สวัสครับ ไม่ได้ตั้งกระทู้แรกและไม่ได้ยืมแอคใครมานะครับ
ก่อนอื่น ผมขอพูดไว้ก่อนว่าผมพยายามจะไม่กล่าวถึงสถาบัน (เพื่อสวัสดิภาพของกระทู้เอง) แต่พูดตรงๆ เรื่องนี้มันก็ไม่ได้สืบยากขนาดนั้น ใครที่ชอบกินเผือกเป็นเรื่องปกติก็คงเดาได้ไม่ยาก ดังนั้น ผมขออย่าให้มันลามปามไปเป็นดราม่าระหว่างสถาบัน เพราะประเด็นนี้มันมองไปได้ไกลกว่านั้น อยากจะให้ประเด็นมันเป็นประเด็นสังคม ให้สังคมได้รับรู้ว่า คำว่า "
สิทธิ์" มันมีขอบเขตแค่ไหน เวลาไหนที่เราควรจะมี "
จริยธรรม" และหัดคิดถึงผู้อื่นบ้าง เพราะเรื่องนี้มันไม่ได้จบแค่การสอบเข้าม.ปลาย แต่มันลามไปถึงการสอบทุนใหญ่ๆ การสอบเข้ามหาลัย และอาจไปถึงประเด็นปัญหาทั่วไปในสังคม กรุณาใส่อารมณ์แต่พองาม และถกเถียงพูดคุยกันอย่างสุภาพชนและปัญญาชนนะครับ
เรื่องของเรื่องก็คือ วันนี้เป็นประกาศผลเข้าเรียนต่อของโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่ง ท่ามกลางความดีใจและความโศกเศร้าเสียใจ ก็มีเพจของโรงเรียนชื่อดังอีกโรงเรียนหนึ่งโพสรูปภาพนี้ขึ้นมา
*ขออภัยในการเซนเซอร์ พอดีมีแต่เพนท์ครับ
สรุปง่ายๆ ก็คือ มีเด็กคนหนึ่งไปสอบเล่นๆ เพื่อที่จะไม่เอาแล้วเอามาโพสอวดโชว์คนอื่นว่าติดนะแต่ไม่เอาเพราะรักรร.เดิมมาก
1. โรงเรียนนี้ จากที่ผ่านมา
ไม่เคยมีการเรียกสำรองอย่างเป็นทางการ หมายความว่า ถึงอีกแค่ 1 อันดับจะติด แต่ถ้าไม่ยื่นใบคำร้องที่จะเรียนก็จะไม่เรียกตัวขึ้นมา ซึ่งทั้งหมดนี้จะต้องยื่นที่ทางโรงเรียนโดยตรง แล้วก่อนหน้านี้ก็เคยมีหลายๆ กรณีที่บ้านอยู่ต่างจังหวัด พอรู้ว่าไม่ติด จะมารร.ก็ไม่คุ้ม ทั้งๆ ที่อาจจะยื่นได้ก็ได้แต่ก็มาไม่ได้ (ประเด็นนี้ยอมรับว่าปัญหาก็อยู่ที่รร. แต่ก็มีหลายๆ ปัจจัยที่ขอไม่กล่าวถึง แต่ก็ขอให้ทราบกันว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องคนจะสอบก็รู้ๆ กัน)
2. การสอบโรงเรียนเป็นระบบ T-Score หมายความว่าคะแนนจะละเอียดยิบมากระดับทศนิยมสี่ห้าหลัก ซึ่งหมายความว่าต่างกันแค่ข้อเดียวก็ชี้เป็นชี้ตายได้ว่าจะติดหรือไม่ติด ต่อให้ยื่นได้ อันดับไม่ไกล แต่ก็ไม่มีอะไรมาการันตีในช่วงรอผลได้เลย บางครั้งก็มาเรียกตัวตอนที่จ่ายค่าเทอมโรงเรียนอื่นไปแล้วก็มี แล้วไหนจะต้องหาที่อยู่แบบฉุกละหุกสำหรับคนอยู๋ต่างจังหวัดอีก ไหนจะต้องเตรียมตัวซื้อของใหม่อีก มันมีอะไรหลายๆ อย่างที่ถ้าได้รู้ว่าติดตั้งแต่แรกแล้วมันมีโอกาสได้ในสิ่งที่ดีกว่า แต่กลับต้องมารอ มันคือการ
ทำลายค่าเสียโอกาสของคนอื่น
3. ประเด็นทุกอย่างจะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าไม่มีการโพสลงใน Social Network แล้วสนับสนุนโดยเพจที่เป็นเสมือนตัวแทนของคนในโรงเรียนอีกที ถ้าอยากจะมาสอบเล่นๆ เพื่อวัดระดับตัวเองแล้วเก็บไว้ให้ตัวเองรู้เงียบๆ ก็คงไม่มีใครออกมาว่า แต่นี่กลับมาโพสเพื่อเชิดชูตนเองและกดทับอีกฝ่ายลงโซเชี่ยลมีเดีย (และก็ถูกเอาไปขยายความด้วยเพจอีกรอบหนึ่ง) แบบนี้มันแสดงถึงการ
ไม่มีความใส่ใจในผู้อื่นตั้งแต่ต้นทางยันสุดทาง
ในมุมมองของจขกท.นะครับ จขกท.ไม่ได้มีอะไรกับรร.ที่กล่าวถึงนี้ มีเพื่อนหลายคนก็จบมาจากรร.นี้ที่เป็นเพื่อนที่ดีมากๆ แต่อยากจะบอกว่าสิ่งที่กระทำมันไม่ใช่สิ่งที่น่าภูมิใจ มันไปทำร้ายจิตใจอีกฝ่าย แล้วมันก็กลับมาทำให้ภาพลักษณ์โรงเรียนตัวคุณเองแย่ลงไปอีก เรื่องทุกอย่างจะไม่เกิดขึ้นถ้าอย่างน้อยคุณแคร์คนอื่น ถ้าไม่แคร์ตอนสอบ อย่างน้อยถ้าแคร์ตอนโพสเรื่องก็ไม่เกิด ไม่ใช่สักแต่ว่าคุณมีสิทธิ์คุณจะทำอะไรก็ได้ ถ้าโลกนี้มันขับเคลื่อนโดยแค่คำว่าสิทธิ์อย่างเดียว โลกนี้ก็คงเป็นโลกที่โคตรจะไม่น่าอยู่เลยครับ
และอยากฝากบอกเพิ่มอีกด้วยว่าตอนนี้ ค.ศ.2016 แล้วนะครับ นี่ไม่ใช่ยุคที่จะรักสถาบันอย่างเมามายแล้วมากดทับสถาบันอื่นแล้ว
ประเด็นเรื่องเด็กรร.หนึ่งที่มาสอบเล่นๆ แล้วสละสิทธิ์รร.ชื่อดังอีกรร.หนึ่ง
ก่อนอื่น ผมขอพูดไว้ก่อนว่าผมพยายามจะไม่กล่าวถึงสถาบัน (เพื่อสวัสดิภาพของกระทู้เอง) แต่พูดตรงๆ เรื่องนี้มันก็ไม่ได้สืบยากขนาดนั้น ใครที่ชอบกินเผือกเป็นเรื่องปกติก็คงเดาได้ไม่ยาก ดังนั้น ผมขออย่าให้มันลามปามไปเป็นดราม่าระหว่างสถาบัน เพราะประเด็นนี้มันมองไปได้ไกลกว่านั้น อยากจะให้ประเด็นมันเป็นประเด็นสังคม ให้สังคมได้รับรู้ว่า คำว่า "สิทธิ์" มันมีขอบเขตแค่ไหน เวลาไหนที่เราควรจะมี "จริยธรรม" และหัดคิดถึงผู้อื่นบ้าง เพราะเรื่องนี้มันไม่ได้จบแค่การสอบเข้าม.ปลาย แต่มันลามไปถึงการสอบทุนใหญ่ๆ การสอบเข้ามหาลัย และอาจไปถึงประเด็นปัญหาทั่วไปในสังคม กรุณาใส่อารมณ์แต่พองาม และถกเถียงพูดคุยกันอย่างสุภาพชนและปัญญาชนนะครับ
เรื่องของเรื่องก็คือ วันนี้เป็นประกาศผลเข้าเรียนต่อของโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่ง ท่ามกลางความดีใจและความโศกเศร้าเสียใจ ก็มีเพจของโรงเรียนชื่อดังอีกโรงเรียนหนึ่งโพสรูปภาพนี้ขึ้นมา
*ขออภัยในการเซนเซอร์ พอดีมีแต่เพนท์ครับ
สรุปง่ายๆ ก็คือ มีเด็กคนหนึ่งไปสอบเล่นๆ เพื่อที่จะไม่เอาแล้วเอามาโพสอวดโชว์คนอื่นว่าติดนะแต่ไม่เอาเพราะรักรร.เดิมมาก
1. โรงเรียนนี้ จากที่ผ่านมา ไม่เคยมีการเรียกสำรองอย่างเป็นทางการ หมายความว่า ถึงอีกแค่ 1 อันดับจะติด แต่ถ้าไม่ยื่นใบคำร้องที่จะเรียนก็จะไม่เรียกตัวขึ้นมา ซึ่งทั้งหมดนี้จะต้องยื่นที่ทางโรงเรียนโดยตรง แล้วก่อนหน้านี้ก็เคยมีหลายๆ กรณีที่บ้านอยู่ต่างจังหวัด พอรู้ว่าไม่ติด จะมารร.ก็ไม่คุ้ม ทั้งๆ ที่อาจจะยื่นได้ก็ได้แต่ก็มาไม่ได้ (ประเด็นนี้ยอมรับว่าปัญหาก็อยู่ที่รร. แต่ก็มีหลายๆ ปัจจัยที่ขอไม่กล่าวถึง แต่ก็ขอให้ทราบกันว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องคนจะสอบก็รู้ๆ กัน)
2. การสอบโรงเรียนเป็นระบบ T-Score หมายความว่าคะแนนจะละเอียดยิบมากระดับทศนิยมสี่ห้าหลัก ซึ่งหมายความว่าต่างกันแค่ข้อเดียวก็ชี้เป็นชี้ตายได้ว่าจะติดหรือไม่ติด ต่อให้ยื่นได้ อันดับไม่ไกล แต่ก็ไม่มีอะไรมาการันตีในช่วงรอผลได้เลย บางครั้งก็มาเรียกตัวตอนที่จ่ายค่าเทอมโรงเรียนอื่นไปแล้วก็มี แล้วไหนจะต้องหาที่อยู่แบบฉุกละหุกสำหรับคนอยู๋ต่างจังหวัดอีก ไหนจะต้องเตรียมตัวซื้อของใหม่อีก มันมีอะไรหลายๆ อย่างที่ถ้าได้รู้ว่าติดตั้งแต่แรกแล้วมันมีโอกาสได้ในสิ่งที่ดีกว่า แต่กลับต้องมารอ มันคือการทำลายค่าเสียโอกาสของคนอื่น
3. ประเด็นทุกอย่างจะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าไม่มีการโพสลงใน Social Network แล้วสนับสนุนโดยเพจที่เป็นเสมือนตัวแทนของคนในโรงเรียนอีกที ถ้าอยากจะมาสอบเล่นๆ เพื่อวัดระดับตัวเองแล้วเก็บไว้ให้ตัวเองรู้เงียบๆ ก็คงไม่มีใครออกมาว่า แต่นี่กลับมาโพสเพื่อเชิดชูตนเองและกดทับอีกฝ่ายลงโซเชี่ยลมีเดีย (และก็ถูกเอาไปขยายความด้วยเพจอีกรอบหนึ่ง) แบบนี้มันแสดงถึงการไม่มีความใส่ใจในผู้อื่นตั้งแต่ต้นทางยันสุดทาง
ในมุมมองของจขกท.นะครับ จขกท.ไม่ได้มีอะไรกับรร.ที่กล่าวถึงนี้ มีเพื่อนหลายคนก็จบมาจากรร.นี้ที่เป็นเพื่อนที่ดีมากๆ แต่อยากจะบอกว่าสิ่งที่กระทำมันไม่ใช่สิ่งที่น่าภูมิใจ มันไปทำร้ายจิตใจอีกฝ่าย แล้วมันก็กลับมาทำให้ภาพลักษณ์โรงเรียนตัวคุณเองแย่ลงไปอีก เรื่องทุกอย่างจะไม่เกิดขึ้นถ้าอย่างน้อยคุณแคร์คนอื่น ถ้าไม่แคร์ตอนสอบ อย่างน้อยถ้าแคร์ตอนโพสเรื่องก็ไม่เกิด ไม่ใช่สักแต่ว่าคุณมีสิทธิ์คุณจะทำอะไรก็ได้ ถ้าโลกนี้มันขับเคลื่อนโดยแค่คำว่าสิทธิ์อย่างเดียว โลกนี้ก็คงเป็นโลกที่โคตรจะไม่น่าอยู่เลยครับ
และอยากฝากบอกเพิ่มอีกด้วยว่าตอนนี้ ค.ศ.2016 แล้วนะครับ นี่ไม่ใช่ยุคที่จะรักสถาบันอย่างเมามายแล้วมากดทับสถาบันอื่นแล้ว