้าแท้ๆของ โรบิน ฟรายเดย์ ณ เวลานั้นในช่วงเริ่มต้นอาชีพที่นอกลีก ฟรายเดย์ ในสนามกดประตูเป็นว่าเล่นทว่าชีวิตนอกสนามกลับตรงกันข้ามหลังเจ้าตัวก่อเรื่องงามหน้าด้วยการขโมยรถยนต์ข้างถนน ..
ลองคิดดูครับว่า ในยุคที่เทคโนโลยียังไม่เฟื่องฟูรถเก๋งซักครั้งในสมัยนั้นจะมีราคาแพงมากขนาดไหน จากผลการลักขโมยในครั้งนี้ทำให้ โรบิน ฟรายเดย์ ถูกจำโทษจำคุกกว่า 6 ปี
แต่คนมันจะดังอยู่ที่ไหนก็ย่อมโดดเด่น ช่วงเวลาในคุกแทนที่เจ้าตัวจะกลับสลด เปล่าเลยครับ นั่นทำให้ โรบิน ฟรายเดย์ สถาปนาตนเองเป็นราชาแห่ง “เฟลท์แฮ่ม บอร์สตัล” คุกชื่อดังในกรุงลอนดอน
กับที่นั่น ฟรายเดย์ ฉายแววเด่นด้านฟุตบอลออกมาก่อนถูกเลือกให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมประจำปีของการแข่งขันฟุตบอลคนคุก เพื่อนร่วมกรงหลายรายต่างรอที่จะขอลายเซ็นเจ้าตัว และ ให้ฟรายเดย์สอนทริคการเตะบอลอยู่เสมอ
กระทั่งผู้คุมขังยังอดใจไม่ไหว คงเป็นเรื่องแย่หากนักกีฬามากพรสวรรค์เช่นนี้ต้องมาจบชีวิตลงในคุก เหล่าตำรวจต่างพร้อมเห็นพ้องต้องกันว่า น่าจะสนับสนุนให้เจ้าหนุ่มนี่กลับตัวกลับใจเอาดีด้านฟุตบอลไปเลย นั่นทำให้ช่วงชีวิตของฟรายเดย์ในเรือนจำยุติเพียงแค่ 17 เดือนเท่านั้นก่อนจะถูกส่งไปศูนย์เยาวชนของเรดดิ้ง ..
ซึ่งกับที่ “เดอะ รอยัลส์” นี่เองครับ
ที่ทำให้เจ้าตัว “เปรียบดั่งราชา” ในเวลาต่อมา ..
เทพเจ้าแห่ง “เรดดิ้ง”
“หากคุณลองถามสาวกเรดดิ้งไม่ว่าจะรุ่นเก่า หรือ ไม่ ย่อมไม่มีใครไม่รู้จักเขา ฟรายเดย์คือราชาของเรา และ มันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป” คำให้การของ เดวิด ดอว์น อดีตนักข่าวท้องถิ่นของทีมที่แสดงถึงอิทธิพลของ โรบิน ฟรายเดย์ ที่มีต่อทีมได้เป็นอย่างดี
กับทีม “เดอะ รอยัลส์” แม้จะต้องใช้เวลาซักหน่อยในการขึ้นชุดใหญ่แต่แล้ว ฟรายเดย์ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เพียงแค่เกมนัดแรกระหว่างเจ้าตัวกับทีม ฟรายเดย์ซัดไป 2 ชนิดที่ว่ากันว่า นี่คือประตูสุดสวยของฤดูกาล
ตลอดการเล่นให้เรดดิ้ง แม้จะเล่นบอลอาชีพกับทีมแค่ 3 ปีแต่ก็มากพอที่จะทำให้ชื่อของเจ้าตัวกลายเป็นตำนาน ฟรายเดย์กดไป 53 ลูกจากการลงสนาม 135 นัด
แม้เรดดิ้งจะอยู่ในลีกดิวิชั่น 3 ทว่าชื่อของ โรบิน ฟรายเดย์ กลายเป็นที่โด่งดังในลีกล่าง เจ้าตัวเป็นคนเดียวที่แม้จะขาดซ้อมแต่เพื่อนร่วมทีมก็ไม่มีใครปริปากก่นด่าแต่อย่างใดเนื่องก็เพราะ มั่นใจในศักยภาพของ ฟรายเดย์
จนครั้งหนึ่งบีบีซีถึงกับลงมาทำข่าวพร้อมขนาดนามให้เจ้าตัวว่า
‘ราชาแห่งลีกรอง’ เลยทีเดียว
ด้วยวัยแค่ 22 ปี จากอดีตคนคุกที่สุดสิ้นหวังในชีวิตเส้นทางชีวิตของ ฟรายเดย์ เริ่มสดใสมากขึ้นเรื่อยๆ สื่อต่างๆเริ่มจับจ้องเช่นเดียวกับหลายทีมในลีกสูงสุดเริ่มตาเป็นมันส์ มีเสียงเรียกร้องให้ทีมชาติอังกฤษหนีบแข้งสุดหล่อติดทีมแม้จะอยู่แค่ดิวิชั่น 2 ก็ตาม
อย่างไรก็ดีว่ากันว่า “ความดังมักทำให้คนลืมตัว” ครั้นพอเริ่มโด่งดังเป็นพลุแตก ฟรายเดย์ เริ่มกลับมาใช้ชีวิตสุดเสเพลอีกครั้ง เจ้าตัวหมดเวลาชีวิตไปกับผู้หญิงที่รายล้อมพร้อมกับสถาปนาเป็น “ขี้เมา”
บ้างก็ขาดซ้อมไปดื้อๆ กระทั่งเรดดิ้งทนไม่ไหวตัดใจขายสุดยอดขวัญใจของแฟนๆ ให้กับคาร์ดิฟฟ์ ทั้งที่ทำประตูได้เป็นกอบเป็นกำ ..
ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เพราะ ฝีเท้า , ไม่ใช่เพราะ ศักยภาพของนักเตะ ..
หากแต่เป็น “พฤติกรรมเจ้าตัว” นั่นแหละที่ทำตัวเอง !
สูงสุดคืนสามัญ
เราอาจเคยได้เห็นการเปิดตัวสุดอลังการมากมายในยุคนี้ บ้างก็แค่ชูเสื้อ บ้างก็แจกลายเซ็น หรือ บางคนอาจเดาะบอลโชว์
แต่กับ โรบิน ฟรายเดย์ แล้ว เจ้าตัวทำเรื่อง ‘งามหน้า’ ชนิดที่ยากจะลืมเลือน
ตั้งแต่วันแรกที่เซ็นสัญญากับทีม !
“ ผมไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน เขาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับในระหว่างเดินทางจากเรดดิ้ง สู่ เมืองคาร์ดิฟฟ์ เพื่อจัดการเปิดตัวกับทีม เนื่องจากแอบขึ้นรถไฟฟรีโดยไม่ยอมซื้อตั๋ว” จิมมี่ แอนดรูว์ส กุนซือคาร์ดิฟฟ์เผยถึงสาเหตุที่ศิษย์ใหม่ถอดด้ามไม่อาจมาเซ็นสัญญากับทีมได้ หลังจากที่โดนตำรวจซิวซะก่อนเนื่องจากไม่ยอมจ่ายค่าตั๋วรถไฟ
โชคยังดีที่ คาร์ดิฟฟ์ ไม่ติดใจอะไรก่อนที่อีก 3-4 วันต่อมา ทันทีที่เคลียร์คดีความทีมก็จัดการเซ็นสัญญากับเจ้าตัวอย่างเป็นทางการ
ทว่าแม้จะได้รับบทเรียนซ้ำสองแต่ดูเหมือนว่า ฟรายเดย์ จะยังไม่เข็ดกับพฤติกรรมสุดแสบของตนเอง ก่อนเกมนัดแรกเพียง 1 วัน เจ้าตัวแอบแหกกฎสโมสรด้วยการแอบไปเมาในผับ
และ มีเซ็กซ์กับหญิง 2 รายก่อนเกม !
“ เขาคือ จอร์จ เบสต์ ในเวอร์ชั่นของตัวเขาเอง ฟรายเดย์ ไม่เคยสนใจกฏเกณฑ์ใดๆทั้งสิ้นพร้อมทำตามวิถี “ร็อค & โรล” ในแบบฉบับของ “ฟรายเดย์” จิมมี่ แอนดรูว์ส นายใหญ่คาร์ดิฟฟ์รำลึกถึงความหลังอันสุดแสบของลูกทีม
โชคยังดีของ จอร์จ เบสต์ ที่เจ้าตัวโด่งดังเป็นพลุแตกก่อนจะใช้ชีวิตแบบเหลวแหลก แต่กับ ฟรายเดย์ เจ้าตัวทำตัวโหลยโท่ยทั้งๆที่ยังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของอาชีพตนเอง กาลเวลาผ่านไปเริ่มพิสูจน์ได้ครับว่า คาร์ดิฟฟ์ กำลังเล่นกับไฟ มีหลายครั้งที่ฟรายเดย์หลอกโค้ชว่า ป่วยอยู่ที่บ้านไม่สามารถมาซ้อมได้ทว่าเอาเข้าจริงเจ้าตัวกลับแอบไปเข้าผับ หรือ อยู่ในคอนเสิร์ต
กระทั่งเพื่อนร่วมทีมเจ้าตัวก็ไม่เคยสุงสิง พอล เวนท์ หนึ่งในเพื่อนที่คาร์ดิฟฟ์ ณ ตอนนั้นเผยครับว่า “ เขามักทำตัวลึกลับ ทันทีที่เกมจบ เขาไม่อาบน้ำแต่กลับสวมชุดทับทันที แล้วเดินจากพวกเราไป พร้อมทั้งหายไปตลอดสัปดาห์ กว่าที่เราจะได้พบกับเขาอีกครั้งก็ช่วงก่อนแข่ง 1 วัน!”
ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเซ็นสัญญาใหม่ๆ ครั้งหนึ่ง ฮาร์เลย์ กุนซือเรดดิ้งในเวลานั้นที่เป็นคนขาย ฟรายเดย์ ให้กับคาร์ดิฟฟ์ เคยออกปากเตือน จิมมี่ แอนดรูว์ส แล้วถึงสรรพคุณของยอดแข้งจอมอินดี้
ทว่า แอนดรูว์สกลับไม่ใส่ใจพร้อมทั้งกล่าวว่า “ เขาเป็นนักเตะมากพรสวรรค์ที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็น ไม่ว่าจะต้องเสี่ยงขนาดไหนผมก็ไม่มีทางปล่อยให้เขาหลุดมือ”
เชื่อว่า ถึงตรงนี้ แอนดรูว์ส รู้ซึ้งแล้วเรียบร้อย บางครั้งสุดยอดนักเตะแต่หากปราศจากระเบียบวินัยก็ใช่ว่าจะนำความสุขมาสู่ทีม ความอินดี้ของ โรบิน ฟรายเดย์ เริ่มทำให้ จิมมี่ แอนดรูว์ส ปวดหัวมากขึ้นเรื่อยๆ และ ยากที่จะควบคุม
เรื่องนี้กระทั่งตัวของ ฟรายเดย์ เองก็เริ่มรับรู้ว่า พฤติกรรมตนเองเริ่มสุดเหวี่ยงจนเลยเถิด แล้ววันหนึ่งความอินดี้ของแข้งผมสลวยก็แผลงฤทธิ์ เจ้าตัวโดดซ้อมทีมไปดื้อๆ พร้อมทั้งหายตัวลึกลับโดยไม่มีใครรู้ว่าไปที่ไหน
ทว่ากลับมีอยู่หนึ่งคนที่ล่วงรู้นั่นก็คือ “ฮาร์ลี่ย์” อดีตนายเก่า ..
เนื่องก็เพราะ ฟรายเดย์ ตัดสินใจเดินทางกลับเรดดิ้งเพื่อ “ขอร้อง” ให้ ฮาร์ลี่ย์ เซ็นสัญญาตนเองกลับมา !
“ เขายังคงเรียกผมว่า เจ้านายเสมอ เขามาหาผมพร้อมบอกว่า คุณเป็นหนึ่งในคนที่ทำให้ชีวิตของผมเข้าที่เข้าทาง ขอผมกลับมาอยู่กับคุณได้ไหม ?”
“ ผมรู้สึกเห็นใจเขามาก เพราะ ลึกๆแล้วเราเองก็เสียดาย ฟรายเดย์ เหมือนกัน เขาคือดาวซัลโวตลอด 3 ปีที่อยู่กับเรา ช่างน่าเศร้าที่สโมสรไม่อาจทำได้เนื่องจากงบประมาณในการซื้อตัวกลับไม่เพียงพอ”
โด่งดังขนาดเอาไปสร้างเป็นหนัง
ราวกลับใจสลาย .. ทันทีที่พลาดหวังการคัมแบ็คสู่เรดดิ้ง เส้นทางชีวิตของฟรายเดย์ ก็ดิ่งเหวทันที แทนที่จะกลับตัวกลับใจ ฟรายเดย์กลับใช้ชีวิตราวกับคาสซาโนว่า หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่ เหล้าไม่ดื่ม, บุหรี่ไม่สูบ, ราตรีไม่มี หรืออะไรก็แล้วแต่ ช่วงชีวิตของ ฟรายเดย์ กลับตรงกันข้ามทั้งหมด
ฟรายเดย์ ยังคงทำตัวเสเพลไปเรื่อยๆ จนทีมชาติอังกฤษในเวลานั้นที่หวิดเรียกตัว ฟรายเดย์ ติดธงแทบกลับใจไม่ทัน
แล้วฟางเส้นสุดท้ายของเจ้าตัว และ สโมสร ก็มาถึง วันหนึ่งขณะที่ดวลกับไบร์ทตัน ฟรายเดย์ไปมีเรื่องใส่ มาร์ค ลอว์เรนสัน ก่อนจะบรรจงไล่หวดตำนานลิเวอร์พูลพร้อมฟาดด้วยลำแข้งเข้าไปที่หัวจนส่งผลให้โดนไล่ออกทันที
แต่ความดิบเถื่อนกลับไม่จบแค่นั้นครับ ! พระเจ้าช่วยกล้วยทอด ฟรายเดย์ ที่แม้จะโดนไล่ออกไปแล้วกลับทำเรื่องที่ไร้คนคาดคิดจัดการ “ปล่อยอุจจาระ” ลงบนแผ่นกระดาษพร้อมทั้งแอบเอาก้อนสกปรกนี้นี้ไปใส่กระเป๋าของ ลอว์เรนสัน ในห้องแต่งตัวแบบหน้าตาเฉย !
ผลพวงจากความห่ามในครั้งนี้ทำให้คาร์ดิฟฟ์ไม่ทนอีกต่อไป เช่นเดียวกับเจ้าตัวที่เซ็งกับโทษแบน 4 นัดที่ได้รับพร้อมกับการที่สโมสรไม่ยอมสนับสนุนตน จนถึงขั้นเดินไปหา แอนดรูว์ส นายใหญ่ที่ออฟฟิศพร้อมขอยกเลิกสัญญา
“เพื่อประกาศเลิกเล่น” ทันทีแบบงงๆ!