ประเทศเรามีงานแสดงรถไม่น้อยกว่า 2 ครั้งต่อปี และทุกครั้งฝั่งรถยนต์ก็มีโปรโมชั่นที่ ผมดูแล้วมันให้คุ้มมากกว่าฝั่งรถมอเตอร์ไซต์ซะอีก
ส่วนทางภาครัฐ(ชุดก่อน)ก็ได้จัดนโยบายรถคันแรกขึ้นเพื่อกระตุ้นยอดขายรถยนต์ ทำให้ปริมาณเพิ่มขึ้นกว่าแต่ก่อนหลายเท่า
ถนนก็แออัดมากขึ้นเพราะขนาดถนนเท่าเดิม การจราจรจึงลำบาก(ขนาดทางด่วนยังติด) พอมาถึงช่วงกลางๆปีที่ผ่านมามั้ง(ถ้าจำไม่ผิด)
ยอดขายรถยนต์ตก เนื่องจากนโยบายสิ้นสุด ทางผู้ประกอบการจึงไปเรียกร้องให้ภาครัฐช่วย แล้วก็มีคนๆนึง(จำไม่ได้ว่าใคร)
ได้เสนอให้จัดนโยบายรถคันแรกอีกครั้งเพื่อกระตุ้นยอดขายรถยนต์อีกรอบ แต่ก็น่าจะไม่ได้รับการอนุมัติ แต่มาปีนี้ในมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมา
ค่ายรถทั้งหลายก็ได้จัดโปรโมชั่นที่คุ้มสุดๆกันมามากมาย แต่ยอดขายรถยนต์ไม่เป็นไปตามเป้า ผู้ประกอบการก็พากันบ่นพากันออกข่าวว่า
ยอดขายรถยนต์ในประเทศตก เป็นผลจากเศรษฐกิจไม่ดีอย่างงู้นอย่างงี้
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
แต่...ในขณะที่ยอดขายรถจักรยานยนต์เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ กลับไม่มีใครให้ความสนใจและให้ความสำคัญว่า"ทำไม" ยอดขายถึงเพิ่มขึ้นมากกว่ารถยนต์
ก็ดูการจราจรใน กทม.สิ มันสะดวกไหมล่ะครับ รถยนต์เพียบ แน่นทุกเลนส์ เหลือช่องเล็กๆให้มอเตอร์ไซต์แทรกได้แค่นั้น
บางคันเปิดเลนส์พิเศษขับสวนมาด้วย นี่ขนาดบางคนเปลี่ยนมาให้มอเตอร์ไซต์ยังบ่นเลยว่าขับยาก จะกลับรถทีรถยนต์ก็เยอะเหลือเกิน
ไม่เหลือเลนส์ซ้ายไว้ให้เลย +กับ บางเส้นทางไม่เอื้อต่อมอเตอร์ไซต์(สะพานข้ามแยก อุโมง ทางด่วน สะพานกลับรถ) ทำให้ผู้ใช้บางคนต้องทำผิดกฎจราจรเหมือนที่หลายๆคนเห็นทุกวัน แล้วก็มาบอกว่าแบบเหมารวมว่า "มอเตอร์ไซต์มีแต่พวกเ.ี้ยๆ พวกเห็นแก่ตัวขับ"
จนมีตำรวจคนนึงออกกฎนึงมาเหมือนว่า ตัวปัญหาที่ทำให้รถในเมืองติดนั้น คือรถมอเตอร์ไซต์
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ลองมองย้อนดูสิครับ ถ้ารถยนต์แบบคุณเจอรถติดแบบนั้น แล้วเห็นฟุตบาทที่กว้างพอให้ขึ้นไปวิ่งได้ ผมว่าคุณก็คงทำไม่ต่างจากมอเตอร์ไซต์หรอก
เพราะขนาดไหล่ทางรถยนต์ยังยึดเลยเวลารถติดน่ะ ถ้ารถยนต์วิ่งเลยทางเลี้ยวเข้าบ้านมาประมาณ50เมตร แล้วทางกลับรถตั้งวิ่งไปอีก2-3กิโล
ผมว่ารถยนต์ก็คงถอยหลัง ย้อนกลับมาเข้าซอยเหมือนกัน
ที่มาตั้งกระทู้นี่แค่อยากให้เป็นสื่อถึงคนที่มีอำนาจ ที่ขับรถยนต์ทั้งหลาย ให้มองเห็นหัวพวกเราคนใช้มอเตอร์ไซต์บ้าง ว่าพวกเรา ก็ใช้ถนนทุกวัน
ใช้เงินซื้อรถมาก็เพื่อความสะดวกในการใช้ชีวิตในเมืองที่แออัดให้สะดวกมาขึ้น เสียเงินค่ารถที่+ภาษีมาแล้วเหมือนกัน เสียค่าน้ำมันที่+ภาษีเหมือนกัน
เสียพรบ.เหมือนกัน เสียภาษีมูลค่าเพิ่มเหมือนกัน ทำไมทำเหมือนพวกเราเป็นพวก"จันฑาล"ที่ประเทศอินเดียแบบนั้น แล้วบอกจะพัฒนาประเทศสู่AEC
ลองมองดูพวกเหล่านั้นสิ เขาก็ให้ความสำคัญกับมอเตอร์ไซต์อยู่นะถึงจะไม่มากแต่ก็ยังให้ความรู้สึกว่า เรามีความสำคัญ ก็รู้สึกน้อยใจเหมือนกันนะ
ปล.จะมีใครมาโยงๆเยิงๆเหมารวมอะไรอีกก็เต็มที่ครับ
ทำไมประเทศเราให้ความสำคัญกับยอดขายรถยนต์ครับทั้งๆที่ถนนแทบจะไม่มีให้วิ่งแล้ว(กทม.)
ส่วนทางภาครัฐ(ชุดก่อน)ก็ได้จัดนโยบายรถคันแรกขึ้นเพื่อกระตุ้นยอดขายรถยนต์ ทำให้ปริมาณเพิ่มขึ้นกว่าแต่ก่อนหลายเท่า
ถนนก็แออัดมากขึ้นเพราะขนาดถนนเท่าเดิม การจราจรจึงลำบาก(ขนาดทางด่วนยังติด) พอมาถึงช่วงกลางๆปีที่ผ่านมามั้ง(ถ้าจำไม่ผิด)
ยอดขายรถยนต์ตก เนื่องจากนโยบายสิ้นสุด ทางผู้ประกอบการจึงไปเรียกร้องให้ภาครัฐช่วย แล้วก็มีคนๆนึง(จำไม่ได้ว่าใคร)
ได้เสนอให้จัดนโยบายรถคันแรกอีกครั้งเพื่อกระตุ้นยอดขายรถยนต์อีกรอบ แต่ก็น่าจะไม่ได้รับการอนุมัติ แต่มาปีนี้ในมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมา
ค่ายรถทั้งหลายก็ได้จัดโปรโมชั่นที่คุ้มสุดๆกันมามากมาย แต่ยอดขายรถยนต์ไม่เป็นไปตามเป้า ผู้ประกอบการก็พากันบ่นพากันออกข่าวว่า
ยอดขายรถยนต์ในประเทศตก เป็นผลจากเศรษฐกิจไม่ดีอย่างงู้นอย่างงี้
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
แต่...ในขณะที่ยอดขายรถจักรยานยนต์เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ กลับไม่มีใครให้ความสนใจและให้ความสำคัญว่า"ทำไม" ยอดขายถึงเพิ่มขึ้นมากกว่ารถยนต์
ก็ดูการจราจรใน กทม.สิ มันสะดวกไหมล่ะครับ รถยนต์เพียบ แน่นทุกเลนส์ เหลือช่องเล็กๆให้มอเตอร์ไซต์แทรกได้แค่นั้น
บางคันเปิดเลนส์พิเศษขับสวนมาด้วย นี่ขนาดบางคนเปลี่ยนมาให้มอเตอร์ไซต์ยังบ่นเลยว่าขับยาก จะกลับรถทีรถยนต์ก็เยอะเหลือเกิน
ไม่เหลือเลนส์ซ้ายไว้ให้เลย +กับ บางเส้นทางไม่เอื้อต่อมอเตอร์ไซต์(สะพานข้ามแยก อุโมง ทางด่วน สะพานกลับรถ) ทำให้ผู้ใช้บางคนต้องทำผิดกฎจราจรเหมือนที่หลายๆคนเห็นทุกวัน แล้วก็มาบอกว่าแบบเหมารวมว่า "มอเตอร์ไซต์มีแต่พวกเ.ี้ยๆ พวกเห็นแก่ตัวขับ"
จนมีตำรวจคนนึงออกกฎนึงมาเหมือนว่า ตัวปัญหาที่ทำให้รถในเมืองติดนั้น คือรถมอเตอร์ไซต์
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ลองมองย้อนดูสิครับ ถ้ารถยนต์แบบคุณเจอรถติดแบบนั้น แล้วเห็นฟุตบาทที่กว้างพอให้ขึ้นไปวิ่งได้ ผมว่าคุณก็คงทำไม่ต่างจากมอเตอร์ไซต์หรอก
เพราะขนาดไหล่ทางรถยนต์ยังยึดเลยเวลารถติดน่ะ ถ้ารถยนต์วิ่งเลยทางเลี้ยวเข้าบ้านมาประมาณ50เมตร แล้วทางกลับรถตั้งวิ่งไปอีก2-3กิโล
ผมว่ารถยนต์ก็คงถอยหลัง ย้อนกลับมาเข้าซอยเหมือนกัน
ที่มาตั้งกระทู้นี่แค่อยากให้เป็นสื่อถึงคนที่มีอำนาจ ที่ขับรถยนต์ทั้งหลาย ให้มองเห็นหัวพวกเราคนใช้มอเตอร์ไซต์บ้าง ว่าพวกเรา ก็ใช้ถนนทุกวัน
ใช้เงินซื้อรถมาก็เพื่อความสะดวกในการใช้ชีวิตในเมืองที่แออัดให้สะดวกมาขึ้น เสียเงินค่ารถที่+ภาษีมาแล้วเหมือนกัน เสียค่าน้ำมันที่+ภาษีเหมือนกัน
เสียพรบ.เหมือนกัน เสียภาษีมูลค่าเพิ่มเหมือนกัน ทำไมทำเหมือนพวกเราเป็นพวก"จันฑาล"ที่ประเทศอินเดียแบบนั้น แล้วบอกจะพัฒนาประเทศสู่AEC
ลองมองดูพวกเหล่านั้นสิ เขาก็ให้ความสำคัญกับมอเตอร์ไซต์อยู่นะถึงจะไม่มากแต่ก็ยังให้ความรู้สึกว่า เรามีความสำคัญ ก็รู้สึกน้อยใจเหมือนกันนะ
ปล.จะมีใครมาโยงๆเยิงๆเหมารวมอะไรอีกก็เต็มที่ครับ