ที่มาของกระทู้อันนี้ เริ่มต้นจากการที่จัดทริปเที่ยวกันของครอบครัวแบบธรรมดาๆ 2 วัน 1คืน จากสุราษฎร์ไปภูเก็ต พักผ่อนตามประสาครอบครัว 9 ชีวิต ทุกอย่างดำเนินไปเช่นทริปปกติทั่วไปจนกระทั่งมาถึงตอนขากลับนี่แหละ ที่ทุกคนตั้งใจจะหาร้านอร่อยๆกินกันระหว่างทางที่กลับ ..... พังงานี่แหละ เป้าหมาย
เริ่มหาร้านสิครับ google, pantip



ได้แหละครับ ดูท่าร้านดัง แหมพ่อก็บอกรู้สึกร้านนี้ออกครัวคุณต๋อยด้วยนา ...... ตกลงปลงใจตามนั้นครัช
ไปถึงร้าน 11.35 น นึกว่าจะไม่มีที่นั่ง ซะงั้น ไม่มีคนสักโต๊ะ


คิดเอาว่าวันธรรมดา คนเลยไม่เยอะ ก็สั่งอาหารกันตามปกติครับ ดูเมนูก็หลากหลายดีนะครัช ราคาเอาตัวประมาณหนึ่ง แต่พอรับได้ครับ
ร้านวันนั้นร้อนมากครับ มีห้องแอร์นะ แต่เค้าไม่เปิด (อุตส่าห์ตั้งใจเลือกร้านนี้แต่แรกเห็นเพราะสาเหตุหนึ่งคือมีห้องแอร์ เนื่องจากพาเด็กเล็กไปด้วย) ทางร้านเอาพัดลม 14 นิ้วมาตั้งให้หนึ่งตัว บอกขอพัดลมเพิ่ม เงียบหายไปไร้ซึ่งการตอบสนอง ........ เก็บไว้หนึ่งเรื่อง คิดในใจเค้าคงยุ่ง
ก็สั่งอาหารกันล่ะครับ หิวมานาน อาหารก็ไม่ช้าอะไรมากมายนะครับ เรื่องรสชาตินี่ ธรรมดามากครับ ขอบอกว่าธรรมดาจิงๆ ถ้าเทียบกับรีวิวที่เค้าเขียนและรสชาติร้านข้าวแกงแถวบ้าน
กินเสร็จกันแบบร้อนๆ ตัวเปียก ถึงคราวคิดเงิน

ทั้งหมดรวม 2100 .- .......น่ะ ราคาใช้ได้เลยครับถ้าเทียบกับขนาดจานอาหารและรสชาติ พอเริ่มดูบิล
- อันแรกเลยไข่เจียวกุ้งจานละ150.- เดินกลับไปพลิกในเมนูจานล่ะ120.- นี่
- หมูผัดกะปิสะตอ จานละ 250.- เอ้ยๆๆๆๆ เด๋วนะ หมูผัดสะตอนี่นะ แถวบ้านร้านขึ้นชื่อของจังหวัด ร้านติดแอร์ยังจานไม่เกินร้อย
- กุ้งชุบแป้งทอดและจานอื่นๆ โดนบวกเพิ่มจานละยี่สิบสามสิบบาทจากราคาในเมนู
ถามเด็กเสิร์ฟไป ทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้ เดินหาย เอาสิครับ ผมจึงให้เรียกเจ้าของร้านมาคุยกัน เป็นหญิง ร่างท้วม คนจีน มีอายุมานั่งดูบิลให้ พอถามเรื่องราว
ผม " นี่ทางร้านคิดราคาเกินความจริงรึป่าวครับ ทำแบบนี้ไม่ถูกรึป่าวครับ เห็นในเมนูเป็นอีกราคานี่"
ป้า " อ้าว อันนั้นมันเก่าแล้ว เด๋วนี้เข้าของไรขึ้นเยอะแยะ "
ผม " อ้าว แล้วป้ามาคิดเองแบบนี้ก็ไม่ถูกป่าวครับ ถ้าปรับราคาก็น่าจะแก้ในเมนูป่าวครับ ลูกค้าเค้ามากินจะรู้ไหมล่ะครับ "
ป้า " ก็ไม่ได้แก้ที นี่ก็คิดถูกแล้ว "
ผม " แล้วหมูผัดกะปิสะตอนี่ 250.- เลยเหรอครับ ไม่น่าถึงมั้งครับ เป็นหมูด้วยไม่ใช่ทะเลพวกกุ้งอะไรมาผัด "
ป้า " โอ๊ย สะตอโลละ 800.- ล่ะ ให้ทำไง "
ผมคิดว่าเด๋วนะตูก็คนใต้ บ้านตูก็มีสะตอนะ ไม่ขนาดนั้นมั้ง เกินไปป่าววะป้า
ผม " โห เกินไปมั้งป้า แบบนี้ "
สุดท้ายผมจ่ายไปตามยอดนะ 2100.- จ่ายเสร็จ
ผม " งั้นผมเอาบิลไปนะ ผมจ่ายเงินแล้ว "
ป้าขึ้นเสียงทันที " จะเอาไปทำไม "
แฟนผม " อ้าว จะเอาไปไหนก็มีสิทธิป่าวคะ นี่ก็มาตามที่เค้ารีวิวมาเลยนะเนี้ย เห็นเค้าแนะนำว่าดี เจอแบบนี้ผิดหวัง สงสัยต้องรีวิวให้ใหม่ "
ป้ายังเสียงดังขึ้นไปอีก " ไม่ได้ๆ ทำแบบนั้นไม่ได้ แค่นี้ทัวร์ก็ไม่มาลงแล้ว ทำแบบนี้คนหายหมด " ตบโต๊ะเสียงดังพร้อมกับดึงบิลกลับ
แฟนผมเอาบิลมาก่อน ผมดึงบิลมาถือไว้เอง พร้อมเดินกลับออกจากร้าน ...... ไม่แคร์ล่ะครับ
ผมว่าถ้าเหตุเพราะลูกค้าน้อยแล้วพอมีคนเข้ามาทานแล้วมาขูดรีดแบบนี้อย่าเปิดร้านอาหารหรือบริการดีกว่าครับ
รสชาติไม่ดี บริการห่วยแตก แถมบวกเงินเพิ่มนี่ ไม่ไหวนะครับ ขอเตือนนะครับ ใครที่ไปเที่ยวแถวนี้หาร้านทานข้าว นี่ยอมเสียค่าน้ำมันอีกนิดหาร้านอื่นเถอครับ ด้วยความปรารถนาดี
[SR] รีวิวร้านอาหารปูดำ พังงา ที่ถ้าไม่อ่านถือว่าผิด !!!!!!
เริ่มหาร้านสิครับ google, pantip
ได้แหละครับ ดูท่าร้านดัง แหมพ่อก็บอกรู้สึกร้านนี้ออกครัวคุณต๋อยด้วยนา ...... ตกลงปลงใจตามนั้นครัช
ไปถึงร้าน 11.35 น นึกว่าจะไม่มีที่นั่ง ซะงั้น ไม่มีคนสักโต๊ะ
คิดเอาว่าวันธรรมดา คนเลยไม่เยอะ ก็สั่งอาหารกันตามปกติครับ ดูเมนูก็หลากหลายดีนะครัช ราคาเอาตัวประมาณหนึ่ง แต่พอรับได้ครับ
ร้านวันนั้นร้อนมากครับ มีห้องแอร์นะ แต่เค้าไม่เปิด (อุตส่าห์ตั้งใจเลือกร้านนี้แต่แรกเห็นเพราะสาเหตุหนึ่งคือมีห้องแอร์ เนื่องจากพาเด็กเล็กไปด้วย) ทางร้านเอาพัดลม 14 นิ้วมาตั้งให้หนึ่งตัว บอกขอพัดลมเพิ่ม เงียบหายไปไร้ซึ่งการตอบสนอง ........ เก็บไว้หนึ่งเรื่อง คิดในใจเค้าคงยุ่ง
ก็สั่งอาหารกันล่ะครับ หิวมานาน อาหารก็ไม่ช้าอะไรมากมายนะครับ เรื่องรสชาตินี่ ธรรมดามากครับ ขอบอกว่าธรรมดาจิงๆ ถ้าเทียบกับรีวิวที่เค้าเขียนและรสชาติร้านข้าวแกงแถวบ้าน
กินเสร็จกันแบบร้อนๆ ตัวเปียก ถึงคราวคิดเงิน
ทั้งหมดรวม 2100 .- .......น่ะ ราคาใช้ได้เลยครับถ้าเทียบกับขนาดจานอาหารและรสชาติ พอเริ่มดูบิล
- อันแรกเลยไข่เจียวกุ้งจานละ150.- เดินกลับไปพลิกในเมนูจานล่ะ120.- นี่
- หมูผัดกะปิสะตอ จานละ 250.- เอ้ยๆๆๆๆ เด๋วนะ หมูผัดสะตอนี่นะ แถวบ้านร้านขึ้นชื่อของจังหวัด ร้านติดแอร์ยังจานไม่เกินร้อย
- กุ้งชุบแป้งทอดและจานอื่นๆ โดนบวกเพิ่มจานละยี่สิบสามสิบบาทจากราคาในเมนู
ถามเด็กเสิร์ฟไป ทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้ เดินหาย เอาสิครับ ผมจึงให้เรียกเจ้าของร้านมาคุยกัน เป็นหญิง ร่างท้วม คนจีน มีอายุมานั่งดูบิลให้ พอถามเรื่องราว
ผม " นี่ทางร้านคิดราคาเกินความจริงรึป่าวครับ ทำแบบนี้ไม่ถูกรึป่าวครับ เห็นในเมนูเป็นอีกราคานี่"
ป้า " อ้าว อันนั้นมันเก่าแล้ว เด๋วนี้เข้าของไรขึ้นเยอะแยะ "
ผม " อ้าว แล้วป้ามาคิดเองแบบนี้ก็ไม่ถูกป่าวครับ ถ้าปรับราคาก็น่าจะแก้ในเมนูป่าวครับ ลูกค้าเค้ามากินจะรู้ไหมล่ะครับ "
ป้า " ก็ไม่ได้แก้ที นี่ก็คิดถูกแล้ว "
ผม " แล้วหมูผัดกะปิสะตอนี่ 250.- เลยเหรอครับ ไม่น่าถึงมั้งครับ เป็นหมูด้วยไม่ใช่ทะเลพวกกุ้งอะไรมาผัด "
ป้า " โอ๊ย สะตอโลละ 800.- ล่ะ ให้ทำไง "
ผมคิดว่าเด๋วนะตูก็คนใต้ บ้านตูก็มีสะตอนะ ไม่ขนาดนั้นมั้ง เกินไปป่าววะป้า
ผม " โห เกินไปมั้งป้า แบบนี้ "
สุดท้ายผมจ่ายไปตามยอดนะ 2100.- จ่ายเสร็จ
ผม " งั้นผมเอาบิลไปนะ ผมจ่ายเงินแล้ว "
ป้าขึ้นเสียงทันที " จะเอาไปทำไม "
แฟนผม " อ้าว จะเอาไปไหนก็มีสิทธิป่าวคะ นี่ก็มาตามที่เค้ารีวิวมาเลยนะเนี้ย เห็นเค้าแนะนำว่าดี เจอแบบนี้ผิดหวัง สงสัยต้องรีวิวให้ใหม่ "
ป้ายังเสียงดังขึ้นไปอีก " ไม่ได้ๆ ทำแบบนั้นไม่ได้ แค่นี้ทัวร์ก็ไม่มาลงแล้ว ทำแบบนี้คนหายหมด " ตบโต๊ะเสียงดังพร้อมกับดึงบิลกลับ
แฟนผมเอาบิลมาก่อน ผมดึงบิลมาถือไว้เอง พร้อมเดินกลับออกจากร้าน ...... ไม่แคร์ล่ะครับ
ผมว่าถ้าเหตุเพราะลูกค้าน้อยแล้วพอมีคนเข้ามาทานแล้วมาขูดรีดแบบนี้อย่าเปิดร้านอาหารหรือบริการดีกว่าครับ
รสชาติไม่ดี บริการห่วยแตก แถมบวกเงินเพิ่มนี่ ไม่ไหวนะครับ ขอเตือนนะครับ ใครที่ไปเที่ยวแถวนี้หาร้านทานข้าว นี่ยอมเสียค่าน้ำมันอีกนิดหาร้านอื่นเถอครับ ด้วยความปรารถนาดี
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น