**รัฐธรรมนูญ กับ การสร้างบ้าน: เลือกรัฐธรรมนูญแบบไหนก็ได้บ้านแบบนั้น** (ชุนเทียน)

หลังจากที่อ่านมาทั้งหมด ขอแสดงความแปลกใจ กับคุณ 2318620 ถึงการใช้ความเข้าใจของตัวเอง ให้ คห. และโต้แย้งกับ เนื้อหารวมถึงข้อเปรียบเทียบของ จขกท. ครับ

จาก คห.๒ เข้าใจง่ายๆ ว่าเป็นการชวนเชื่อเพื่อให้ ไปลงประชามติรับ ร่าง.รธน ด้วยเหตุผลว่า เป็น รธน.ฉบับปราปโกง ถูกใหมครับ

ถ้าเป็นความจริง สมควรใหมครับ ที่คุณเองควรเอาหลักฐานอ้างอิง ว่าโกงอะไร จากใคร และปราปอย่างไร จากเนื้อหาใน ร่าง รธน. เพราะตามที่ผมได้ทบทวนจากความเป็นจริงดูแล้ว ยังหาไม่พบ ครับ
เอาแค่ระดับการตรวจสอบความโปร่งสัยต่อหน้าที่ฯ กับบุคคลากรใน รธน.ทั้งหลาย ที่มาด้วยวิธีแต่งตั้ง อย่างเช่น สว. และองค์กรอิสระ เป็นต้น ครับ

จาก คห.๑๒ ที่แสดงถึง รธน. ม.๑๔๔ พิจารณาร่าง พรบ.งบประมาณ    

การเอาเนื้อหาของ ในลักษณะของกฏหมายประกอบ (กฎหมายลูก) มาผสมรวมไว้ในกฎหมายหลัก (กฎหมายแม่) ไม่ได้ทำให้เกิดกรณีสมัตรภาพปราปป้องหรือประสิทธิภาพของการบังคับใช้ ครับ
การเสนอแปรญัตติเพื่อแก้ใขเพิ่มเติมรายการที่ตามปรกติเป็นสิทธิอำนาจของรัฐสภาโดยมีเหตุผลที่มาจากความจำเป็นหรือสถานะการณ์บังคับ อย่างเช่น ภัยแล้งในขณะนี้เป็นต้น ถ้าเป็นสิ่งต้องห้ามย่อมหมายถึง ปชช. ต้องรับผิดชอบด้วยตัวเองใช่ใหม ครับ การที่ ปปช. มีการสอบสวนในทางลับ อะไรครับ ที่จะสามารถให้ความโปร่งสัยกับคำวินิจฉัย ว่ามีหรือไม่มีมูล และเป็นไปด้วยความยุติธรรม ในกรณีนั้น

จาก คห.๕๒ ที่แสดงถึง รธน. ม.๑๕๘, ๑๕๙ รวมทั้ง ม.๘๘

บุคคลากรผู้ร่าง รธน. คงคลาดเคลื่อนกับความหมายที่ว่า “อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนทั้งหลาย และพระมหากษัตริย์ทรงใช้อำนาจนั้นทางรัฐสภา คณะรัฐมนตรี และศาล...” ทำให้ ม. ที่นำมากล่าวอ้าง ขัดและแย้งในตัวเอง เป็นพื้นฐาน เพราะ ม.๑๕๘ หมายถึง พระราชอำนาจ แต่มิใช่อำนาจอธิปไตย ตามที่ รธน. บัญญัติเท่านั้น อันก็เป็นข้อพิสูจน์ให้เห็นได้ว่า ม. ๑๕๘ ขัดและแย้งกับ ม.๑๕๙ อย่างสิ้นเชิง ครับ

ทั้งนี้และทั้งนั้น ไม่ใช่เหตุผล หรือลักษณะ คห. ที่มีความเกี่ยวข้องหรือผูกพันอยู่กับประเด็น ของ จขกท. และเหตุผลสนับสนุนกับ คห.๒ ของคุณเอง สมควรอย่างไร แต่ใหนกับ คห.อื่นๆ ของคุณ ที่พยายาม ชีแน๊ะกับ จขกท. ในฐานะผู้มีส่วนรู้ทราบคนหนึ่ง เป็นเหตุผลที่ผมได้ชี้ให้เห็น ใน คห. นี้ ก็เท่านี้นั่นเอง ครับ

ขอบคุณ WM ที่เปิดโอกาสให้เพื่อนสมาชิกได้กล่าวถึงรัฐธรรมนูญที่กำลังจะลงประชามติฉบับนี้ครับ  ยืนยันตามเจ้าของกระทู้ว่ามิได้มีวัตถุประสงค์ชี้นำหรือข้องแวะกับสิ่งผิดกม.ใดๆ ทั้งสิ้น และมีเจตนาที่ดี เป็นเสียงสะท้อนเล็กๆ ซึ่งหลายครั้งเสียงเหล่านี้ก็เป็นประโยชน์ต่อรัฐบาลด้วย

ฐานรากเป็นสิ่งที่สำคัญจริงๆ เวลาเราจะสร้างบ้านสร้างตึกโครงสร้างฐานต้องแข็งแรง-มั่นคง และมีการจับระดับน้ำเพื่อให้ได้ฐานที่ตรงที่สุด เวลาเราจะก่ออะไรต่อขึ้นไปก็จะได้สิ่งก่อสร้างที่ไม่เอียงและเสี่ยงต่อการถล่ม รถยนต์ก็ต้องมีการตั้งศูนย์ถ่วงล้อเพื่อให้บังคับรถได้ง่ายขึ้นเพื่อลดความเสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สิน หรือแม้แต่อุปกรณ์ไฟฟ้าเช่นแอร์ พัดลม เครื่องซักผ้า ยันกังหันกำเนิดไฟฟ้า ทุกอย่างต้องมีการทำ  alignment¢ering เพื่อการใช้งานจริงจะได้ไม่เกิดการสั่นเป็นเจ้าเข้า ในเวลาที่ shutdown อยู่เราจะมองภาพลักษณ์ของสิ่งเหล่านั้นว่าไม่มีปัญหา แต่เวลาใช้งานจริงก็จะเกิดปัญหาหากไม่มีการเตรียมฐานให้ดีก่อนนำมาใช้งานจริง

รัฐธรรมนูญถือว่าเป็นฐานรากที่สำคัญของระบอบประชาธิปไตย ฉะนั้นแล้วหากรัฐธรรมนูญหากมีปัญหาในการนำมาใช้จริงและซ่อนอะไรต่างๆไว้มากมายภายในนั้นภายใต้เปลือกนอกที่ตีตราไว้ว่าประชาธิปไตย จึงไม่เป็นผลดีแน่นอน อยากจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพเช่นทองชุบเป็นต้น แม้ภายนอกจะดูสวยงามแต่ข้างในไม่ใช่ทอง จะนำไปขายร้านทองก็ไม่รับซื้อ หากเปรียบเทียบกับทองจริงแม้จะไม่สวยสดแต่เอาไปชั่งขายก็ได้ราคาเท่ากับทองใหม่หรือน้อยกว่ากันเล็กน้อย

ประเทศชาติ และประชาชน รอและให้โอกาสมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้วครับในการรอให้ประเทศชาติกลับคืนสู่ระบอบประชาธิปไตยอีกครั้งแต่ต้องเป็นประชาธิปไตยจริงๆ ไม่มีอะไรซ่อนแอบดังกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมจริงๆ หากท่านทำได้นี่คือเกียรติประวัติครั้งสำคัญของคณะผู้ทำงานทั้งหมด และประชาชนได้ประโยชน์ ประเทศชาติมั่นคง ยั่งยืน สมกับความคาดหวังของประชาชน

เรายังคงมีบทเรียนที่สำคัญจากรัฐธรรมนูญปี 50 เช่นการให้อำนาจแก่องค์กรอิสระมากเกินไปที่ชี้เป็นชี้ตายให้กับอนาคตรัฐบาลหรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ หากองค์กรอิสระเหล่านั้นยังคงมาตรฐานเดิมและมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในการเลือกปฏิบัติ จนเป็นที่มาของคำว่าสองมาตรฐานดังเดิม แน่นอนครับเสียงของประชาชนที่เลือกรัฐบาลก็จะยังคงถูกแขวนอยู่บนเส้นด้ายเหมือนเดิม อำนาจสูงสุดกลับไม่ขึ้นกับประชาชน กลับขึ้นอยู่กับคนแค่ไม่กี่คนภายใต้องค์กรที่ถูกมองว่าเอียง แล้วประเทศชาติจะมีเสถียรภาพได้อย่างไร  อีกอย่างก็เช่นเรื่อง สว.สรรหา เป็นต้น เมื่อครั้งยังมีกลุ่ม 40 สว. ที่มี สว.สรรหาเป็นส่วนใหญ่ ยังมีข้อครหาเกี่ยวกับการทำงานเช่นกันที่เตะถ่วงทุกอย่างเพื่อไม่ให้รัฐบาลที่ตนเองไม่ชอบทำงานได้ หรือแก้ไข รธน ที่เคยบอกว่าเลือกไปก่อนแล้วค่อยแก้ทีหลังได้  ครั้งนี้มี สว สรรหาทั้งหมดจากคณะเดียวตามมาตรา 169 แล้วเราจะเชื่อมั่นในมาตรฐานการทำงานของกลุ่ม สว. เหล่านั้นได้อย่างไร

ทั้งนี้ทั้งนั้น โดยความเห็นส่วนตัวผมเองไม่มองแค่วันนี้ ในทางกลับกันหากในอนาคต มีการปรับเปลี่ยนขั้วอำนาจทั้งหมด แล้วทั้งองค์กรอิสระและเหล่า สว. จากที่เคยเอียงขวากลับมาเอียงซ้ายบ้าง ก็ไม่เป็นสิ่งดีสำหรับประเทศชาติเช่นเดียวกัน ฉะนั้นแล้วจะดีไหมหากประชาชนได้มีส่วนร่วมในการเลือก สว. เข้าไปทำหน้าที่ แทนการสรรหาจากกลุ่มคนคณะเดียว

วันนี้เรามีโอกาสแก้ไขข้อบกพร่องและรัฐธรรมนูญที่เคยสร้างปัญหาให้กับการเมืองไทย ผมจึงอยากที่จะได้รัฐธรรมนูญที่แก้ไขปัญหาได้จริงและยั่งยืนจริงๆให้สมกับเวลาที่เสียไป ประเทศหยุดนิ่งมาเป็นเวลาหนึ่งแล้ว หากเราไม่ได้อะไรเลยก็ไม่ต่างอะไรไปจากเอาเวลาเอางบประมาณของประเทศชาติไปทิ้งเหว  สำหรับคนที่เห็นด้วยกับการรัฐประหารที่ผ่านมาความรู้สึกอาจไม่เท่าไหร่ แต่สำหรับคนที่ไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหารแล้วยอมอดทนรอเพื่อที่จะมีวันนี้ กลุ่มคนเหล่านี้เขาก็คือประชาชนไทยเหมือนกันและเป็นที่น่าเห็นใจอย่างมาก

ประชาธิปไตยแบบทองชุบไม่สามารถลวงตาเหล่านานาชาติได้นานนัก และไม่สามารถให้กลุ่มประเทศประชาธิปไตยด้วยกันยอมรับด้วยความสนิทใจ ฉะนั้นแล้วจะมีประโยชน์อันใดหากเราจะเลือกที่จะเป็นอย่างนั้น วันนี้เรามีโอกาศที่จะทำให้เป็นประชาธิปไตยแท้ๆได้ เราทำเถอะครับ อีกแค่ไม่กี่ปีเราๆท่านๆที่อยู่ตรงนี้ก็คงล้มหายตายจากกันไปแต่ประเทศของเราลูกหลานของเราก็จะยังคงอยู่ แต่พวกเขาเหล่านั้นจะอยู่กันดีหรือไม่ดี พวกเราก็เปรียบเสมือนฐานรากของพวกเขาเหล่านั้นเช่นกัน

บางครั้งผู้คนที่ยืนอยู่ฝั่งประชาธิปไตยถูกตั้งข้อสงสัยว่ามีอุดมการณ์หรืออุดมกินกันแน่ วันนี้เรามีโอกาสที่จะพิสูจน์แล้ว ไม่อยากให้มองเห็นว่าประชาธิปไตยเปลือกนอกทองชุบ มันจะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น อาจจะดีขึ้นจริงในช่วงระยะแรก แล้วต่อไปเราก็จะกลับมายืนอยู่ในจุดที่ติดลบเช่นเดิมหรือแย่ลงกว่าเดิม

เคารพในสิทธิ์การตัดสินใจของทุกฝ่ายนะครับ แล้วเจอกันวันลงประชามติครับ

แผนแม่บทที่จะใช้ในการเดินทางไปสู่ความเจริญ การพัฒนา และความสงบสุขของคนในชาติ

หากพิกลพิการ  ไม่ตอบสนองคนส่วนใหญ่ในสังคมนั้นๆ  ก็ไม่น่าจะเป็นสิ่งที่เหมาะสมนัก

ที่จะยอมใช้สิ่งที่พิกลพิการไป  อันตรายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ไม่มีใครสามารถบอกได้

แต่หากทำแผนแม่บทกฏกติกาที่จะใช้ให้สมบูรณ์ รอเวลาอีกสักหน่อยก็น่าจะดี   ยอมกันแม้กระทั่ง

ปิดบ้านปิดเมืองถ่วงความเจริญของชาติ ยอมรับวิธีการวิบัติที่นานาอารยะประเทศทั้งโลกประนาม

เพื่อให้ได้ปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง  ยังไม่เห็นปฏิรูปอะไรเสร็จเป็นชิ้นเป็นอันสักอย่าง  แต่ก็อยากจะเลือกตั้งกันซะแล้ว

ใครจะรับก็เชิญเถอะเป็นสิทธิส่วนบุคคลของแต่ละคน  คนไม่รับเขาก็มีเหตุผลและเป็นสิทธิของเขาเช่นกัน

ซ่อนเงื่อนอะไรไว้หลายอย่างจริงๆอย่างที่เค้าว่าเช่นเรื่องอำนาจที่มาของ สว.อำนาจ สว.ที่สามารถแต่งตั้งถอดถอนองค์กรอิสระได้ แล้วมีผลที่จะให้คุณให้โทษกับกลุ่มการเมืองหรือคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง สุดท้ายแล้วปัญหาจะกลับมาเหมือนความขัดแย้งเหมือนเดิม อยากยุบพรรคยุบรัฐบาลตอนไหนก็ทำแล้วก็คงไม่พ้นวังวนเดิมที่มาก่อม็อบข้างถนนล้มรัฐบาล และก็จะมีฮีโร่ของพวกม็อบข้างถนนมายุบพรรคที่ชาวบ้านเค้าเลือกมาทำงานเพื่อยุติปัญหาประกาศชัยชนะไป แถมมาจากสรรหา 200 คน และอีก 50 คน มาจากการเลือกกันเองของแต่ละสาขาอาชีพด้วยดูจะหนักกว่าปี 50 เสียอีก ส่วนที่บอกว่าเลือกเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจไปก่อน เพื่อให้นักลงทุนมาลงเงินหากเค้าศึกษาดีๆเค้าก็ไม่กล้าเข้ามาหรอกเพราะอำนาจมันไม่ได้ถ่วงดุลที่ 3 อำนาจคือ นิติบัญญัติ บริหาร ตุลาการ แต่กลายเป็นอำนาจบริหารเหมือนลูกไก่ในกำมือแบบนี้ใครจะกล้ามาลงทุน บทเรียนจากปี 50 ก็มีก็น่าจะจำกันได้ ไม่ใช่ว่าสมองจะไม่จำอะไรพลาดแล้วพลาดอีก คราวก่อนลงเสาเองเอียงคราวนี้ก็ยังจะลงเอียงให้หนักกว่าเดิมอีกมันจะไม่ฉลาดซ้ำซากไปไหม

เจ็บแล้วจำคือคน..