อ่านเค้ามาเยอะ อยากเล่าบ้างเก็บไว้เป็นกระทู้ไว้อ่านตอนแก่(กว่านี้)
เล่าไปตามช่วงเวลาเลยแล้วกันจะได้นึกออกง่าย ๆ ยาวหน่อยนะ
สมัยเด็ก ๆ ตั้งแต่เกิดจนอายุ 24 (ตอนนี้ 34 ละ) เราอยู่บ้านในซอยจรัญสนิทวงศ์
เป็นบ้านที่ตาปลูกเองเพราะตาเป็นช่างไม้ บ้านเราในตอนนั้นเลยเป็นไม้ทั้งหลังมี 2 ชั้น
ค่อย ๆ ปรับค่อย ๆ เปลี่ยนมุมนั้นมุมนี้ในบ้านมาตลอดระยะเวลา 24 ปี
แต่ที่เหมือนเดิมคือก็ยังเป็นไม้ทั้งหลังอยู่
ทีนี้ด้วยความที่เกิดและโตมากับบ้านไม้ เราเลยได้ยินเสียงไม้ลั่นบ่อย ๆ เวลาอากาศเปลี่ยน
ก็จะไม่ค่อยหลอนตัวเอง เวลาได้ยินเสียงแปลก ๆ ในบ้านจะคิดตลอดว่าไม้มันลั่น
นึกภาพบ้านชั้นล่างเปิดประตูบ้านเข้ามาเดินตรงเข้าไปกลางบ้านซ้ายมือสุดจะเป็นบันไดไม้
เดินขึ้นบันไดไม้ไปสามขั้นเป็นชานพักแล้วหมุนซ้ายจะเดินขึ้นไปชั้น 2
พอเดินขึ้นมาถึงชั้น 2 ซ้ายมือจะเป็นมุ้ง 1 หลัง (แต่ก่อนนอนมุ้งกัน 5555) เป็นมุ้งของเรากับพี่ชาย
เลยมุ้งเราเข้าไปข้างในเป็นมุ้งของตากับยายอยู่ติดกัน ตรงกลางระหว่างสองมุ้ง ตายายเอาราวแขวนผ้ามากั้นไว้บังตา
ส่วนขวามือหลังจากขึ้นบันไดมาแล้วแบ่งห้องไว้ 2 ห้อง มีประตูมีกำแพงไม้ปิดเป็นส่วนตัว
ตรงกลางระหว่างมุ้งกับห้องก็จะเป็นทางเดิน (ที่ทำมาจากไม้กระดานแผ่นใหญ่)
เวลากลางวันถ้าไม่ได้เปิดหน้าต่างหรือเปิดไฟทางเดินก็จะมืดมาก
แต่ก็ยังพอเห็นได้ด้วยแสงจากช่องกระจกขุ่น ๆ ที่ตาทำไว้สุดทางเดินที่เป็นห้องตายายนั่นแหละ
จนมาบ่ายวันนึงช่วงปิดเทอม ตอนนั้นอยู่ป.4 มั้ง เราอยู่บ้านกับยาย 2 คน
เรานั่ง ๆ นอน ๆ เล่นอยู่ชั้นล่างไม่ได้สังเกตว่ายายอยู่ไหนทำอะไร เพราะมีหลังบ้านเป็นครัวกับลานซักผ้าด้วย
ระหว่างนอนเล่นก็ได้ยินเสียงคนเดินขึ้นบันได นี่ก็เข้าใจว่าเป็นยายเดินขึ้นไปถวายข้าวพระในห้อง
ก็เลยเดินตามขึ้นไป จำได้ว่าตอนเดินตามขึ้นไปก็ยังได้ยินเสียงคนเดินอยู่
จังหวะที่เราเดินขึ้นบันไดมาจนหัวพ้นพื้นชั้นสองแล้วเจอมุ้งห้องเรา
เราเห็นยายเดินผ่านมุ้งเราเข้าไปในมุ้งห้องตัวเอง เราก็เลยเลี้ยวเข้ามุ้งตัวเองบ้าง
กะว่าจะนอนอ่านการ์ตูนรอระหว่างยายถวายข้าวพระ
ตอนที่เราเริ่มนอนอ่านการ์ตูน ก็ได้ยินเสียงยายหยิบ ๆ จับ ๆ ถ้วย แก้วบนชั้นพระ
(ห้องยายทำชั้นพระไว้ 4 ชั้น มีพระเยอะมาก เครื่องถวายข้าวพระนี่เพียบไปหมด)
แล้วยายก็พูดว่า “ไม่ได้มาถวายข้าวพระนานแล้วนะ”
เราก็ตอบไป ว่าอือ ก็นี่ก็มาถวายแล้วไง แล้วก็อ่านการ์ตูนรอต่อ
เวลาผ่านไปนานจนอ่านการ์ตูนเกือบจบ เราลืมสังเกตไปเลยว่าห้องยายเงียบมาก
ไม่ได้ยินเสียงอะไรอีกเลยตั้งแต่ที่ยายบอกว่าไม่ได้ถวายข้าวพระนานแล้ว
เราเลยเรียกยาย ทำอะไรนานจัง ยังไม่เสร็จอีกเหรอ ยายไม่ตอบ
ก็เรียกอีก ยาย! ทำอะไรนานอ้ะ ยายก็ยังเงียบ...
ตอนนั้นเริ่มใจไม่ดี เลยตะโกนเรียก ยาย! เสียงดังมาก ดังลั่นบ้าน
หนนี้ยายตอบกลับมาว่า อะไร!! แต่เสียงของยายที่ตอบมามันอยู่ไกลมากจนเราตกใจ
เราเลยตะโกนถามกลับไปว่ายายอยู่ไหนอ้ะ!! ยายตะโกนกลับมาว่า “หลังบ้าน! มีอะไร!”
เท่านั้นแหละ... แทบร้องไห้ นอนตัวแข็งเลย-_-''
เราต้องตะโกนเรียกให้ยายขึ้นมารับตัวลงไปเพราะไม่กล้ากระดุกกระดิกเลย
ลงไปแล้วถึงถามยายว่าไม่มาถวายข้าวพระนานแล้วใช่มั้ย มีคนเค้ามาเตือนแล้วนะ
เค้าไม่เตือนยายแต่เค้ามาบอกนี่!
ยายบอกว่าช่วงนี้ยุ่ง ๆ ไม่ได้ขึ้นไปถวายนานหลายวันแล้วจริง ๆ ตอนหลังยายเลยไม่ค่อยลืมเพราะกลัวหลานโดนผีหลอก-_-''
จบไปหนึ่งเรื่อง
อยากเล่าบ้าง รวบรวมความเจอผีที่จำได้ตั้งแต่เด็กจนโต
เล่าไปตามช่วงเวลาเลยแล้วกันจะได้นึกออกง่าย ๆ ยาวหน่อยนะ
สมัยเด็ก ๆ ตั้งแต่เกิดจนอายุ 24 (ตอนนี้ 34 ละ) เราอยู่บ้านในซอยจรัญสนิทวงศ์
เป็นบ้านที่ตาปลูกเองเพราะตาเป็นช่างไม้ บ้านเราในตอนนั้นเลยเป็นไม้ทั้งหลังมี 2 ชั้น
ค่อย ๆ ปรับค่อย ๆ เปลี่ยนมุมนั้นมุมนี้ในบ้านมาตลอดระยะเวลา 24 ปี
แต่ที่เหมือนเดิมคือก็ยังเป็นไม้ทั้งหลังอยู่
ทีนี้ด้วยความที่เกิดและโตมากับบ้านไม้ เราเลยได้ยินเสียงไม้ลั่นบ่อย ๆ เวลาอากาศเปลี่ยน
ก็จะไม่ค่อยหลอนตัวเอง เวลาได้ยินเสียงแปลก ๆ ในบ้านจะคิดตลอดว่าไม้มันลั่น
นึกภาพบ้านชั้นล่างเปิดประตูบ้านเข้ามาเดินตรงเข้าไปกลางบ้านซ้ายมือสุดจะเป็นบันไดไม้
เดินขึ้นบันไดไม้ไปสามขั้นเป็นชานพักแล้วหมุนซ้ายจะเดินขึ้นไปชั้น 2
พอเดินขึ้นมาถึงชั้น 2 ซ้ายมือจะเป็นมุ้ง 1 หลัง (แต่ก่อนนอนมุ้งกัน 5555) เป็นมุ้งของเรากับพี่ชาย
เลยมุ้งเราเข้าไปข้างในเป็นมุ้งของตากับยายอยู่ติดกัน ตรงกลางระหว่างสองมุ้ง ตายายเอาราวแขวนผ้ามากั้นไว้บังตา
ส่วนขวามือหลังจากขึ้นบันไดมาแล้วแบ่งห้องไว้ 2 ห้อง มีประตูมีกำแพงไม้ปิดเป็นส่วนตัว
ตรงกลางระหว่างมุ้งกับห้องก็จะเป็นทางเดิน (ที่ทำมาจากไม้กระดานแผ่นใหญ่)
เวลากลางวันถ้าไม่ได้เปิดหน้าต่างหรือเปิดไฟทางเดินก็จะมืดมาก
แต่ก็ยังพอเห็นได้ด้วยแสงจากช่องกระจกขุ่น ๆ ที่ตาทำไว้สุดทางเดินที่เป็นห้องตายายนั่นแหละ
จนมาบ่ายวันนึงช่วงปิดเทอม ตอนนั้นอยู่ป.4 มั้ง เราอยู่บ้านกับยาย 2 คน
เรานั่ง ๆ นอน ๆ เล่นอยู่ชั้นล่างไม่ได้สังเกตว่ายายอยู่ไหนทำอะไร เพราะมีหลังบ้านเป็นครัวกับลานซักผ้าด้วย
ระหว่างนอนเล่นก็ได้ยินเสียงคนเดินขึ้นบันได นี่ก็เข้าใจว่าเป็นยายเดินขึ้นไปถวายข้าวพระในห้อง
ก็เลยเดินตามขึ้นไป จำได้ว่าตอนเดินตามขึ้นไปก็ยังได้ยินเสียงคนเดินอยู่
จังหวะที่เราเดินขึ้นบันไดมาจนหัวพ้นพื้นชั้นสองแล้วเจอมุ้งห้องเรา
เราเห็นยายเดินผ่านมุ้งเราเข้าไปในมุ้งห้องตัวเอง เราก็เลยเลี้ยวเข้ามุ้งตัวเองบ้าง
กะว่าจะนอนอ่านการ์ตูนรอระหว่างยายถวายข้าวพระ
ตอนที่เราเริ่มนอนอ่านการ์ตูน ก็ได้ยินเสียงยายหยิบ ๆ จับ ๆ ถ้วย แก้วบนชั้นพระ
(ห้องยายทำชั้นพระไว้ 4 ชั้น มีพระเยอะมาก เครื่องถวายข้าวพระนี่เพียบไปหมด)
แล้วยายก็พูดว่า “ไม่ได้มาถวายข้าวพระนานแล้วนะ”
เราก็ตอบไป ว่าอือ ก็นี่ก็มาถวายแล้วไง แล้วก็อ่านการ์ตูนรอต่อ
เวลาผ่านไปนานจนอ่านการ์ตูนเกือบจบ เราลืมสังเกตไปเลยว่าห้องยายเงียบมาก
ไม่ได้ยินเสียงอะไรอีกเลยตั้งแต่ที่ยายบอกว่าไม่ได้ถวายข้าวพระนานแล้ว
เราเลยเรียกยาย ทำอะไรนานจัง ยังไม่เสร็จอีกเหรอ ยายไม่ตอบ
ก็เรียกอีก ยาย! ทำอะไรนานอ้ะ ยายก็ยังเงียบ...
ตอนนั้นเริ่มใจไม่ดี เลยตะโกนเรียก ยาย! เสียงดังมาก ดังลั่นบ้าน
หนนี้ยายตอบกลับมาว่า อะไร!! แต่เสียงของยายที่ตอบมามันอยู่ไกลมากจนเราตกใจ
เราเลยตะโกนถามกลับไปว่ายายอยู่ไหนอ้ะ!! ยายตะโกนกลับมาว่า “หลังบ้าน! มีอะไร!”
เท่านั้นแหละ... แทบร้องไห้ นอนตัวแข็งเลย-_-''
เราต้องตะโกนเรียกให้ยายขึ้นมารับตัวลงไปเพราะไม่กล้ากระดุกกระดิกเลย
ลงไปแล้วถึงถามยายว่าไม่มาถวายข้าวพระนานแล้วใช่มั้ย มีคนเค้ามาเตือนแล้วนะ
เค้าไม่เตือนยายแต่เค้ามาบอกนี่!
ยายบอกว่าช่วงนี้ยุ่ง ๆ ไม่ได้ขึ้นไปถวายนานหลายวันแล้วจริง ๆ ตอนหลังยายเลยไม่ค่อยลืมเพราะกลัวหลานโดนผีหลอก-_-''
จบไปหนึ่งเรื่อง