สวัสดีครับก่อนอื่นต้องขอขอบคุณทางCanon ด้วยครับที่ให้เจ้าตัว M3 ตัวนี้มาได้ทดสอบกัน
Spec คร่าวๆของเจ้า Canon M3 ตัวนี้ครับ
- ความละเอียด 24.20 ล้านพิกเซล (เทียบเท่ากับ DSLR บางตัวเลยนะครับผมว่า)
- ระบบโฟกัส 49 จุด Hybrid CMOS AF III
- มีปุ่มชดเชยแสง + / - แบบแป้นวงกลม อยู่ทางด้านบนของตัวกล้อง
- ปุ่ม Quick control dial ด้านหลังกล้อง ช่วยให้การปรับค่าต่างๆ เป็นไปได้รวดเร็วขึ้น
- โพรเซสเซอร์ DIGIC 6
- ปรับ ISO ได้ตั้งแต่ 100 - 12800 และปรับเร่งเพิ่มเป็น 25600 ได้
- ความเร็วชัตเตอร์ 30 - 1/4000 วินาที
- ถ่ายภาพต่อเนื่อง 4.2 fps หรือ 4.2 ภาพต่อวินาที
- จอภาพแบบยกปรับมาถ่ายภาพตัวเองได้
- จอขนาด 3 นิ้ว ใช้ระบบสัมผัสได้ด้วยครับ
- ถ่ายภาพเคลื่อนไหวหรือวีดีโอแบบ Full HD และมีช่องเสียบไมค์โครโฟน stereo
- มีระบบ WiFi ส่งภาพเข้ามือถือได้เลยครับถ่ายเป็นRAW ก็แปลงไฟล์ให้เป็นJPEG ให้เลยครับ
การทดสอบของผมคือการเอาไปใช้งานในทริปขี่มอเตอร์ไซค์จาก กรุงเทพ ไป เชียงรายครับ
โดยที่ผมบอกว่าทดสอบอึด ทดสอบยังไง ในบางช่วงผมจะถ่ายรูปโดยการสะพายกล้องถ่ายรูปขี่มอเตอร์ไซค์
และรอจังหวะ ”ปลอดภัย” ชิดซ้ายควักกล้องถ่ายปล่อยเพื่อนๆแซงขึ้นไป และยังแบกกล้องตัวนี้ ท้าแดด ท้าลม ท้าฝน
(แต่ถ้าร้อนไปลมฝุ่นทรายแรงเกินหรือฝนตก หนึ่งประโยคครับ เก็บกล้องเลยครับ 555.5 )
โจทย์วันแรก เป็นภาพแนว Motographer ครับ ซึ่งเป็นแนวlifestyle ของคนขับมอเตอร์ไซค์ครับ
ซึ่งผมก็ได้แรงบันดาลมาจากพี่ท่านนึงที่เรียกตัวเองว่าMotographer
ไม่บ่นเยอะแล้วครับ ออกเดินทางกันเลยดีกว่า
วันที่ 1 : ออกจากรัง
นัดเจอเพื่อนกลุ่มแรกเวลา5ทุ่มกว่าๆแถวบางใหญ่ครับ ไม่รอช้าควักกล้องมาเซลฟี่ก่อนเลย
ภาพนี้ได้ลองถ่ายตอนกลางคืนใช้ISO 6400 ครับ ไฟล์ภาพที่ได้ถือว่าโอเคมากครับ
แต่ก็มีNoise หน่อยๆครับแต่โดยรวมแล้วภาพก็อยู่ในขั้นที่แฮปปี้เลยครับ
ออกเดินทางจาก กรุงเทพ ผ่าน พระนครศรีอยุธยา>อ่างทอง>ชัยนาท(พอถึงจังหวัดนี้อากาศก็เริ่มหนาวแล้วครับ)>อุทัยธานี
>นครสวรรค์>กำแพงเพรช>ตาก>ลำปาง>พะเยา และสุดท้าย เชียงรายครับ
ขี่กันมานานมากครับเกือบ12ชั่วโมงที่เสียไปกับการเดินทางล้วนๆครับ
ขี่มาเรื่อยๆ เห็นแสงยามเช้าแล้วครับ
3 ภาพนี้ใช้โหมดAvและควักมาใช้โหมดรัวชัตเตอร์บวกกับการโฟกัสที่ไวระดับนึงเลยครับ
ช่วยให้ได้ภาพครับ
ซึ่งตอนนี้ผมก็ได้เห็นข้อดีของมันคือก่อน
ยกกล้องขึ้นมาจับแล้วถนัดมือ
พอจะถ่ายเห็นเฟรมภาพเลยครับทำให้การวางภาพและการใช้งานได้ดีมากขึ้นกว่าเดิม
เพราะแต่ก่อนผมใช้DSLR ตัวนึงครับเวลาใช้ถ่ายแบบนี้จะเปิดLiveview
ไม่ได้แล้วมันจะไม่ให้ผมใช้โหมดถ่ายแบบรัวครับเวลาถ่ายนั้นเลยต้องกะเอาเอง
เวลาดูรูปก็ลุ้นเอาว่าได้ภาพบ้างไม่ได้ภาพบ้างครับ
จากนั้นอาการวาร์ปเหมือนจะมาครับ เหมือนจะหลับใน
หยุดเลยครับพัก เก็บกล้อง พักข้างทางเลยครับ
ผมลองวางกล้องถ่ายมุมต่ำดูหน้าจอที่ปรับหงายได้ถือช่วยในการถ่ายได้เยอะเลยครับ
จากนั้นเดินทางต่อ
และ
ในที่สุดก็มาถึงครับ ป้ายเข้าจังหวัดเชียงราย
ขอถ่ายภาพสักหน่อยนะครับ
ขี่กันต่อมาถึงที่พักครับเจอกับพี่อีกกลุ่มนึงที่นัดกันไว้
ถึงตอนนี้กล้องแบตจะหมดครับเข้าที่พักชาร์ตแบต
กว่าจะมาถึงก็หมดแรงครับ ถึงปุ๊ปทานอาหารอาบน้ำนอนเอาแรงครับพรุ่งนี้เช้าว่ากันใหม่
วันที่ 2 มิงกาลาบา
วันนี้ตื่นเช้าทานอาหาร กลุ่มเรามีโปรแกรมว่าจะไปเที่ยวทางพม่าครับ
โจทย์วันนี้เลยเป็นการถ่ายภาพแนว Street / life ครับ
ตื่นมาอากาศร้อนครับแต่อากาศสบายจมูกด้วยตัวช่วย
ที่ถ่ายนี่จะให้ดูไฟล์ครับกลางแดดแสงแข็งๆขนาดนี้ยังเก็บรายละเอียดได้ดีมากครับ
รายละเอียดผิวยังอยู่ครบเลยครับ
จากนั้นรอรถตู้มารับครับขึ้นรถเที่ยวพม่ากันเลย
เข้ามาอย่างแรกที่ต้องรู้คือพม่าขับรถทางขวาครับ
และค่าเงินของที่นี่คือ เงินจ๊าดครับแต่ฝั่งที่เราเข้าไปแถวนั้นใช้เงินบาทได้ครับ
ที่แรกที่ไกด์พาเราไปคือวัดจีนครับ
ภาพที่แสงน้อย ถ่ายออกมาก็ถือว่าดีเลยครับ
นี่ขนาดเลนส์คิทยังมีโบเก้แถมมาให้เลยครับ
จากนั้นมาต่อที่
พระเจดีย์ชเวดากององค์จำลองครับ
จะบ่ายแล้วครับทานข้าวกันก่อนวันนี้จัด ข้าวซอยน้อย กับน้ำเงี๊ยว และ ไส้กรอกครับคำเดียวคืออิ่มครับ
เด็กที่นี่แนวนะครับเล่นโปเกม่อนด้วย
มาต่อกันที่ตลาดท่าขี้เหล็กครับ
กลับมาจากพม่าก็เย็นแล้วครับมีแผนคือเดินทางต่อครับ
จุดหมายของเราคือดอยแม่สลองครับ
กลับมาแบตกล้องก็หมด ก็ใช้ทั้งวันไม่ให้หมดได้ไงครับ
เก็บกล้องครับต้องมีสติขี่รถขึ้นดอยตอนกลางคืน
ออกจากแม่สายมาถึงแม่สลองประมาณ2ชั่วโมงกว่าๆครับ
ทางขับขี่ยากพอสมควรถึงที่พักในเวลาเกือบ 4ทุ่มครับ
วันนี้การใช้กล้องของผมเต็มที่มากครับ
จากที่วันนี้ได้ถ่ายรูปแบบเป็นผู้เป็นคนกว่าตอนแรกครับ
มีข้อดีของกล้องนี้เพิ่มขึ้นมาอีกครับ
คือพอผมถ่ายรูปเสร็จนั้นก็ส่งเข้ามือถืออัพรูปลงFacebook ได้เลยครับ
และเวลาเชื่อมต่อกับแอปพิเคชั่นก็ง่ายมากครับ
อีกอย่างคือใช้กล้องขนาดเล็กแบบนี้เวลาผมเข้าไปขอถ่ายผู้คน
เค้าจะไม่ตกใจเท่ากล้องใหญ่ครับอันนี้ผมก็ถือว่าเป็นข้อดี
แต่วันนี้เจอปัญหาหน่อยคือ เวลาที่เชื่อมต่อกับมือถือ
แบตจะลดไวเหมือนกันครับผมเปิดไปเจอโหมดECO ไม่ทราบมันช่วยได้มากน้อยแค่ไหน
วันนี้ผมเลยต้องเซพแบตจนมาถึงตลาดท่าขี้เหล็ก
[SR] CANON EOS M3 ทดสอบความถึกของกล้องกับทริป 4วัน/กรุงเทพ–เชียงราย/แม่สาย/พม่า/แม่สลอง/เพรชบูรณ์ /น้ำหนาว.
Spec คร่าวๆของเจ้า Canon M3 ตัวนี้ครับ
- ความละเอียด 24.20 ล้านพิกเซล (เทียบเท่ากับ DSLR บางตัวเลยนะครับผมว่า)
- ระบบโฟกัส 49 จุด Hybrid CMOS AF III
- มีปุ่มชดเชยแสง + / - แบบแป้นวงกลม อยู่ทางด้านบนของตัวกล้อง
- ปุ่ม Quick control dial ด้านหลังกล้อง ช่วยให้การปรับค่าต่างๆ เป็นไปได้รวดเร็วขึ้น
- โพรเซสเซอร์ DIGIC 6
- ปรับ ISO ได้ตั้งแต่ 100 - 12800 และปรับเร่งเพิ่มเป็น 25600 ได้
- ความเร็วชัตเตอร์ 30 - 1/4000 วินาที
- ถ่ายภาพต่อเนื่อง 4.2 fps หรือ 4.2 ภาพต่อวินาที
- จอภาพแบบยกปรับมาถ่ายภาพตัวเองได้
- จอขนาด 3 นิ้ว ใช้ระบบสัมผัสได้ด้วยครับ
- ถ่ายภาพเคลื่อนไหวหรือวีดีโอแบบ Full HD และมีช่องเสียบไมค์โครโฟน stereo
- มีระบบ WiFi ส่งภาพเข้ามือถือได้เลยครับถ่ายเป็นRAW ก็แปลงไฟล์ให้เป็นJPEG ให้เลยครับ
โดยที่ผมบอกว่าทดสอบอึด ทดสอบยังไง ในบางช่วงผมจะถ่ายรูปโดยการสะพายกล้องถ่ายรูปขี่มอเตอร์ไซค์
และรอจังหวะ ”ปลอดภัย” ชิดซ้ายควักกล้องถ่ายปล่อยเพื่อนๆแซงขึ้นไป และยังแบกกล้องตัวนี้ ท้าแดด ท้าลม ท้าฝน
(แต่ถ้าร้อนไปลมฝุ่นทรายแรงเกินหรือฝนตก หนึ่งประโยคครับ เก็บกล้องเลยครับ 555.5 )
โจทย์วันแรก เป็นภาพแนว Motographer ครับ ซึ่งเป็นแนวlifestyle ของคนขับมอเตอร์ไซค์ครับ
ซึ่งผมก็ได้แรงบันดาลมาจากพี่ท่านนึงที่เรียกตัวเองว่าMotographer
ไม่บ่นเยอะแล้วครับ ออกเดินทางกันเลยดีกว่า
วันที่ 1 : ออกจากรัง
นัดเจอเพื่อนกลุ่มแรกเวลา5ทุ่มกว่าๆแถวบางใหญ่ครับ ไม่รอช้าควักกล้องมาเซลฟี่ก่อนเลย
ภาพนี้ได้ลองถ่ายตอนกลางคืนใช้ISO 6400 ครับ ไฟล์ภาพที่ได้ถือว่าโอเคมากครับ
แต่ก็มีNoise หน่อยๆครับแต่โดยรวมแล้วภาพก็อยู่ในขั้นที่แฮปปี้เลยครับ
ออกเดินทางจาก กรุงเทพ ผ่าน พระนครศรีอยุธยา>อ่างทอง>ชัยนาท(พอถึงจังหวัดนี้อากาศก็เริ่มหนาวแล้วครับ)>อุทัยธานี
>นครสวรรค์>กำแพงเพรช>ตาก>ลำปาง>พะเยา และสุดท้าย เชียงรายครับ
ขี่มาเรื่อยๆ เห็นแสงยามเช้าแล้วครับ
3 ภาพนี้ใช้โหมดAvและควักมาใช้โหมดรัวชัตเตอร์บวกกับการโฟกัสที่ไวระดับนึงเลยครับ
ช่วยให้ได้ภาพครับ
ซึ่งตอนนี้ผมก็ได้เห็นข้อดีของมันคือก่อน
ยกกล้องขึ้นมาจับแล้วถนัดมือ
พอจะถ่ายเห็นเฟรมภาพเลยครับทำให้การวางภาพและการใช้งานได้ดีมากขึ้นกว่าเดิม
เพราะแต่ก่อนผมใช้DSLR ตัวนึงครับเวลาใช้ถ่ายแบบนี้จะเปิดLiveview
ไม่ได้แล้วมันจะไม่ให้ผมใช้โหมดถ่ายแบบรัวครับเวลาถ่ายนั้นเลยต้องกะเอาเอง
เวลาดูรูปก็ลุ้นเอาว่าได้ภาพบ้างไม่ได้ภาพบ้างครับ
จากนั้นอาการวาร์ปเหมือนจะมาครับ เหมือนจะหลับใน
หยุดเลยครับพัก เก็บกล้อง พักข้างทางเลยครับ
จากนั้นเดินทางต่อ
และ
ในที่สุดก็มาถึงครับ ป้ายเข้าจังหวัดเชียงราย
ขอถ่ายภาพสักหน่อยนะครับ
ขี่กันต่อมาถึงที่พักครับเจอกับพี่อีกกลุ่มนึงที่นัดกันไว้
ถึงตอนนี้กล้องแบตจะหมดครับเข้าที่พักชาร์ตแบต
กว่าจะมาถึงก็หมดแรงครับ ถึงปุ๊ปทานอาหารอาบน้ำนอนเอาแรงครับพรุ่งนี้เช้าว่ากันใหม่
วันนี้ตื่นเช้าทานอาหาร กลุ่มเรามีโปรแกรมว่าจะไปเที่ยวทางพม่าครับ
โจทย์วันนี้เลยเป็นการถ่ายภาพแนว Street / life ครับ
ตื่นมาอากาศร้อนครับแต่อากาศสบายจมูกด้วยตัวช่วย
รายละเอียดผิวยังอยู่ครบเลยครับ
จากนั้นรอรถตู้มารับครับขึ้นรถเที่ยวพม่ากันเลย
และค่าเงินของที่นี่คือ เงินจ๊าดครับแต่ฝั่งที่เราเข้าไปแถวนั้นใช้เงินบาทได้ครับ
พระเจดีย์ชเวดากององค์จำลองครับ
จุดหมายของเราคือดอยแม่สลองครับ
กลับมาแบตกล้องก็หมด ก็ใช้ทั้งวันไม่ให้หมดได้ไงครับ
เก็บกล้องครับต้องมีสติขี่รถขึ้นดอยตอนกลางคืน
ออกจากแม่สายมาถึงแม่สลองประมาณ2ชั่วโมงกว่าๆครับ
ทางขับขี่ยากพอสมควรถึงที่พักในเวลาเกือบ 4ทุ่มครับ
จากที่วันนี้ได้ถ่ายรูปแบบเป็นผู้เป็นคนกว่าตอนแรกครับ
มีข้อดีของกล้องนี้เพิ่มขึ้นมาอีกครับ
คือพอผมถ่ายรูปเสร็จนั้นก็ส่งเข้ามือถืออัพรูปลงFacebook ได้เลยครับ
และเวลาเชื่อมต่อกับแอปพิเคชั่นก็ง่ายมากครับ
อีกอย่างคือใช้กล้องขนาดเล็กแบบนี้เวลาผมเข้าไปขอถ่ายผู้คน
เค้าจะไม่ตกใจเท่ากล้องใหญ่ครับอันนี้ผมก็ถือว่าเป็นข้อดี
แต่วันนี้เจอปัญหาหน่อยคือ เวลาที่เชื่อมต่อกับมือถือ
แบตจะลดไวเหมือนกันครับผมเปิดไปเจอโหมดECO ไม่ทราบมันช่วยได้มากน้อยแค่ไหน
วันนี้ผมเลยต้องเซพแบตจนมาถึงตลาดท่าขี้เหล็ก