ก่อนอื่นขอสวัสดีทุกคนนะครับที่เข้ามาในกระทู้ของผมเพราะผมเองพึ่งสมัครสมาชิกเพื่อมาเขียนกระทู้เพราะมีเรื่องอยากระบายและขอความเห็นจากทุกคน


เริ่มเลยนะครับ ผมคบกับแฟนตัวเองมาได้สามปีกว่าแล้วครับ ตลอดเวลาที่คบกันเราก็รักกันดีมาโดยตลอดมีเรื่องทะเลาะกันบ้างซึ่งผมคิดว่ามันเป็นธรรมดาของคู่รักทั่วไป แต่เหตุการณ์ที่มันทำให้ผมคิดมากและฝังใจมาจนถึงทุกวันนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณเกือบสองปีก่อนครับ ต้องบอกก่อนเลยว่าผมกับแฟนนั้นอยู่ด้วยกันมาโดยตลอดเค้าอายุน้อยกว่าผมประมาณสามสี่ปี่ได้ซึ่งอยู่ด้วยกันในที่นี้ผมหมายถึงเจอกันที่โรงเรียนทุกวันนะครับ ผมคบกับเค้ามาได้ประมาณปีกว่าก็ต้องมีเรื่องให้ห่างกันเพราะตัวผมเองต้องมาเรียนต่อมหาลัยในกรุงเทพ ซึ่งความห่างกันนี่แหละที่มันทำให้แฟนของผมเค้าแอบไปคุยกับรุ่นน้องคนนึงในโรงเรียน ตอนที่ผมจับได้มันเป็นเซ้นต์ล้วนๆเลยนะครับก็จี้คำถามเหมือนกับวิธีที่ไอด้าเคยทำกับแฟนเก่าของนางนั่นก็คือการทำเหมือนรู้พูดตามเซ้นต์จนเค้าคิดว่าเรารู้แล้วยอมรับออกมาเอง ปล.ไอด้าเคยสัมภาษณ์ออกรายการนึง ตลอดเวลาที่คบกันมาผมไม่เคยขอรหัสเฟสหรืออะไรก็ตามแต่ที่เป็นเรื่องส่วนตัวของเค้าเลยเพราะคิดมาตลอดว่าถึงยังไงเราก็ควรจะมีช่องว่างระหว่างกันและกันมีพื้นที่ส่วนตัวให้กับเค้า จนวันที่จับได้ผมก็ต้อนชนิดที่ว่าจนมุมแล้วก็ยอมรับออกมาเองว่าเค้าคุยนะและที่คุยเพราะว่าเค้าเหงามันไม่ชินเวลาที่ไปไหนมาไหนจะต้องไปคนเดียวเพราะผมไม่ได้อยู่ใกล้แล้ว แต่มันก็เป็นความรู้สึกที่แค่ชอบนะไม่ได้รักหรืออะไรมากกว่านั้นเลย อีกอย่างในช่วงที่เราคบกันใหม่ๆแฟนผมก็เคยชอบเด็กคนนี้มาทีนึงแล้วครับแต่ก็ไม่ได้อะไรเพราะเด็กคนนั้นไม่ได้ชอบเค้า จนผมแอบคิดว่าอ้อพอแฟนกูสวยขึ้นก็เลยเปลี่ยนใจมาชอบแล้วก็แอบคุยกันงั้นสินะ 55555555 ขอโทษนะครับที่มีคำไม่สุภาพ ตอนนั้นผมเสียใจมากและก็ไม่เคยคิดว่าจะเจออะไรแบบนี้เลยแต่ก่อนผมเป็นคนเจ้าชู้มากชอบใครก็คุยชอบใครก็จีบชนิดที่ว่าถึงไม่ติดก็ขอได้ลองก่อนแต่พอเจอเค้าผมก็เปลี่ยนนิสัยนั้นหมดเลยแต่กลับมาโดนทำแบบนี้ รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนโง่ที่รู้เป็นคนสุดท้ายถึงแม้ว่าจะจับได้ด้วยตัวเองก็ตาม เค้าก็โทรมาร้องไห้แล้วก็ขอโทษเรื่องที่เกิดขึ้นยอมรับว่าตัวเองผิดซึ่งผมก็ให้อภัยเค้า เพราะสำหรับตัวผมนะผมคิดว่าสำหรับผมไม่ว่าจะเป็นแฟนคนไหนก็ตามโอกาสผมมีให้แค่สามครั้งครับและนั่นถือเป็นครั้งแรกที่มันเกิดขึ้น แต่ก็นั่นแหละครับมันปฏิเสธไม่ได้ว่าถึงโอกาสเราจะมีให้ถึงสามครั้งแต่ความเชื่อใจมันให้ได้แค่คนละครั้งจริงๆ ผมกลายเป็นคิดมาก ขี้ระแวง ชอบจับผิดมาโดยตลอดตั้งแต่นั้นมา ซึ่งแฟนผมเองเค้าก็ยอมรับในความเปลี่ยนไปของผมและบอกกับผมว่ามันเป็นเพราะเค้าเองที่ทำให้เกิดเรื่อง เค้าพร้อมที่จะแก้ตัวแล้วก็ทำให้ผมกลับไปเชื่อใจเค้าเหมือนเดิมอีกครั้งนึง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นผมเองยอมรับว่าไม่ได้ลืมนะครับแต่ก็ไม่ได้นึกถึงหรือเอามาจับผิดอะไรแล้วเพราะเราเองก็เริ่มโตๆกันแล้ว แต่ก็พูดได้เต็มปากเลยว่าถ้ามีใครมาสะกิดผมจำได้ทุกอย่างครับแล้วก็จะร้องไห้ทุกครั้งที่นึกถึงเรื่องนี้มันเหมือนหนังเรื่องเดิมที่พร้อมกรอซ้ำในความคิดของตัวเองตลอดเวลาถ้าหากมีใครมาสะกิดให้นึกถึง แต่แฟนผมเค้าก็ทำได้จริงๆครับ เค้าไม่เคยคุยกับใครหรือทำอะไรลับหลังผมอีกเลยนับตั้งแต่วันนั้น จนเราคบกันมาจนถึงปีที่สามเหตุการณ์นี้มันก็เกิดขึ้นอีกครั้งครับ ผมไม่แน่ใจว่ามันเรียกว่าอะไรมันเรียกว่าการนอกใจหรือลับหลังเหมือนครั้งที่แล้วใช่หรือไม่ แต่เหตุการณ์มันเกิดขึ้นแบบนี้ครับ วันนั้นเป็นวันปัจฉิมของโรงเรียนผมแล้วแฟนของผมเค้าก็ได้เอาลูกโป่งไปให้กับเด็กคนนั้นและก็อย่างที่คิดครับมันคือเด็กคนเดิมกับที่เค้าเคยแอบปลื้มแล้วก็เคยแอบคุยนั่นแหละครับ ตอนแรกที่ผมถามเค้าไม่ยอมรับหรอกครับจนเซ้นต์และการจับผิดของผมนี่แหละมันทำให้เค้าจนมุมแล้วก็ยอมรับ ของที่เค้าให้กับเด็กคนนั้นเป็นลูกโป่งตัวอักษรที่เป็นชื่อของแฟนผมครับแล้วก็เป็นช่อลูกโป่งรูปหัวใจอีกหนึ่งช่อ ตอนที่เค้ายอมรับเสียงเค้าแผ่วมากเหมือนว่าจนมุมแล้วแหละผมถามขนาดนี้บอกลักษณะของที่เค้าให้ขนาดนี้แสดงว่าผมรู้แล้วแหละเค้าเลยยอมรับครับ คงไม่ต้องถามแหละครับว่าผมรู้สึกยังไงมันเสียใจมากกับเรื่องที่เกิดขึ้นมากจนบอกไม่ถูกเพราะด้วยความที่ไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นอีกแล้วกับคนเดิม เค้าบอกกับผมตรงๆว่าที่ให้เพราะเห็นว่าเคยคุยกันแล้วก็เห็นว่าไหนๆน้องเค้าก็จบไปแล้วเลยเอาให้ อีกอย่างลูกโป่งช่อนั้นก็ได้มาฟรีไม่ได้ซื้อให้เองแต่ที่ผมไม่เข้าใจและอยากจะเข้าใจมากคือทำไมต้องให้ลูกโป่งที่เป็นตัวอักษรชื่อตัวเอง ซึ่งผมได้เหตุผลจากเค้าเพียงแค่ว่าน้องเค้าจะได้รู้ว่าอันนี้แฟนผมเป็นคนเอาให้ มันเสียใจจนอธิบายยเป็นคำพูดไม่ถูกครับในจุดนี้ ผมเคยเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาเพื่อนผู้หญิงนะครับมันก็บอกกับผมว่าถ้าเป็นมัน มันก็คงจะให้แหละครับแต่คงไม่ให้อะไรแบบนี้เพราะมันเองก็คิดเหมือนผมว่าถ้าไม่ได้คิดอะไรแล้วมันมีเหตุผลอะไรที่ต้องให้ตัวอักษรชื่อตัวเอง มันค้างคาจนผมต้องไปปรึกษาอีกคนนึงมันก็บอกว่าผมคงคิดมากไปแล้วถามผมว่าแฟนผมได้บอกก่อนมั้ยว่าจะให้ แน่นอนแหละครับเค้าไม่ได้บอกหรือขอผมก่อนเพราะบอกว่าไม่อยากให้เป็นเรื่องเป็นราวจนทะเลาะกัน เพื่อนผมมันนิ่งไปพักนึงแล้วบอกว่าอันนี้มันก็ไม่รู้นะว่าทำไมถึงไม่บอก ก็นั่นแหละครับหลังจากเหตุการณ์นี้มาผมบอกตรงๆเลยว่าผมอาจจะดูเป็นคนโง่เป็นคนที่ยอมเค้าเพราะในตอนนี้ผมกับเค้าเราก็ยังคบกันอยู่ ผมเชื่อในเหตุผลของเค้าทั้งที่ผมเองก็ไม่ปฏิเสธว่าบางอย่างมันยังย้อนแย้งในใจของผมมาจนถึงทุกวันนี้ และก็เหมือนเดิมคือผมกลับมามีนิสัยงี่เง่า ชอบจับผิด ระแวง เหมือนเดิมและมันมากขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ อยากจะเลิกก็ตัดกันไม่ขาดนึกถึงคำพูดที่เพื่อนบอกว่าถ้าแฟนผมเค้าให้แบบไม่ได้คิดอะไรจริงผมจะงี่เง่ามากที่บอกเลิกเค้ามันเลยขอให้คิดให้ดีเพราะเวลาสามปีไม่ใช่ว่าจะน้อย


ผมควรทำยังไงเหรอครับมันค้างคาใจมากเค้ายอมรับว่าเค้ารู้แหละว่าผมต้องรู้เพราะเซ้นต์ผมจะตรงมากแต่ก็ยังอยากที่จะให้ เค้ารู้ว่ามันเสี่ยงต่อการที่ผมจะบอกเลิกกับเค้าแต่เค้าก็ยังอยากที่จะเอาให้ด้วยเหตุผลที่ผมบอกไปนั่นแหละครับที่บอกว่าไหนๆก็ไหนๆแล้วคนเคยคุยกัน..ไม่ใช่ว่าเราไม่เคยเปิดใจคุยกันนะครับ เราเคยเปิดใจคุยกันจนถึงขนาดที่ผมบอกกับเค้าว่าถ้าชอบหรือถ้ายังไม่ลืมก็บอกได้นะผมมีเหตุผลพอที่จะไม่เห็นแก่ตัวและผมจะยอมเลิกให้ ผมบอกกับเค้าเลยว่ารู้ใช่มั้ยว่าผมรู้สึกกับเค้ามากขนาดไหน ตลอดเวลาสามปีที่ผ่านมาถ้ามันไม่ใช่ผมที่อยู่ในใจบอกมาเลยก่อนที่ผมจะถลำลึกความรู้สึกไปมากกว่านี้ เค้าก็ร้องไห้แล้วบอกว่าผมไม่เคยเชื่อใจเค้าไม่ได้คิดอะไรจริงๆและยังบอกอีกว่าผมถามเหมือนผมต้องการให้เค้าตอบว่ายังชอบทั้งที่เค้าไม่ได้คิดอะไรแล้วจริงๆซึ่งมันไม่แฟร์กับเค้า เรื่องนี้ผมกลับไปหาเค้าแล้วคุยกันครับเพราะถึงแม้ว่าจะอยู่ไกลกันแต่ผมก็กลับไปหาเค้าที่บ้านบ่อยๆก็คือพ่อแม่เรารู้ทั้งสองฝ่ายนั่นแหละครับ ทุกวันนี้เรายังคบกันครับแต่ก็จะทะเลาะกันเรื่องนี้บ่อยกว่าเดิมผมจะชอบพูดแซะเค้าบ้างเป็นบางครั้ง แต่เค้าก็จะขอให้เชื่อใจและบอกว่าไม่ได้คิดอะไรจริงๆตอนที่ให้ ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อนะครับแต่มันปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตอนนี้เราคบกันอยู่บนความไม่มั่นใจของผม เราคบกันอยู่บนความย้อนแย้งในเหตุผลที่ผมหาคำตอบไม่ได้
สุดท้ายผมอยากขอบคุณนะครับที่อ่านเรื่องของผมจนจบแล้วก็อยากจะขอบคุณล่วงหน้านะครับสำหรับความเห็นหรือคำแนะนำที่จะมีให้กับผม ขอบคุณมากครับ
เมื่อแฟนผมถูกจับได้คำถามของคนที่เป็นแฟนอย่างผมจึงเกิดขึ้น
เริ่มเลยนะครับ ผมคบกับแฟนตัวเองมาได้สามปีกว่าแล้วครับ ตลอดเวลาที่คบกันเราก็รักกันดีมาโดยตลอดมีเรื่องทะเลาะกันบ้างซึ่งผมคิดว่ามันเป็นธรรมดาของคู่รักทั่วไป แต่เหตุการณ์ที่มันทำให้ผมคิดมากและฝังใจมาจนถึงทุกวันนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณเกือบสองปีก่อนครับ ต้องบอกก่อนเลยว่าผมกับแฟนนั้นอยู่ด้วยกันมาโดยตลอดเค้าอายุน้อยกว่าผมประมาณสามสี่ปี่ได้ซึ่งอยู่ด้วยกันในที่นี้ผมหมายถึงเจอกันที่โรงเรียนทุกวันนะครับ ผมคบกับเค้ามาได้ประมาณปีกว่าก็ต้องมีเรื่องให้ห่างกันเพราะตัวผมเองต้องมาเรียนต่อมหาลัยในกรุงเทพ ซึ่งความห่างกันนี่แหละที่มันทำให้แฟนของผมเค้าแอบไปคุยกับรุ่นน้องคนนึงในโรงเรียน ตอนที่ผมจับได้มันเป็นเซ้นต์ล้วนๆเลยนะครับก็จี้คำถามเหมือนกับวิธีที่ไอด้าเคยทำกับแฟนเก่าของนางนั่นก็คือการทำเหมือนรู้พูดตามเซ้นต์จนเค้าคิดว่าเรารู้แล้วยอมรับออกมาเอง ปล.ไอด้าเคยสัมภาษณ์ออกรายการนึง ตลอดเวลาที่คบกันมาผมไม่เคยขอรหัสเฟสหรืออะไรก็ตามแต่ที่เป็นเรื่องส่วนตัวของเค้าเลยเพราะคิดมาตลอดว่าถึงยังไงเราก็ควรจะมีช่องว่างระหว่างกันและกันมีพื้นที่ส่วนตัวให้กับเค้า จนวันที่จับได้ผมก็ต้อนชนิดที่ว่าจนมุมแล้วก็ยอมรับออกมาเองว่าเค้าคุยนะและที่คุยเพราะว่าเค้าเหงามันไม่ชินเวลาที่ไปไหนมาไหนจะต้องไปคนเดียวเพราะผมไม่ได้อยู่ใกล้แล้ว แต่มันก็เป็นความรู้สึกที่แค่ชอบนะไม่ได้รักหรืออะไรมากกว่านั้นเลย อีกอย่างในช่วงที่เราคบกันใหม่ๆแฟนผมก็เคยชอบเด็กคนนี้มาทีนึงแล้วครับแต่ก็ไม่ได้อะไรเพราะเด็กคนนั้นไม่ได้ชอบเค้า จนผมแอบคิดว่าอ้อพอแฟนกูสวยขึ้นก็เลยเปลี่ยนใจมาชอบแล้วก็แอบคุยกันงั้นสินะ 55555555 ขอโทษนะครับที่มีคำไม่สุภาพ ตอนนั้นผมเสียใจมากและก็ไม่เคยคิดว่าจะเจออะไรแบบนี้เลยแต่ก่อนผมเป็นคนเจ้าชู้มากชอบใครก็คุยชอบใครก็จีบชนิดที่ว่าถึงไม่ติดก็ขอได้ลองก่อนแต่พอเจอเค้าผมก็เปลี่ยนนิสัยนั้นหมดเลยแต่กลับมาโดนทำแบบนี้ รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนโง่ที่รู้เป็นคนสุดท้ายถึงแม้ว่าจะจับได้ด้วยตัวเองก็ตาม เค้าก็โทรมาร้องไห้แล้วก็ขอโทษเรื่องที่เกิดขึ้นยอมรับว่าตัวเองผิดซึ่งผมก็ให้อภัยเค้า เพราะสำหรับตัวผมนะผมคิดว่าสำหรับผมไม่ว่าจะเป็นแฟนคนไหนก็ตามโอกาสผมมีให้แค่สามครั้งครับและนั่นถือเป็นครั้งแรกที่มันเกิดขึ้น แต่ก็นั่นแหละครับมันปฏิเสธไม่ได้ว่าถึงโอกาสเราจะมีให้ถึงสามครั้งแต่ความเชื่อใจมันให้ได้แค่คนละครั้งจริงๆ ผมกลายเป็นคิดมาก ขี้ระแวง ชอบจับผิดมาโดยตลอดตั้งแต่นั้นมา ซึ่งแฟนผมเองเค้าก็ยอมรับในความเปลี่ยนไปของผมและบอกกับผมว่ามันเป็นเพราะเค้าเองที่ทำให้เกิดเรื่อง เค้าพร้อมที่จะแก้ตัวแล้วก็ทำให้ผมกลับไปเชื่อใจเค้าเหมือนเดิมอีกครั้งนึง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นผมเองยอมรับว่าไม่ได้ลืมนะครับแต่ก็ไม่ได้นึกถึงหรือเอามาจับผิดอะไรแล้วเพราะเราเองก็เริ่มโตๆกันแล้ว แต่ก็พูดได้เต็มปากเลยว่าถ้ามีใครมาสะกิดผมจำได้ทุกอย่างครับแล้วก็จะร้องไห้ทุกครั้งที่นึกถึงเรื่องนี้มันเหมือนหนังเรื่องเดิมที่พร้อมกรอซ้ำในความคิดของตัวเองตลอดเวลาถ้าหากมีใครมาสะกิดให้นึกถึง แต่แฟนผมเค้าก็ทำได้จริงๆครับ เค้าไม่เคยคุยกับใครหรือทำอะไรลับหลังผมอีกเลยนับตั้งแต่วันนั้น จนเราคบกันมาจนถึงปีที่สามเหตุการณ์นี้มันก็เกิดขึ้นอีกครั้งครับ ผมไม่แน่ใจว่ามันเรียกว่าอะไรมันเรียกว่าการนอกใจหรือลับหลังเหมือนครั้งที่แล้วใช่หรือไม่ แต่เหตุการณ์มันเกิดขึ้นแบบนี้ครับ วันนั้นเป็นวันปัจฉิมของโรงเรียนผมแล้วแฟนของผมเค้าก็ได้เอาลูกโป่งไปให้กับเด็กคนนั้นและก็อย่างที่คิดครับมันคือเด็กคนเดิมกับที่เค้าเคยแอบปลื้มแล้วก็เคยแอบคุยนั่นแหละครับ ตอนแรกที่ผมถามเค้าไม่ยอมรับหรอกครับจนเซ้นต์และการจับผิดของผมนี่แหละมันทำให้เค้าจนมุมแล้วก็ยอมรับ ของที่เค้าให้กับเด็กคนนั้นเป็นลูกโป่งตัวอักษรที่เป็นชื่อของแฟนผมครับแล้วก็เป็นช่อลูกโป่งรูปหัวใจอีกหนึ่งช่อ ตอนที่เค้ายอมรับเสียงเค้าแผ่วมากเหมือนว่าจนมุมแล้วแหละผมถามขนาดนี้บอกลักษณะของที่เค้าให้ขนาดนี้แสดงว่าผมรู้แล้วแหละเค้าเลยยอมรับครับ คงไม่ต้องถามแหละครับว่าผมรู้สึกยังไงมันเสียใจมากกับเรื่องที่เกิดขึ้นมากจนบอกไม่ถูกเพราะด้วยความที่ไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นอีกแล้วกับคนเดิม เค้าบอกกับผมตรงๆว่าที่ให้เพราะเห็นว่าเคยคุยกันแล้วก็เห็นว่าไหนๆน้องเค้าก็จบไปแล้วเลยเอาให้ อีกอย่างลูกโป่งช่อนั้นก็ได้มาฟรีไม่ได้ซื้อให้เองแต่ที่ผมไม่เข้าใจและอยากจะเข้าใจมากคือทำไมต้องให้ลูกโป่งที่เป็นตัวอักษรชื่อตัวเอง ซึ่งผมได้เหตุผลจากเค้าเพียงแค่ว่าน้องเค้าจะได้รู้ว่าอันนี้แฟนผมเป็นคนเอาให้ มันเสียใจจนอธิบายยเป็นคำพูดไม่ถูกครับในจุดนี้ ผมเคยเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาเพื่อนผู้หญิงนะครับมันก็บอกกับผมว่าถ้าเป็นมัน มันก็คงจะให้แหละครับแต่คงไม่ให้อะไรแบบนี้เพราะมันเองก็คิดเหมือนผมว่าถ้าไม่ได้คิดอะไรแล้วมันมีเหตุผลอะไรที่ต้องให้ตัวอักษรชื่อตัวเอง มันค้างคาจนผมต้องไปปรึกษาอีกคนนึงมันก็บอกว่าผมคงคิดมากไปแล้วถามผมว่าแฟนผมได้บอกก่อนมั้ยว่าจะให้ แน่นอนแหละครับเค้าไม่ได้บอกหรือขอผมก่อนเพราะบอกว่าไม่อยากให้เป็นเรื่องเป็นราวจนทะเลาะกัน เพื่อนผมมันนิ่งไปพักนึงแล้วบอกว่าอันนี้มันก็ไม่รู้นะว่าทำไมถึงไม่บอก ก็นั่นแหละครับหลังจากเหตุการณ์นี้มาผมบอกตรงๆเลยว่าผมอาจจะดูเป็นคนโง่เป็นคนที่ยอมเค้าเพราะในตอนนี้ผมกับเค้าเราก็ยังคบกันอยู่ ผมเชื่อในเหตุผลของเค้าทั้งที่ผมเองก็ไม่ปฏิเสธว่าบางอย่างมันยังย้อนแย้งในใจของผมมาจนถึงทุกวันนี้ และก็เหมือนเดิมคือผมกลับมามีนิสัยงี่เง่า ชอบจับผิด ระแวง เหมือนเดิมและมันมากขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ อยากจะเลิกก็ตัดกันไม่ขาดนึกถึงคำพูดที่เพื่อนบอกว่าถ้าแฟนผมเค้าให้แบบไม่ได้คิดอะไรจริงผมจะงี่เง่ามากที่บอกเลิกเค้ามันเลยขอให้คิดให้ดีเพราะเวลาสามปีไม่ใช่ว่าจะน้อย
สุดท้ายผมอยากขอบคุณนะครับที่อ่านเรื่องของผมจนจบแล้วก็อยากจะขอบคุณล่วงหน้านะครับสำหรับความเห็นหรือคำแนะนำที่จะมีให้กับผม ขอบคุณมากครับ