กองทัพเรือ จัดพิธีปล่อยเรือตรวจการณ์ชายฝั่ง ชุดใหม่ จำนวน 6 ลำ ลงน้ำ
วันนี้ (4 เมษายน 2559) เวลา 13.00 น. พลเรือเอก ณะ อารีนิจ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีปล่อยเรือตรวจการณ์ชายฝั่ง ชุดใหม่ จำนวน 6 ลำ ลงน้ำ ณ อู่ต่อเรือ
บริษัท มาร์ซัน จำกัด ตำบลท้ายบ้าน อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ โดยมี นาง ปราณี อารีนิจ นายกสมาคมภริยาทหารเรือ เป็นสุภาพสตรี ผู้ประกอบพิธีปล่อยเรือลงน้ำ
กองทัพเรือ มีแผนจัดหาเรือตรวจการณ์ชายฝั่ง (ตกช.) จำนวน 10 ลำ เพื่อทดแทน
เรือตรวจการณ์ชายฝั่งเดิม ที่ใช้ราชการมาเป็นเวลานาน และมีกำหนดที่จะปลดระวาง ประกอบด้วย
เรือตรวจการณ์ชายฝั่งชุด เรือ ต.21 – ต.29 และชุดเรือ ต.211 - ต.212 ซึ่งเป็นเรือที่ได้รับการช่วยเหลือ
จากประเทศสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ปี พ.ศ.2511 – 2519 โดยก่อนหน้านี้ กองทัพเรือ ได้เคยว่าจ้าง
บริษัทมาร์ซัน จำกัด ในการสร้างเรือ ตกช. แบบเดียวกันนี้มาแล้ว จำนวน 3 ลำ (ต.228 – ต.230)
โดยได้ดำเนินการต่อแล้วเสร็จ และส่งมอบให้กองทัพเรือ เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2556 ซึ่งสามารถปฏิบัติภารกิจตามที่ได้รับมอบหมายเป็นอย่างดี สำหรับเรือ ตกช. จำนวน 6 ลำ ที่จัดให้มีพิธีปล่อยเรือลงน้ำในวันนี้ ประกอบด้วยเรือ ต.232 เรือ ต.233 เรือ ต. 234 เรือ ต.235 เรือ ต. 236 และ เรือ ต. 237
กองทัพเรือ ได้ว่าจ้างให้ บริษัท มาร์ซัน จำกัด เป็นผู้ดำเนินการสร้างเรือ เพื่อเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมการต่อเรือภายในประเทศ อีกทั้งยังเป็นการประหยัดงบประมาณมากกว่าการจัดหาจากต่างประเทศ โดยเรือทั้ง 3 ลำ มีพิธีวางกระดูกงู เมื่อ 19 ธันวาคม 2557 และจะเข้าประจำการใน กองเรือยามฝั่ง กองเรือยุทธการ มีภารกิจในการตรวจการณ์ สกัดกั้น ลาดตระเวน ป้องกันการแทรกซึมทางทะเลและ
ชายฝั่ง คุ้มครองเรือประมงและเรือพาณิชย์ ป้องกันและคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติบริเวณชายฝั่งทะเลในอ่าวไทยและทะเลอันดามัน รักษากฎหมายในทะเลตามอำนาจหน้าที่ที่กองทัพเรือได้รับมอบหมาย รวมถึงการถวายความปลอดภัยแด่พระบรมวงศานุวงศ์
ในส่วนของ พิธีปล่อยเรือลงน้ำ เป็นพิธีที่มีมาตั้งแต่ครั้นโบราณกาล เมื่อถึงเวลาปล่อยเรือเดินทะเลลงน้ำจะต้องทำพิธี เพื่อให้เกิดสวัสดิมงคลแก่ตัวเรือเสียก่อน ในสมัยปัจจุบันพิธีปล่อยเรือลงน้ำ
แบบสากล ให้สุภาพสตรีเป็นผู้ประกอบพิธีโดยวิธีปล่อยขวดแชมเปญกระทบหัวเรือ การนี้สืบเนื่องมาจากการดื่มอวยพรด้วยถ้วยเงิน เมื่อดื่มแล้วก็ขว้างถ้วยขึ้นไปบนเรือปรากฏว่าสิ้นเปลืองมากจึงเปลี่ยนเป็นขว้างขวดกับ
หัวเรือแทน คราวหนึ่งสุภาพสตรีผู้ประกอบพิธีได้ขว้างขวดแชมเปญไม่ถูกหัวเรือ แต่กลับไปถูกแขกที่มาในงานพิธีบาดเจ็บ จึงได้ใช้เชือกผู้คอขวดเสียก่อนเสมอ จนถึงปัจจุบันนี้พิธีปล่อยเรือลงน้ำของราชนาวี เฉพาะที่มีหลักฐานปรากฏในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีพิธีปล่อยเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ลงน้ำ เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2454 ส่วนเรือหลวงที่สร้างจากต่างประเทศที่มีหลักฐานปรากฏ ได้แก่ เรือหลวงเสือคำรณสินธุ์ ประเภทเรือพิฆาต มีพิธีปล่อยเรือลงน้ำ เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2453 ณ อู่กาวาซากิ เมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น สำหรับเรือหลวง ตัวเรือเป็นเหล็ก สร้างโดยกรมอู่ทหารเรือ ที่มีพิธีปล่อยเรือลงน้ำเป็นครั้งแรก คือ เรือหลวงสัตหีบ (ลำที่ 1) ซึ่งมี คุณหญิงวิจิตรา ธนะรัชต์ ภริยา จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (ในขณะนั้น) เป็นสุภาพสตรีผู้ประกอบพิธีปล่อยเรือลงน้ำ
เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2500
คุณลักษณะของเรือตรวจการณ์ชายฝั่ง ต. 232 – ต.237
ขีดความสามารถปฏิบัติการรบ (Combat Capabilities) สามารถปฏิบัติภารกิจได้ครอบคลุมพื้นที่ปฏิบัติการบริเวณชายฝั่งในอ่าวไทยและทะเลอันดามัน สามารถตรวจจับ ติดตามและพิสูจน์ทราบเป้าผิวน้ำ สามารถป้องกันตนเองจากเรือผิวน้ำและอากาศยานข้าศึกได้ตามสมรรถนะของอาวุธประจำเรือ สามารถปฏิบัติการทางเรืออย่างต่อเนื่อง โดยไม่ต้องรับการส่งกำลังบำรุงเพิ่มเติมได้ไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง สามารถปฏิบัติงานได้ในสภาพทะเลไม่น้อยกว่า Sea State 2 สามารถตรวจค้นเรือที่ต้องสงสัย ค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ และมีความสามารถการทรงตัวที่ดีในการบังคับเรือและบังคับเลี้ยวในการปฏิบัติงานที่ความเร็วสูง (Maneuverability)
คุณลักษณะทั่วไป (Ship System Performance)
ระวางขับน้ำเต็มที่โดยประมาณ 45 ตัน ขนาดของเรือ ความยาวตลอดลำ 21.40 เมตร
ความกว้างสูงสุดของเรือ 5.56 เมตร ความลึกของเรือ (Molded Depth) 3.15 เมตร กินน้ำลึกตัวเรือ (Molded Draught) 1.05 เมตร ความเร็วสูงสุดต่อเนื่อง ที่ระวางขับน้ำเต็มที่ไม่น้อยกว่า 30 นอต กำลังพลประจำเรือ 9 นาย สามารถปฏิบัติงานในทะเลได้ต่อเนื่องได้ไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องรับการ
ส่งกำลังบำรุง
ระยะปฏิบัติการไม่น้อยกว่า 350 ไมล์ทะเล ด้วยความเร็วเดินทางมัธยัสถ์ (15 นอต) ที่ระวางขับน้ำเต็มที่ (Full Load Displacement) ขนาดและสัดส่วนของโครงสร้างตัวเรือได้รับการตรวจสอบ
และรับรองจากสมาคมต่อเรือ Det Norske Veritas (DNV) เครื่องจักรใหญ่ตราอักษร MAN รุ่น D2862 LE463 กำลังเครื่องยนต์ 1,029 kW ที่ 2,100 RPM พร้อมเพลาใบจักร จำนวน 2 ชุดเครื่อง เครื่องไฟฟ้าขนาด 32 kWe, 220 VAC. 1 Phase 50 Hz. จำนวน 2 ชุดเครื่อง ประกอบด้วย เครื่องยนต์ขับเครื่องกำเนิดไฟฟ้า (Prime Mover) ตราอักษร PERKINS เครื่องกำเนิดไฟฟ้า (Generator) ตราอักษร MARATHON MAGNAPLUS เกียร์ทด ตราอักษร TWIN DISC ชนิด Intermediate Duty ขนาด Input Rating สูงสุดที่ 1,145 kW ที่ความเร็วรอบ 2,100 RPM จำนวน 2 ชุดเครื่อง ระบบเพลาใบจักรแบบ Fixed Pitch จำนวน 2 ชุด
อาวุธประจำเรือ
อาวุธปืนหลัก ปืนกลขนาด 20 มิลลิเมตร จำนวน 1 กระบอก
อาวุธปืนรอง ปืนกลขนาด .50 นิ้ว จำนวน 1 กระบอก
เครื่องยิงลูกระเบิด 81 มิลลิเมตร ร่วมแกน จำนวน 1 กระบอก ติดตั้งบริเวณท้ายเรือ
https://www.facebook.com/prthainavy/
มาดูว่า้รือลำนี้มีอะไรที่เด็ดบ้าง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
Marsun M21 class มีประจำการแล้ว 3ลำ คือ ต.228-230 และที่ได้รับอีก6ลำคือ ต.232-237 ซึ่งอาวุธที่คิดมานั้น คือ ปืน20มม.มตราฐานเรือต.รุ่นใหม่ บ้านเรา แต่สิ่งที่เรือนี้มีคือ

นั้นคือ ปืนกล.50 ร่วมแกนกับ ค.81 ท้ายเรือ เท่าที่ทราบมีแค่เรือชั้นนี้เท่านั้นที่มีซึ่งเป็นหมัดหนักติดบนเรือต.เล็กๆแบบนี้
บางคนถามว่า ต.230แล้วทำไมข้ามไปต.232 แล้ว231มีหรือป่าวหรือเป็นเลขไม่มงคล
ที่จริงแล้ว มีเรือต.231ครับ แต่...

อย่างเห็นครับเป็นเรือที่มีความพิเศษคือ ท้องเรือแยกออกสองข้าง ซึ่งทำให้เรือเร็วขึ้น มันก็จริงครับความเร็วสูงสุดอยู่ที่36นอต ถ้าเทียบกับ m21 class ที่ความเร็วสูงสุดได้แต่ 30 นอต เท่านั้น
จัดได้ว่า ทร.ในช่วงนี้จัดหาเรือตรวจการณ์ เยอะครับ เพราะเพื่อทดแทนเรือเก่า ที่ใช้มาหลายสิบปีแล้ว ล่าสุด คือเรือตรวจการณ์ลำน้ำและเรือOPVชุด ร..กระบี่ ลำที่สอง และยังมีเรือตรวจการณ์ชุด ร.ล.แหลมสิงค์อีกด้วย ซึ่งผมเชื่อว่าอนาคตเรือตรวจการณืมีส่วนในทร.มากขึ้นเพราะ สามารถปรับเพื่อทำภารกิจได้มากกว่า เรือเฉพาะแบบที่มีราคาสูง เช่น เรือชุด ร.ล.กระบี่ลำที่2 ที่ติดharpoon มาพร้อมเลย(มองว่าอนาคตคงมีการอัพเป็นคอวเวตถึงฟริเกตต่อไป) หรือเรือชุด ร.ล.แหลมสิงค์ หรือ เรือต.991-996 และ ต.111-113 ที่สามารถรองรับ การติดตั้งอาวุธปล่อยได้ แต่อยู่ว่าทร.จะมีโอกาศได้ติดหรือป่าวนะครับ
ผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยด้วยครับ แสดงความคิดเห็นด้านล่างได้นะครับ ขอบคุณครับ
เครดิตรูปภาพครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://rtnkc.com/navalforce/pcf232-241.php
http://chaoprayanews.com/blog/yotin/2013/05/17/%E0%B8%95-228-230-%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%88%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B9%8C%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%9D%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%87/
http://www.dti.or.th/page_bx.php?cid=24&cname=&cno=4091
http://news.mthai.com/app/uploads/2013/05/IMG_1575.jpg
กองทัพเรือ จัดพิธีปล่อยเรือตรวจการณ์ชายฝั่ง ชุดใหม่ จำนวน 6 ลำ ลงน้ำ
วันนี้ (4 เมษายน 2559) เวลา 13.00 น. พลเรือเอก ณะ อารีนิจ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีปล่อยเรือตรวจการณ์ชายฝั่ง ชุดใหม่ จำนวน 6 ลำ ลงน้ำ ณ อู่ต่อเรือ
บริษัท มาร์ซัน จำกัด ตำบลท้ายบ้าน อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ โดยมี นาง ปราณี อารีนิจ นายกสมาคมภริยาทหารเรือ เป็นสุภาพสตรี ผู้ประกอบพิธีปล่อยเรือลงน้ำ
กองทัพเรือ มีแผนจัดหาเรือตรวจการณ์ชายฝั่ง (ตกช.) จำนวน 10 ลำ เพื่อทดแทน
เรือตรวจการณ์ชายฝั่งเดิม ที่ใช้ราชการมาเป็นเวลานาน และมีกำหนดที่จะปลดระวาง ประกอบด้วย
เรือตรวจการณ์ชายฝั่งชุด เรือ ต.21 – ต.29 และชุดเรือ ต.211 - ต.212 ซึ่งเป็นเรือที่ได้รับการช่วยเหลือ
จากประเทศสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ปี พ.ศ.2511 – 2519 โดยก่อนหน้านี้ กองทัพเรือ ได้เคยว่าจ้าง
บริษัทมาร์ซัน จำกัด ในการสร้างเรือ ตกช. แบบเดียวกันนี้มาแล้ว จำนวน 3 ลำ (ต.228 – ต.230)
โดยได้ดำเนินการต่อแล้วเสร็จ และส่งมอบให้กองทัพเรือ เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2556 ซึ่งสามารถปฏิบัติภารกิจตามที่ได้รับมอบหมายเป็นอย่างดี สำหรับเรือ ตกช. จำนวน 6 ลำ ที่จัดให้มีพิธีปล่อยเรือลงน้ำในวันนี้ ประกอบด้วยเรือ ต.232 เรือ ต.233 เรือ ต. 234 เรือ ต.235 เรือ ต. 236 และ เรือ ต. 237
กองทัพเรือ ได้ว่าจ้างให้ บริษัท มาร์ซัน จำกัด เป็นผู้ดำเนินการสร้างเรือ เพื่อเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมการต่อเรือภายในประเทศ อีกทั้งยังเป็นการประหยัดงบประมาณมากกว่าการจัดหาจากต่างประเทศ โดยเรือทั้ง 3 ลำ มีพิธีวางกระดูกงู เมื่อ 19 ธันวาคม 2557 และจะเข้าประจำการใน กองเรือยามฝั่ง กองเรือยุทธการ มีภารกิจในการตรวจการณ์ สกัดกั้น ลาดตระเวน ป้องกันการแทรกซึมทางทะเลและ
ชายฝั่ง คุ้มครองเรือประมงและเรือพาณิชย์ ป้องกันและคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติบริเวณชายฝั่งทะเลในอ่าวไทยและทะเลอันดามัน รักษากฎหมายในทะเลตามอำนาจหน้าที่ที่กองทัพเรือได้รับมอบหมาย รวมถึงการถวายความปลอดภัยแด่พระบรมวงศานุวงศ์
ในส่วนของ พิธีปล่อยเรือลงน้ำ เป็นพิธีที่มีมาตั้งแต่ครั้นโบราณกาล เมื่อถึงเวลาปล่อยเรือเดินทะเลลงน้ำจะต้องทำพิธี เพื่อให้เกิดสวัสดิมงคลแก่ตัวเรือเสียก่อน ในสมัยปัจจุบันพิธีปล่อยเรือลงน้ำ
แบบสากล ให้สุภาพสตรีเป็นผู้ประกอบพิธีโดยวิธีปล่อยขวดแชมเปญกระทบหัวเรือ การนี้สืบเนื่องมาจากการดื่มอวยพรด้วยถ้วยเงิน เมื่อดื่มแล้วก็ขว้างถ้วยขึ้นไปบนเรือปรากฏว่าสิ้นเปลืองมากจึงเปลี่ยนเป็นขว้างขวดกับ
หัวเรือแทน คราวหนึ่งสุภาพสตรีผู้ประกอบพิธีได้ขว้างขวดแชมเปญไม่ถูกหัวเรือ แต่กลับไปถูกแขกที่มาในงานพิธีบาดเจ็บ จึงได้ใช้เชือกผู้คอขวดเสียก่อนเสมอ จนถึงปัจจุบันนี้พิธีปล่อยเรือลงน้ำของราชนาวี เฉพาะที่มีหลักฐานปรากฏในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีพิธีปล่อยเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ลงน้ำ เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2454 ส่วนเรือหลวงที่สร้างจากต่างประเทศที่มีหลักฐานปรากฏ ได้แก่ เรือหลวงเสือคำรณสินธุ์ ประเภทเรือพิฆาต มีพิธีปล่อยเรือลงน้ำ เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2453 ณ อู่กาวาซากิ เมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น สำหรับเรือหลวง ตัวเรือเป็นเหล็ก สร้างโดยกรมอู่ทหารเรือ ที่มีพิธีปล่อยเรือลงน้ำเป็นครั้งแรก คือ เรือหลวงสัตหีบ (ลำที่ 1) ซึ่งมี คุณหญิงวิจิตรา ธนะรัชต์ ภริยา จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (ในขณะนั้น) เป็นสุภาพสตรีผู้ประกอบพิธีปล่อยเรือลงน้ำ
เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2500
คุณลักษณะของเรือตรวจการณ์ชายฝั่ง ต. 232 – ต.237
ขีดความสามารถปฏิบัติการรบ (Combat Capabilities) สามารถปฏิบัติภารกิจได้ครอบคลุมพื้นที่ปฏิบัติการบริเวณชายฝั่งในอ่าวไทยและทะเลอันดามัน สามารถตรวจจับ ติดตามและพิสูจน์ทราบเป้าผิวน้ำ สามารถป้องกันตนเองจากเรือผิวน้ำและอากาศยานข้าศึกได้ตามสมรรถนะของอาวุธประจำเรือ สามารถปฏิบัติการทางเรืออย่างต่อเนื่อง โดยไม่ต้องรับการส่งกำลังบำรุงเพิ่มเติมได้ไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง สามารถปฏิบัติงานได้ในสภาพทะเลไม่น้อยกว่า Sea State 2 สามารถตรวจค้นเรือที่ต้องสงสัย ค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ และมีความสามารถการทรงตัวที่ดีในการบังคับเรือและบังคับเลี้ยวในการปฏิบัติงานที่ความเร็วสูง (Maneuverability)
คุณลักษณะทั่วไป (Ship System Performance)
ระวางขับน้ำเต็มที่โดยประมาณ 45 ตัน ขนาดของเรือ ความยาวตลอดลำ 21.40 เมตร
ความกว้างสูงสุดของเรือ 5.56 เมตร ความลึกของเรือ (Molded Depth) 3.15 เมตร กินน้ำลึกตัวเรือ (Molded Draught) 1.05 เมตร ความเร็วสูงสุดต่อเนื่อง ที่ระวางขับน้ำเต็มที่ไม่น้อยกว่า 30 นอต กำลังพลประจำเรือ 9 นาย สามารถปฏิบัติงานในทะเลได้ต่อเนื่องได้ไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องรับการ
ส่งกำลังบำรุง
ระยะปฏิบัติการไม่น้อยกว่า 350 ไมล์ทะเล ด้วยความเร็วเดินทางมัธยัสถ์ (15 นอต) ที่ระวางขับน้ำเต็มที่ (Full Load Displacement) ขนาดและสัดส่วนของโครงสร้างตัวเรือได้รับการตรวจสอบ
และรับรองจากสมาคมต่อเรือ Det Norske Veritas (DNV) เครื่องจักรใหญ่ตราอักษร MAN รุ่น D2862 LE463 กำลังเครื่องยนต์ 1,029 kW ที่ 2,100 RPM พร้อมเพลาใบจักร จำนวน 2 ชุดเครื่อง เครื่องไฟฟ้าขนาด 32 kWe, 220 VAC. 1 Phase 50 Hz. จำนวน 2 ชุดเครื่อง ประกอบด้วย เครื่องยนต์ขับเครื่องกำเนิดไฟฟ้า (Prime Mover) ตราอักษร PERKINS เครื่องกำเนิดไฟฟ้า (Generator) ตราอักษร MARATHON MAGNAPLUS เกียร์ทด ตราอักษร TWIN DISC ชนิด Intermediate Duty ขนาด Input Rating สูงสุดที่ 1,145 kW ที่ความเร็วรอบ 2,100 RPM จำนวน 2 ชุดเครื่อง ระบบเพลาใบจักรแบบ Fixed Pitch จำนวน 2 ชุด
อาวุธประจำเรือ
อาวุธปืนหลัก ปืนกลขนาด 20 มิลลิเมตร จำนวน 1 กระบอก
อาวุธปืนรอง ปืนกลขนาด .50 นิ้ว จำนวน 1 กระบอก
เครื่องยิงลูกระเบิด 81 มิลลิเมตร ร่วมแกน จำนวน 1 กระบอก ติดตั้งบริเวณท้ายเรือ
https://www.facebook.com/prthainavy/
มาดูว่า้รือลำนี้มีอะไรที่เด็ดบ้าง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้