♡ กระทู้นี้คงไม่ใช่กระทู้รูปสวยอะไรน้า

เพราะเราใช้กล้องโทรศัพท์ถ่ายแถมถ่ายกากมากจริงๆ
แต่ก็อยากจะมาแชร์ประสบการ์ณไปยุโรปครั้งแรกคนเดียวแบบไม่มีแพลน
แบบภาษาก็ง่อยมาก คุยอังกฤษไม่ได้ พูดได้แต่ประโยคเอาตัวรอด 55555
แต่นั่นไม่เคยเป็นปัญหาของเราค่า อิอิ
เราเคยเที่ยวคนเดียวแถบเอเชียมาเกือบหมดแล้ว ยกเว้น ญี่ปุ่น อินโด กับ สิงคโปร์
ก็เลยไม่ค่อยกลัวอะไรแล้ว แฮร่
ทริปนี้เรากระจุกตัวอยู่ที่สก็อตแลนด์เป็นส่วนใหญ่เกือบ 22 วัน
ไปแบบ งงๆ ไปถึงแล้วยังไม่รู้เลยจะไปไหนทำอะไร แค่อยากออกเดินทาง
ยังแอบเสียดายถ้าวางแพลนมาอาจจะเที่ยวได้คุ้มกว่านี้
เริ่มจากตอนแรกตั้งใจจะไปงาน Download festival ที่ อังกฤษ
ตอนขอวีซ่าไม่มีแพลนท่องเที่ยวอะไรเลย เขียนจม ไปว่า ไออยากไปงานนี้น้า
มีหลายวงที่ชาตินี้ยังไงไอก็ไม่ได้ดูในไทยแน่นอนน 55555
ขอแนะนำเรื่องวีซ่านิดนึงน้าเกี่ยวกับแม่ค้าออนไลน์แบบไม่ได้ทำงานบริษัทแบบเรา*
เอกสารที่เตรียมสำหรับแม่ค้าออนไลน์เพิ่มเติมจากปกติ
- เราไม่มีใบจดทะเบียนการค้าไม่มีหน้าร้านอะไรเลยน้า
♡ จดหมายแนะนำตัวเองเป็นภาษาอังกฤษว่าเป็นใครมาจากไหน ทำอะไร กี่วัน ทำไมถึงอยากไป UK
ซึ่งอันนี้เราเขียนว่าไปงาน download festival แล้วก็ลิสรายชื่อวงที่เราชอบไปยาวเหยียด -..- ไม่มีแพลนเที่ยวเลย 555
♡ เขียนจดหมายแนะนำตัวเองเป็นอังกฤษเกี่ยวกับงานว่าเราขายในเว็ปนี้น้า ขายมานานเท่าไหร่
เราถ่ายรูปสินค้าที่เราสต็อกที่บ้าน กับรูปพัสดุที่ส่ง รูปหน้าเว็ปไซต์ Print เพิ่มไปหมดเลย
♡ ที่พักเราprint ใบจอง booking ใน London คืนแรกคืนเดียว เพราะเราเขียนไปว่า เรานอนเตนท์ที่งาน
ตั๋วเครื่องบินตอนนั้นจองเว็ปที่กดจองแล้วจ่ายทีหลัง จำไม่ได้แล้วขอโทษจริงๆค่า 55
♡ สมุดบัญชีของจริง + สำเนา เราเอาทุกธนาคารเลย
♡Statement เราขอย้อนหลัง 3 ปีเลย เพราะบัญชีเราเดินตลอด เหมือนเป็นหลักฐานด้วยว่าเราขายของมานานแล้วน้า
( จริงๆเค้าอาจจะดูแค่ 6 เดือนไรงี้แต่เราไม่อยากพลาด อิอิ )
♡ ใบรับรองการเงินจากธนาคาร
แล้วก็ไปยื่นเองไปรับเอง 7 วันได้วีซ่าแล้ววรวดเร็วมาก ><
ได้แบบ 6 เดือนมาครอบครอง
และสุดท้ายก็ไม่ได้ไปงาน Download ค่ะ -__-"

ผ่านมา 5 เดือน เป็นช่วงเวลาที่เรากำลังจะซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมเกือบ 7 หมื่น ใบแรกในชีวิต
แล้วก็ฉุกคิดได้ว่า เฮัยย ราคานี้ได้บินไปยุโรปเลยนะเว้ย วีซ่าอังกฤษก็มี O_O คิดปุ้ปอยากไปปั้ป
เชคตั๋วเลยทันที เจอ EVA AIR 29,000 บินตรง พรุ่งนี้! แค่คิดว่าพรุ่งนี้เราจะไปยืนกางแขนที่ลอนดอนอายก็ปริ่มแล้ว 55555
ตอนเย็นรีบไปแลกตัง 75,000 บาทติดตัว กับเวลาเกือบหนึ่งเดือน ตอนนั้นไม่รู้หรอก จะพอมั้ย ต้องจ่ายอะไร แต่แลกแค่นี้พอละให้เท่าราคากระเป๋า -_-;
ยังไงก็ต้องอยู่ให้ได้
( แล้วมันก็พอจริงๆ 55555555555 )
คืนนั้นจัดเป้แบบฉุกละหุก พอเช็คอากาศว่าหนาวก็เอาโค้ทไปตัวเดียว
เสื้อข้างในเอาไป 4 ชุด ใส่ซ้ำก็ได้ไม่มีคนรู้ เอาไป 4 ตัวเท่านั้น
โจ้ก มาม่า ซอง (เยอะมาก) ในกระเป๋านี่มีแต่อาหารแห้ง เราไม่ค่อยซีกับการกินเอาประหยัดไว้ก่อน
และแล้วก็มาถึงประมาณ 6โมง
กว่าจะผ่านตมมาได้ก็ 2 ทุ่ม - -" เราเดินดุ่ย ๆ ตามเค้าไปเรื่อยๆตั้งใจจะไปนั่งรถใต้ดินแบบไม่เคยหาข้อมูลมาก่อน 5555
เมื่อคืนเราแอบหาชื่อ hostel ไว้ชื่อ Smart hostel
แค่หาจริงๆไม่ได้จอง มาถึงแบบไม่มีinternet ตั้งใจซื้อที่สนามบินมากแต่เห็นแล้วซื้อไม่เป็น T.T
มาถึงรถใต้ดินของฮีทโทรว เราตรงดิ่งไปถามเจ้าหน้าที่ เปิดรูปโฮสเทลที่แคปมาเพราะมันมีที่อยู่
เจ้าหน้าที่บอก ยูไปลง สถานี Russel square นะ แล้วก็ให้ตั๋วรถใต้ดินมา
เราก็ขึ้นมานั่งดูป้ายไปเรื่อยว่าลงเมื่อไหร่น้า รู้สึกตื่นเต้นแบบบอกไม่ถูกตลอดทาง อารมณ์แบบนี่ชั้นอยู่ลอนดอนแล้วจริงหยออ ~____~
และแล้วก็ลากตัวเองมาถึงหน้าสถานี Russel square
และหลังจากนั้นก็ งงเลยครับผม ไม่รู้ว่าโฮสเทลอยู่ไหน
เราวิ่งไปถามชายหนุ่มหน้ามนคนแรกในอังกฤษ ว่า ขอโทษนะคะ รู้จักโฮสเทลที่นี่มั้ยอยู่ไหนหรอ?
เค้าไม่รู้จัก .___. แต่ก็น่ารักมากก เอาที่อยู่ไปเสิชให้เรา แล้วบอกเราว่าเดินไปตรงนั้นนะ แล้วก็เลี้ยวซ้าย
Smart hostel คืนละ 750 บาท ประมาณ นอนรวม มีอาหารเช้าให้ด้วย ที่นี่เป็นเตียงสามชั้นติดกัน แล้วเราได้ชั้นบนสุด
ตอนลงตกบ่อยมากมันสูง T___T
บรรยากาศห้องอาหารตอนเช้าเราตื่นไวมาก เพราะต้องรีบมาหาข้อมูลว่าจะไปไหนดีวันนี้
อย่างแรกเลยซื้อซิม internet ถามเพนงที่โฮสเทลว่าไปซื้อที่ไหนดี เค้าก็บอก Oxford street เลยให้นั่งใต้ดินไปลงสถานี Bond street
และเราก็หยิบแผนที่จากโฮสเทลมุ่งตรงออกมาเลยฮะ บรรยากาศเช้าแรกของเรา แถวที่พัก
ถึง oxford street ซื้อซิมเสร็จเราก็เดินเล่นแถวนี้จนเกือบเย็น วันนี้เปื่อยมาก

ก็เดินมานั่งพักตักหลักที่ Hyde park หาข้อมูลว่าคืนนี้จะนอนไหน ไปไหน
เราลองเสิชหาว่าที่อังกฤษมีเมืองไหนธรรมชาติบ้าง เพราะเราไม่ค่อยชอบเมืองเท่าไหร่ สุดท้ายมาสะดุดตากับ Highland , Scothland
ตอนนั้นแบบไม่รู้จักไม่เคยศึกษามาก่อน นั่งดูเกิ้ลแมพว่ามันอยู่ตรงไหนนนน จะไปยังไง
เราก็ลองเสิช london to scothland ก็ขึ้นเวปรถให้เลือก เราดูของ Megabus ไว้ไปลง Edinburgh ใช้เวลาประมาน 8-9 ชั่วโมง
ไปถึงค่อยว่ากันต่อ ในเวปมีเขียนบอกหมดเลยว่าให้ขึ้นรถที่ไหน ซึ่งก็คือสถานี Victoria station
เราก็รีบนั่งใต้ดินต่อไปเลย ไปหลงอยู่ที่สถานีอีกเพราะเราไปถึงมันเป็นสถานีรถไฟแต่เราไปรถโค้ชก็ถามทางมาเรื่อยๆจนถึง แฮร่
รูปติดขยะด้วยง่า 555 ตอนเราถ่ายไม่คิดว่าจะต้องมาลงที่ไหน อารมณ์แบบถ่ายไปงั้นๆ เลยออกมาเป็นแบบนี้

แท่แด๊ เห็นสถานีข้างหน้ามั้ย กว่าจะเดินมาถึงหลังแทบหัก T.T
บรรยากาศรอบสถานี Victoriaตอนจะทุ่มนึงแล้วค่า
หลงเดี่ยวเที่ยวสก็อตแลนด์ :)
แต่ก็อยากจะมาแชร์ประสบการ์ณไปยุโรปครั้งแรกคนเดียวแบบไม่มีแพลน
แบบภาษาก็ง่อยมาก คุยอังกฤษไม่ได้ พูดได้แต่ประโยคเอาตัวรอด 55555
แต่นั่นไม่เคยเป็นปัญหาของเราค่า อิอิ
เราเคยเที่ยวคนเดียวแถบเอเชียมาเกือบหมดแล้ว ยกเว้น ญี่ปุ่น อินโด กับ สิงคโปร์
ก็เลยไม่ค่อยกลัวอะไรแล้ว แฮร่
ทริปนี้เรากระจุกตัวอยู่ที่สก็อตแลนด์เป็นส่วนใหญ่เกือบ 22 วัน
ไปแบบ งงๆ ไปถึงแล้วยังไม่รู้เลยจะไปไหนทำอะไร แค่อยากออกเดินทาง
ยังแอบเสียดายถ้าวางแพลนมาอาจจะเที่ยวได้คุ้มกว่านี้
เริ่มจากตอนแรกตั้งใจจะไปงาน Download festival ที่ อังกฤษ
ตอนขอวีซ่าไม่มีแพลนท่องเที่ยวอะไรเลย เขียนจม ไปว่า ไออยากไปงานนี้น้า
มีหลายวงที่ชาตินี้ยังไงไอก็ไม่ได้ดูในไทยแน่นอนน 55555
ขอแนะนำเรื่องวีซ่านิดนึงน้าเกี่ยวกับแม่ค้าออนไลน์แบบไม่ได้ทำงานบริษัทแบบเรา*
เอกสารที่เตรียมสำหรับแม่ค้าออนไลน์เพิ่มเติมจากปกติ
- เราไม่มีใบจดทะเบียนการค้าไม่มีหน้าร้านอะไรเลยน้า
♡ จดหมายแนะนำตัวเองเป็นภาษาอังกฤษว่าเป็นใครมาจากไหน ทำอะไร กี่วัน ทำไมถึงอยากไป UK
ซึ่งอันนี้เราเขียนว่าไปงาน download festival แล้วก็ลิสรายชื่อวงที่เราชอบไปยาวเหยียด -..- ไม่มีแพลนเที่ยวเลย 555
♡ เขียนจดหมายแนะนำตัวเองเป็นอังกฤษเกี่ยวกับงานว่าเราขายในเว็ปนี้น้า ขายมานานเท่าไหร่
เราถ่ายรูปสินค้าที่เราสต็อกที่บ้าน กับรูปพัสดุที่ส่ง รูปหน้าเว็ปไซต์ Print เพิ่มไปหมดเลย
♡ ที่พักเราprint ใบจอง booking ใน London คืนแรกคืนเดียว เพราะเราเขียนไปว่า เรานอนเตนท์ที่งาน
ตั๋วเครื่องบินตอนนั้นจองเว็ปที่กดจองแล้วจ่ายทีหลัง จำไม่ได้แล้วขอโทษจริงๆค่า 55
♡ สมุดบัญชีของจริง + สำเนา เราเอาทุกธนาคารเลย
♡Statement เราขอย้อนหลัง 3 ปีเลย เพราะบัญชีเราเดินตลอด เหมือนเป็นหลักฐานด้วยว่าเราขายของมานานแล้วน้า
( จริงๆเค้าอาจจะดูแค่ 6 เดือนไรงี้แต่เราไม่อยากพลาด อิอิ )
♡ ใบรับรองการเงินจากธนาคาร
แล้วก็ไปยื่นเองไปรับเอง 7 วันได้วีซ่าแล้ววรวดเร็วมาก ><
ได้แบบ 6 เดือนมาครอบครอง
และสุดท้ายก็ไม่ได้ไปงาน Download ค่ะ -__-"
ผ่านมา 5 เดือน เป็นช่วงเวลาที่เรากำลังจะซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมเกือบ 7 หมื่น ใบแรกในชีวิต
แล้วก็ฉุกคิดได้ว่า เฮัยย ราคานี้ได้บินไปยุโรปเลยนะเว้ย วีซ่าอังกฤษก็มี O_O คิดปุ้ปอยากไปปั้ป
เชคตั๋วเลยทันที เจอ EVA AIR 29,000 บินตรง พรุ่งนี้! แค่คิดว่าพรุ่งนี้เราจะไปยืนกางแขนที่ลอนดอนอายก็ปริ่มแล้ว 55555
ตอนเย็นรีบไปแลกตัง 75,000 บาทติดตัว กับเวลาเกือบหนึ่งเดือน ตอนนั้นไม่รู้หรอก จะพอมั้ย ต้องจ่ายอะไร แต่แลกแค่นี้พอละให้เท่าราคากระเป๋า -_-;
ยังไงก็ต้องอยู่ให้ได้
( แล้วมันก็พอจริงๆ 55555555555 )
คืนนั้นจัดเป้แบบฉุกละหุก พอเช็คอากาศว่าหนาวก็เอาโค้ทไปตัวเดียว
เสื้อข้างในเอาไป 4 ชุด ใส่ซ้ำก็ได้ไม่มีคนรู้ เอาไป 4 ตัวเท่านั้น
โจ้ก มาม่า ซอง (เยอะมาก) ในกระเป๋านี่มีแต่อาหารแห้ง เราไม่ค่อยซีกับการกินเอาประหยัดไว้ก่อน
และแล้วก็มาถึงประมาณ 6โมง
กว่าจะผ่านตมมาได้ก็ 2 ทุ่ม - -" เราเดินดุ่ย ๆ ตามเค้าไปเรื่อยๆตั้งใจจะไปนั่งรถใต้ดินแบบไม่เคยหาข้อมูลมาก่อน 5555
เมื่อคืนเราแอบหาชื่อ hostel ไว้ชื่อ Smart hostel
แค่หาจริงๆไม่ได้จอง มาถึงแบบไม่มีinternet ตั้งใจซื้อที่สนามบินมากแต่เห็นแล้วซื้อไม่เป็น T.T
มาถึงรถใต้ดินของฮีทโทรว เราตรงดิ่งไปถามเจ้าหน้าที่ เปิดรูปโฮสเทลที่แคปมาเพราะมันมีที่อยู่
เจ้าหน้าที่บอก ยูไปลง สถานี Russel square นะ แล้วก็ให้ตั๋วรถใต้ดินมา
เราก็ขึ้นมานั่งดูป้ายไปเรื่อยว่าลงเมื่อไหร่น้า รู้สึกตื่นเต้นแบบบอกไม่ถูกตลอดทาง อารมณ์แบบนี่ชั้นอยู่ลอนดอนแล้วจริงหยออ ~____~
และแล้วก็ลากตัวเองมาถึงหน้าสถานี Russel square
และหลังจากนั้นก็ งงเลยครับผม ไม่รู้ว่าโฮสเทลอยู่ไหน
เราวิ่งไปถามชายหนุ่มหน้ามนคนแรกในอังกฤษ ว่า ขอโทษนะคะ รู้จักโฮสเทลที่นี่มั้ยอยู่ไหนหรอ?
เค้าไม่รู้จัก .___. แต่ก็น่ารักมากก เอาที่อยู่ไปเสิชให้เรา แล้วบอกเราว่าเดินไปตรงนั้นนะ แล้วก็เลี้ยวซ้าย
Smart hostel คืนละ 750 บาท ประมาณ นอนรวม มีอาหารเช้าให้ด้วย ที่นี่เป็นเตียงสามชั้นติดกัน แล้วเราได้ชั้นบนสุด
ตอนลงตกบ่อยมากมันสูง T___T
บรรยากาศห้องอาหารตอนเช้าเราตื่นไวมาก เพราะต้องรีบมาหาข้อมูลว่าจะไปไหนดีวันนี้
อย่างแรกเลยซื้อซิม internet ถามเพนงที่โฮสเทลว่าไปซื้อที่ไหนดี เค้าก็บอก Oxford street เลยให้นั่งใต้ดินไปลงสถานี Bond street
และเราก็หยิบแผนที่จากโฮสเทลมุ่งตรงออกมาเลยฮะ บรรยากาศเช้าแรกของเรา แถวที่พัก
ถึง oxford street ซื้อซิมเสร็จเราก็เดินเล่นแถวนี้จนเกือบเย็น วันนี้เปื่อยมาก
ก็เดินมานั่งพักตักหลักที่ Hyde park หาข้อมูลว่าคืนนี้จะนอนไหน ไปไหน
เราลองเสิชหาว่าที่อังกฤษมีเมืองไหนธรรมชาติบ้าง เพราะเราไม่ค่อยชอบเมืองเท่าไหร่ สุดท้ายมาสะดุดตากับ Highland , Scothland
ตอนนั้นแบบไม่รู้จักไม่เคยศึกษามาก่อน นั่งดูเกิ้ลแมพว่ามันอยู่ตรงไหนนนน จะไปยังไง
เราก็ลองเสิช london to scothland ก็ขึ้นเวปรถให้เลือก เราดูของ Megabus ไว้ไปลง Edinburgh ใช้เวลาประมาน 8-9 ชั่วโมง
ไปถึงค่อยว่ากันต่อ ในเวปมีเขียนบอกหมดเลยว่าให้ขึ้นรถที่ไหน ซึ่งก็คือสถานี Victoria station
เราก็รีบนั่งใต้ดินต่อไปเลย ไปหลงอยู่ที่สถานีอีกเพราะเราไปถึงมันเป็นสถานีรถไฟแต่เราไปรถโค้ชก็ถามทางมาเรื่อยๆจนถึง แฮร่
รูปติดขยะด้วยง่า 555 ตอนเราถ่ายไม่คิดว่าจะต้องมาลงที่ไหน อารมณ์แบบถ่ายไปงั้นๆ เลยออกมาเป็นแบบนี้
แท่แด๊ เห็นสถานีข้างหน้ามั้ย กว่าจะเดินมาถึงหลังแทบหัก T.T
บรรยากาศรอบสถานี Victoriaตอนจะทุ่มนึงแล้วค่า