‘ปู’ ขึ้นศาลสืบพยานข้าวนัด 6 ฝากคำถามถึง ปชช.ปมร่าง รธน. เรื่องสิทธิเสรีภาพ - ส.ว.สรรหา - อำนาจศาล รธน. โดยเทียบกับ รธน.ฉบับที่ผ่านมา พร้อมขอ กรธ.-คสช. ระบุให้ชัดหลังผลประชามติออกจะเดินหน้าอย่างไรต่อ เพื่อให้ ปชช.ประกอบการตัดสินใจ
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 1 เมษายน ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ เดินทางมาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อร่วมฟังการสืบพยานฝ่ายโจทก์เป็นครั้งที่ 6 ในคดีโครงการรับจำนำข้าว กรณีปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตในโครงการ โดยมีบรรดาแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) อดีต ส.ส.พรรค พท. และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) อาทิ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรค นายชูศักดิ์ ศิรินิล หัวหน้าคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรค นายชวลิต วิชยสุทธิ์ รักษาการรองเลขาธิการพรรค น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศีรษะ อดีต ส.ส.สุรินทร์ รวมถึงมวลชนเข้าให้กำลังใจจำนวนมาก ทั้งนี้ ทันทีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์มาถึงมวลชนต่างตะโกนให้กำลังใจ “สู้ๆ” “รักยิ่งลักษณ์” ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 จำนวน 1 กองร้อย อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปรับรูปแบบการรักษาความปลอดภัย เดิมจะนำแผงกั้นมาล้อมในขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ให้สัมภาษณ์ แต่เปลี่ยนรูปแบบเป็นให้เจ้าหน้าที่ตำรวจล้อมในขณะที่มีการสัมภาษณ์แทน เพื่อเป็นการให้เกียรติศาล เนื่องจากที่ผ่านมาสื่อมวลชนมักกระโดดผ่านแผงกั้นเข้าไปสัมภาษณ์
น.ส.ยิ่งลักษณ์ให้สัมภาษณ์ก่อนการสืบพยาน ถึงเรื่องรัฐธรรมนูญว่า แทนที่จะวิเคราะห์ขออนุญาตฝากข้อคิดหรือคำถามทิ้งไว้มากกว่า เพราะจริงๆ แล้วอยากให้พี่น้องประชาชนได้เห็นร่างนี้และใช้ดุลพินิจที่จะพิจารณา ส่วนตัวตนเองเห็นว่าร่างรัฐธรรมนูญก็อยากจะมองเป็นการตั้งคำถามมากกว่า โดยอยากให้ประชาชนมองว่าสิทธิของตนเองนั้นดีขึ้นหรือคงเดิม หรือลดน้อยถอนลงอย่างไร ประชาชนอยู่ตรงไหนแล้วพยายามเทียบกับรัฐธรรมนูญฉบับเก่า ต่อมาคือการที่มีการเปลี่ยนระบบ ส.ว.จากการเลือกตั้ง มาเป็นระบบแต่งตั้ง ว่าระบบนี้มีข้อดีข้อเสียอย่างไร จะมีการให้ ส.ว.ที่มาจากการแต่งตั้งนั้นมาจากคนกลุ่มเดียวหรือไม่ ก็อยากให้พิจารณาดู เพราะ ส.ว.เป็นส่วนสำคัญที่จะขับเคลื่อนกฎหมาย และมาตรการต่างๆ ให้เกิดความมั่นใจ นี่ถือเป็นสิ่งที่ขับเคลื่อนรัฐธรรมนูญไปข้างหน้า เราต้องมั่นใจว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจและแก้ปัญหาต่างๆ ไปในทิศทางข้างหน้าได้ มีความคล่องตัว นอกจากนี้ เรื่องการให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญที่จะเข้ามาตรวจสอบสภาผู้แทนราษฎร รวมถึง ครม. ประชาชนมีความคิดเห็นอย่างไร เป็นไปตามกลไกของระบอบประชาธิปไตยหรือไม่ สุดท้ายคืออยากขอฝากทาง กรธ.และ คสช. เรื่องการพูดถึงทิศทางที่ชัดเจนหลังจากผลประชามติ ไม่ว่าผลจะออกมาว่ารับร่างหรือไม่รับร่างแต่ก็เชื่อว่าประชาชนคงอยากทราบว่า หลังจากนั้นทิศทางขับเคลื่อนไปสู่การเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร มีการดำเนินการให้เสร็จสิ้นโดยเร็วตามโรดแมปที่ให้สัญญาไว้กับประชาชนอย่างไร เพื่อที่จะได้ไม่เป็นเงื่อนไขในการที่ประชาชนจะพิจารณาเพียงแต่เนื้อหาในร่างรัฐธรรมนูญเพียงอย่างเดียว แต่มองว่าเป็นประโยชน์ต่อประชาชนคนไทยหรือไม่
เมื่อถามว่า จะเดินหน้าอย่างไรต่อหลังจากที่พรรคเพื่อไทย (พท.) ได้ออกแถลงการณ์ว่าไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ตนเชื่อว่าไม่ใช่เพียงแค่พรรค พท. คงทุกพรรคการเมือง ทุกกลุ่มที่จะใช้สิทธิของตนเองอย่างเต็มที่ ตามกฎหมาย หรือตามที่ระเบียบที่ กกต.ได้กำหนด เราก็ได้ใช้โอกาสนี้อย่างเต็มที่ในการที่จะอธิบายให้พี่น้องประชาชนเพื่อใช้ประกอบวิจารณญาณในการตัดสินลงคะแนนโหวตรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ
เมื่อถามว่า สุดท้ายอาจโดนข้อกฎหมายมาบังคับให้ไม่สามารถดำเนินการได้ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ก็อยากให้ทุกฝ่ายรณรงค์ภายใต้กรอบกติกาของกฎหมาย แต่ที่สำคัญขอให้เปิดโอกาสที่จะให้ทุกฝ่าย เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลทุกๆ ด้าน เพราะถือว่าเป็นก้าวเปลี่ยนที่สำคัญของประชาชน ถ้าประชาชนไม่ได้รับรู้ทั้งข้อดีและข้อเสีย และความเห็นของทุกฝ่ายในทุกๆ ด้าน การตัดสินใจจะไม่ใช่การตัดสินใจอย่างสมบูรณ์แบบ
เมื่อถามว่า ถ้าร่างรับธรรมนูญไม่ผ่าน จะเสนอร่างรัฐธรรมนูญฉบับไหนมาใช้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรค พท. กล่าวว่า พรรค พท.เคยเสนอรัฐธรรมนูญปี 40 เพราะเคยผ่านความเห็นชอบของประชาชนทั้งประเทศ ถ้าคิดว่ามีปัญหาตรงไหนก็หาทางปรับปรุงแก้ไข อย่างไรก็ตาม ที่จะสามารถทำให้ประเทศไม่หยุดชะงัก เดินหน้าได้ เพื่อให้มีรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศ สามารถใช้กระบวนการให้ประชาชนมีส่วนร่วมเข้ามาแก้ปัญหา หรือแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประโยชน์ที่สุดได้
JJNY : ยิ่งลักษณ์ขึ้นศาลสืบพยานข้าว แนะปชช. จับตา รธน.ใหม่ ปมสิทธิ - เสรีภาพ - ส.ว.แต่งตั้ง
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 1 เมษายน ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ เดินทางมาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อร่วมฟังการสืบพยานฝ่ายโจทก์เป็นครั้งที่ 6 ในคดีโครงการรับจำนำข้าว กรณีปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตในโครงการ โดยมีบรรดาแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) อดีต ส.ส.พรรค พท. และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) อาทิ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรค นายชูศักดิ์ ศิรินิล หัวหน้าคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรค นายชวลิต วิชยสุทธิ์ รักษาการรองเลขาธิการพรรค น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศีรษะ อดีต ส.ส.สุรินทร์ รวมถึงมวลชนเข้าให้กำลังใจจำนวนมาก ทั้งนี้ ทันทีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์มาถึงมวลชนต่างตะโกนให้กำลังใจ “สู้ๆ” “รักยิ่งลักษณ์” ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 จำนวน 1 กองร้อย อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปรับรูปแบบการรักษาความปลอดภัย เดิมจะนำแผงกั้นมาล้อมในขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ให้สัมภาษณ์ แต่เปลี่ยนรูปแบบเป็นให้เจ้าหน้าที่ตำรวจล้อมในขณะที่มีการสัมภาษณ์แทน เพื่อเป็นการให้เกียรติศาล เนื่องจากที่ผ่านมาสื่อมวลชนมักกระโดดผ่านแผงกั้นเข้าไปสัมภาษณ์
น.ส.ยิ่งลักษณ์ให้สัมภาษณ์ก่อนการสืบพยาน ถึงเรื่องรัฐธรรมนูญว่า แทนที่จะวิเคราะห์ขออนุญาตฝากข้อคิดหรือคำถามทิ้งไว้มากกว่า เพราะจริงๆ แล้วอยากให้พี่น้องประชาชนได้เห็นร่างนี้และใช้ดุลพินิจที่จะพิจารณา ส่วนตัวตนเองเห็นว่าร่างรัฐธรรมนูญก็อยากจะมองเป็นการตั้งคำถามมากกว่า โดยอยากให้ประชาชนมองว่าสิทธิของตนเองนั้นดีขึ้นหรือคงเดิม หรือลดน้อยถอนลงอย่างไร ประชาชนอยู่ตรงไหนแล้วพยายามเทียบกับรัฐธรรมนูญฉบับเก่า ต่อมาคือการที่มีการเปลี่ยนระบบ ส.ว.จากการเลือกตั้ง มาเป็นระบบแต่งตั้ง ว่าระบบนี้มีข้อดีข้อเสียอย่างไร จะมีการให้ ส.ว.ที่มาจากการแต่งตั้งนั้นมาจากคนกลุ่มเดียวหรือไม่ ก็อยากให้พิจารณาดู เพราะ ส.ว.เป็นส่วนสำคัญที่จะขับเคลื่อนกฎหมาย และมาตรการต่างๆ ให้เกิดความมั่นใจ นี่ถือเป็นสิ่งที่ขับเคลื่อนรัฐธรรมนูญไปข้างหน้า เราต้องมั่นใจว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจและแก้ปัญหาต่างๆ ไปในทิศทางข้างหน้าได้ มีความคล่องตัว นอกจากนี้ เรื่องการให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญที่จะเข้ามาตรวจสอบสภาผู้แทนราษฎร รวมถึง ครม. ประชาชนมีความคิดเห็นอย่างไร เป็นไปตามกลไกของระบอบประชาธิปไตยหรือไม่ สุดท้ายคืออยากขอฝากทาง กรธ.และ คสช. เรื่องการพูดถึงทิศทางที่ชัดเจนหลังจากผลประชามติ ไม่ว่าผลจะออกมาว่ารับร่างหรือไม่รับร่างแต่ก็เชื่อว่าประชาชนคงอยากทราบว่า หลังจากนั้นทิศทางขับเคลื่อนไปสู่การเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร มีการดำเนินการให้เสร็จสิ้นโดยเร็วตามโรดแมปที่ให้สัญญาไว้กับประชาชนอย่างไร เพื่อที่จะได้ไม่เป็นเงื่อนไขในการที่ประชาชนจะพิจารณาเพียงแต่เนื้อหาในร่างรัฐธรรมนูญเพียงอย่างเดียว แต่มองว่าเป็นประโยชน์ต่อประชาชนคนไทยหรือไม่
เมื่อถามว่า จะเดินหน้าอย่างไรต่อหลังจากที่พรรคเพื่อไทย (พท.) ได้ออกแถลงการณ์ว่าไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ตนเชื่อว่าไม่ใช่เพียงแค่พรรค พท. คงทุกพรรคการเมือง ทุกกลุ่มที่จะใช้สิทธิของตนเองอย่างเต็มที่ ตามกฎหมาย หรือตามที่ระเบียบที่ กกต.ได้กำหนด เราก็ได้ใช้โอกาสนี้อย่างเต็มที่ในการที่จะอธิบายให้พี่น้องประชาชนเพื่อใช้ประกอบวิจารณญาณในการตัดสินลงคะแนนโหวตรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ
เมื่อถามว่า สุดท้ายอาจโดนข้อกฎหมายมาบังคับให้ไม่สามารถดำเนินการได้ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ก็อยากให้ทุกฝ่ายรณรงค์ภายใต้กรอบกติกาของกฎหมาย แต่ที่สำคัญขอให้เปิดโอกาสที่จะให้ทุกฝ่าย เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลทุกๆ ด้าน เพราะถือว่าเป็นก้าวเปลี่ยนที่สำคัญของประชาชน ถ้าประชาชนไม่ได้รับรู้ทั้งข้อดีและข้อเสีย และความเห็นของทุกฝ่ายในทุกๆ ด้าน การตัดสินใจจะไม่ใช่การตัดสินใจอย่างสมบูรณ์แบบ
เมื่อถามว่า ถ้าร่างรับธรรมนูญไม่ผ่าน จะเสนอร่างรัฐธรรมนูญฉบับไหนมาใช้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรค พท. กล่าวว่า พรรค พท.เคยเสนอรัฐธรรมนูญปี 40 เพราะเคยผ่านความเห็นชอบของประชาชนทั้งประเทศ ถ้าคิดว่ามีปัญหาตรงไหนก็หาทางปรับปรุงแก้ไข อย่างไรก็ตาม ที่จะสามารถทำให้ประเทศไม่หยุดชะงัก เดินหน้าได้ เพื่อให้มีรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศ สามารถใช้กระบวนการให้ประชาชนมีส่วนร่วมเข้ามาแก้ปัญหา หรือแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประโยชน์ที่สุดได้