หรือว่าไทยจะไปโอลิมปิกโดยไร้กัปตันกิ๊ฟ หาคำตอบได้ที่นี่

หลายท่านอาจจะสงสัยว่าทำไมครั้งนี้ทีมไทยเปลี่ยนกัปตันทีมในรายการคัดเลือกโอลิมปิก มันมีสาเหตุอะไร เพราะเว็ปของสหพันธ์นานาชาติตั้งค่าไว้ว่า "ปลื้มจิตร์" คือกัปตันของทีม หรือว่าสุดท้ายกิ๊ฟจะถูกตัดไปแล้วก็ได้

เมื่อไม่นานมานี้มีสิ่งหนึ่งที่เป็นเรื่องคาใจของนักกีฬาทีมชาติไทยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ กัปตันกิ๊ฟ วิลาวัณย์ อภิญญาพงษ์ เมื่อสต๊าฟฟ์โค้ชท่านหนึ่งได้เรียกเข้าไปคุยแล้วพูดสั้นๆว่า โอลิมปิกครั้งนี้ กิ๊ฟ จะไม่ได้เป็นกัปตันทีม

จากคำพูดดังกล่าวทำให้ผู้เล่นหมายเลข 10 ของทีมชาติไทยคิดมากเป็นระยะเวลานาน จนต้องเอาเรื่องราวไปปรึกษาครอบครัว และ เพื่อนสนิทอย่าง "นิ้งหน่อง" ปลื้มจิตร์ ถินขาว

"หน่อง" เล่าเรื่องนี้ไว้ว่าช่วงเวลาที่ผ่านมา กิ๊ฟ เครียดมาก และ ร้องไห้อยู่เป็นประจำ เพราะมันมีเครื่องหมายคำถามในใจว่า " นี่เราจะไม่ได้ไปกับทีมใช่ไหม"

จนในที่สุด......เมื่อทุกอย่างมันจุกอก กิ๊ฟ ก็เลือกที่จะเดินไปหาคำตอบจากสต๊าฟโค้ช โดยยิงคำถามไปว่า "สรุปนี่หนูจะไม่ได้ไปกับทีมใช่ไหมค่ะ"

คำตอบ และ เหตุผลทั้งหมดคือ

ในการแข่งขันครั้งนี้ทีมชาติไทยจะเปลี่ยนกัปตันทีมที่นำทัพไป เพราะว่าที่ผ่านมาได้เอาดวงของคนต่างๆไปดูแล้ว เหมือนมีอะไรมาขัดขาอีกข้างของทีมเอาไว้ไม่ให้ไปเหยียบในสถานที่ที่หวังเอาไว้ได้ (โอลิมปิก) และ ครั้งนี้ได้นำหมายเลข และ เบอร์ของนักกีฬาในทีม ไม่ว่าจะเป็น กัปตันกิ๊ฟ,นุศรา,อรอุมา,วรรณา และ ปลื้มจิตร์ ไปตรวจดูแล้วได้ความมาว่า

"เลข 5 จะเป็นเลขมงคล และ มีโอกาสที่จะพาทีมไปสู่จุดสูงสุดได้ "

แน่นอน...เจ้าของเบอร์ 5 รายนี้ก็คือ "นิ้งหน่อง"ปลื้มจิตร์ ถินขาว เพื่อนสนิทของกัปตันกิ๊ฟนี่เอง

เชื่อว่าหลายคนคงมีคำถามในใจทั้งเรื่องความรู้สึกของทีม และ ทำไมสมาคมฯถึงดูงมงายจัง .....ใช่..ผมก็รู้สึก (555)

อย่างแรกเลย เรื่องความรู้สึกของ กัปตันกิ๊ฟ ตอนนี้ไม่มีอะไรคาใจเลย เพราะว่าตัวเขาต้องการทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะให้ทีม และ ตัวเองได้ไปเล่นโอลิมปิกรอบสุดท้ายให้ได้ไม่ว่าจะทางใดก็ตาม ขณะเดียวกันการเสียสละตำแหน่งครั้งนี้เป็นสิ่งที่ทำให้เราได้เห็นว่า วิลาวัณย์ เป็นคนไม่ยึดถือบรรดาศักดิ์ที่ตัวเองมีอยู่ แม้ว่าเส้นขีดใต้เบอร์จะอยู่กับเขามานานหลายปีจนใครๆก็รู้ว่า "คนนี้คือกัปตันทีมชาติไทยนะ" แต่กิ๊ฟก็ถอดมันวางลงได้ อันนี้ต้องยอมในหัวจิตหัวใจของเธอเลย

อย่างที่สอง "หน่อง" รู้สึกอย่างไรกับการได้รับหน้าที่นี้.......ผู้เล่นเบอร์ 5 ยืนยันจากใจว่า "กิ๊ฟคือคนที่เหมาะสมที่สุด และ ตนเองก็ไม่ได้อยากเป็นเลย แต่ว่าถ้าเรื่องนี้ทุกฝ่ายเห็นดีเห็นงามตรงกันก็จำเป็นต้องรับหน้าที่นี้ไป" ( ได้ข่าวว่าหน่องโวยโค้ชด้วยว่าหน่องไม่เป็นเป๊นนนนนนนนนนนนนนน 55555 กัปตันเล่าให้ฟัง)

ส่วน วรรณา ผู้สูงวัยของทีมก็มีความคิดเห็นต่อเรื่องนี้ว่า "จะเป็นกิ๊ฟหรือหน่องก็ได้ เพราะทั้งสองตัวติดกัน และ เป็นปากเสียงให้ทีมอยู่สม่ำเสมอมา ที่สำคัญความรับผิดชอบทั้งคู่ทำได้ดีไม่ต่างกัน"

ขณะที่คุณป้ามาร์ทา ได้ให้ความเห็นถึงเรื่องนี้ว่า "เส้นทางการจราจรบริเวณแยกลาดพร้าวค่อนข้างติดขัดในช่วงนี้ กรุณเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น " เฮ้ย.....เดี๋ยวๆ ป้ามาร์ทามายังไงนี่!!!!

คราวนี้มาต่อที่เรื่องความเชื่อกับสิ่งที่มองไม่เห็น....เรื่องนี้ทุกคนในทีมตั้งแต่ชุดเล็กยันไปชุดใหญ่รวมไปถึงคนในสมาคมฯจะรู้กันว่า "โค้ชยะ" จะเป็นผู้ที่มีความเชื่อด้านนี้ และ ทุกครั้งที่ทีมตบสาวไทยจะลงแข่งขัน การเลือกสีเสื้อนั้น โค้ชยะ จะตรวจดูดวงเอาไว้ก่อนอยู่เสมอ ก่อนที่จะส่งเอกสารให้กับฝ่ายจัดการแข่งขัน ซึ่งเป็นสิ่งที่อาจจะดูไม่น่าเชื่อถือเท่าไรถ้าพูดกันตามหลักวิทยาศาสตร์ และ หลายคนคงตั้งคำถามเอาไว้แล้วว่า ถ้าซ้อมมาดีจะไปกลัวเรื่องโชคชะตาทำไม

สิ่งนี้มันพิสูจน์ไม่ได้ แต่จะว่าไปแล้วเรื่องดวงเรื่องโชคนี่ก็ไม่เข้าใครออกใคร บางทีซ้อมมาดีเปิดบอลแรกเข้าทุกดอก เสิร์ฟดีทุกลูก ตบแบบมั่นๆ วันจริงอาจจะไม่เป็นอย่างนั้น....แต่ถ้ามีโชคที่พกไปด้วยบางทีมันอาจจะดีขึ้นก็ได้

ใครจะไปรู้ว่าลูกสุดท้ายที่ส่งให้ไทยได้ไปโอลิมปิกอาจจะเป็นบอลเสิร์ฟของ ปลื้มจิตร์ ที่ไปโดนตาข่ายแล้วทำท่าจะพลิกลงแดนตัวเอง แต่ไม่รู้ลมจากที่ไหนพัดให้ไปตกฝั่งตรงข้ามก็ได้ 5555

เอก ประวิตร

จาก ... http://www.smmsport.com/reader.php?article=6774