ฝากไว้สำหรับใครจะไปเที่ยว หลวงพระบาง วังเวียง ช่วงสงกรานต์

สืบเนื่องจากสงกรานต์ปีที่แล้ว เราได้ไปเที่ยวที่ประเทศลาว โดยเริ่มจากหลวงพระบางและไปต่อที่วังเวียง  เป็นทริปที่เรากับเพื่อนสนิทคนนึงตัดสินใจไปกันแบบปุ๊บปั๊บ ยอมรับเลยว่าทนกระแสของวังเวียงไม่ไหว ใครๆก็แวะไปเที่ยวกัน แต่จะหาเวลาที่ว่างตรงกันก็ค่อนข้างยากเหลือเกิน สงกรานต์เลยเป็นคำตอบสุดท้ายที่เราตัดสินใจไปเที่ยวพร้อมกัน


เราเดินทางจากจังหวัดเลยด้วยรถโดยสารของ บขส. เส้นทางเลย-หลวงพระบาง  การเดินทางค่อนข้างล่างช้า เพราะรถจอดรับคนระหว่างทางบ่อยมาก เราออกเดินทางตอนเช้าเวลา 8.00 ซึ่งตามกำหนดการควรใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 9 ชั่วโมง  แต่เราถึงหลวงพระบางเวลา 20.00



เมื่อไปถึงเราต้องเหมาสามล้อเครื่องจากสถานีขนส่งเพื่อเข้าไปหาที่พักในเมือง เราเจอกับที่คนไทยสองคนที่มาด้วยกัน พวกเราคุยกันและทำความรู้จักกัน ทำให้รู้ว่า พี่ทั้งสองก็ยังไม่ได้จองที่พัก เลยตัดสินใจนั่งรถสามล้อไปด้วยกัน


เมื่อไปถึงกลางเมืองหลวงพระบาง พวกเราก็เดินหาที่พัก ไปที่ไหน ห้องก็เต็มหมด พวกเราก็เลยคุยกันเพื่อแยกออกเป็นสองทีม เราเดินหากับเพื่อน  แล้วพี่เค้าสองคนก็เดินหา  ถ้าเจอห้องพักจะได้บอกกันต่อได้  ซอยบริเวณที่พวกเราเดินนั้นมันสามารถทะลุกันได้  ตอนนั้นเราเผื่อใจไว้แล้วว่าอาจเจอเหตุการณ์แบบนี้เพราะไม่ได้จองห้องพักมาก่อน แต่ก็ไม่ได้โทษตัวเองหรืออะไร ตั้งใจเดินหาห้องพักกันไปเรื่อยๆ เสมือนการทำภาระกิจอย่างหนึ่ง

ในที่สุดก็ได้ห้องพัก เจ้าของเป็นคนจีน ห้องนอนโอเคและราคาอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ ทำเลก็ค่อนข้างดี หาของกินและเดินเที่ยวในเมืองได้สบายๆ เรากับเพื่อนและพี่สองคนนั้น สรุปก็พักกันที่นี่ ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี เมื่อเก็บของเสร็จก็ไปเดินเที่ยวตลาดกลางคืนและหาของกิน กว่าจะถึงห้องก็ดึก เราคุยกับเพื่อนว่า พรุ่งนี้ตื่นไปตักบาตรกันไหม? แต่ด้วยความเหนื่อยก็ตกลงกันว่าถ้าไหวก็ตื่น ถ้าตื่นไม่ไหวก็ไม่ซีเรียสอะไร สรุปก็ไม่ตื่นจ้า  




เช้าวันที่ 14 เมษายน เราตื่นมาอาบน้ำแต่งตัวเพื่อออกไปหาอะไรกิน และเดินเที่ยวในหลวงพระบาง ก่อนออกจากที่พักพวกเราซื้อ one day trip จากที่พักเพื่อไปเที่ยวน้ำตก

หลวงพระบางวันนี้มีตลาด มีของขายและคนมาเดินซื้อของเยอะมาก เราไปไหว้พระที่วัดบริเวณนั้น หาของกิน และหาซื้อตั๋วเพื่อไปวังเวียงต่อ  ตั๋วที่ซื้อในเมือง จริงๆสามารถซื้อได้ที่ขนส่งที่เรามาลงรถในตอนแรก แต่เนื่องจากวันนั้นถึงดึก ตู้ขายตั๋วปิดหมดแล้ว พวกเราเลยซื้อตั๋วกันที่นี่ ราคาของตั๋วมีราคาแพงกว่านิดหน่อย



เรากลับมารอรถเพื่อไปน้ำตก รอไม่นานรถก็มารับ เราสองคนไม่ได้คาดหวังอะไรกับการไปเที่ยวน้ำตก แต่ไปเพื่อฆ่าเวลาและก็คิดว่า ไหนๆก็มาหลวงพระบางแล้วน้ำตกแห่งนี้ก็เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่คนนิยมไปเที่ยวกัน



น้ำตกตาดกวงซีสวยกว่าที่เราคิดไว้เยอะ อาจเพราะพวกเราไม่คาดหวัง ก็เลยไม่ผิดหวัง  
มีนักท่องเที่ยวกระจายอยู่ทั่วน้ำตก แต่น้ำตกยังมีความน่าเล่นและสีของน้ำก็ยังใสชวนมอง เราประทับใจน้ำตกกันมากๆ










เมื่อจบทริปน้ำตก เราก็ให้คนขับรถไปส่งพวกเราที่สถานีขนส่งเพื่อต่อรถไปที่วังเวียงต่อ เราหารถกันอยู่นานมากๆ วิ่งไปวิ่งมา ไปที่ช่องขายตั๋วก็ไม่มีคน ตอนแรกก็หวั่นใจนึกว่ารถออกไปแล้ว วิ่งไปวิ่งมาอยู่ซักพักคนขายตั๋วไปวังเวียงก็มาเปิดช่อง พวกเราเอาบัตรที่ซื้อจากในเมืองโชว์ให้เค้าดู เค้าก็เปลี่ยนบัตรให้พวกเราและบอกตำแหน่งรอรถตู้

บนรถตู้เรานั่งเบาะหลังคนขับ มีผู้หญิงอุ้มเด็กตัวเล็กๆนั่งข้างๆเรา ขับไปเรื่อยๆถนนก็เริ่มมืด ด้วยความเพลียเราและเพื่อนก็หลับไป แต่ใช่ว่าหลับไปแล้วตื่นมาจะถึงวังเวียงเลย ระยะทางระหว่างหลวงพระบางไปวังเวียงโหดมาก คือถนนเป็นสองเลนส์ และถนนไม่ดีเท่าไหร่มีหลุมบ้าง มีขรุขระบ้าง ระหว่างทางค่อนข้างมืด ถ้าไม่ผ่านบ้านคนก็แทบจะไม่เจอแสงไฟเลย ที่สำคัญโค้งเยอะมากกกกกกกกกก มันเยอะมากจริงๆ จนเรามึนหัว โค้งทีคือตัวเราเอนไปหาเพื่อนเลย ต้องคอยดมยาดมอยู่เรื่อยๆ

แล้วที่น่าสะพรึงคือ แม่ลูกที่นั่งข้างๆเรา เค้าเมารถ เมาหนักมาก แรกๆเราก็ช่วยลูบหลังให้เค้า เค้าอ้วกกันหนักหน่วงมากอ้วกแล้วอ้วกอีก อ้วกไม่หยุดไม่หย่อน เค้าอ้วกแบบหมดไส้หมดพุง แล้วที่น่าขนลุกคือ ผ้าที่เค้าใช้เช็ดอ้วกมันมาโดนเราและอ้วกของเค้าก็เปื้อนเสื้อเรา โอ๊ยยยยย อยากจะร้องไห้ เฮ้อออ เราก็ทำอะไรไม่ได้ นาทีนั้นก็ได้แค่เช็ดๆออกไปเท่านั้น และสกิดเพื่อน พร้อมส่งสายตาวิงวอน ช่วยตูด้วย ซึ่งนาทีนั้นเพื่อนเราสภาพก็ย่ำแย่พอๆกัน

จริงๆเค้ามากันสามคน มีแม่กับลูกเล็กๆ ส่วนพ่อของเด็กนั่งข้างหลัง เค้าอ้วกเค้าก็ผลัดกันส่งลูกไปมา รถตู้หยุดระหว่างทาง คนขับและผู้ชายบางคนบนรถลงไปฉี่ แม่คนลาวคนนั้นก็ลงไปอ้วก เมื่อขึ้นรถเราให้พ่อแม่ลูกไปนั่งข้างหน้าด้วยกันสามคน จะได้ช่วยกันดูลูก ส่วนเรากับเพื่อนจะย้ายไปนั่งเบาะเดี่ยวข้างหลัง นั่งแยกกัน ฉันอยากให้พวกคุณได้ดูแลช่วยเหลือกัน (และฉันเข็ดกับการโดนอ้วกคุณTT)


รถตู้ออกวิ่งอีกค่อนข้างไกลก็ถึงที่พักรถ รถตู้จอดพักรถเพื่อให้เข้าห้องน้ำและทานอาหาร เรารีบวิ่งเข้าห้องน้ำล่างเศษอ้วกที่ติดเสื้อ ทั้งสงสารและตลกตัวเอง ล้างเนื้อล้างตัวเสร็จก็มานั่งกินข้าวกับเพื่อน แล้วบังเอิญรถตู้ที่นั่งมานั้นมีคนไทยอยู่ในนั้นด้วย 3 คน พวกเค้านั่งกันที่เบาะหลังสุด  เค้าก็เข้ามาถามว่าเป็นไงจะไปไหนกัน พวกเราก็บอกว่ากำลังจะไปวังเวียงแล้วก็เจอเหตุการณ์สุดสยองที่เกิดขึ้นบนรถตู้เมื่อกี้ เค้าก็ขำๆ เราก็ขำ โธ่  คุยกันไปคุยกันมาก็ได้รู้ว่าเค้าเที่ยววังเวียงและมาเที่ยวหลวงพระบางต่อ กำลังจะนั่งรถกลับไปขึ้นเครื่องที่เวียงจันทน์ เราได้ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวและวิธีเดินทางไปที่ต่างๆจากพี่คนไทยคนนี้ เค้าบอกว่ามันไม่มีอะไร 555 อย่าเชื่อรีวิวเยอะแต่ไปดูด้วยตาตัวเองแล้วจะเข้าใจ

กินข้าวเสร็จรอขึ้นรถตู้อากาศหนาวมากๆ คนละอย่างกับตอนที่อยู่หลวงพระบาง เพราะตอนอยู่หลวงพระบางค่อนข้างร้อน เราก็ถามพี่คนไทยคนนั้นว่าทำไมมันหนาวจัง เค้าบอกว่ามันล้อมไปด้วยภูเขาและต้นไม้เยอะ มันก็เลยหนาว โอ้ววว

ตอนขึ้นรถมีฝรั่งคนนึงอยากจะย้ายที่นั่ง คือเค้ามานั่งที่เราหน้าตาเฉยๆ ทั้งๆที่ของเราก็วางอยู่เบาะนั่งนะ เค้าจะแย่งที่นั่งเรา  เจอแค่อ้วกนี่มันน้อยไปใช่ไหม สุดท้ายก็ต้องออกศึกชิงเก้าอี้ แล้วเค้าก็ยอมย้ายกลับไป คือเราพูดกับเค้าดีมาก บอกว่าขอโทษนะนี่มันที่นั่งฉัน คุณนั่งผิดที่แล้ว  เค้าตอบกลับมาเจ็บแสบมาก ที่นั่งคุณหรอ จริงๆผมจะนั่งตรงไหนก็ได้ เค้าไม่ได้ระบุหนิว่าแต่ละคนควรนั่งตรงไหน เอิ่มมมม  หน้าก็หล่อนะ แต่คำพูดคำจานี่เนอะติดลบค่ะ
หลังจากคำความรู้จักกับพี่คนไทยที่จุดพักรถ เบาะที่เรานั่งเป็นเบาะเดี่ยวรองสุดท้าย เราก็ได้หันหลังไปคุยกับพี่คนไทยเบาะหลังเรื่อยๆ พี่เค้าบอกเส้นทาง ที่เที่ยวให้เรา แนะนำทริกเล็กๆน้อยๆให้ รู้สึกขอบคุณ

เมื่อถึงวังเวียงรถตู้จด ฝรั่งคนนั้นและเพื่อนเค้าอีกคนก็ลงวังเวียง พี่คนไทยเบาะหลังบอกเราว่าให้เดินไปตรงนี้ แล้วจะเจอห้องพัก ห้องพักว่างเยอะมาก ลองเดินเลือกได้เลย

วังเวียงตอนดึกๆ ดึกมากจริงๆ ประมาณตีหนึ่งหรือตีสองแล้วเราไม่แน่ใจ มันหนาวมาก มีหมอกด้วย ห้องพักก็หาง่ายจริงๆ เดินแปบเดียวก็ได้ที่พัก อาบน้ำแล้วก็หลับเป็นตายทั้งสองคน

ตื่นเช้ามาก็ออกไปหาอะไรกินและเช่ามอเตอร์ไซค์ ร้านมอไซค์เค้ามีแผนที่และมาร์คจุดท่องเที่ยวที่สำคัญๆไว้ให้ เราก็ขี่เพื่อตระเวนสำรวจเส้นทางและหาที่พักที่ใหม่ ที่นี่เล่นน้ำกันคึกคักมากแต่เค้าเล่นกันแบบน่ารัก ไม่เล่นรุนแรง ไม่มีการปะแป้ง แต่เจอบางกลุ่มเล่นน้ำผสมสี อันนี้ไม่ชอบเลย เสื้อเราเละแบบไม่น่าให้อภัย แต่ส่วนใหญ่เล่นแบบพอดีๆ ถ้าเราหอบของเยอะๆก็บอกว่าอย่าสาด เค้าก็ไม่สาดนะ เราโอเคกับตรงนี้มากๆ

ที่แรกที่ขี่มอเตอร์ไซค์ไปเที่ยวก็คือถ้ำจัง เก็บค่าเข้าชม คนเยอะและร้อนมาก อากาศช่างต่างจากเมื่อคืนนัก หลังจากเที่ยวถ้ำจังเสร็จ เราก็วกกลับเข้ามาในเมืองเพื่อเต็มน้ำมันและจองตั๋วสำหรับไปหนองคาย ตั๋วหาไม่ยากสามารถซื้อได้ที่ขนส่งหรือซื้อในตัววังเวียงได้เลย ถ้าซื้อในตัววังเวียงเค้าก็จะมีรถไปส่งที่ขนส่ง










กินข้าวเสร็จ สถานีต่อไปก็ Blue Lagoon สถานที่ยอดฮิตที่ใครไปก็ต้องแวะไปเที่ยว  เราตั้งความหวังกับตรงนี้ไว้สูงมาก เพราะคิดว่าต้องสวยมากแน่ๆ ตอนไปก็ผ่านแม่น้ำซอง เห็นคนอยู่ริมแม่น้ำเยอะมาก ดูเป็นการสังสรรค์ที่ยิ่งใหญ่

ทางไป Blue Lagoon นี่โหดมาก พูดได้เลยว่าเป็นทางลูกรัง สองข้างทางคือป่า ทุ่งนา ฝุ่นเยอะมากๆ พวกเรามีหลงทางบ้าง หลงทางก็แวะถามชาวบ้านแถวนั้น ในที่สุดก็มาถึง Blue Lagoon ที่ใครๆก็ร่ำลือ แค่ทางเข้าทั้งคนและรถก็เยอะมากๆ เฮ้อ ข้างในจะขนาดไหนเนี้ย แล้วก็เป็นไปตามคาด คนเยอะมากๆ หรือจะใช้คำว่าล้นก็คงไม่ผิดอะไร

ภาพตรงหน้ากับภาพที่จินตนาการไว้ต่างกันลิบลับ ร้านค้าขายของเยอะ มีเวทีหมอลำ มีนักท่องเที่ยวเต็มสระ คนเยอะขนาดนี้ ไม่ต้องสืบว่าขยะจะเยอะขนาดไหน ทำไม? เรามองหน้ากับเพื่อนแบบผิดหวังสุดๆ สงสัยจะมาผิดวัน ดันมาตรงกับช่วงเทศกาลก็ต้องเจอแบบนี้ซินะ
















ฝากไว้เพื่อเตรียมใจ ถ้าใครจะไปก็เผื่อใจไว้หน่อยนะ

สิ่งที่คิดกับความจริงมันอาจจะสวนทางกัน

ขอให้มีความสุขกับการท่องเที่ยวในเทศกาลสงกรานต์นะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่