ตำนานกิเลน : 11 อดีตแข้งเมืองทอง ยูไนเต็ดสุดแกร่งไร้เทียมทาน

ตำนานของสโมสรเมืองทองฯ อาจไม่ได้ยาวนานเก่าแก่สุดๆ สำหรับวงการลูกหนังไทย แต่ปฏิเสธไม่ว่า “กิเลนผยอง” คือ หนึ่งในทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดทีมหนึ่งในไทยลีก… และ นี่คือ 11 อดีตผู้เล่นที่ หากได้รวมตัวกันในช่วงพีคๆล่ะก็...อาจไร้เทียมทานถึงขนาดสามารถต่อกรกับทีมชุดปัจจุบันได้แบบไม่เคอะเขินเลยทีเดียว  

แผนการเล่น 4 - 2 - 1 - 3

ผู้รักษาประตู : อัมรินทร์ เยาดำ
เป็นเรื่องที่ยากไม่น้อยหากจะมองหานายทวารของ "กิเลนผยอง" สักคนนอกเหนือจาก "เจ้าตอง" กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ เพราะในตำแหน่งนี้ "เจ้าตอง" ยึดตำนานของทีมไปแล้ว แต่หากมองหลนา
ยทวารที่เป็นอดีต FFT TH ขอยกให้ อัมรินทร์ เยาดำ ที่ถือเป็นผู้รักษาประตูฝีมือดีคนหนึ่ง เพราะเมื่อยามที่ได้รับโอกาสลงสนามแทน กวินทร์ เขาแทบไม่เคยสร้างความผิดหวังให้กับแฟนบอลเลย

กองหลัง : ภาณุพงศ์ วงศ์ษา
อดีตปราการหลังกัปตันทีม ย้ายออกจากทีมหลังจากจบฤดูกาล 2013 ไปอยู่กับ สุพรรณบุรี เอฟซี ด้วยค่าตัวที่เป็นสถิติของผู้เล่นในเกมรับ แน่นอนการลาจากไปของอดีตกัปตันทีมชาติ
ไทยรายนี้ เป็นที่ขัดใจแฟนๆ "กิเลนผยอง" พอสมควรในช่วงเวลาดังกล่าว เพราะนี้คือผู้เล่นหัวใจในเกมรับของ เมืองทอง ในช่วงฤดูกาล 2010-2013  โดยเฉพาะบทบาทการเป็นผู้นำของทีมเขาทำหน้าที่
ได้อย่างสมบูรณ์แบบ และการลงสนามรับใช้ทีมเกือบ 100 เกม กับความสำเร็จ 3 แชมป์ (ไทยลีก 2,ถ้วย ก. 1)  ที่ฝากไว้กับ "กิเลนผยอง" ถือเป็นหนึ่งในนักเตะระดับตำนานของทีมคนหนึ่ง

กองหลัง :  รี ควาง ชอน
ปราการหลังดีกรีทีมชาติเกาหลีเหนือ ชุดฟุตบอลโลก ปี 2010 ที่ประเทศแอฟริกาใต้ เป็นหนึ่งในนักเตะต่างชาติที่ เอสซีจี เมือง ยูไนเต็ด เสริมเข้ามาได้อย่างถูกจุดเพื่อแก้ปัญหาเกมรับของทีม และการเข้ามาของเขาเพียงแค่ ฤดูกาลแรก ก็สร้างความยิ่งใหญ่ด้วยการเป็นหนึ่งในคีย์แมนสำคัญที่พาทีมคว้าแชมป์ลีกแบบไร้พ่าย ในปี 2012 ซึ่งเขาคือกองหลังที่ครบเครื่องคนหนึ่งของทีมเลย
แม้ว่าจะค้าแข้งอยู่กับทีมแค่ 2 ฤดูกาล แต่ความเก่งกาจของเขาก็ดีพอที่ FFT TH จะยกให้เป็นผู้เล่นแนวรับที่ดีที่สุดคนหนึ่งของ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ซึ่ง เจ้าตัวลงสนามรับใช้ทีมไป 62 เกมจากทุกรายการ

กองหลัง : ปิยพล ผานิชกุล
นี่อาจจะไม่ใช้นักเตะระดับซุเปอร์สตาร์ของ "กิเลนผยอง" เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด แต่เขาเป็นหนึ่งในนักเตะที่ลงสนามรับใช้สโมสรเกิน 100 นัด แน่นอนไม่ใช่เรื่องง่ายที่นักเตะสักคนจะ
สามารถทำได้เช่นนี้ โดยเฉพาะกับเมืองทอง...เขาถือเป็นนักเตะสารพัดประโยชน์ของทีมคนหนึ่ง ไม่ว่าจะจับลงไปเล่นตรงไหน เขาก็แทบไม่ทำให้ทีมต้องผิดหวัง แถมการค้าแข้งในถิ่น "กิเลน
ผยอง" ก็ส่งให้เขาก้าวสู่ทำเนียบทีมชาติไทย โดยเฉพาะปีที่ทีมเป็นแชมป์ไร้พ่าย เขาโชว์ฟอร์มได้เด็ดสะระตี่เลยทีเดียว ไม่แปลกที่ ชื่อของ ปิยพล ผานิชกุล จะเป็นหนึ่งในนักเตะระดับตำนานของสโมสร

กองหลัง : ณัฐพร พันธ์ฤทธิ์
หนึ่งในสุดยอดปราการหลังของเมืองไทย ที่ผ่านการค้าแข้งมาหลายสโมสร ซึ่งช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมที่สุดของ "เจ้าโอ๊ต" ณัฐพร พันธ์ฤทธิ์ นั้นก็คือการค้าแข้งในถิ่น "กิเลนผยอง" นั่นเอง โดยเจ้าตัวย้ายมาร่วมทีมในปี พ.ศ.2552 ปีที่สโมสรเพิ่งก้าวสู่ไทยลีกปีแรก และเขาก็สามารถพาทีมคว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ทันที โดยเฉพาะเกมรับที่เสียประตูน้อยที่สุดในลีกปีนั้น เขาเคยถูกยกให้เป็นปราการหลังที่ดีที่สุดของประเทศ ทั้งความครบเครื่องเท่าที่กองหลังคนหนึ่งจะมีได้ ตลอดจนภาวะผู้นำที่เต็มเปี่ยม ก่อนที่เขาจะย้ายออกจากทีมในช่วงกลางปี 2012 (ยุคแชมป์ไร้พ่าย)
ตลอดระยะเวลา 4 ฤดูกาลกับ "กิเลนผยอง" เขาได้แชมป์กับทีม 4 รายการ (3แชมป์ลีก,1แชมป์ ถ้วย ก

กองกลางตัวรับ : ดักโน่ เซียก้า
นี่คือผู้เล่นต่างชาติที่รับใช้สโมสรยาวนานที่สุด สำหรับมิดฟิลชาวไอวอรี่โคสต์ ที่ถือเป็นแข้งตำนานของทีมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เขาย้ายเข้ามาสู่ทีมตั้งแต่ปี 2008 ที่สโมสรยังอยู่ในระดับดิวิชั่น 1 ซึ่งตลอดระยะเวลา 7 ปีที่เขาค้าแข้งอยู่กับทีม ถือเป็นนักเตะที่มีบทบาทกับสโมสรมากที่สุด ไม่ว่าทีมจะชนะหรือแพ้ เขาใส่เกินร้อยทุกเกม ไม่แปลกที่แฟนบอลจะรักนักเตะคนนี้ แน่นอนการอยู่กับ ทีมอย่างยาวนานเขาก็เป็นอีกหนึ่งนักเตะที่ลงสนามรับใช้ทีมเกิน 100 นัด และ มีส่วนสำคัญในการพาทีมคว้าแชมป์ลีกสูงสุด 3 สมัย
แฟนๆ หัวใจแทบสลายใช่มั๊ย ในวันที่เขาย้ายทีม?

กองกลางตัวรับ : พิชิตพงษ์ เฉยฉิว
มิดฟิลด์ประสบการณ์สูงวัย 33 ปี ในปัจจุบัน ย้ายเข้ามาสวมยูนิฟอร์มเมืองทอง ตั้งแต่ปี 2009 (ปีแรกที่ขึ้นมาเล่นในลีกสูงสุด) และเป็นกำลังหลักให้กับทีมมาโดยตลอด ที่สำคัญเขาคือผู้เล่นที่ลงสนามรับใช้สโมสรเกิน 100นัด เป็นลำดับที่ 4 และมีส่วนสำคัญกับแชมป์ลีกสูงสุด3 สมัยของทีม แค่นี้ก็เพียงพอต่อการเป็นหนึ่งในนักเตะตำนานของทีมแล้ว ก่อนที่เจ้าตัวจะย้ายขึ้นเหนือไปค้าแข้งที่เชียงราย ยูไนเต็ด บ้านเกิดของภรรยา ในปี 2014

กองกลางตัวรุก : มาริโอ ยูรอฟสกี้
มาริโอ ยูรอฟสกี้ คือนักเตะที่สร้างสีสันให้กับวงการฟุตบอลลีกเมืองไทยได้มากที่สุดคนหนึ่ง และเป็นพ่อมดลูกหนังที่สร้างปรากฏการณ์ให้วงการลูกหนังไทยคนหนึ่งเลยก็ว่าได้...
ตลอดระยะเวลา 5 ปี ในถิ่น เอสซีจี สเตเดี้ยม เขาสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับแฟนบอล "กิเลนผยอง" แบบสุดๆ แถมยังมีความเกรียนระดับ 5 ดาวมาเป็นสีสันให้แฟนบอลอยู่เสมอ ส่วนเรื่องฝีเท้าคงไม่ต้องบรรยายให้มากความ เอาเป็นว่า นี่คือแข้งต่างชาติที่ดีที่สุดคนหนึ่งของทีมเลยก็ว่าได้ แม้ว่าทุกวันนี้เขาจะกลายเป็นอดีต แต่ผลงานการลงเล่น 150 นัด ยิง 72 แอสซิสต์ 50 ประตู ทำให้เขาเป็นตำนานในหัวใจสาวก “กิเลนผยอง” ชนิดลืมไม่ลงแน่นอน

กองหน้า : เปาโล รางเกล
"รถถังแซมบ้า" เปาโล รางเกล คือหนึ่งในแข้งหมายเลข 9 ของ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด...แน่นอน ตำนานอาถรรพ์หมายเลข 9 ของทีมนั้นค่อยตามหลอกหลอนนักเตะที่ได้สวมใส่มานักต่อนัก แต่สำหรับ เปาโล น่าจะเป็นหอกหมายเลข 9 ที่โชว์ฟอร์มได้ดีที่สุดเท่าที่ทีมเคยมีมา เพราะเขาคือผู้เล่นของทีมในชุดแชมป์ไร้พ่าย ที่สำคัญเขาเป็นนักเตะเพียงคนเดียวของสโมสรที่ไม่เคยรู้จักคำว่าแพ้ในสีเสื้อ "กิเลนผยอง" อย่างไรก็ตามอาถรรพ์ก็ยังคืออาถรรพ์ เพราะแม้จะฟอร์มดี แต่เขาอยู่กับทีมได้แค่ครึ่งซีซั่นเท่านั้น

กองหน้า : ซูมาฮูโร ยาย่า
นี่ คือ ผู้เล่นที่เข้ามาอยู่กับเมืองทองฯ พร้อมๆ กับ ดักโน่ เซียก้า และได้สร้างตำนานที่ยิ่งใหญ่… เขาเข้ามายกระดับให้เมืองทองฯ กลายเป็นทีมเบอร์ 1 ของประเทศในเวลานั้นฝีเท้าของเขาสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับแฟนบอลชาวไทยทั้งประเทศ ใครๆต่างก็พูดว่าไทยลีกเล็กเหลือเกินสำหรับเขา ก่อนที่ เกนท์ ทีมในลีกสูงสุดเบลเยี่ยม จะทุ่มจ่ายเงิน 20 ล้านบาท คว้าตัวเขาไปเล่นที่ยุโรป…เขา คือ “เทพเจ้ากิเลน” ยุคแรก ก่อนที่ปัจจุบันจะเป็น ธีรศิลป์ แดงดา

กองหน้า :  คริสเตียน เคาคู
อีกหนึ่งนักเตะที่ประสบความสำเร็จกับ "กิเลนผยอง" เมืองทอง ยูไนเต็ด ดาวยิงจาก ไอวอรี่โคสต์ เข้ามาฝากผลงานกับทีมตั้งแต่ปี 2010 ที่เข้ากระหน่ำซัดประตูคู่ต่อสู้เป็นกอบเป็นกำ เรียกได้ว่ามีส่วนสำคัญกับเกมรุกของ เมืองทอง ยูไนเต็ด ในช่วงปี 2010-2012 ถือเป็นดาวยิงที่ครบเครื่องคนหนึ่ง แม้มีความเกรียนมาทำให้แฟนบอลรู้สึกขัดใจ แต่ถ้าใครได้ย้อนกลับมามองผลงานที่เขาทำกับทีมในช่วงเวลาที่อยู่กับ “กิเลนผยอง” ล่ะก็… คงเสียดายไม่น้อย ก่อนที่เขาออกจากทีมในปีไปร่วมทัพ ตูร์ เอฟซี ในลีกเดอซ์ ของฝรั่งเศสด้วยค่าตัวถึง 10 ล้านบาท เลยทีเดียว
ปัจจุบัน คริวเตียน ควาคู ย้ายไปเล่นให้กับ ก็อง ในลีกเอิง และเมื่อเดือนก่อน เพิ่งกระโดดตีลังกายิงโมนาโก ทีมยักษ์ใหญ่ของแดนน้ำแดมแบบสุดสวยก่อนพาทีมเสมอ 1-1

อัมรินทร์
ปิยพล - ภาณุพงษ์ - รีกวางชอน - ณัฐพร
ดักโน่ -  พิชิตพงษ์
มาริโอ
ควาคู - เปาโล - ยาย่า


Read more at http://www.fourfourtwo.com/th/features/tamnaankieln-11-diitaekhngemuuengthng-yuuainetdsudaekrngairethiiymthaan?page=0%2C2#kRdOlyWlXD55TTYG.99

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่