สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
แทนที่จะหาความรู้ว่า ทำไมเขามองว่าตลาดลง ดูจากเทคนิคอะไร ดูอย่างไร .... กลับคอยจับผิดว่าเขาดูแล้ว ผิดตลาดไม่เป็นไปตามที่เขาพูด.. เคยดูกราฟไหมว่า ตอนที่เขาพูดแบบนั้น กราฟมันบอกอย่างที่เขาพูดหรือเขามั่วขึ้นมาเอง .....การทำนายอนาคตมันมีโอกาสผิดพลาดได้ง่ายมากยิ่งในกรณีที่ต้องทำนายทุกวัน ทั้งเช้า ทั้งบ่าย ในทุกสภาพตลาด หากเป็น Sideway ยิ่งไม่ต้องพูดถึง โอกาสผิดถูกแทบไม่ต่างกันเลย .....แต่สิ่งที่เราควรศึกษาคือ เขาใช้กราฟเทคนิคและทำนายตามกราฟที่บอกหรือไม่ และเราควรเทรดเมื่อไหร่ ...ไม่จำเป็นที่เราจะต้องเสี่ยงหากตลาดยังไม่เป็นไปตาม Criteria ที่เรากำหนดไว้ ...ไม่เทรดหากเราไม่อยู่ในฝ่ายที่ได้เปรียบ ...
คนที่ถามในรายการ ก็ชอบถามตลาด TF 15 นาที 30 นาที รอบมันก็อยู่สั้นๆ 1-2 วันก็จบรอบแล้ว ซื้อ ATC ขาย ATO แบบนี้ ยิ่งตลาดช่วง พักตัวแบบนี้ มันทำนายยาก ...เพราะมันไม่มีเทรนด์ การทำนายผิดถือเป็นเรื่องปกติ เพียงแต่เราต้องรู้ว่า หากตลาดไม่เป็นไปตามที่เราคาดไว้ เราจะต้องทำอย่างไรต่อไปตามลำดับ 1-2-3 เพื่อแก้ไข ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากการคาดการณ์หรือการตั้งสมมติฐานของเราในครั้งนั้น จุดนี้สำคัญกว่าเรื่องอื่นใดทั้งสิ้น...
การตำหนิความเห็นเรื่องเทคนิเคิล ควรยกจุดผิดพลาดที่เขาให้ความเห็นผิดพลาด ซึ่งเป็น ข้อเท็จจริง ไม่ใช่การนำผลที่เกิดขึ้นแล้วไม่เป็นการวิเคราะห์ของเขา มาต่อว่า ทำไมถึงไม่เป็นตามที่วิเคราะห์ ....นักเทคนิคจะชำนาญการอ่านกราฟแล้วสามารถ Extrapolate หรือนำข้อมูลที่ได้จากกราฟในขณะนั้นมาประมวลผลเพื่อทำนายไปในอนาคต ซึ่งหากตลาดมีแนวโน้มแข็งแรงชัดเจน ตัวบ่งชี้ต่างๆจะให้ค่ายืนยันที่ชัดเจนและมีความผิดพลาดน้อย แต่หากไม่มีเทรนด์ ตัวบ่งชี้ต่างๆก็จะไม่ยืนยันทิศทางแน่นอนว่าจะขึ้นหรือลง ซึ่งมันเป็นไปได้ทั้งสองทาง แต่หากให้นักวิเคราะห์ฟันธงก็มักจะเจอ Error แบบนี้บ่อยๆ ...แต่ก็ไม่ใช่เรื่อง serious อะไร เพราะนักเทคนิค หากวิเคราะห์ผิด เขามีวิธีแก้ไขปัญหาได้อยู่แล้ว ด้วยการ stoploss แล้วหาโอกาสใหม่แค่นั้น ...ไม่เห็นต้องไปกังวลอะไรมากมาย และก็ไม่ใช่ความผิดพลาดด้วย เพราะเขารู้อยู่แล้วว่า ในภาวะตลาดที่ไม่แน่นอน ย่อมมีความเสี่ยงที่จะผิดพลาดได้เสมอ เมื่อเกิดเหตุการณ์ก็แก้ไข...เท่านั้น
ผมไม่รู้จักกับ อ.นิพนธ์ เป็นการส่วนตัว ...แต่บอกพวกเราได้ว่า อ.นิพนธ์ ถือว่าเป็นคนที่เก่งทางเทคนิเคิลจริงๆคนหนึ่ง หากเทียบกับนักวิเคราะห์จากโบรกต่างๆที่ออกมาให้ความเห็นตามรายการต่างๆ ผมเชื่อว่า อ.นิพนธ์ มีความรู้ทางเทคนิคที่ลึกซึ้งกว่าคนอื่นทั้งหมดทุกคน ผมมอง จากที่ดูจากการวิเคราะห์หุ้นหรือ TFEX ของ อาจารย์ และ ผมจะตรวจสอบว่า ที่ อาจารย์นิพนธ์ วิเคราะห์ขณะนั้น ท่านวิเคราะห์เป็นไปตามหลักการที่ถูกต้องตามกราฟหรือเปล่า .. ซึ่งผมยืนยันว่าเป็นไปตามนั้น แต่สาเหตุที่ราคาหรือภาวะตลาดไม่เป็นไปตามที่คาด มันมาจากปัจจัยภายนอก หรือปัจจัยอื่นๆ ที่เข้ามากระทบทำให้แรงซื้อแรงขายเปลี่ยนแปลงไปจากภาพที่คาดไว้ ซึ่งโดยปกตินักเทคนิคก็จะทราบได้ทันทีจากสิ่งที่เกิดขึ้นในกราฟอยู่แล้ว ในขณะเทรดนั้นเอง จึงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย ...แต่รายย่อยที่ไม่มีความรู้ต่างหาก ที่ต้องอาศัยข้อมูลและคำแนะนำตลอดเวลา ไม่รู้จุดซื้อ จุด cutloss หรือไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรเมื่อราคาไใ่เป็นไปตามที่คาด ก็มักจะอึดอัด เพราะไม่มีวิธีแก้ไข ....ดังนั้น สิ่งที่ตัวเราควรแก้ไขปรับปรุง ก็คือหาความรู้ให้เพียงพอกับการเทรดหุ้นในตลาด ไม่ใช่ยืมจมูกคนอื่นหายใจไปวันๆ ซึ่งในที่สุด ปัญหาเดิมๆ เมื่อซื้อหุ้นก็จะเกิดซ้ำๆ ไปไม่มีวันสิ้นสุด
กราฟเทคนิคเป็นเพียงข้อมูลในอดีตที่แสดงผลและนักเทคนิคใช้ประเมินความแข็งแรงของราคาในขณะนั้น ไม่ต่างกับเวลาที่เราไปตรวจสุขภาพประจำปี การที่ผลตรวจออกมาว่าสุขภาพแข็งแรง ไม่ได้เป็นเครื่องการันตีว่า สัปดาห์หน้าเราจะไม่เป็นหวัด หากเราไม่รักษาสุขภาพ ... ดังนั้น ความสำคัญของการใช้กราฟ เป็นการประเมินความแข็งแรงของราคาหุ้นจากแรงซื้อหรือแรงขาย คล้ายกับ VI ประเมินราคาว่าราคาหุ้นน่าจะขึ้นเพราะบริษัทสร้างผลกำไรดีขึ้น เพียงแต่แรงซื้อแรงขายมันเป็นผลจากการตัดสินใจระยะสั้นของเทรดเดอร์ และพร้อมเปลี่ยนแปลงได้เสมอ เมื่อมีข่าวที่ทำให้ความโลภและความกลัวของนักลงทุนเปลี่ยนแปลงไปแล้วแสดงผลออกมาเป็นแรงซื้อแรงขายที่ไปทำให้ราคาเปลี่ยนแปลงไปครับ
...... ต้องขอภัย หาก ผมให้ความเห็นและทำให้บางท่านอาจไม่พอใจ ผมไม่ได้ตำหนิ หรือต่อว่าใคร นะครับ ....เพียงแต่อธิบายถึง ความรู้สึกของนักเทคนิค ว่า บางทีการต่อว่าจากผู้ที่ไม่รู้ ไม่เข้าใจ และคอยโพสข้อความล้อเลียน บางที มันก็ทำให้เสียกำลังใจและเสียความรู้สึกได้ .... ซึ่งการกระทำเหล่านั้น ก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรกับใคร หรือโดยส่วนรวมเลย สู้เรามาหาวิธีเพิ่มพูนความรู้ ด้วยการแชร์ความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อการลงทุนไม่ว่าจะเป็นทางเทคนิค หรือพื้นฐาน น่าจะทำให้ห้องนี้ อบอุ่นขึ้นและน่าอยู่มากขึ้นนะครับ ....
คนที่ถามในรายการ ก็ชอบถามตลาด TF 15 นาที 30 นาที รอบมันก็อยู่สั้นๆ 1-2 วันก็จบรอบแล้ว ซื้อ ATC ขาย ATO แบบนี้ ยิ่งตลาดช่วง พักตัวแบบนี้ มันทำนายยาก ...เพราะมันไม่มีเทรนด์ การทำนายผิดถือเป็นเรื่องปกติ เพียงแต่เราต้องรู้ว่า หากตลาดไม่เป็นไปตามที่เราคาดไว้ เราจะต้องทำอย่างไรต่อไปตามลำดับ 1-2-3 เพื่อแก้ไข ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากการคาดการณ์หรือการตั้งสมมติฐานของเราในครั้งนั้น จุดนี้สำคัญกว่าเรื่องอื่นใดทั้งสิ้น...
การตำหนิความเห็นเรื่องเทคนิเคิล ควรยกจุดผิดพลาดที่เขาให้ความเห็นผิดพลาด ซึ่งเป็น ข้อเท็จจริง ไม่ใช่การนำผลที่เกิดขึ้นแล้วไม่เป็นการวิเคราะห์ของเขา มาต่อว่า ทำไมถึงไม่เป็นตามที่วิเคราะห์ ....นักเทคนิคจะชำนาญการอ่านกราฟแล้วสามารถ Extrapolate หรือนำข้อมูลที่ได้จากกราฟในขณะนั้นมาประมวลผลเพื่อทำนายไปในอนาคต ซึ่งหากตลาดมีแนวโน้มแข็งแรงชัดเจน ตัวบ่งชี้ต่างๆจะให้ค่ายืนยันที่ชัดเจนและมีความผิดพลาดน้อย แต่หากไม่มีเทรนด์ ตัวบ่งชี้ต่างๆก็จะไม่ยืนยันทิศทางแน่นอนว่าจะขึ้นหรือลง ซึ่งมันเป็นไปได้ทั้งสองทาง แต่หากให้นักวิเคราะห์ฟันธงก็มักจะเจอ Error แบบนี้บ่อยๆ ...แต่ก็ไม่ใช่เรื่อง serious อะไร เพราะนักเทคนิค หากวิเคราะห์ผิด เขามีวิธีแก้ไขปัญหาได้อยู่แล้ว ด้วยการ stoploss แล้วหาโอกาสใหม่แค่นั้น ...ไม่เห็นต้องไปกังวลอะไรมากมาย และก็ไม่ใช่ความผิดพลาดด้วย เพราะเขารู้อยู่แล้วว่า ในภาวะตลาดที่ไม่แน่นอน ย่อมมีความเสี่ยงที่จะผิดพลาดได้เสมอ เมื่อเกิดเหตุการณ์ก็แก้ไข...เท่านั้น
ผมไม่รู้จักกับ อ.นิพนธ์ เป็นการส่วนตัว ...แต่บอกพวกเราได้ว่า อ.นิพนธ์ ถือว่าเป็นคนที่เก่งทางเทคนิเคิลจริงๆคนหนึ่ง หากเทียบกับนักวิเคราะห์จากโบรกต่างๆที่ออกมาให้ความเห็นตามรายการต่างๆ ผมเชื่อว่า อ.นิพนธ์ มีความรู้ทางเทคนิคที่ลึกซึ้งกว่าคนอื่นทั้งหมดทุกคน ผมมอง จากที่ดูจากการวิเคราะห์หุ้นหรือ TFEX ของ อาจารย์ และ ผมจะตรวจสอบว่า ที่ อาจารย์นิพนธ์ วิเคราะห์ขณะนั้น ท่านวิเคราะห์เป็นไปตามหลักการที่ถูกต้องตามกราฟหรือเปล่า .. ซึ่งผมยืนยันว่าเป็นไปตามนั้น แต่สาเหตุที่ราคาหรือภาวะตลาดไม่เป็นไปตามที่คาด มันมาจากปัจจัยภายนอก หรือปัจจัยอื่นๆ ที่เข้ามากระทบทำให้แรงซื้อแรงขายเปลี่ยนแปลงไปจากภาพที่คาดไว้ ซึ่งโดยปกตินักเทคนิคก็จะทราบได้ทันทีจากสิ่งที่เกิดขึ้นในกราฟอยู่แล้ว ในขณะเทรดนั้นเอง จึงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย ...แต่รายย่อยที่ไม่มีความรู้ต่างหาก ที่ต้องอาศัยข้อมูลและคำแนะนำตลอดเวลา ไม่รู้จุดซื้อ จุด cutloss หรือไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรเมื่อราคาไใ่เป็นไปตามที่คาด ก็มักจะอึดอัด เพราะไม่มีวิธีแก้ไข ....ดังนั้น สิ่งที่ตัวเราควรแก้ไขปรับปรุง ก็คือหาความรู้ให้เพียงพอกับการเทรดหุ้นในตลาด ไม่ใช่ยืมจมูกคนอื่นหายใจไปวันๆ ซึ่งในที่สุด ปัญหาเดิมๆ เมื่อซื้อหุ้นก็จะเกิดซ้ำๆ ไปไม่มีวันสิ้นสุด
กราฟเทคนิคเป็นเพียงข้อมูลในอดีตที่แสดงผลและนักเทคนิคใช้ประเมินความแข็งแรงของราคาในขณะนั้น ไม่ต่างกับเวลาที่เราไปตรวจสุขภาพประจำปี การที่ผลตรวจออกมาว่าสุขภาพแข็งแรง ไม่ได้เป็นเครื่องการันตีว่า สัปดาห์หน้าเราจะไม่เป็นหวัด หากเราไม่รักษาสุขภาพ ... ดังนั้น ความสำคัญของการใช้กราฟ เป็นการประเมินความแข็งแรงของราคาหุ้นจากแรงซื้อหรือแรงขาย คล้ายกับ VI ประเมินราคาว่าราคาหุ้นน่าจะขึ้นเพราะบริษัทสร้างผลกำไรดีขึ้น เพียงแต่แรงซื้อแรงขายมันเป็นผลจากการตัดสินใจระยะสั้นของเทรดเดอร์ และพร้อมเปลี่ยนแปลงได้เสมอ เมื่อมีข่าวที่ทำให้ความโลภและความกลัวของนักลงทุนเปลี่ยนแปลงไปแล้วแสดงผลออกมาเป็นแรงซื้อแรงขายที่ไปทำให้ราคาเปลี่ยนแปลงไปครับ
...... ต้องขอภัย หาก ผมให้ความเห็นและทำให้บางท่านอาจไม่พอใจ ผมไม่ได้ตำหนิ หรือต่อว่าใคร นะครับ ....เพียงแต่อธิบายถึง ความรู้สึกของนักเทคนิค ว่า บางทีการต่อว่าจากผู้ที่ไม่รู้ ไม่เข้าใจ และคอยโพสข้อความล้อเลียน บางที มันก็ทำให้เสียกำลังใจและเสียความรู้สึกได้ .... ซึ่งการกระทำเหล่านั้น ก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรกับใคร หรือโดยส่วนรวมเลย สู้เรามาหาวิธีเพิ่มพูนความรู้ ด้วยการแชร์ความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อการลงทุนไม่ว่าจะเป็นทางเทคนิค หรือพื้นฐาน น่าจะทำให้ห้องนี้ อบอุ่นขึ้นและน่าอยู่มากขึ้นนะครับ ....
แสดงความคิดเห็น
คุณนิพ่นบอก ใครถือบิ๊กแคปใหญ่ๆ ให้ล้างพอร์ท แล้วไปรอเล่นใหม่เมษา แต่เป็น เมษา ปี6o
ตัวไหนก็คงพอเดาได้นะ
ส่วนตัวเล็ก ก็แล้วแต่ตัวๆไป มีขึ้น มีลง
แต่ไปรอปี 60 เลยเหรอ...
สงสัยต้องไปเรียน แกย้ำ