ผมเลิกกับ "เมียเก่า" มา2ปี และคุณเมียไม่ยอม หย่า ผมควรทำอย่างไรดี

ผมบอกก่อนนะครับ ผมไม่ใช่คนดีอะไรมากจากไหน ผมรู้ดีใครๆก็ต้องว่าผมเป็นคนไม่ดีที่เลิกกับเมียเก่า

แต่สาเหตุที่เลิก ผมจะเล่าให้ฟัง ณ บัดนี้
1. เมื่อแต่งงานผมย้ายไปอยู่บ้านเขา ช่วยที่บ้านเขาทำทุกอย่าง และผมเป็นหลักหาเลี้ยงพวกเขาทั้งครอบครัว พ่อแม่เขา ลุงป้าเขา
แม้กระทั่งน้องๆหลานๆของเขา ญาติพี่น้องเขาไม่ได้ทำงานเลยครับ กินเหล้า เล่นการพนัน ผมหาเงินไถ่ถอนที่ดินพวกเขาเอาไปจำนำตลอด
2. ระยะเวลา20กว่าปีที่อยู่กันมาผมอยากซื้อรถ อยากสร้างบ้าน คุณเมียไม่ให้ซื้อครับ เพราะกลัวไม่พอเลี้ยงญาติๆ แต่ผมเริ่มทนไม่ไหว
ยังไงก็จะหาที่ดินสร้างบ้านและผมก็ทำงานหนักจนมีเงินสร้างบ้านแต่ก็ให้โฉนดเป็นชื่อเมียเก่านั่นละครับ เงินหาได้เท่าไรให้เขาหมดทุกบาท
3. ก่อนเราจะเลิกกันผมตกงาน ลืมบอกไปครับเมียเก่าผมทำงานเป็นลูกจ้างรายวันที่ร้านเช่าแผ่นซีดีแห่งหนึ่ง
ช่วงนั้นผมออกรถกะบะมาหนึ่งคัน แต่ไม่คาดคิดเดือนต่อมาผมจะตกงาน ทำไงกับค่างวดรถละครับ ไม่มีเงินเข้าเลย
จึงไปขอเงินเมียครับเพราะหาได้เท่าไรจากงานรับเหมาก็ให้เขาหมด แต่เมียไม่ให้....อ้างสาระพัดทั้งที่เห็นอยู่ว่าในบัญชีมี 7 แสน
หลังจากนั้นเมียให้ลูกโอนเงินน้อยนิดในบัญชีผม 3,000 เข้าบัญชีเขาด้วย งงไหม งงมาก คือไม่ให้ผัวเหลือซักบาท(ตอนนั้นผมไม่มีใครนะ)
4. หลังจากนั้นผมเลยต้องหายืมครับเพื่อมาจ่ายงวดรถ ไปยืมเขามา 3 หมื่น จ่ายงวดที่ค้างด้วย
5. ตั้งแต่นั้นมาตั้งแต่ผมตกงานคุณเมียเปลี่ยนไปมาก จากที่ตอนเยนเคยทำกับข้าวไว้ให้กิน ผมต้องต้มมาม่ากินทุกวัน
และเขาก็ไม่พูดกับผมด้วยนะ บางวันลูกผมเขาก็ซื้อขนมมาไว้ให้ (ลูกผมอายุ20 ครับ ทำงานเซเว่น)
6. ผมเริ่มห่างและเริ่มมีทะเลาะปากเสียงกับเมียเก่ารุนแรงขึ้นเขาก็ท้าเลิก ผมตรอกกลับเลิกก็เลิกแล้วผมก็กลับไปนอนบ้านพ่อผม

หลังจากนั้น2เดือน งวดรถก็วนเวียนมาถึงอีก ผมยังคงตกงานอยู่...ผมกลุ้มใจมากเลยไปหาเพื่อน เพื่อนเลยชวนไปกินข้าวร้านนั่งชิว เพื่อนเลี้ยง
วันนั้นผมได้เจอ สาวเชียร์เบียร์ น้องเขาทำงานส่งตัวเองเรียน ป.ตรี ใกล้จบละปีสุดท้าย เขาก็มาคุยด้วยตามประสาแขกเข้าร้านต้องเชียร์เบียร์ทำงาน
น้องเขาก็แซวพวกผมนะว่า "หนีเมียมาเที่ยวหรือพี่ๆ" เพื่อนผมก็ปากไวบอกผมเลิกกับแฟนแล้ว ผมก็เลยตามเลยไม่ปฏิเสธ
น้องเขาก็มาคุยด้วยถูกคอ (น้องเขาก็ทำหน้าที่ขายเบียร์เขาละเนาะ)

วันหลังเพื่อนก็ชวนไปร้านเดิมอีกหลายครั้ง สเตร็ปเดิม ตกงานเพื่อนเลี้ยง หลังจากนั้นก็เลยสนิทกับน้องเขาขึ้นเรื่อยๆ....
วันหนึ่งก็เลยเล่าให้น้องเขาฟังว่าตกงาน ตอนนี้ก็โดนทวงงวดรถอยู่...พี่ก็ไม่รู้จะแก้ปัญหายังไง พูดตรงมากวันนั้น กล้าพูดไปได้ไงก็ไม่รู้
เลยถามเขาไปว่ารังเกียจที่จะคุยกับพี่ไหม น้องเข้าตอบไม่รังเกียจน้องเขาก็ไม่ได้มาจากฐานะทางบ้านร่ำรวย
ใครจะคาดคิดผมคุยกับน้องเขามาเรื่อยๆอีกไม่นาน น้องเขาคงสงสารผมมั้ง เลยยื่นข้อเสนอช่วยเหลือ
น้องจะให้ยืมเงินไปจ่ายงวดรถ แต่ต้องทำสัญญากันนะ...ดอกเบี้ยะน้องไม่เอาด้วยหรอก แต่น้องเชื่อใจพี่เห็นพี่ลำบากจริงๆ
สัญญาที่น้องเขาให้เซ็นก็ไม่ได้เป็นสัญญาทางการอะไร สัญญาลอยๆครับเหมือนเขาแค่อยากช่วยเราเฉยๆ เหมือนสัญญาใจมีค่อยคืน
น้องเขาให้เรา มา 20,000 ผมแทบไม่อยากเชื่อว่าผมไม่รู้จะหันหน้าเพิ่งใคร น้องเขากลับเป็นคนที่ช่วยผม

จากวันนั้นผมตกหลุมรักน้องเขาเข้าเต็มๆ และผมก็เริ่มได้งานเล็กๆทำบ้างพอได้จ่ายงวดรถ แต่ก็ไม่พอคืนน้องเขา
จนน้องเขาเรียนจบมหาลัย และน้องเขาก็บอกผมว่าจะเลิกเชียร์เบียร์แล้วนะ...พอมีทุนเล็กน้อย
น้องเขาก็นำทุนไปเปิดร้านขายของชำเล็กๆต่างอำเภอ ไม่นานนักน้องเขาก็ออกรถของน้องเขาเอง เงินเขาเอง
ผมจะช่วยก็ไม่มีเงินเลยครับช่วงนั้น หาแค่จ่ายงวดรถตนเองได้ก็หาแทบเลือดตาจะกระเด็น แต่ผมก็ไปเล่นกับน้องเขาที่ร้านบ่อย
ช่วยทำโน้นนี่บ้างพวกซ่อมแซมเล็กน้อย ผมกับน้องเค้าเลยตกลงคบกันครับ

ชี้แจง ทางคุณเมียเก่าเขาไม่สนใจว่าผมเป็นตายร้ายดีอย่างไรแม้แต่น้อย ผมก็ยังยุบ้านพ่อผมเหมือนเดิม ช่วงนี้ผมตกต่ำนี่ครับไม่มีเงิน

ผมไม่ได้บอกน้องเขาระหว่างที่คบกับน้องเขาว่าผมยังไม่ได้หย่า แต่ก็คือว่าเลิกกันแล้วนะครับ
(น้องเขายังคงไม่รู้ รู้เพียงว่าผมเคยมีเมียมีลูก แต่เลิกกันแล้วนะครับ) น้องเขาก็บอกรับได้พ่อหม้ายเลิกกับเมียไม่เสียหาย

ผมไปหาน้องเขาที่ร้านต่างอำเภอของเขาบ่อย วันนั้นเพื่อนไปด้วยเลยสังสรรคกันเมาคนละทิศละทาง
น้องเขาเลยบอกว่า พวกพี่ค้างที่นี่ก็ได้นะเมาแล้วขับกว่าจะถึงบ้านอันตรายเดี๋ยวเขาจัดที่นอนให้....
พวกผมนอนในร้านเขาครับ ส่วนเขานอนในห้องเขา...พอตอนเช้าเพื่อนรีบกลับกันหมดเลยเหลือผมคนเดียว
น้องเขามาปลุกเพราะเปิดร้านเช้า 555 โครตขำตัวเองเลย เพื่อนไม่ปลุก น้องเลยถามว่าเรารีบกลับไหม ตอบทันใด "ไม่รีบครับ"
น้องเลยให้เราอาบน้ำ และทำกับข้าวให้เรากิน เราปลื้มน้องเขามากขึ้นเรื่อยๆ หลังๆก็ค่อยๆหาเรื่องไม่กลับไปนอนบ้านพ่อละครับ
ค้างที่ร้านน้องเขานั่นละครับ...จนขอย้ายมาอยู่กับน้องเขาจนถึงปัจจุบัน

ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่า น้องเขาชอบผมตรงไหน...แต่ผมตกหลุมรักน้องเขาเต็มๆ....
หลังจากนั้นผ่านมา 1 ปี เมียเก่าผมโทรมาบอกให้เอาเงินไปจ่ายหนี้ 60,000 หนี้ก้อนนี้เป็นหนี้ผมกับเมียเก่าสร้างด้วยกัน
ผมเลยบอกว่าเดี๋ยวจะหาไปผ่อนชำระเจ้าหนี้...
และได้ขอเธอหย่า เมียเก่าไม่ยอมครับ ถ้าจะหย่าก็ต้องเอารถให้เธอ นั่นคือไม่ให้อะไรผมติดตัว แล้วเธอก็สืบรู้ครับว่าผมคบกับน้องเขา
ยิ่งไม่ยอมครับ...วันนั้นโทรเขาเครื่องผม ผมอาบน้ำน้องเขาเอ๊ะใจ เลยรับสายเพราะเห็นโทรต่อเนื่องจนน่าสงสัย

น้องเขาจึงรู้นะวันนั้นว่า ผมยังไม่หย่ากับเมียเก่า และเมียเก่าก็ได้รับรู้ว่าผมมีคนใหม่ น้องเขาไล่ผมออกจากร้านทันทีครับ
บอกถ้าจะคบกันต่อก็ไปเคลียร์กับคนเก่าให้รู้เรื่อง ผมตามง้อน้องเขาอยู่เป็นเดือนและบอกน้องเขาว่าผมไม่มีที่ไป
น้องเขาจึงยอมให้ผมกลับไปพักที่ร้าน แต่ก็ยืนยันให้ไปเคลียร์ให้สำเร็จโดยไว...แต่มันก็ไม่ง่ายฝ่าย เมียเก่าผมไม่ยอมอย่างเดียว

ระหว่างนั้น เมียเก่าผม ต้องการเงิน 60,000 ก่อนจะไปใช้หนี้ ผมจำใจเอารถไปจำจอดนอกระบบร้อยละ 10 (น้องเขาไม่รู้ ผมไม่ได้บอก)
น้องเขามารู้ที่หลังก็ไม่รู้จะพูดว่าไงเลยไม่พูด จำรถเอาเงินให้เมียเก่า....น้องเขาก็คงเคืองผมอยู่พอควร
จากนั้นผมหาเงินจ่ายดอกเขาไม่ทันครับเขาจะยึดเอารถ...น้องเขาเลยรู้เรื่อง น้องเขาโมโหแต่ก็ยอมเอาเงินในร้านจ่ายดอกให้หลายเดือน
เป็นเงินรวมๆแล้วหลักแสนผมก็ยังไม่มีปัญญาไปเอารถออกมา และยังติดขัดเรื่องงวดรถด้วย จึงไปโยกรถเอาเงินเพิ่มเป็น 150,000
ดอกเดือนละ 15,000 น้องเขาก็ยังช่วยจ่ายอยู่ไม่อยากให้ผมเสียรถไป....ผมรู้สึกผิดกับน้องเขามาก เงินไปจำรถเขาไม่ได้ใช้ด้วยสักบาท

ผมตกงานอีกครั้ง...มรสุมโหมผมหนักอีกครั้งน้องเขาก็ยังพยุงช่วยผมอยู่ แต่น้องเขาก็เริ่มบอกผมแล้วว่า เริ่มจะช่วยไม่ไหวแล้วนะ
แต่เขาก็ช่วยพยุงผมมาจากวันนั้นตอนนี้ก็จะเข้า 2 ปี แล้วครับ...

ตอนนี้ผมยังไม่ได้งาน เมียก็ไม่ยอมหย่าให้....ไม่รู้น้องเขาจะทนสภาพนี้ได้อีกนานแค่ไหน...
แถมตอนนี้เมียเก่าผมจะฟ้องเอาเงินกับน้องเขาที่เป็นชู้กับผมอีก.....ไม่รู้น้องเขาจะระเบิดวันไหน ผมก็ไม่รู้จะทำไงดี

ปวดหัวมากครับ...แนะนำผมทีว่าผมควรทำเช่นไร
หากโพสของผมสร้างความไม่พอใจให้ท่านใดก็ขออภัยด้วย แต่นี่คือความทุกข์ที่ผมเผชิญอยู่...ผมยังไม่มีทางออกให้ตนเองครับ

ปล.ขอบคุณมากครับที่ให้พื้นที่ผมระบายความในใจ หากเป็นไปได้ผมก็อยากได้คำปรึกษาจากท่านผู้อ่าน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่