ตามหัวข้อที่เกิ่นเลยค่ะ แต่ขอบอกไว้ก่อนว่าส่วนดีก็มีแต่ตอนนี้ขอเล่าส่วนแย่ที่มีเพียงอย่างเดียวค่ะ 
ส่วนแย่ที่ว่ามานี้ก็คือ "รถ"
แน่นอนว่าเพื่อนๆท่านใดที่ไปเที่ยวเมืองนี้ต้องเช่าเหมารถ พร้อมคนขับ ไม่ว่าจะเป็นรถตุ๊ก ตุ๊ก รถแท็กซี่ หรือ รถตู้
เราได้รับคำแนะนำจากเพื่อนสนิทคนหนึ่งว่า มีพี่คนขับรถคนหนึ่ง แกขับรถแคมรี่ แกขับดีมาก แนะนำเลยว่าสุดยอด แกพาไปเที่ยวแนะนำได้หลายที่ เวลาเหลือแกก็จะพาไปเที่ยวที่อื่นๆอีกจนหมดเวลา และที่สำคัญแกพูดไทยได้ชัดมาก อังกฤษก็เป๊ะ แต่แกไม่มีบัตรไกด์นะ ขับรถอย่างเดียว
เราเดินทางกัน 5คน ซึ่งมีเรา / สามี / เพื่อนหญิง 2คน / และพ่อของเพื่อน เราจึงยกหน้าที่ให้เพื่อนคนหนึ่งเป็นคนติดต่อกับคนขับรถ 
เนื่องจากว่าทริปของเราคือ 4คืน 5วัน เราจึงตกลงจ้างรถพร้อมคนขับ เป็นเวลา 3วัน ด้วยราคา 150 ยูเอสดอลล่าร์โดยที่เค้าเสนอว่าจะมารับ-ส่งสนามบินให้ เป็น Free Service และจะเปลี่ยนรถเป็นรถตู้ให้ เพื่อพวกเรา 5คนจะได้นั่งสบาย แต่ว่าทาง รร. ที่เราเข้าพักนั้นมีบริการรถรับจากสนามบินฟรี เราจึงไม่ได้ให้รถที่เช่าไว้มารับ และใช้บริการของเค้าแค่ 3วัน เว้นวันที่มาถึงและวันกลับไว้
พวกเราเห็นว่าภาษาไทยของแกชัดเจนมาก พิมพ์ถูกต้องทุกคำ โดยที่เราเป็นคนไทยแท้ๆยังรู้สึกแย่เลยที่พิมพ์ไม่ถูก เราเลยวางใจกันเรื่องคนขับรถว่าไว้ใจได้และไปเตรียมเรื่องอื่นต่อ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้









จนถึงวันที่เดินทาง เรามาถึงสนามบินจึงมองหาป้ายที่คนของ รร. มายืนรอ เป็นพนักงาน 2คน และเดินตามเค้าออกไปที่รถ ซึ่งเค้าจอดรถไว้นอกสนามบิน เราคิดว่าเพื่อประหยัดค่าจอด ระหว่างทางเดินไปที่รถ (ระยะทาง 150-200 เมตร) พนักงานได้สอบถามว่าเราอยู่ที่นี่กี่วัน และจะไปเที่ยวนครวัดกี่วัน ด้วยความที่ว่าเราคิดว่าเค้าแค่สอบถามตามมารยาทของพนักงาน รร. เราจึงบอกข้อมูลเค้าไปว่าได้จ้างรถไว้เรียบร้อยแล้ว พนักงานท่านนั่นสีหน้าเปลี่ยนทันทีและได้ตอบเรามาว่า "ถ้าพวกเธอจ้างรถไว้แล้ว ทำไมถึงไม่ให้รถที่พวกเธอจ้างมารับ" พวกเรา งง และหันมองหน้ากันแต่ก็ไม่ได้ตอบอะไร เดินมาถึงรถ เป็นรถตุ๊ก ตุ๊ก 2คัน ซึ่งเรานั่งกับสามี 1คัน ซึ่งเป็นคันที่ชักสีหน้าใส่พวกเราเมื่อกี้ เพื่อน และพ่อเพื่อน 3คนนั่งอีกคัน
พนง. ท่านนั้นเริ่มเปิดประเด็นว่าให้พวกเราประมาณว่า มีรถแล้วทำไมถึงมาใช้บริการฟรีของรร. เค้าไม่ได้ว่างนักหรอกนะ เค้ามารับเค้าก็ต้องได้งานวันต่อๆไป ทำแบบนี้เค้าเสียเวลารู้มั้ย บลาๆๆๆ ซึ่งเราก็ถามเค้ากลับไปว่า นี่เป็นบริการจากทาง รร. รึเปล่า ถ้าใช่โปรดพาเราไปส่งที่ รร. ด้วย ซึ่งเค้าก็ขับไป บ่นไปด้วยประโยคเดิมๆ ตลอดระยะทาง 7-8 กม. เราและแฟนก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร และคิดกันว่ายังไง พนง. คนนี้ไม่ได้ทิปจากเราแน่นอน
เมื่อมาถึง รร. เราก็ได้แจ้งกับทาง รร. ว่าพนง. คนขับรถของทาง รร. เค้าพูดกับเราแบบนี้นะ ทาง รร. บอกว่าจะจัดการให้และเค้าไม่ควรจะมาพูดแบบนี้ ซึ่งไม่มีใครเคยพูดแบบนี้ด้วย
จบวันแรกของเราด้วยประสบการณ์เรื่องรถแย่ๆ และคิดว่าพรุ่งนี้มันต้องดีกว่า เพราะมันจะเป็นรถที่เราได้เตรียมการไว้ก่อนมาและเพื่อนแนะนำ ย้ำหนักหนา ว่าดี (เพื่อนยังบอกให้เราซื้อชุดฟุตบอลไปฝากเค้าด้วย เค้าจะดีใจมาก เราก็เตรียมชุดทีมลิเวอร์พูไปเลยจ้าาาา)
เช้ามาตามเวลานัด 8โมงเช้า พวกเรานัดรวมกัน 7โมงเพื่อมาทานอาหารเช้า ชะเง้อแล้ว ชะเง้ออีก ก็ยังไม่พบผู้ชายหน้าตาแบบที่นัดไว้ สักพักก็มีรถตู้มาจอดหน้า รร. ด้วยความที่เพื่อนเคยบอกไว้ว่าคนขับรถคนนี้เค้าไปเรียนที่ จ.ศรีสะเกษมา ประจวบเหมาะกับคุณพ่อของเพื่อนเป็นคนอีสาน เราก็เลยคิดกันเองว่าพ่อคงจะได้คุยกับคนขับรถอย่างสนุกสนานแน่นอน
พ่อของเพื่อนเป็นคนทักทายคนขับรถก่อนว่า คุณย. ใช่มั้ย คนขับรถพยักหน้าตอบ คุณพ่อถามต่อว่าไปเรียนที่ศรีสะเกษมาหรอ หนุ่มคนนั้นไม่ตอบ ประหนึ่งไม่ได้ยินที่พ่อถาม เราที่เหลือทั้งหมดต่างมองหน้ากันด้วยความไม่แน่ใจ เนื่องจากว่าหน้าตาของหนุ่มคนนั้นมันแตกต่างจากคุณย. คนในรูปที่ติดต่อกันมาโดยตลอด
เราจึงถามย้ำกับพ่อหนุ่มคนนั้นว่า พี่ย. ใช่มั้ยคะ คำตอบที่ได้คือ Yes, I'm Pee Y.'s friend. เกิดการสตั้นกันไปคนละ 3วิ เนื่องจากเกิดการเปลี่ยนคนขับกันโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ต่างคนก็ต่างงงแต่ก็รีบขึ้นรถกันเนื่องจากจะเสียแผนที่วางกันไว้ เราจึงขอให้พ่อหนุ่มคนนั้นต่อโทรศัพท์ไปหาคุณพี่ย. เพื่อถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้คำตอบโดยรวมประมาณว่า ไม่ต้องห่วงครับ คิดราคาเท่ากัน (3วัน 150ยูเอสดอลลาร์) ซึ่งนั่นไม่ใช่ประเด็นที่ถาม แต่ก็ต้องวางไปเนื่องจากสัญญาณไม่ดี อ้อแล้วคนขับคนนี้พูดไทยไม่ได้ด้วย คุณพ่อซึ่งตั้งใจมาแลกเปลี่ยนภาษากับคนขับถึงกับนั่งเงียบอยู่หน้ารถ
ขับออกมาได้สักพัก เห็นตำรวจจราจร ตรวจจับ หมวกกันน็อค และเข็มขัดนิรภัย คนขับรีบลุกลี้ ลุกลนคาดเข็มขัด ซึ่งคุณพ่อซึ่งนั่งอยู่ข้างๆไม่แน่ใจว่าต้องคาดมั้ย พอเห็นคนขับคาด พ่อจึงคาดตาม แต่ไม่ทันการ พวกเราโดนตำรวจโบกเข้าข้างทาง พวกเราฟังไม่ออกหรอก แต่ด้วยท่าทางแล้วคุณตำรวจก็ชี้ๆมาทางคุณพ่อ เราจึงพอเดากันได้ว่าโดนโบกเรื่องจากคุณพ่อไม่ได้คาดเข็มขัด คุณคนขับรถเถียงกับตำรวจอยู่ครู่ใหญ่ พยายามจะขับฝ่าไปหลายที แต่คุณตำรวจก็ทำหน้าเข้มและไม่ยอมขยับ สุดท้ายคนขับรถต้องยอมจำนนลงรถไปเสียค่าปรับ และกลับมาขับรถด้วยอาการหัวเสีย สตั้นกันไปอีกคนละ 3วิ
แต่วันนั้นก็ไปเที่ยวตามแผนปกติ มีหงุดหงิดกับพี่เค้าบ้างเรื่องเล็กน้อย ไม่เก็บมาเป็นอารมณ์ จนหมดโปรแกรมและมาส่งถึง รร. โดยสวัสดิภาพ โดยนัดกันใหม่วันรุ่งขึ้นเวลา ตี5 เนื่องจากเราต้องการไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่นครวัด
หลังจากเรากลับมาถึง รร. เราก็คุยกันว่าเราควรที่จะมีไกด์เนื่องจากสถานที่เที่ยวต่างๆพวกเราได้ไปเยี่ยมชมนั้น เราไม่สามารถเข้าถึงได้เลยเนื่องจากเราไม่รู้ประวัติ จ้างไกด์ไปด้วยจะได้เข้าใจได้มากขึ้น รถตู้ของเราก็ยังมีที่นั่งมากพอสำหรับไกด์ จึงให้รร.จัดหาไกด์พูดไทยให้ 1คน 
คืนนั้นมีข้อความจากพี่ย. มาหาพวกเราว่า คนขับรถจะมาถึงช้ากว่าเวลานัด 15นาที เนื่องจากบ้านเค้าอยู่ไกล เอิ่มแทนที่ตัวเองจะออกเร็วกว่าเวลา 15นาที แต่มาบอกให้พวกเรารอ 55555 แต่เพื่อความสนุก ไม่เป็นไรจ้าาาาา																															
 
						
เสียมราฐ 4 คืน 5 วัน กับประสบการณ์ส่วนแย่
ส่วนแย่ที่ว่ามานี้ก็คือ "รถ"
แน่นอนว่าเพื่อนๆท่านใดที่ไปเที่ยวเมืองนี้ต้องเช่าเหมารถ พร้อมคนขับ ไม่ว่าจะเป็นรถตุ๊ก ตุ๊ก รถแท็กซี่ หรือ รถตู้
เราได้รับคำแนะนำจากเพื่อนสนิทคนหนึ่งว่า มีพี่คนขับรถคนหนึ่ง แกขับรถแคมรี่ แกขับดีมาก แนะนำเลยว่าสุดยอด แกพาไปเที่ยวแนะนำได้หลายที่ เวลาเหลือแกก็จะพาไปเที่ยวที่อื่นๆอีกจนหมดเวลา และที่สำคัญแกพูดไทยได้ชัดมาก อังกฤษก็เป๊ะ แต่แกไม่มีบัตรไกด์นะ ขับรถอย่างเดียว
เราเดินทางกัน 5คน ซึ่งมีเรา / สามี / เพื่อนหญิง 2คน / และพ่อของเพื่อน เราจึงยกหน้าที่ให้เพื่อนคนหนึ่งเป็นคนติดต่อกับคนขับรถ
เนื่องจากว่าทริปของเราคือ 4คืน 5วัน เราจึงตกลงจ้างรถพร้อมคนขับ เป็นเวลา 3วัน ด้วยราคา 150 ยูเอสดอลล่าร์โดยที่เค้าเสนอว่าจะมารับ-ส่งสนามบินให้ เป็น Free Service และจะเปลี่ยนรถเป็นรถตู้ให้ เพื่อพวกเรา 5คนจะได้นั่งสบาย แต่ว่าทาง รร. ที่เราเข้าพักนั้นมีบริการรถรับจากสนามบินฟรี เราจึงไม่ได้ให้รถที่เช่าไว้มารับ และใช้บริการของเค้าแค่ 3วัน เว้นวันที่มาถึงและวันกลับไว้
พวกเราเห็นว่าภาษาไทยของแกชัดเจนมาก พิมพ์ถูกต้องทุกคำ โดยที่เราเป็นคนไทยแท้ๆยังรู้สึกแย่เลยที่พิมพ์ไม่ถูก เราเลยวางใจกันเรื่องคนขับรถว่าไว้ใจได้และไปเตรียมเรื่องอื่นต่อ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จนถึงวันที่เดินทาง เรามาถึงสนามบินจึงมองหาป้ายที่คนของ รร. มายืนรอ เป็นพนักงาน 2คน และเดินตามเค้าออกไปที่รถ ซึ่งเค้าจอดรถไว้นอกสนามบิน เราคิดว่าเพื่อประหยัดค่าจอด ระหว่างทางเดินไปที่รถ (ระยะทาง 150-200 เมตร) พนักงานได้สอบถามว่าเราอยู่ที่นี่กี่วัน และจะไปเที่ยวนครวัดกี่วัน ด้วยความที่ว่าเราคิดว่าเค้าแค่สอบถามตามมารยาทของพนักงาน รร. เราจึงบอกข้อมูลเค้าไปว่าได้จ้างรถไว้เรียบร้อยแล้ว พนักงานท่านนั่นสีหน้าเปลี่ยนทันทีและได้ตอบเรามาว่า "ถ้าพวกเธอจ้างรถไว้แล้ว ทำไมถึงไม่ให้รถที่พวกเธอจ้างมารับ" พวกเรา งง และหันมองหน้ากันแต่ก็ไม่ได้ตอบอะไร เดินมาถึงรถ เป็นรถตุ๊ก ตุ๊ก 2คัน ซึ่งเรานั่งกับสามี 1คัน ซึ่งเป็นคันที่ชักสีหน้าใส่พวกเราเมื่อกี้ เพื่อน และพ่อเพื่อน 3คนนั่งอีกคัน
พนง. ท่านนั้นเริ่มเปิดประเด็นว่าให้พวกเราประมาณว่า มีรถแล้วทำไมถึงมาใช้บริการฟรีของรร. เค้าไม่ได้ว่างนักหรอกนะ เค้ามารับเค้าก็ต้องได้งานวันต่อๆไป ทำแบบนี้เค้าเสียเวลารู้มั้ย บลาๆๆๆ ซึ่งเราก็ถามเค้ากลับไปว่า นี่เป็นบริการจากทาง รร. รึเปล่า ถ้าใช่โปรดพาเราไปส่งที่ รร. ด้วย ซึ่งเค้าก็ขับไป บ่นไปด้วยประโยคเดิมๆ ตลอดระยะทาง 7-8 กม. เราและแฟนก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร และคิดกันว่ายังไง พนง. คนนี้ไม่ได้ทิปจากเราแน่นอน
เมื่อมาถึง รร. เราก็ได้แจ้งกับทาง รร. ว่าพนง. คนขับรถของทาง รร. เค้าพูดกับเราแบบนี้นะ ทาง รร. บอกว่าจะจัดการให้และเค้าไม่ควรจะมาพูดแบบนี้ ซึ่งไม่มีใครเคยพูดแบบนี้ด้วย
จบวันแรกของเราด้วยประสบการณ์เรื่องรถแย่ๆ และคิดว่าพรุ่งนี้มันต้องดีกว่า เพราะมันจะเป็นรถที่เราได้เตรียมการไว้ก่อนมาและเพื่อนแนะนำ ย้ำหนักหนา ว่าดี (เพื่อนยังบอกให้เราซื้อชุดฟุตบอลไปฝากเค้าด้วย เค้าจะดีใจมาก เราก็เตรียมชุดทีมลิเวอร์พูไปเลยจ้าาาา)
เช้ามาตามเวลานัด 8โมงเช้า พวกเรานัดรวมกัน 7โมงเพื่อมาทานอาหารเช้า ชะเง้อแล้ว ชะเง้ออีก ก็ยังไม่พบผู้ชายหน้าตาแบบที่นัดไว้ สักพักก็มีรถตู้มาจอดหน้า รร. ด้วยความที่เพื่อนเคยบอกไว้ว่าคนขับรถคนนี้เค้าไปเรียนที่ จ.ศรีสะเกษมา ประจวบเหมาะกับคุณพ่อของเพื่อนเป็นคนอีสาน เราก็เลยคิดกันเองว่าพ่อคงจะได้คุยกับคนขับรถอย่างสนุกสนานแน่นอน
พ่อของเพื่อนเป็นคนทักทายคนขับรถก่อนว่า คุณย. ใช่มั้ย คนขับรถพยักหน้าตอบ คุณพ่อถามต่อว่าไปเรียนที่ศรีสะเกษมาหรอ หนุ่มคนนั้นไม่ตอบ ประหนึ่งไม่ได้ยินที่พ่อถาม เราที่เหลือทั้งหมดต่างมองหน้ากันด้วยความไม่แน่ใจ เนื่องจากว่าหน้าตาของหนุ่มคนนั้นมันแตกต่างจากคุณย. คนในรูปที่ติดต่อกันมาโดยตลอด
เราจึงถามย้ำกับพ่อหนุ่มคนนั้นว่า พี่ย. ใช่มั้ยคะ คำตอบที่ได้คือ Yes, I'm Pee Y.'s friend. เกิดการสตั้นกันไปคนละ 3วิ เนื่องจากเกิดการเปลี่ยนคนขับกันโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ต่างคนก็ต่างงงแต่ก็รีบขึ้นรถกันเนื่องจากจะเสียแผนที่วางกันไว้ เราจึงขอให้พ่อหนุ่มคนนั้นต่อโทรศัพท์ไปหาคุณพี่ย. เพื่อถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้คำตอบโดยรวมประมาณว่า ไม่ต้องห่วงครับ คิดราคาเท่ากัน (3วัน 150ยูเอสดอลลาร์) ซึ่งนั่นไม่ใช่ประเด็นที่ถาม แต่ก็ต้องวางไปเนื่องจากสัญญาณไม่ดี อ้อแล้วคนขับคนนี้พูดไทยไม่ได้ด้วย คุณพ่อซึ่งตั้งใจมาแลกเปลี่ยนภาษากับคนขับถึงกับนั่งเงียบอยู่หน้ารถ
ขับออกมาได้สักพัก เห็นตำรวจจราจร ตรวจจับ หมวกกันน็อค และเข็มขัดนิรภัย คนขับรีบลุกลี้ ลุกลนคาดเข็มขัด ซึ่งคุณพ่อซึ่งนั่งอยู่ข้างๆไม่แน่ใจว่าต้องคาดมั้ย พอเห็นคนขับคาด พ่อจึงคาดตาม แต่ไม่ทันการ พวกเราโดนตำรวจโบกเข้าข้างทาง พวกเราฟังไม่ออกหรอก แต่ด้วยท่าทางแล้วคุณตำรวจก็ชี้ๆมาทางคุณพ่อ เราจึงพอเดากันได้ว่าโดนโบกเรื่องจากคุณพ่อไม่ได้คาดเข็มขัด คุณคนขับรถเถียงกับตำรวจอยู่ครู่ใหญ่ พยายามจะขับฝ่าไปหลายที แต่คุณตำรวจก็ทำหน้าเข้มและไม่ยอมขยับ สุดท้ายคนขับรถต้องยอมจำนนลงรถไปเสียค่าปรับ และกลับมาขับรถด้วยอาการหัวเสีย สตั้นกันไปอีกคนละ 3วิ
แต่วันนั้นก็ไปเที่ยวตามแผนปกติ มีหงุดหงิดกับพี่เค้าบ้างเรื่องเล็กน้อย ไม่เก็บมาเป็นอารมณ์ จนหมดโปรแกรมและมาส่งถึง รร. โดยสวัสดิภาพ โดยนัดกันใหม่วันรุ่งขึ้นเวลา ตี5 เนื่องจากเราต้องการไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่นครวัด
หลังจากเรากลับมาถึง รร. เราก็คุยกันว่าเราควรที่จะมีไกด์เนื่องจากสถานที่เที่ยวต่างๆพวกเราได้ไปเยี่ยมชมนั้น เราไม่สามารถเข้าถึงได้เลยเนื่องจากเราไม่รู้ประวัติ จ้างไกด์ไปด้วยจะได้เข้าใจได้มากขึ้น รถตู้ของเราก็ยังมีที่นั่งมากพอสำหรับไกด์ จึงให้รร.จัดหาไกด์พูดไทยให้ 1คน
คืนนั้นมีข้อความจากพี่ย. มาหาพวกเราว่า คนขับรถจะมาถึงช้ากว่าเวลานัด 15นาที เนื่องจากบ้านเค้าอยู่ไกล เอิ่มแทนที่ตัวเองจะออกเร็วกว่าเวลา 15นาที แต่มาบอกให้พวกเรารอ 55555 แต่เพื่อความสนุก ไม่เป็นไรจ้าาาาา