กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกนะครับที่ออกมาตั้ง ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะครับ ไม่ได้มีเจตนาไม่ดีต่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเลยนะครับ
ช่วงนี้มีประเด็นเรื่องการจราจรทางสะพานและอุโมงกันเยอะ เลยขอออกมาพูดหน่อยนะครับ
ผมเองก็เป็นคนนึงที่ใช้รถบนนท้องถนนโดยใช้ทั้งรถมอเตอร์ไซค์และรถยนต์บ่อยพอๆกัน
ผมพยายามทำความเข้าใจต่อความไม่สะดวกของทั้งรถมอเตอร์ไซค์และรถยนต์ในการใช้รถบนท้องถนน
แต่สิ่งที่ผมเห็นแล้วรู้สึกว่ามันขัดใจต่อความรู้สึกของผมไปบ้างก็ในส่วนที่ทางตำรวจของประเทศเรา
ทำไมถึงไม่มองหาทางช่วยเหลือประชาชนที่กำลังเดือดร้อนหรืออะลุ่มอล่วยให้แก่กันล่ะครับ
ผมไม่สนับสนุนให้ปิดถนนเพื่อการประท้วงเพราะมันทำให้ผู้ใช้ถนนคนอื่นเดือดร้อน แต่ก็เห็นใจในส่วนที่
เมื่อเรียกร้องไปก็ไม่เห็นจะมีมาตราการช่วยเหลือใดๆออกมาเลย และสิ่งที่รบกวนจิตใจผมอยู่เนืองๆก็คือ
หลังจากก่อนหน้านี้มีข่าวว่ากลุ่มมอเตอร์ไซค์กลุ่มใหญ่ปิดถนนภูมิพลฯ แล้วขับลงมาพร้อมกันนั้นเพื่อประท้วง
ทำให้วันถัดมามีตำรวจและทหารมีมาตราการทันทีแทบจะทุกที่ปิดถนนตรงสะพานเพื่อไม่ให้มอเตอร์ไซค์ขับขึ้นไปบนสะพาน
แต่มีสะพานบางที่คือสะพานไทย-เบลเยียม ที่ก่อนหน้านี้มอเตอร์ไซค์สามารถขึ้นได้เนื่องจากมีเลนสำหรับมอเตอร์ไซค์ให้โดยเฉพาะ
แต่พอมาจนถึงวันนี้ไม่สามารถขึ้นได้ เพราะมีป้ายมาตั้งไว้ว่าห้ามรถมอเตอร์ไซค์ขึ้น
ส่วนตัวผมเองผมไม่ได้เดือดร้อนอะไรเท่าไหร่กับการที่รถมอเตอร์ไซค์จะขับขี่ขึ้นบนสะพาน เพราะส่วนใหญ่ที่เจอรถมอเตอร์ไซค์ก็จะขับชิดซ้ายสุดอยู่แล้ว
ซึ่งจุดนี้ผมเองก็มองว่าต่างคนต่างรู้หน้าที่ตัวเองในการใช้รถบนท้องถนน ถึงแม้การวิ่งถนนข้างล่างจะมีรถมอเตอร์ไซค์วิ่งขวาบ้างก็เนื่องจากสภาพท้องถนน
ของบ้านเรามันไม่เอื้ออำนวยต่อการวิ่งชิดซ้ายตลอดเวลา ผมขับรถยนต์ต่อให้ถนนโล่งผมยังไม่อยากจะชิดซ้ายเลยเนื่องจากสาเหตุอะไรทุกคนคงพอรู้กันอยู่นะครับ
สิ่งที่ผมเห็นคุณตำรวจทำหลังจากเหตุการณ์ปิดสะพานภูมิพลฯในวันนั้นดูเหมือนเป็นการแก้แค้นกลายๆยังไงไม่รู้
คุณตำรวจเองก็ไม่ได้เคารพกฎที่เคยออกพูดไว้เหมือนกัน เช่นตั้งด่านตรงทางแยกและทางคับขันผมก็ยังเห็นตั้งอยู่เป็นประจำ
หรือว่านี่เป็นการแก้แค้นประชาชนที่บังอาจมาแหยมโดยการปิดสะพานภูมิพลฯก่อน คุณเลยเอามาตราการและข้อกฎหมายมาเล่นงานประชาชนทันที
โดยที่ไม่สนใจความเดือดร้อนของประชาชนที่ไร้ซึ่งพลังอำนาจในการต่อรองการใช้รถบนท้องถนนเลยใช่ไหมครับ
ข้อความที่กล่างข้างต้นเป็นเพียงความคิดส่วนหนึ่งในใจผมเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะคิดล่วงเกินความรู้สึกและกล่าวโทษหรือประเมิณว่าใครผิดใครถูกได้ และอาจจะทำให้ใครหลายๆคนไม่พอใจในความรู้สึกส่วนตัวของผม ผมต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
หาทางออกร่วมกัน ดีกว่ามาเบ่งอำนาจใส่กัน ดีกว่าไหม
ช่วงนี้มีประเด็นเรื่องการจราจรทางสะพานและอุโมงกันเยอะ เลยขอออกมาพูดหน่อยนะครับ
ผมเองก็เป็นคนนึงที่ใช้รถบนนท้องถนนโดยใช้ทั้งรถมอเตอร์ไซค์และรถยนต์บ่อยพอๆกัน
ผมพยายามทำความเข้าใจต่อความไม่สะดวกของทั้งรถมอเตอร์ไซค์และรถยนต์ในการใช้รถบนท้องถนน
แต่สิ่งที่ผมเห็นแล้วรู้สึกว่ามันขัดใจต่อความรู้สึกของผมไปบ้างก็ในส่วนที่ทางตำรวจของประเทศเรา
ทำไมถึงไม่มองหาทางช่วยเหลือประชาชนที่กำลังเดือดร้อนหรืออะลุ่มอล่วยให้แก่กันล่ะครับ
ผมไม่สนับสนุนให้ปิดถนนเพื่อการประท้วงเพราะมันทำให้ผู้ใช้ถนนคนอื่นเดือดร้อน แต่ก็เห็นใจในส่วนที่
เมื่อเรียกร้องไปก็ไม่เห็นจะมีมาตราการช่วยเหลือใดๆออกมาเลย และสิ่งที่รบกวนจิตใจผมอยู่เนืองๆก็คือ
หลังจากก่อนหน้านี้มีข่าวว่ากลุ่มมอเตอร์ไซค์กลุ่มใหญ่ปิดถนนภูมิพลฯ แล้วขับลงมาพร้อมกันนั้นเพื่อประท้วง
ทำให้วันถัดมามีตำรวจและทหารมีมาตราการทันทีแทบจะทุกที่ปิดถนนตรงสะพานเพื่อไม่ให้มอเตอร์ไซค์ขับขึ้นไปบนสะพาน
แต่มีสะพานบางที่คือสะพานไทย-เบลเยียม ที่ก่อนหน้านี้มอเตอร์ไซค์สามารถขึ้นได้เนื่องจากมีเลนสำหรับมอเตอร์ไซค์ให้โดยเฉพาะ
แต่พอมาจนถึงวันนี้ไม่สามารถขึ้นได้ เพราะมีป้ายมาตั้งไว้ว่าห้ามรถมอเตอร์ไซค์ขึ้น
ส่วนตัวผมเองผมไม่ได้เดือดร้อนอะไรเท่าไหร่กับการที่รถมอเตอร์ไซค์จะขับขี่ขึ้นบนสะพาน เพราะส่วนใหญ่ที่เจอรถมอเตอร์ไซค์ก็จะขับชิดซ้ายสุดอยู่แล้ว
ซึ่งจุดนี้ผมเองก็มองว่าต่างคนต่างรู้หน้าที่ตัวเองในการใช้รถบนท้องถนน ถึงแม้การวิ่งถนนข้างล่างจะมีรถมอเตอร์ไซค์วิ่งขวาบ้างก็เนื่องจากสภาพท้องถนน
ของบ้านเรามันไม่เอื้ออำนวยต่อการวิ่งชิดซ้ายตลอดเวลา ผมขับรถยนต์ต่อให้ถนนโล่งผมยังไม่อยากจะชิดซ้ายเลยเนื่องจากสาเหตุอะไรทุกคนคงพอรู้กันอยู่นะครับ
สิ่งที่ผมเห็นคุณตำรวจทำหลังจากเหตุการณ์ปิดสะพานภูมิพลฯในวันนั้นดูเหมือนเป็นการแก้แค้นกลายๆยังไงไม่รู้
คุณตำรวจเองก็ไม่ได้เคารพกฎที่เคยออกพูดไว้เหมือนกัน เช่นตั้งด่านตรงทางแยกและทางคับขันผมก็ยังเห็นตั้งอยู่เป็นประจำ
หรือว่านี่เป็นการแก้แค้นประชาชนที่บังอาจมาแหยมโดยการปิดสะพานภูมิพลฯก่อน คุณเลยเอามาตราการและข้อกฎหมายมาเล่นงานประชาชนทันที
โดยที่ไม่สนใจความเดือดร้อนของประชาชนที่ไร้ซึ่งพลังอำนาจในการต่อรองการใช้รถบนท้องถนนเลยใช่ไหมครับ
ข้อความที่กล่างข้างต้นเป็นเพียงความคิดส่วนหนึ่งในใจผมเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะคิดล่วงเกินความรู้สึกและกล่าวโทษหรือประเมิณว่าใครผิดใครถูกได้ และอาจจะทำให้ใครหลายๆคนไม่พอใจในความรู้สึกส่วนตัวของผม ผมต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ