คือแฟนได้ซื้อโทรศัพท์ Samsung Note 4 มาเมื่อ พฤจิกา ปี 57 ซื้อกับทางทรู ตอนนั้นราคาประมาณ 26000 กว่าได้ (ถ้าจำไม่ผิดนะ) ใช้มาเรื่อยๆก็ไม่มีอะไรผิดปกติ จนช่วงหลังๆเนี่ยรู้สึกว่าบางทีชาร์จแบตไม่เข้าบ้าง หรือว่าชาร์จเต็มแล้ว แต่พอเล่นไปได้สัก 70-75% เครื่องมันก็ดับเอง พอเปิดก็เปิดไม่ได้บอกให้ชาร์จแบตอย่างเดียว ซึ่งบอกได้เลยว่าใช้โทรศัพท์ถนอมมากไม่เคยล่วงเลย รักษาอย่างดีเพราะว่ามันแพง พอดีมีเพื่อนที่ทำงานเค้าก็ใช้โทรศัพท์ตัวเดียวกันแต่เมื่ออาทิตย์ก่อนโทรศัพท์เพื่อนโทรเข้า-ออกไม่ได้ เพื่อนเลยไปหาศูนย์ Customer Service สาขาเซียรังสิต ของเพื่อนยังอยู่ในประกันก็ทำการแก้ไขเรียบร้อยดีไม่มีค่าใช้จ่ายอะไร
หลังจากถามรายละเอียดกับเพื่อนเรียบร้อยแล้ว ทางเราก็ได้ไปติดต่อกับศูนย์ Customer Service เมื่อวันที่ 2 เมษาที่ผ่านมาประมาณบ่าย 2 กว่า หน้าศูนย์คนเยอะมาก แต่เราแอบสังเกตว่าคนส่วนใหญ่จะมีปัญหาเรื่องแบต พี่ที่นั่งข้างๆถึงกับต้องซื้อแบตใหม่เลยทีเดียว ราคาก็ประมาณ 1300 กว่าบาท (แอบได้ยินมา) พอถึงคิวเราพนักงานก็ถามว่าเครื่องเป็นอะไรเราก็บอกอาการตามที่บอกเลย ตอนแรกก็แอบโมโหพนักงานนะ เพราะว่าสอบถามอาการเครื่องแต่ไม่มี eye contact กับลูกค้าเลย เหมือนไม่ตั้งใจฟัง ก็เลยถามแบบน้ำเสียงไม่ค่อยจะดีว่า พอจะทราบมั้ยคะว่าสาเหตุเกิดจากอะไร เครื่อง Note 4 มีปัญหากันบ่อยมั้ย (คือคิดว่ามันน่าจะมี record ว่าเออ ลูกค้ารุ่นมีมาหาบ่อยมีปัญหาเรื่องนั้นเรื่องนี้ อะไรประมาณนี้) แต่พนักงานก็บอกว่าต้องเช็คก่อนอย่างเดียวเลยและก็แจ้งว่าต้องทิ้งเครื่องไว้เช็คนะ ประมาณ 3 วันพนักงานจะโทรแจ้งว่าเสียตรงไหนหรือต้องซ่อมตรงไหน ด้วยความที่ว่าเรากลัวมีค่าใช้จ่ายไม่คุ้มกับค่าซ่อมเราเลยแจ้งพนักงานว่า เครื่องมันหมดประกันแล้วนะคะ ทางพนักงานก็บอกว่า ถ้าเครื่องหมดประกันต้องมัดจำ 500 นะ เราก็โอเคไม่มีปัญหาอะไร ก็ถามพนักงานอีกรอบว่า "พี่คะ เช็คเฉพาะเครื่องนี่มีค่าใช้จ่ายมั้ยคะ" ซึ่งพนักงานก็ตอบว่า "ไม่มีค่าใช้จ่ายใดค่ะ แต่หากพนักงานทำการเช็คแล้ว เครื่องมีปัญหา พนักงานจะโทรถามลูกค้าว่าจะตกลงซ่อมมั้ย และแจ้งเรื่องราคา"
หลังจากส่งศูนย์เรียบร้อย เซนเอกสารเรียบร้อย พอวันที่ 4 เมษา เห็นว่ายังไม่มีใครโทรมาแจ้งอะไร เลยบอกให้แฟนลองโทรเช็คกับทางคอลเซนเตอร์ดูสิว่าเครื่องเช็คไปถึงไหนแล้ว พอโทรหาคอลเซนเตอร์บอกรหัสอะไรเรียบร้อยหมดแล้ว พนักงานแจ้งว่า "เครื่องของลูกค้าอยู่ในขั้นตอนของการซ่อมอยู่ ซึ่งทางศูนย์ได้เปลี่ยนเมนบอร์ด เปลี่ยนแบตเตอรี่ และเปลี่ยนอุปกรณ์ที่ชาร์จให้แล้ว โดยมีค่าใช้จ่ายประมาณ 9000 กว่าบาท" พอแฟนได้ฟังก็อึ้งสิคะ เพราะว่าไม่มีการโทรแจ้งเราเลยว่าเครื่องเป็นอะไร จะซ่อมหรือไม่ ไม่มีสักสาย ทางแฟนเราก็แจ้งว่า "ทางช่างมีสิทธิอะไรที่มาเปลี่ยนอะไหล่เครื่อง โดยไม่ได้แจ้งให้ผมทราบ อีกอย่างถ้าผมซ่อมราคานี้ ผมไปซื้อเครื่องใหม่ไม่ดีกว่าหรอ มีประกันพร้อม ได้เครื่องใหม่ด้วย" ทางพนักงานคอลเซนเตอร์ก็แจ้งว่า "โดยปกติแล้วทางพนักงานจะโทรแจ้งอาการเครื่องกับลูกค้าก่อน แล้วจะถามว่าจะตกลงซ่อมเครื่องหรือไม่" หลังจากนั้นพนักงานก็บอกว่าจะให้ทางศูนย์ Samsung Customer Service สาขารังสิตเป็นคนติดต่อกลับภายใน 30 นาที ทางแฟนก็เลยรอ แต่ก็ไม่มีใครโทรมาสักสาย เลยโทรกลับไปหาคอลเซนเตอร์ Samsung อีกครั้ง ทางคอลเซนเตอร์แจ้งว่าได้มีการรับเรื่องแล้ว ยังไงเดี๋ยวสาขาที่เซียรังสิตจะทำการติดต่อกลับ หลังจากวางแฟนก็ไปทำงาน แต่ไม่มีใครโทรมาเลยโทรหาคอลเซนเตอร์อีกเป็นครั้งที่ 3 ทางพนักงานก็แจ้งว่า "อีก 10 นาทีพนักงานที่สาขาเซียรังสิตจะทำการติดต่อกลับ" หลังจากนั้นมีสายจาก Customer Service สาขาเซียรังสิต พนักงานได้กล่าวว่า "ขอโทษ ที่ทางช่างทำงานข้ามขั้นตอน โดยเปลี่ยนอะไหล่เครื่องก่อนที่จะแจ้งลูกค้าทราบ และไม่มีการแจ้งว่าอุปกรณ์ตัวไหนเสีย รวมถึงไม่ได้แจ้งราคาค่าซ่อมก่อนที่ลูกคา้จะตกลง" ทางแฟนเลยแจ้งให้เปลี่ยนอุปกรณ์เครื่องกลับไปเป็นเหมือนเดิม พร้อมทั้งร้องขอความรับผิดชอบว่า "หากรับเครื่องกลับมาแล้ว เครื่องมีปัญหาอย่างอื่นนอเหนือจากที่แจ้งไป จะให้ทางศูนย์รับผิดชอบ เนื่องจากพนักงานได้ทำการแกะและเปลี่ยนอะไหล่ โดยไม่ถามความเห็นลูกค้า" แต่ทางพนักงานที่ศูนย์ตอบกลับมาว่า "หากใส่อะไหล่ตัวเดิมกลับมาแล้ว ปัญหาอื่นไม่มีหลอกค่ะ นอกเหนือจากที่เป็นอยู่" แต่ทางแฟนแย้งว่า "รู้ว่าได้เปลี่ยนกลับแล้ว แต่หากมีปัญหาอื่นที่นอกเหนือจากที่แจ้งไป ทางศูนย์จะรับผิดชอบยังไง" คำตอบง่ายๆ จากปากพนักงานที่ไร้ความรับผิดชอบ ทั้งที่ตัวเองยอมรับผิดคือ "ไม่มีการรับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น" หลังจากนั้นพนักงานก็ส่งโทรศัพท์ให้พนักงานอีกคนคุย แฟนแจ้งก็แจ้งตามเดิม ถามหาความรับผิดชอบหากเครื่องมีอาการนอกเหนือจากที่แจ้งให้เช็ค ทางพนักงาน ผช ก็บอกว่า "ไม่มีหน้าที่ที่รับผิดชอบ เพราะว่าได้เปลี่ยนคืนให้แล้ว" คราวนี้แฟนก็เริ่มโมโหและยื่นข้อสเนอให้กับทางศูนย์ Samsung Customer Service ว่า "ภายใน 1 หากเครื่องมีปัญหานอกเหนือจากที่แจ้งซ่อม ทางศูนย์จะต้องรับผิดชอบ" ตอนแรกก็ไม่ยอม แฟนก็ยืนยันคำเดิมว่า "1 เดือนถ้าเครื่องมีปัญหาต้องรับผิดชอบ" จนสุดท้ายพนักงานตอบตกลงว่า "จะให้ช่างดูแลให้" แต่ทั้งหมดทั้งนี้คือการคุยผ่านโทรศัพท์ ไม่มีการเซนเอกสารหรือข้อตกลงใดๆทั้งสิ้น
จากประสบกาณ์บอกได้เลยว่า บริการของพนักงานนอกจากสะเพร่า ไร้ความรับผิดชอบแล้ว ทางพนักงานได้ไม่แคร์ถึงลูกค้าเลย ไม่มีความกระตือรือร้นที่จะแก้ปัญหา ช่วยเหลือ ซึ่งต้องให้โทรตามถึง 2-3ครั้ง เสียค่าโทรตั้งเท่าไหร่ แต่ไม่ได้อะไรเลย โทรศัพท์ก็ไม่ได้ใช้ ซึ่งปกติต้องใช้ติดต่องาน แล้วมาเจอบริการแบบนี้ บอกเลยว่าผิดหวัง ถ้าหาก Samsung ยังให้บริการแบบนี้ สะเพร่าแบบนี้ ไร้ความรับผิดชอบแบบนี้ สัดแต่ว่าจะเอาเงินตอนซื้อเครื่อว แต่บริการหลังการขายไม่ได้เรื่อง คนก็คงหันไปใช้ค่ายอื่นที่เค้ามีประสิทธิภาพมากกว่า รับผิดชอบมากกว่านี้ และขอเตือนคนที่ใช้ Samsung ไม่ว่าจะรุ่นเล็กหรือรุ่นใหญ่ หากจะต้องเข้าไปใช้บริการศูนย์ให้หาข้อมูลก่อน แล้วตามความคืบหน้ากับทางพนักงานดีๆ เพื่อจะได้ไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก ถามว่าเสียได้มั้ยเงิน 9000 กว่า บอกได้เลยว่าเสียได้ แต่มันเสียความรู้สึกมากกว่า ถ้าเป็นตาสีตาสา โดนแจ้งว่า ซ่อมเครื่องแล้ว ราคา 9000 กว่า เค้าจะทำยังไง แต่อีกอย่างลองคิดอีกแง่ ถ้าเราซ่อมมือถือ 9000 กว่าแล้ว "ทำไมเราต้องเสีบเงขนาดนี้เพื่อซ่อม เพราะเดี๋ยวนี้โทรศัพท์ราคาถูกๆ ฟังชันดีๆเยอะแยะ จะมาเสียเงินซ่อมทำไม" และมันก็เสียเวลาด้วย คือเวลาโฆษณามันออกมาดูดีมาก แต่บริการหลังการขายจริงๆไม่ได้เรื่องเลย ไม่ได้แคร์ลูกค้าเลย
บริการห่วยๆของศูนย์ Samsung ที่ไร้ความรับผิดชอบ
หลังจากถามรายละเอียดกับเพื่อนเรียบร้อยแล้ว ทางเราก็ได้ไปติดต่อกับศูนย์ Customer Service เมื่อวันที่ 2 เมษาที่ผ่านมาประมาณบ่าย 2 กว่า หน้าศูนย์คนเยอะมาก แต่เราแอบสังเกตว่าคนส่วนใหญ่จะมีปัญหาเรื่องแบต พี่ที่นั่งข้างๆถึงกับต้องซื้อแบตใหม่เลยทีเดียว ราคาก็ประมาณ 1300 กว่าบาท (แอบได้ยินมา) พอถึงคิวเราพนักงานก็ถามว่าเครื่องเป็นอะไรเราก็บอกอาการตามที่บอกเลย ตอนแรกก็แอบโมโหพนักงานนะ เพราะว่าสอบถามอาการเครื่องแต่ไม่มี eye contact กับลูกค้าเลย เหมือนไม่ตั้งใจฟัง ก็เลยถามแบบน้ำเสียงไม่ค่อยจะดีว่า พอจะทราบมั้ยคะว่าสาเหตุเกิดจากอะไร เครื่อง Note 4 มีปัญหากันบ่อยมั้ย (คือคิดว่ามันน่าจะมี record ว่าเออ ลูกค้ารุ่นมีมาหาบ่อยมีปัญหาเรื่องนั้นเรื่องนี้ อะไรประมาณนี้) แต่พนักงานก็บอกว่าต้องเช็คก่อนอย่างเดียวเลยและก็แจ้งว่าต้องทิ้งเครื่องไว้เช็คนะ ประมาณ 3 วันพนักงานจะโทรแจ้งว่าเสียตรงไหนหรือต้องซ่อมตรงไหน ด้วยความที่ว่าเรากลัวมีค่าใช้จ่ายไม่คุ้มกับค่าซ่อมเราเลยแจ้งพนักงานว่า เครื่องมันหมดประกันแล้วนะคะ ทางพนักงานก็บอกว่า ถ้าเครื่องหมดประกันต้องมัดจำ 500 นะ เราก็โอเคไม่มีปัญหาอะไร ก็ถามพนักงานอีกรอบว่า "พี่คะ เช็คเฉพาะเครื่องนี่มีค่าใช้จ่ายมั้ยคะ" ซึ่งพนักงานก็ตอบว่า "ไม่มีค่าใช้จ่ายใดค่ะ แต่หากพนักงานทำการเช็คแล้ว เครื่องมีปัญหา พนักงานจะโทรถามลูกค้าว่าจะตกลงซ่อมมั้ย และแจ้งเรื่องราคา"
หลังจากส่งศูนย์เรียบร้อย เซนเอกสารเรียบร้อย พอวันที่ 4 เมษา เห็นว่ายังไม่มีใครโทรมาแจ้งอะไร เลยบอกให้แฟนลองโทรเช็คกับทางคอลเซนเตอร์ดูสิว่าเครื่องเช็คไปถึงไหนแล้ว พอโทรหาคอลเซนเตอร์บอกรหัสอะไรเรียบร้อยหมดแล้ว พนักงานแจ้งว่า "เครื่องของลูกค้าอยู่ในขั้นตอนของการซ่อมอยู่ ซึ่งทางศูนย์ได้เปลี่ยนเมนบอร์ด เปลี่ยนแบตเตอรี่ และเปลี่ยนอุปกรณ์ที่ชาร์จให้แล้ว โดยมีค่าใช้จ่ายประมาณ 9000 กว่าบาท" พอแฟนได้ฟังก็อึ้งสิคะ เพราะว่าไม่มีการโทรแจ้งเราเลยว่าเครื่องเป็นอะไร จะซ่อมหรือไม่ ไม่มีสักสาย ทางแฟนเราก็แจ้งว่า "ทางช่างมีสิทธิอะไรที่มาเปลี่ยนอะไหล่เครื่อง โดยไม่ได้แจ้งให้ผมทราบ อีกอย่างถ้าผมซ่อมราคานี้ ผมไปซื้อเครื่องใหม่ไม่ดีกว่าหรอ มีประกันพร้อม ได้เครื่องใหม่ด้วย" ทางพนักงานคอลเซนเตอร์ก็แจ้งว่า "โดยปกติแล้วทางพนักงานจะโทรแจ้งอาการเครื่องกับลูกค้าก่อน แล้วจะถามว่าจะตกลงซ่อมเครื่องหรือไม่" หลังจากนั้นพนักงานก็บอกว่าจะให้ทางศูนย์ Samsung Customer Service สาขารังสิตเป็นคนติดต่อกลับภายใน 30 นาที ทางแฟนก็เลยรอ แต่ก็ไม่มีใครโทรมาสักสาย เลยโทรกลับไปหาคอลเซนเตอร์ Samsung อีกครั้ง ทางคอลเซนเตอร์แจ้งว่าได้มีการรับเรื่องแล้ว ยังไงเดี๋ยวสาขาที่เซียรังสิตจะทำการติดต่อกลับ หลังจากวางแฟนก็ไปทำงาน แต่ไม่มีใครโทรมาเลยโทรหาคอลเซนเตอร์อีกเป็นครั้งที่ 3 ทางพนักงานก็แจ้งว่า "อีก 10 นาทีพนักงานที่สาขาเซียรังสิตจะทำการติดต่อกลับ" หลังจากนั้นมีสายจาก Customer Service สาขาเซียรังสิต พนักงานได้กล่าวว่า "ขอโทษ ที่ทางช่างทำงานข้ามขั้นตอน โดยเปลี่ยนอะไหล่เครื่องก่อนที่จะแจ้งลูกค้าทราบ และไม่มีการแจ้งว่าอุปกรณ์ตัวไหนเสีย รวมถึงไม่ได้แจ้งราคาค่าซ่อมก่อนที่ลูกคา้จะตกลง" ทางแฟนเลยแจ้งให้เปลี่ยนอุปกรณ์เครื่องกลับไปเป็นเหมือนเดิม พร้อมทั้งร้องขอความรับผิดชอบว่า "หากรับเครื่องกลับมาแล้ว เครื่องมีปัญหาอย่างอื่นนอเหนือจากที่แจ้งไป จะให้ทางศูนย์รับผิดชอบ เนื่องจากพนักงานได้ทำการแกะและเปลี่ยนอะไหล่ โดยไม่ถามความเห็นลูกค้า" แต่ทางพนักงานที่ศูนย์ตอบกลับมาว่า "หากใส่อะไหล่ตัวเดิมกลับมาแล้ว ปัญหาอื่นไม่มีหลอกค่ะ นอกเหนือจากที่เป็นอยู่" แต่ทางแฟนแย้งว่า "รู้ว่าได้เปลี่ยนกลับแล้ว แต่หากมีปัญหาอื่นที่นอกเหนือจากที่แจ้งไป ทางศูนย์จะรับผิดชอบยังไง" คำตอบง่ายๆ จากปากพนักงานที่ไร้ความรับผิดชอบ ทั้งที่ตัวเองยอมรับผิดคือ "ไม่มีการรับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น" หลังจากนั้นพนักงานก็ส่งโทรศัพท์ให้พนักงานอีกคนคุย แฟนแจ้งก็แจ้งตามเดิม ถามหาความรับผิดชอบหากเครื่องมีอาการนอกเหนือจากที่แจ้งให้เช็ค ทางพนักงาน ผช ก็บอกว่า "ไม่มีหน้าที่ที่รับผิดชอบ เพราะว่าได้เปลี่ยนคืนให้แล้ว" คราวนี้แฟนก็เริ่มโมโหและยื่นข้อสเนอให้กับทางศูนย์ Samsung Customer Service ว่า "ภายใน 1 หากเครื่องมีปัญหานอกเหนือจากที่แจ้งซ่อม ทางศูนย์จะต้องรับผิดชอบ" ตอนแรกก็ไม่ยอม แฟนก็ยืนยันคำเดิมว่า "1 เดือนถ้าเครื่องมีปัญหาต้องรับผิดชอบ" จนสุดท้ายพนักงานตอบตกลงว่า "จะให้ช่างดูแลให้" แต่ทั้งหมดทั้งนี้คือการคุยผ่านโทรศัพท์ ไม่มีการเซนเอกสารหรือข้อตกลงใดๆทั้งสิ้น
จากประสบกาณ์บอกได้เลยว่า บริการของพนักงานนอกจากสะเพร่า ไร้ความรับผิดชอบแล้ว ทางพนักงานได้ไม่แคร์ถึงลูกค้าเลย ไม่มีความกระตือรือร้นที่จะแก้ปัญหา ช่วยเหลือ ซึ่งต้องให้โทรตามถึง 2-3ครั้ง เสียค่าโทรตั้งเท่าไหร่ แต่ไม่ได้อะไรเลย โทรศัพท์ก็ไม่ได้ใช้ ซึ่งปกติต้องใช้ติดต่องาน แล้วมาเจอบริการแบบนี้ บอกเลยว่าผิดหวัง ถ้าหาก Samsung ยังให้บริการแบบนี้ สะเพร่าแบบนี้ ไร้ความรับผิดชอบแบบนี้ สัดแต่ว่าจะเอาเงินตอนซื้อเครื่อว แต่บริการหลังการขายไม่ได้เรื่อง คนก็คงหันไปใช้ค่ายอื่นที่เค้ามีประสิทธิภาพมากกว่า รับผิดชอบมากกว่านี้ และขอเตือนคนที่ใช้ Samsung ไม่ว่าจะรุ่นเล็กหรือรุ่นใหญ่ หากจะต้องเข้าไปใช้บริการศูนย์ให้หาข้อมูลก่อน แล้วตามความคืบหน้ากับทางพนักงานดีๆ เพื่อจะได้ไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก ถามว่าเสียได้มั้ยเงิน 9000 กว่า บอกได้เลยว่าเสียได้ แต่มันเสียความรู้สึกมากกว่า ถ้าเป็นตาสีตาสา โดนแจ้งว่า ซ่อมเครื่องแล้ว ราคา 9000 กว่า เค้าจะทำยังไง แต่อีกอย่างลองคิดอีกแง่ ถ้าเราซ่อมมือถือ 9000 กว่าแล้ว "ทำไมเราต้องเสีบเงขนาดนี้เพื่อซ่อม เพราะเดี๋ยวนี้โทรศัพท์ราคาถูกๆ ฟังชันดีๆเยอะแยะ จะมาเสียเงินซ่อมทำไม" และมันก็เสียเวลาด้วย คือเวลาโฆษณามันออกมาดูดีมาก แต่บริการหลังการขายจริงๆไม่ได้เรื่องเลย ไม่ได้แคร์ลูกค้าเลย