คุณนิพ่นบอก ใครถือบิ๊กแคปใหญ่ๆ ให้ล้างพอร์ท แล้วไปรอเล่นใหม่เมษา แต่เป็น เมษา ปี6o

กระทู้คำถาม
แกบอก บิ๊กๆ น่าจะประมาณ สื่อสาร 3 แบงค์ 3 พลังงาน 3

ตัวไหนก็คงพอเดาได้นะ

ส่วนตัวเล็ก ก็แล้วแต่ตัวๆไป มีขึ้น มีลง

แต่ไปรอปี 60 เลยเหรอ...

สงสัยต้องไปเรียน  แกย้ำ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
แทนที่จะหาความรู้ว่า ทำไมเขามองว่าตลาดลง ดูจากเทคนิคอะไร  ดูอย่างไร  .... กลับคอยจับผิดว่าเขาดูแล้ว ผิดตลาดไม่เป็นไปตามที่เขาพูด.. เคยดูกราฟไหมว่า ตอนที่เขาพูดแบบนั้น กราฟมันบอกอย่างที่เขาพูดหรือเขามั่วขึ้นมาเอง .....การทำนายอนาคตมันมีโอกาสผิดพลาดได้ง่ายมากยิ่งในกรณีที่ต้องทำนายทุกวัน ทั้งเช้า ทั้งบ่าย ในทุกสภาพตลาด หากเป็น Sideway ยิ่งไม่ต้องพูดถึง โอกาสผิดถูกแทบไม่ต่างกันเลย .....แต่สิ่งที่เราควรศึกษาคือ เขาใช้กราฟเทคนิคและทำนายตามกราฟที่บอกหรือไม่ และเราควรเทรดเมื่อไหร่ ...ไม่จำเป็นที่เราจะต้องเสี่ยงหากตลาดยังไม่เป็นไปตาม Criteria  ที่เรากำหนดไว้ ...ไม่เทรดหากเราไม่อยู่ในฝ่ายที่ได้เปรียบ  ...

   คนที่ถามในรายการ  ก็ชอบถามตลาด TF 15 นาที  30 นาที   รอบมันก็อยู่สั้นๆ 1-2 วันก็จบรอบแล้ว  ซื้อ ATC  ขาย ATO   แบบนี้   ยิ่งตลาดช่วง พักตัวแบบนี้ มันทำนายยาก ...เพราะมันไม่มีเทรนด์    การทำนายผิดถือเป็นเรื่องปกติ  เพียงแต่เราต้องรู้ว่า หากตลาดไม่เป็นไปตามที่เราคาดไว้ เราจะต้องทำอย่างไรต่อไปตามลำดับ  1-2-3   เพื่อแก้ไข ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากการคาดการณ์หรือการตั้งสมมติฐานของเราในครั้งนั้น  จุดนี้สำคัญกว่าเรื่องอื่นใดทั้งสิ้น...

    การตำหนิความเห็นเรื่องเทคนิเคิล ควรยกจุดผิดพลาดที่เขาให้ความเห็นผิดพลาด  ซึ่งเป็น ข้อเท็จจริง ไม่ใช่การนำผลที่เกิดขึ้นแล้วไม่เป็นการวิเคราะห์ของเขา มาต่อว่า ทำไมถึงไม่เป็นตามที่วิเคราะห์ ....นักเทคนิคจะชำนาญการอ่านกราฟแล้วสามารถ Extrapolate หรือนำข้อมูลที่ได้จากกราฟในขณะนั้นมาประมวลผลเพื่อทำนายไปในอนาคต  ซึ่งหากตลาดมีแนวโน้มแข็งแรงชัดเจน  ตัวบ่งชี้ต่างๆจะให้ค่ายืนยันที่ชัดเจนและมีความผิดพลาดน้อย  แต่หากไม่มีเทรนด์  ตัวบ่งชี้ต่างๆก็จะไม่ยืนยันทิศทางแน่นอนว่าจะขึ้นหรือลง  ซึ่งมันเป็นไปได้ทั้งสองทาง  แต่หากให้นักวิเคราะห์ฟันธงก็มักจะเจอ Error แบบนี้บ่อยๆ   ...แต่ก็ไม่ใช่เรื่อง serious อะไร  เพราะนักเทคนิค หากวิเคราะห์ผิด เขามีวิธีแก้ไขปัญหาได้อยู่แล้ว ด้วยการ stoploss  แล้วหาโอกาสใหม่แค่นั้น ...ไม่เห็นต้องไปกังวลอะไรมากมาย  และก็ไม่ใช่ความผิดพลาดด้วย  เพราะเขารู้อยู่แล้วว่า ในภาวะตลาดที่ไม่แน่นอน ย่อมมีความเสี่ยงที่จะผิดพลาดได้เสมอ เมื่อเกิดเหตุการณ์ก็แก้ไข...เท่านั้น

    ผมไม่รู้จักกับ อ.นิพนธ์ เป็นการส่วนตัว ...แต่บอกพวกเราได้ว่า  อ.นิพนธ์ ถือว่าเป็นคนที่เก่งทางเทคนิเคิลจริงๆคนหนึ่ง  หากเทียบกับนักวิเคราะห์จากโบรกต่างๆที่ออกมาให้ความเห็นตามรายการต่างๆ  ผมเชื่อว่า อ.นิพนธ์ มีความรู้ทางเทคนิคที่ลึกซึ้งกว่าคนอื่นทั้งหมดทุกคน  ผมมอง จากที่ดูจากการวิเคราะห์หุ้นหรือ TFEX ของ อาจารย์ และ  ผมจะตรวจสอบว่า ที่ อาจารย์นิพนธ์ วิเคราะห์ขณะนั้น ท่านวิเคราะห์เป็นไปตามหลักการที่ถูกต้องตามกราฟหรือเปล่า ..  ซึ่งผมยืนยันว่าเป็นไปตามนั้น  แต่สาเหตุที่ราคาหรือภาวะตลาดไม่เป็นไปตามที่คาด มันมาจากปัจจัยภายนอก หรือปัจจัยอื่นๆ ที่เข้ามากระทบทำให้แรงซื้อแรงขายเปลี่ยนแปลงไปจากภาพที่คาดไว้  ซึ่งโดยปกตินักเทคนิคก็จะทราบได้ทันทีจากสิ่งที่เกิดขึ้นในกราฟอยู่แล้ว ในขณะเทรดนั้นเอง  จึงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย ...แต่รายย่อยที่ไม่มีความรู้ต่างหาก ที่ต้องอาศัยข้อมูลและคำแนะนำตลอดเวลา ไม่รู้จุดซื้อ จุด cutloss  หรือไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรเมื่อราคาไใ่เป็นไปตามที่คาด  ก็มักจะอึดอัด เพราะไม่มีวิธีแก้ไข ....ดังนั้น สิ่งที่ตัวเราควรแก้ไขปรับปรุง ก็คือหาความรู้ให้เพียงพอกับการเทรดหุ้นในตลาด  ไม่ใช่ยืมจมูกคนอื่นหายใจไปวันๆ  ซึ่งในที่สุด ปัญหาเดิมๆ เมื่อซื้อหุ้นก็จะเกิดซ้ำๆ ไปไม่มีวันสิ้นสุด

     กราฟเทคนิคเป็นเพียงข้อมูลในอดีตที่แสดงผลและนักเทคนิคใช้ประเมินความแข็งแรงของราคาในขณะนั้น  ไม่ต่างกับเวลาที่เราไปตรวจสุขภาพประจำปี   การที่ผลตรวจออกมาว่าสุขภาพแข็งแรง ไม่ได้เป็นเครื่องการันตีว่า สัปดาห์หน้าเราจะไม่เป็นหวัด หากเราไม่รักษาสุขภาพ ... ดังนั้น ความสำคัญของการใช้กราฟ เป็นการประเมินความแข็งแรงของราคาหุ้นจากแรงซื้อหรือแรงขาย  คล้ายกับ VI  ประเมินราคาว่าราคาหุ้นน่าจะขึ้นเพราะบริษัทสร้างผลกำไรดีขึ้น   เพียงแต่แรงซื้อแรงขายมันเป็นผลจากการตัดสินใจระยะสั้นของเทรดเดอร์ และพร้อมเปลี่ยนแปลงได้เสมอ เมื่อมีข่าวที่ทำให้ความโลภและความกลัวของนักลงทุนเปลี่ยนแปลงไปแล้วแสดงผลออกมาเป็นแรงซื้อแรงขายที่ไปทำให้ราคาเปลี่ยนแปลงไปครับ

  ...... ต้องขอภัย หาก ผมให้ความเห็นและทำให้บางท่านอาจไม่พอใจ   ผมไม่ได้ตำหนิ หรือต่อว่าใคร นะครับ ....เพียงแต่อธิบายถึง ความรู้สึกของนักเทคนิค ว่า บางทีการต่อว่าจากผู้ที่ไม่รู้ ไม่เข้าใจ และคอยโพสข้อความล้อเลียน บางที มันก็ทำให้เสียกำลังใจและเสียความรู้สึกได้ ....  ซึ่งการกระทำเหล่านั้น  ก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรกับใคร หรือโดยส่วนรวมเลย   สู้เรามาหาวิธีเพิ่มพูนความรู้ ด้วยการแชร์ความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อการลงทุนไม่ว่าจะเป็นทางเทคนิค หรือพื้นฐาน น่าจะทำให้ห้องนี้ อบอุ่นขึ้นและน่าอยู่มากขึ้นนะครับ ....
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่